สนิมสร้อย (2546/2003) จากวรรณกรรมลือเลื่องของ 'รงค์ วงษ์สวรรค์ มาเป็นภาพยนตร์โดย จรูญ วรรธนะสิน สนิมสร้อย เป็นเรื่องราวของสำนักโสเภณีชั้นสูงแห่งหนึ่งเมื่อเกือบ 50 ปีที่ผ่านมา.. "บ้านพี่สมร" ภายใต้ พ.ร.บ. ว่าด้วยการค้าหญิงและเด็กหญิง พ.ศ.2471 ขณะที่กรุงเทพฯ ยังไม่มีศูนย์การค้า คอกเทลเลานจ์ สถานบริการอาบอบนวด ฯลฯ สตรีโดยทั่วไปในสังคมไทย การศึกษายังค่อนข้างถูกจำกัด และถูกอบรมให้ต้องอยู่กับบ้านเฝ้ากับเรือน เสรีภาพที่ผู้ชายจะพบปะกับผู้หญิง ยังไม่ง่ายเหมือนทุกวันนี้ ความเป็นอยู่ในสังคมขณะนั้นกำลังฟื้นตัว แต่ผู้หญิงส่วนหนึ่ง ก็ยังต้องต่อสู้ดิ้นรนเพื่อหนีความยากจน มาเป็นโสเภณีด้วยความสมัครใจ ระบบซ่องแบบบ้านตอนนั้น กำลังแพร่กระจายไปตามย่านต่างๆ ของกรุงเทพฯ เป็นรอยต่อเริ่มที่จะมีการนำเด็กมาขายสู่อาชีพนี้ 'รงค์ วงษ์สวรรค์ (หนุ่ม) ในขณะนั้น ได้ใช้เวลากินนอนอยู่ใน "บ้านพี่สมร" เกือบปี เขียนเรื่องนี้ขึ้นจากชีวิตที่มีตัวตนจริง อย่างไม่ดูถูกเหยียดหยาม หากแต่เต็มไปด้วยลมหายใจของความเป็นมนุษย์มนา จนได้รับการยกย่อง จากวงการวรรณกรรมในเวลาต่อมาว่า เป็นเสมือนมหากาพย์แห่งกะหรี่ ที่ไม่หยาบสกปรกเฉาะแฉะลามกอนาจาร หากเปี่ยมด้วยเรื่องของชีวิต ความรัก และตัณหา ระคนเสียงหัวเราะ ร้องไห้ โศกสลด สะเทือนอารมณ์ และเจ็บๆ คันๆ จนยากที่จะรับรู้ไว้ด้วยอารมณ์วางเฉย เป็นเรื่องของเจ้าสำนัก พี่สมร ซึ่งมีการศึกษาดีพอใช้ แต่บาดแผลจากความหลัง ความเก็บกดจากอาชีพที่ทำ กลายมาเป็นอาการทางจิต "มาโซคิสม์" เสมือนเป็นการลงโทษตนเอง ก่อนจะสมอารมณ์หมาย เรื่องของ ก้าน ม.ด. ที่มีศรัทธาเทอดทูลพี่สมร จนรู้สึกเหมือนหมามีเจ้าของ ทุกครั้งที่สบตากับเจ้าสำนัก เรื่องของผู้หญิงส่วนหนึ่ง ที่ไม่เพียงเพราะการศึกษาต่ำหรือความยากจน หากยังถูกรังแกเอาเปรียบทางเพศจากผู้ชาย ผลักดันมาสู่อาชีพนี้ เช่น สิรี สมทรง วงเดือน มาลี บังอร ฯลฯ และแน่นอน เรื่องของผู้ชายหลายอาชีพ ที่เข้ามาเที่ยวมาหลงไหลร่ำรัก ดุจเช่น ป๋าพร คุณเชลา คุณทนิน ฯลฯ รวมทั้งอีกหลายๆ ชีวิตที่เป็น ตำรวจ ซึ่งเข้ามาเกี่ยวข้องกับคนในบ้านนี้ ทั้งเป็นการส่วนตัว และหน้าที่ตามกฎหมาย สนิมสร้อย พิมพ์เป็นหนังสือสู่สายตาผู้อ่านก่อน จัน ดารา ราว 5 ปี กอปรด้วยลีลาการเขียน ของภาษาทางอารมณ์ที่คมคาย เจ็บคัน ขำขัน ฯลฯ โด่งดังจนมีผู้ติดตามอ่านกันอย่างงอมแงม ในหนังสือสยามรัฐสัปดาห์วิจารณ์ ของท่านอาจารย์ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช และพิมพ์รวมเล่มสำหรับผู้อ่าน ที่หมุนเวียนเปลี่ยนรุ่นมาอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ แพรวสำนักพิมพ์ กำลังจะพิมพ์เป็นครั้งที่ 8 ชีวิตเหล่านั้น ได้ถูกปลุกขึ้นมาให้โลดแล่นอยู่บนจอยักษ์ ในรูปแบบของภาพยนตร์ที่ไม่หยาบโลน จากฝีมือของผู้กำกับฯ เรื่อง เชอรี่ แอน - จรูญ วรรธนะสิน ซึ่งสร้างในแนวจั๊กจี้ ขำขัน สะเทือนอารมณ์ ทั้งร้องไห้และหัวเราะ ในความเป็น ผู้หญิง-ผู้ชาย ซึ่งเฉี่ยวไปเฉี่ยวมากับเรื่องพรรค์นี้ ในแนวที่ยังไม่เคยมีใครสร้างเป็นหนังมาก่อน ไม่ว่าหนังไทยหรือหนังเทศ... สนิมสร้อย จึงมีเอกลักษณ์ที่คอหนังพลาดไม่ได้เด็ดขาดใน พ.ศ.นี้
แฟนฉัน (2546/2003) เรื่องราวในวัยเด็กของ "เจี๊ยบ" ที่มีเพื่อนสนิทคือ "น้อยหน่า" เด็กหญิงข้างบ้าน ที่เป็นเพื่อนเล่นมาด้วยกันตลอด แต่เด็กชายก็อยากมีเพื่อนๆ ผู้ชาย และเล่นตามประสาเด็กชายบ้าง ทำให้เขาหันไปเข้ากับกลุ่มเด็กชายจอมซ่า ที่มี "แจ๊ค" เป็นหัวโจก ทว่าการเข้ากับกลุ่มของแจ๊ค กลับทำให้น้อยหน่าเพื่อนรักต้องเสียใจ และยังทำให้เจี๊ยบพลั้งพลาดทำร้ายจิตใจของน้อยหน่าโดยไม่ตั้งใจ กว่าเจี๊ยบจะรู้ตัวว่าทำให้น้อยหน่าเสียใจ เธอก็ย้ายบ้านไปเสียก่อนที่เขาจะได้เอ่ยปากคำว่าขอโทษออกมา หลังจากย้ายบ้านไปเป็นเวลานาน เจี๊ยบได้กลับมาอีกครั้งเพื่อร่วมงานแต่งงาน ของ น้อยหน่า ความทรงจำในวัยเด็กที่เคยเลือนราง แต่เมื่อหลับตาลง ความทรงจำต่างๆ กลับค่อยๆ แจ่มชัดเหมือนเพิ่งผ่านไปเมื่อไม่กี่วันก่อน เจี๊ยบกับน้อยหน่า บ้านของทั้งสองอยู่ติดกันจึงเป็นเพื่อนเล่นกันตั้งแต่เด็ก เหตุนี้ทำให้เจี๊ยบติดสอยห้อยตามน้อยหน่า และคลุกตัวอยู่กับเพื่อนผู้หญิง จนทำให้แก๊งเพื่อนผู้ชายยั่วเย้าให้หัวเสียอยู่บ่อยๆ แต่เมื่อเริ่มโต เจี๊ยบก็เริ่มอยากเที่ยวเล่นแบบเด็กผู้ชาย จึงพยายามพิสูจน์ตัวเองแม้จะทำให้น้อยหน่าเสียใจก็ยอม เจี๊ยบเพียรมาด้อมๆ มองๆ บ้าน น้อยหน่าเพื่อหาโอกาสกล่าวคำขอโทษ กระทั่งยอมมาตัดผมกับพ่อน้อยหน่าที่บ้านก็ยอม แต่จนแล้วจนรอด เจี๊ยบก็ยังไม่ได้ขอโทษสักที จนถึงวันที่น้อยหน่าต้องย้ายบ้านไปอยู่ที่จังหวัดอื่น
คู่แท้ปาฏิหาริย์ (2546/2003) ทานน้ำ (ณัฐฐาวีรนุช ทองมี) ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง ที่ออกจะเชย ๆ เธอมักจะทำอะไรเปิ่น ๆ เป๋อ ๆ อยู่ตลอดเวลา และเพราะไม่ค่อยสุงสิงกับใครนัก ทำให้เธอไม่ค่อยมีเพื่อน แต่เธอก็แอบหลงรักรุ่นพี่ ที่เรียนมาด้วยกัน เขาชื่อว่า พี่เอก (ปิยะ วิมุกตายน) เธอคอยตามเขา ไม่ว่าเขาจะเรียนที่ไหน ทำงานอะไร แม้ตัวเธอจะไม่ชอบสักเท่าไหร่ แต่เพราะเขาคนเดียวเท่านั้น ที่เธอใฝ่ฝันว่าจะได้ใกล้ชิด และหากเรื่อง 'ปาฏิหาริย์' ไม่ได้เกิดขึ้นกับชีวิตเธอ เธอก็คงได้แต่แอบรักเขาอย่างนี้เรื่อย ๆ ในวันปีใหม่ น้ำตั้งใจจะสารภาพรักกับพี่เอกตามที่ ตุ่น (หทัยรัตน์ เจริญชัยชนะ) เพื่อนเพียงคนเดียวของเธอแนะนำ แต่ทุกอย่างก็ผิดพลาดไปหมด น้ำจึงได้แต่นั่งเหงา และรู้สึกท้อแท้กับชีวิตที่ไม่มีอะไรดีขึ้นมา แม้แต่งานโฆษณาที่เธอทำ ก็เกิดความผิดพลาดจนถูกต่อว่าเหมือนเคย แต่ครั้งนี้มันเกิดร้ายแรงกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา น้ำต้องตกอยู่ในอันตราย เธอได้แต่เปล่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ ในวินาทีนั้นเอง ชายหนุ่มรูปหล่อขี่ม้าขาวมาช่วยชีวิตเธอไว้ และไม่ใช่ครั้งเดียว เขาปรากฎตัวช่วยเธอถึงสามครั้งในวันเดียวกัน น้ำ ทั้งแปลกใจและประหลาดใจที่ชายหนุ่มรูปหล่อที่มาช่วยเธอคือ หมูตอน (เจษฏาภรณ์ ผลดี) เด็กอ้วนหุ่นฮิปโปเมื่อสมัยเรียน เขาเปลี่ยนไปจนน้ำจำไม่ได้ น้ำได้แต่สงสัยว่า ทำไมหมูตอนถึงปรากฎตัวช่วยเธอได้ทุกครั้ง หมูตอนบอกว่าที่เขามาช่วยน้ำ ก็เพราะคำมั่นสัญญาที่เขาเคยให้ไว้ ถ้าน้ำต้องการความช่วยเหลือ... เขาจะมา หมูตอนอาสาช่วยทำให้ความรักของน้ำสมหวัง เขาจับเธอแปลงโฉมเป็นสาวสวยคนใหม่ ที่ใคร ๆ ต่างก็ต้องแปลกใจ แต่น้ำก็ยังไม่กล้าทำอะไรด้วยตัวเอง หมูตอนจึงต้องวางแผนสารพัด ทำให้พี่เอกหันมาสนใจ และรักเธอให้ได้ ระหว่างนี้เอง ความสนิทสนมและความผูกพัน ที่ทั้งสองเคยมีก็กลับมาอีกครั้ง น้ำมีความสุขอย่างประหลาด เธอได้หัวเราะ และร่าเริงขึ้น แม้จะถูกแซวว่าเป็นเพราะเธอมีความรักกับหมูตอน แต่น้ำกลับปฏิเสธว่า เป็นเพราะความรักของพี่เอกต่างหาก ยิ่งน้ำสนิทกับพี่เอกมากเท่าไร หมูตอนก็ยิ่งเงียบหายไปเท่านั้น ทุกอย่างไม่ได้เป็นอย่างที่น้ำคิด ทำให้น้ำรู้สึกแย่ เพราะการหายตัวไปของหมูตอน น้ำพยายามร้องเรียกหาหมูตอนหลายครั้ง แต่เขาไม่เคยแสดงตัวอีกเลย จนวันหนึ่ง น้ำตัดสินใจเดินลงไปบนถนน แล้วหมูตอนก็โผล่มาช่วยเธอจริง ๆ นี่คือสิ่งที่เธอกำลังรอคอย และต้องการให้เกิดขึ้นจริง ๆ หมูตอนต่อว่าน้ำที่ทำอะไรโง่ๆ อย่างนี้ น้ำขอให้หมูตอนอย่าจากเธอไปอีก ...เขาให้สัญญา ความห่างเหินของน้ำ ทำให้พี่เอกกลับมาหาน้ำ แต่ครั้งนี้ต่างจากทุกครั้งเพราะความกดดัน ทำให้พี่เอกล่วงเกินน้ำ น้ำขัดขืนจนโรคหัวใจของเธอกำเริบ เธอแน่นหน้าอก และหายใจไม่ออก พี่เอกได้แต่ตกใจทำอะไรไม่ถูก ขณะที่น้ำกำลังจะแย่... น้ำฟื้นขึ้นมาที่โรงพยาบาล หมูตอนเป็นคนพาน้ำมาอีกแล้ว เขาจึงได้รู้จากหมอว่า หัวใจของน้ำกำลังแย่ ต้องได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจโดยเร็วที่สุด หมูตอนไม่รู้จะช่วยน้ำได้ยังไง สิ่งที่ทำได้เพียงอย่างเดียว คือทำให้น้ำมีความสุขที่สุด ในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ หมูตอนทำทุกอย่างเพื่อให้น้ำมีความสุข นับเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของน้ำ หมูตอนสารภาพรักกับน้ำ น้ำเองก็เพิ่งรู้ใจตัวเองว่า เธอรักหมูตอนเช่นกัน ในช่วงเวลาแห่งความสุขนั่นเอง หมูตอนเกิดอาการผิดปกติ เขาเจ็บปวดและทรมาน ก่อนที่เขาจะค่อย ๆ เลือนหายไปต่อหน้าต่อตาน้ำ สุดท้ายความรักของทั้งคู่จะลงเอยอย่างไร หมูตอนหายไปไหน แล้วทานน้ำจะทำอย่างไร...
คืนไร้เงา (One Night Husband) (2546/2003) สิปาง สาวทันสมัย ได้พบรักกับ นภัทร อาจารย์มหาวิทยาลัย และตัดสินใจแต่งงานกันในเวลาไม่นาน แต่ในคืนวันแต่งงาน นภัทรกลับหายตัวไปอย่างลึกลับ ทำให้สิปางต้องออกตามหา ด้วยความช่วยเหลือของ ชาติชาย และ บุษบา พี่ชายและพี่สะใภ้ของนภัทร ในระหว่างนั้น สิปางก็ได้ใกล้ชิดกับบุษบา และพบว่าหล่อนอยู่ในโลกที่แตกต่างกับเธออย่างสิ้นเชิง สิปาง (นิโคล เทริโอ) หญิงสาวสวยทันสมัย เธอพบรักกับนภัทร (วรวิทย์ แก้วเพชร) ซึ่งเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยและตกลงแต่งงานกันในเวลาไม่นาน เขาก็หายตัวไปหลังจากได้รับโทรศัพท์ลึกลับในคืนวันแต่งงาน ด้วยความวิตกกังวลกับการหายตัวไปของนภัทร สิปางจึงเริ่มออกติดตามหา ด้วยความช่วยเหลือของชาติชาย (พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง) และบุษบา (สิริยากร พุกกะเวส) พี่ชายและพี่สะใภ้ของนภัทร ในระหว่างนั้น สิปางได้พยายามเข้ามาใกล้ชิดกับบุษบาเพื่อค้นหาความจริงเกี่ยวกับนภัทร เธอพบว่าบุษบาอยู่ในโลกที่แตกต่างกับสิปางอย่างสิ้นเชิง เธอเป็นแบบฉบับของแม่บ้านช้างเท้าหลังที่มีชีวิตอยู่ใต้บงการของสามี เมื่อสิปางเข้าใกล้ความจริงเกี่ยวกับนภัทรมากขึ้น โฉมหน้าใหม่ของสามีคืนเดียวของเธอก็ค่อยๆ ปรากฏให้เห็นเด่นชัดขึ้นทีละน้อย ขณะเดียวกันความสัมพันธ์ระหว่างสิปางกับบุษบายิ่งนานวันยิ่งแนบแน่น การได้เรียนรู้ชีวิตในโลกที่แตกต่างกันทำให้สิปางถึงกับต้องคิดทบทวนความเห็นเดิมที่เธอเคยมีต่อความรัก การเสียสละ และความหมายของการดำรงชีวิตเสียใหม่ สิปางเริ่มต้นตั้งคำถามกับทุกอย่างในชีวิตซึ่งนำไปสู่จุดจบอันน่าสะเทือนใจ
Sex Phone คลื่นเหงาสาวข้างบ้าน (2546/2003) Sexphone คลื่นเหงา สาวข้างบ้าน บอกเล่าเรื่องราวของ ดื้อ (กวี ตันจรารักษ์) ดีเจหนุ่มรักสงบ ที่อาศัยอยู่กับคุณปู่ (สมชาย สามิภักดิ์) กับ เจ (พอลล่า เทเลอร์) หญิงสาวลูกครึ่งที่มีความมั่นใจในตัวเองสูง โดยอาศัยอยู่กับเพื่อนสนิท แต่ทั้งสองคนคือเพื่อนบ้านที่ไม่ลงรอยกันมาตลอด แต่เมื่อเอ็มม่า (โอฬาริก จารุวัฒน์) เพื่อนสนิทของเจ ได้ฝากเบอร์โทรศัพท์ของบ้านเจ เอาไว้ให้กับสถานีวิทยุที่ชื่อ "คลื่นเหงา" ของดีเจ.แมน (อนันต์ บุนนาค) ที่ดื้อทำงานเป็นผู้ช่วยสถานีวิทยุอยู่ที่นั้น แต่แล้วเมื่อวันที่ดื้อต้องจัดรายการวิทยุโดยจำเป็น ดื้อได้ต่อโทรศัพท์เข้าบ้านของเจ แล้วเกิดการเข้าใจผิดกัน ทำให้เจคิดว่าคนที่เธอคุยอยู่นั้น คือ "เซ็กส์โฟน" แต่หลังจากคืนนั้น เจก็กลายเป็นข่าวดังเพียงช่วงข้ามคืน เจเลยได้ต่อโทรศัพท์เข้าไปต่อว่าดื้อในรายการวิทยุก่อนวันขึ้นปีใหม่ แต่ไม่นานทั้งสอง ก็กลายเป็นเพื่อนคุยที่รู้ใจกันในที่สุด แต่หารู้ไม่ว่าคนที่ทั้งสองคุยกันนั้น ก็คือเพื่อนบ้านตัวแสบที่ไม่ลงรอยกันนั้นเอง
กุมภาพันธ์ (2546/2003) เมื่อหญิงสาวคนหนึ่ง ที่มีโอกาสรับรู้ถึงกำหนดวันตายของตัวเอง เธอตัดสินใช้ชีวิตที่เหลืออยู่เพียงสี่เดือน บินไปนิวยอร์ก เพื่อลืมความจริงอันแสนเจ็บปวดทั้งหลายที่เมืองไทย แต่ที่นิวยอร์ก เธอกลับประสบอุบัติเหตุ ตั้งแต่วันแรกที่ไปถึง เมื่อรู้สึกตัวขึ้นมา เธอกลับจำอะไรไม่ได้แม้แต่ชื่อของตัวเอง ท่ามกลางบรรยากาศที่แปลกตา กลางเมืองอันแปลกแยกและสับสน ในซอกหลืบของความมืดแห่งมหานครนิวยอร์ก ที่นั่นเธอได้พบกับบุรุษลึกลับ ที่เธอไม่เคยรู้เลยว่าเขาเป็นใคร ทำงานอะไร รู้เพียงแต่ว่า เขาเป็นคนๆ เดียวที่คอยดูแลเธอตลอดมา เวลาที่ผ่านไปแต่ละวัน แม้จะทำให้บาดแผลของเธอดีขึ้น แต่นั่นก็ไม่สำคัญ เท่ากับความรู้สึกที่เธอได้รับจากเขา ความรู้สึกที่เหมือนกับได้เริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง แต่ความรักจะสำคัญอย่างไร ถ้าเธอได้รับรู้ว่า ช่วงเวลาอันแสนสุขนี้ มีเวลาถึงแค่เพียง กุมภาพันธ์ เท่านั้น
ความรักครั้งสุดท้าย (2546/2003) “ความรักครั้งสุดท้าย” เป็นการถ่ายทอดเรื่องราวของชีวิตหญิงสาวผู้อ่อนไหวและโหยหาในความรัก หล่อนเคยมีความรักที่สวยงาม และเมื่อถึงวันที่เหตุการณ์อันสุดจะคาดเดามาถึงชีวิตและครอบครัวที่อบอุ่นกลับแตกร้าว หล่อนเดินจากมาพร้อมกับลูกชายและหญิงอันเป็นที่รัก 3 คน หล่อนตั้งใจว่าจะไม่แต่งงานเป็นหนที่สอง แต่ชะตาก็บันดาลให้หล่อนมาพบกับเขา ความว้าเหว่ทำให้หล่อนคิดว่ารักเขา แต่แล้วโชคชะตาก็กลับมาเล่นตลกกับหล่อน จนในที่สุดความรักและความหวังของหล่อนได้เลือนหายไปอย่างไร้ร่องรอย…
สุดเสน่หา (2546/2003) รุ่ง สาวแรงงานทาสีรูปปั้นปูนปลาสเตอร์ ที่หลงรักชายหนุ่มกะเหรี่ยงหรือแรงงานพม่าที่หลบหนีมาเป็นแรงงานต่างด้าวในประเทศไทยที่ชื่อว่า มิน โดยที่ มิน นั้นมีโรคทางผิวหนัง ทำให้รุ่งต้องพาเข้าไปรับการรักษา แต่ด้วยความที่เป็นแรงงานต่างด้าว จึงไม่ได้รับการดูแลเอาใจใส่จากสวัสดิการสังคมของประเทศไทยนัก รุ่ง จึงได้ฝากและจ้างวานให้ ป้าอร เป็นคนช่วยดูแลมินระหว่างที่เธอต้องทำงาน ป้าอร นั้นเป็นสาววัยกลางคนที่มีแรงปรารถนาอยากจะมีลูกอีกคน เนื่องจากลูกคนแรกได้จมน้ำเสียชีวิตไปแล้ว เธอจึงพยายามหาทางมีลูกกับสามีของเธอซึ่งทำงานข้าราชการ แต่สามีเธอกลับไม่ยอม เธอจึงหาหนทางอื่นที่จะมีลูกขึ้น โดยไปมีสัมพันธ์ชู้กับเพื่อนร่วมงานกับสามีของเธอแทน

กำลังแสดงผลลัพธ์ทั้งหมด 8 รายการ