Six หกตายท้าตาย (2547/2004) ฝ้าย เด็กสาวคนเดียว ในกลุ่มมีอาการคล้ายๆ ประสาทหลอน เหม่อลอย บางครั้งเธอเหมือนตกอยู่ในโลกของความฝัน ฝันแปลกๆ คอยรบกวนจิตใจของฝ้ายอยู่เสมอ รวมทั้งเหตุการณ์ที่เธอไปเจอซินแสโดยบังเอิญ และซินแสได้เตือนให้ระวังเภทภัยจากเลข 6 ด้วยว่า ชีวิตของเธอเฝ้าวนเวียนเกี่ยวข้องกับเลข 6 มากมายเหลือเกิน ไม่ว่าจะห้องพักเลข 6 หรือกระทั่งวันอายุ 24 ที่รวมกันแล้วได้เลข 6 เพื่อนๆ จึงพากันเป็นห่วงโดยเฉพาะ ภัทร ผู้ซึ่งเกิดวันเดียวเดือนเดียวปีเดียวกับเธอ คืนก่อนวันครบรอบวันเกิด 24 ปีของ ฝ้าย เพื่อนทั้ง 6 คนนัดกันมาอวยพรวันเกิดให้เธอ พวกเขาได้เดินทางไปฉลองกันที่ชานเมือง อ๋อง สังเกตเห็นดาวงู ซึ่งเป็นดาวที่ไม่ปรากฎบ่อยนักในช่วงฤดูฝน อ๋อง รีบตรวจชะตาเพื่อนๆ ทุกคนว่ากำลังจะมีเคราะห์ร้าย หรือชะตาถึงฆาต เพราะทั้งหมดจับได้ไพ่ Death กันหมด การที่ อ๋อง เป็นผู้ช่ำชองในเรื่องโหราศาสตร์ และไสยศาสตร์ รวมทั้งถูกเพื่อนในกลุ่มกล่าวหาว่างมงาย ทั้งยังถากถางและท้าทาย โดยเฉพาะ กานต์ ซึ่งเป็นคนใจร้อนและค่อนข้างเป็นนักเลง และ ตรี ซึ่งเป็นคนปากไม่ดี ทั้งปากอย่างใจอย่าง ทั้งที่กลัวก็ยังกล้าท้า และใช้วาจาข่ม อ๋อง ทว่ามีเพียงคนเดียวที่คัดค้านนั่นคือ นัฐ เพราะเป็นคนขี้กลัว ทั้งยังขี้ใจน้อยอีกด้วย ลอเซอ ที่เพื่อนๆ ชอบเรียกว่า ทิดเซอ พูดให้ข้อคิดกับเพื่อน ก่อนที่ความเชื่อและการท้าทายจะกลายเป็นความขัดแย้ง จนเป็นเหตุให้ทั้งหมดต้องเดินทางไปพิสูจน์ สิ่งที่น้อยคนจะมีโอกาสได้เห็นคฤหาสน์ร้าง ที่เชียงใหม่ อันเป็นมรดกของยายทวดของ ภัทร และเป็นที่เล่าลือกันมานานถึงความน่ากลัว ด้วยว่าเจ้าของบ้านได้นำโลงศพคนตาย 6 คนเก็บไว้ในบ้าน เช้าวันที่ 6 มิถุนายน ทั้งหมดนัดรวมตัวกันที่ปั๊มแห่งหนึ่ง ก่อนออกเดินทางต่าง ได้ถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก หากแต่ภาพถ่ายนั้นปรากฎแต่เพียงรูปรถ และสิ่งอื่นๆ ยกเว้นรูปของพวกเขาทั้งหมด ระหว่างทางก็มีเหตุการณ์ประหลาดเช่น อีกาบินชนหน้ากระจกรถจนเปื้อนเลือด รถบรรทุกเฉี่ยว ในค่ำคืนที่พวกเขาเดินทางไปถึงคฤหาสน์ บรรยากาศวังเวง ต่างออกสำรวจบริเวณต่างๆ ของบ้าน จากนั้น อ๋อง ได้นำเพื่อนๆ เริ่มพิธีปลุกผีด้วยการเล่น ผีถ้วยแก้ว และเริ่มพิสูจน์วิธีการเห็นผีด้วย 6 วิธีที่แตกต่างกัน คือ ใช้ผ้าห่อศพปิดตา กระดูกคนตายกับไม้ระกำแขวนคอส่องกระจก คาบใบมีดโกนหน้าอ่างน้ำมนต์ นอนคาบธูปนำวิญญาณ ท่องนโมย้อนหลัง 16 จบ เผากระจุกผมผีตายโหง เงินปากผีคาบไว้ในปาก เพ่งมองผ่านก้นบาตรพระ ด้วยการจับไม้สั้นไม้ยาว เพื่อเสี่ยงดวงว่าใครจะได้ท้าลองวิธีไหน และแยกย้ายกันไปแต่ละจุด คนละวิธี โดยมี ภัทร เป็นจุดศูนย์รวมโดยจับตาดูทุกคนผ่านกล้องโทรทัศน์วงจรปิด
ตุ๊กแกผี (2547/2004) เรื่องราวสยองขวัญนี้เริ่มต้นมาจาก “กล่องไม้เล็กๆ เก่าคร่ำคร่าใบหนึ่ง” ที่ไม่มีใครรู้ว่ามีอะไรอยู่ภายในนั้น… กลุ่มนักสำรวจทางธรณีวิทยากลุ่มหนึ่งนำโดย “อาจารย์มาเอดะ ชู” (คาซึกิ ยาโน) และภรรยาสาว “มิโย” (คาโนะ ไซโต) พร้อมด้วยคณะลูกศิษย์ “นิพนธ์” (สรายุทธ์ ศรี ทอง), “ไก่” (หญิง-ไอศิกา ตั้งศิริธานนท์), “ประพัฒน์” (พลกฤษณ์ จักรสุวรรณ) และ “แบม” (น้ำฝน-โสภิตา ศรีบาลชื่น) ออกเดินทางสำรวจถ้ำแห่งหนึ่งเพื่อการศึกษาทางธรณีวิทยา พวกเขาขุดค้นพบตัวอย่างสายแร่และหินประเภทต่างๆ มากมายรวมถึงกล่องไม้ปิดตายใบหนึ่ง พวกเขานำมันติดตัวกลับมาด้วย ขณะปีนขึ้นปากถ้ำ หลังจากเสร็จสิ้นการสำรวจในค่ำคืนนั้น มาเอดะ ชูหัวหน้าทีมสำรวจชาวญี่ปุ่นเผลอทำกล่องไม้ใบนั้นตกลงสู่ก้นถ้ำอย่างไม่ตั้งใจ กล่องไม้แตกกระจายอยู่ในถ้ำแห่งนั้น และเผยให้เห็นสิ่งที่อยู่ภายในกล่องไม้ใบนั้น นั่นคือ “ซากตุ๊กแกตัวหนึ่งที่ถูกพันด้วยสายสิญจน์และปิดทับด้วยยันต์แดงลงอาคมผืนหนึ่ง” ไม่มีใครสังเกตเห็นและรู้เลยว่าความลึกลับอันน่าสะพรึงกลัวกำลังค่อยๆ คืบคลานเข้ามา… กลุ่มนักสำรวจทีมเดิมมุ่งหน้าเข้าสู่เมืองหลวงอย่างรีบเร่ง แข่งกับกลุ่มก้อนเมฆสีทะมึนบนท้องฟ้าที่กำลังเคลื่อนตัวเข้าหากัน และเตรียมปล่อยสายฝนสายหนักลงมา และโดยไม่คาดคิด รถของคณะสำรวจเกิดดับกลางคันอย่างหาสาเหตุไม่ได้ พวกเขาจึงต้องมุ่งหน้าหาที่พักในป่าใกล้ๆ แห่งหนึ่งแทน และ “กระท่อมกลางป่า” ก็เป็นที่พักที่พวกเขาพบเจอ โดยไม่รีรอ พวกเขาเข้าสู่กระท่อมแห่งนั้นเพื่อหลบสายฝนที่กำลังเทกระหน่ำลงมา แต่แล้วไอแห่งความสยองจากกล่องไม้ลึกลับที่ตามติดพวกเขามาจากถ้ำแห่งนั้นอย่างไม่รู้ตัว ก็ค่อยๆ เริ่มเผยความน่าสะพรึงกลัวออกมา และเข้าห้ำหั่นชีวิตนักสำรวจเหล่านั้นทีละคน…ทีละคน “ขวัญไพลิน” (โอ๋-รุ่งระวี บริจินดากุล) นักเขียนสาวชื่อดังที่ผลงานเรื่องล่าสุดของเธอที่ชื่อ “ตุ๊กแกผี” กลายเป็นนิยายติดอันดับขายดีขึ้นมาทันทีที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นครั้งแรก ได้เดินทางมาพบปะนักอ่านที่เป็นแฟนหนังสือของเธอที่จังหวัดเชียงใหม่ ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ เธอแวะซื้อของที่ระลึกฝากคนใกล้ชิดของเธอ รวมทั้ง “กล่องไม้เล็กๆ ลายเก่าใบหนึ่ง” ที่เธอได้ซื้อจากคนพื้นเมืองที่นั่น ความลึกลับอันน่าสะพรึงกลัวกำลังย้ายสู่ที่สิงสถิตสถานใหม่แล้ว… ในห้วงเวลาเดียวกันนั้น ขวัญไพลินเริ่มรู้สึกพรั่นพรึงถึงบางสิ่งบางอย่างที่กำลังจดจ้องและลอบมองเธออยู่ทุกขณะจิต “ตุ๊กแก” ตัวละครที่เธอเขียนถึงเข้ามาเกี่ยวข้องกับชีวิตเธอมากขึ้น ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหน มันก็จะปรากฏตัวให้เธอได้เห็นตลอดเวลา เธอกำชับ “ป้าสาย” (สุชาดา อีแอม) แม่บ้านชาวเขมรของเธอ ให้จัดการไม่ให้มีตุ๊กแกเข้ามาในบ้านอีกอย่างเด็ดขาด แต่ป้าสายเตือนขวัญไพลินให้ได้รู้ว่า ตุ๊กแกนั้นอาจไม่ใช่ตุ๊กแกธรรมดา เพราะเธอสัมผัสได้ถึงพลังอำนาจบางอย่างจากมัน และแล้วเหตุการณ์แปลกประหลาดก็ค่อยๆ เริ่มก่อตัวและกล้ำกรายเข้าสู่ชีวิตผู้คนที่อยู่รอบข้างเธอ “นิดา” (วันทิพย์ ภวภูตานนท์) บรรณาธิการสำนักพิมพ์ที่เธอส่งเรื่องให้ เป็นคนที่ใกล้ชิดกับเธอมากที่สุดคนหนึ่ง ด้วยความชื่นชมและชื่นชอบในผลงานเรื่อง “ตุ๊กแกผี” ก็ต้องพบกับเหตุการณ์ประหลาดที่ต้องเอาชีวิตเข้าแลกนี้ด้วยเช่นกัน ขวัญไพลินเริ่มแน่ใจแล้วว่ามันต้องมีสาเหตุมาจากตุ๊กแกอย่างแน่นอน แต่ไม่มีใครเชื่อเธอเลย แม้แต่ “วิฑูรย์” (พีท ทองเจือ) แพทย์สาขาจิตเวช แฟนหนุ่มของเธอ เพื่อที่จะหาทางรักษาแต่เนิ่นๆ วิฑูรย์จึงได้ขอร้องให้เธอลองไปเช็กสมอง เพราะเขาเห็นว่าขวัญไพลินมีอาการผิดปกติ เริ่มเห็นภาพหลอนและจินตนาการเกินจริง ซึ่งสร้างความไม่พอใจแก่เธอเป็นอย่างมาก เพราะเธอมั่นใจว่าสิ่งที่เธอเห็นนั้นเป็นความจริงไม่ใช่ภาพหลอนแต่อย่างใด ขวัญไพลินเริ่มระแวงและหวาดหวั่นในชะตาชีวิตของเธอที่อาจจะต้องจบลงเช่นเดียวกับคนรอบข้าง เธอเริ่มค้นหาสาเหตุและวิธีจัดการกับความสยองขวัญเหล่านั้น โดยหารู้ไม่ว่าต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมดอาจจะมาจาก…ตัวเธอเอง เรื่องราวลึกลับสยองขวัญอันน่าสะพรึงกลัวยังคงอยู่รอบๆ ตัว และดำเนินต่อไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด…
ครูแก แรงรัก แรงอาถรรพ์ (2547/2004) ครูฉาย (จรัล เพ็ชรเจริญ) ครูหนังตะลุงที่มีตัวหนังตะลุงเอกที่เป็นตัวตลก และเป็นตัวชูโรงประจำคณะ โดยท่านให้ความเคารพรัก และเทิดทูนตัวหนังตัวนี้อย่างสูงโดยเรียกอย่างยกย่องว่า ครูแก ซึ่งเป็นขวัญใจของคนดูหนังตะลุงทั่วภาคใต้ที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่า ไอ้แก ซึ่งมีคำร่ำลือว่าตัวหนัง ไอ้แก นั้นมีชีวิตมักจะแสดงอะไรแปลก ๆ ได้เสมอ และเมื่อเผลอมันจะลุกขึ้นเดินเหินแอบขึ้นไปยืนปร๋ออยู่กับตัวหนังตัวนางตัวหนึ่งที่ชื่อว่า พยอม (ปรางทอง ชั่งธรรม) ซึ่งตำนานของมันมาจาก แก (ภาณุ สุวรรณโณ) นายหนังตะลุงฝีมือดีผู้ถูกกีดกันจาก พ่อของพยอม สาวคนรักจนทำให้เธอต้องฆ่าตัวตาย เขาได้นำหนังเท้าของเธอมาทำเป็นตัวหนังตะลุงเพื่อให้เป็นตัวแทนของเธอ และเมื่อเขาใกล้เสียชีวิตก็ได้สั่งลูกศิษย์ให้นำหนังเท้าของมาทำตัวหนังตะลุงด้วยอีกตัว จนกลายเป็นตัวตลกยอดนิยม นี่เองเป็นที่มาของความรักอมตะที่แม้แต่กาลเวลาและความตายก็ไม่อาจพรากทั้งคู่ให้จากกันได้

กำลังแสดงผลลัพธ์ทั้งหมด 3 รายการ