ฝนเหนือ (2513)

ฝนเหนือ (2513/1970) เรื่องราวของเชิง ช่อตำแย และเพลิน เดียวดาย สองหนุ่มพเนจรเกิดไปขัดผลประโยชน์ของเสือคล้าม ที่หมายจะเอาที่ดินเขาชมพูของกำนันฉะมาเป็นของตน การห้ำหั่นกันด้วยชั้นเชิงจึงเกิดขึ้น ท่ามกลางความรักระหว่างเชิงกับฝนเหนือ และเพลินกับตุ๊กตุ่น ลูกสาวสุดหวงของกำนันฉะ ฝนเหนือ สาวน้อยที่เกิดมาท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก ลูกสาวกำนันฉะ ผู้กว้างขวางและคหบดีแห่งหมู่บ้านวังชมพู ที่ต้องร่วมมือกับ เชิง ช่อตำแย หนุ่มกะล่อนนักถ่ายรูป เพลิน เดียวดาย หนุ่มขี้เหงาหัวใจว้าเหว่ และไว ว่องวิทย์ หนุ่มบ้านนอกขี้กลัว เพื่อกำจัดเสือคร้าม ที่ปลอมตัวเป็นนักธุรกิจเพื่อที่จะมากว้านซื้อที่ดินในหมู่บ้านเพื่อใช้เป็นฐานในการผลิตยาเสพติด

บ้านสาวโสด (2513)
บ้านสาวโสด (2513/1970) บ้านสุนทรพันธ์หรือที่คนทั่วไปเรียกว่าบ้านสาวโสด มีพี่น้องสามสาวคือ ประเทืองทิพย์ (จุรี โอศิริ) หยิบทหัย (ปริม ประภาพร) วไลพร (เมตตา รุ่งรัตน์) พากันดีใจเมื่อติ่ง (มิตร ชัยบัญชา / ครรชิต ขวัญประชา) ซึ่งเป็นหลานชายจะมาอยู่ด้วยเพื่อเรียนต่อ ทั้งสามสาวพยายามใช้เสน่ห์ยั่วยวนติ่ง แต่ก็ไม่ได้ผล ขณะเดียวกันหญิง สุระกานต์ (เพชรา เชาวราษฎร์) ลูกสาวอธิบดี (เชาว์ แคล่วคล่อง) ก็อ้างตัวว่าชื่อแต๋ว เข้าเป็นคนรับใช้ในบ้านสาวโสด ซึ่งสามสาวไม่ค่อยพอใจที่ติ่งหันไปสนใจแต๋วมากกว่า ประเทืองทิพย์จึงไปบอกพ่อแม่ของติ่งว่า ติ่งจะเอาคนใช้เป็นเมีย ส่วนติ่งเองก็สงสัยในพฤติกรรมของแต๋วจึงแอบไปสมัครเป็นคนสวนบ้านพ่อของแต๋วจนสืบรู้ความจริง แต่แต๋วก็ไม่พอใจที่เห็นติ่งไปสนิทสนมกับพิณ (จอมใจ จรินทร) เมียนายไปล่ (เมือง อพอลโล) คนขับรถในบ้านจนเกิดเรื่องชกต่อยกัน นายไปล่ถูกไล่ออกจากบ้าน จึงได้พาพวกเข้ามาปล้นบ้านอธิบดีเพื่อแก้แค้น แต่ติ่งและเพื่อนๆ ก็มาช่วยไว้ได้ทัน
ฟ้าคะนอง (2513)

ฟ้าคะนอง (2513/1970) จริกา นางพยาบาลจากกรุงเทพฯ ที่เดินทางไปทำงานยังปราสาทฟ้าคะนอง ที่แหลมฟ้าคะนอง บริเวณชายฝั่งทะเลฝั่งตะวันออกของไทย ซึ่งเป็นปราสาทเก่าแก่เกือบ 100 ปีของเจ้าคุณสุธาธรรม อดีตสมุหเทศาภิบาลสมัยก่อน ที่เกาะแห่งนี้มีความลับเรื่องสมบัติโจรสลัดมูลค่ากว่าร้อยล้านบาทซ่อนอยู่ ในขณะที่ปราสาทฟ้าคะนองก็เต็มไปด้วยความลึกลับน่ากลัวและผู้คนที่ไม่ปรกติ

ณ อ่าวกระทิง จริกาได้มาที่นี่เพื่อเตรียมตัวเดินทางไปเป็นพยาบาลประจำที่แหลมฟ้าคะนอง พอลุงย้ำได้ยินจึงรีบห้ามไม่ให้ไป เพราะเมื่อไปที่นั่นแล้วจะไม่มีใครได้กลับมา เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ ดุรงค์ มารับตัวจริกาซึ่งเป็นคนที่ประกาศรับสมัครนางพยาบาลประจำ ทั้งสองจึงรีบแล่นเรือไปที่แหลมฟ้าคะนอง ทว่าเมื่อจริกามาถึงก็พบกับความลึกลับและน่ากลัวของที่นี่ ความหายนะกำลังจะมาเยือนหรือไม่

รักเธอเสมอ (2513)
รักเธอเสมอ (2513/1970) ข้อความบนใบปิด ชรินทร์ นันทนาคร รับประกันคุณภาพ นันทนาครภาพยนตร์ เสนอ สมบัติ งามสง่า เพชรา หวานนัก รักเธอเสมอ ของ อิงอร มโหฬารที่สุดในรอบ 40 ปี เพราะยกกองไปถ่ายทำในงาน “เอ็กซ์โป 70” ทะเลสาบฮาโกเน่ ที่สวยที่สุดในโลก สวนสามพราน บ่อน้ำพุร้อนฝาง ลัดดาแลนด์ ฟัง! 9 เพลงมโหฬาร 35 ม.ม. รักเธอเสมอ, ไทยดำรำพัน, กาสะลองบานแล้ว, ฮักถิ่นไทยดำ, ไม่อยากบอกว่าคิดถึง, ปูน้อยหนีบมือ, รักเดียวกลางแสงเดือน, ซังคนหลายใจ และลีลาเพลง “รักเธอเสมอ” ชุมนุมดาราชั้นมาตรฐาน ประจวบ ฤกษ์ยามดี, อดุลย์ ดุลยรัตน์, ทักษิณ แจ่มผล, พันคำ, ม.ล.รุจิรา อิศรางกูร, วาสนา ชลากร, วิไลวรรณ วัฒนพานิช ดาราทองพระราชทาน ชรินทร์ นันทนาคร-ลินจง บุนนากรินทร์ และ ล้อต๊อก ฯลฯ ชม! บทบาทใหม่ของนักร้องยอดเสน่ห์ ไทยดำรำพัน และชนะเลิศลูกทุ่งหญิง กิ่งดาว จันทร์สวัสดิ์ เชื่อถือได้เพราะ ส.อาสนจินดา สร้างบท ฉลอง ภักดีวิจิตร ถ่ายภาพ นันทวัต ลำดับภาพ ชรินทร์ นันทนาคร อำนวยการสร้าง-กำกับการแสดง กัญญามาลย์ภาพยนตร์ จัดจำหน่าย
ลำพู (2513)
ลำพู (2513/1970) ลำพู สาวงามแห่งแหลมตะลุมพุกที่พบรักกับหนุ่มเมืองกรุง ทั้งคู่สัญญารักนัดหมายกันว่าอีก 3 ปีชายหนุ่มจะกลับมาพบกับเธอที่สะพานคุ้งหิ่งห้อย แต่พอถึงวันนัดหมายเกิดมหาวาตภัยถล่มแหลมตะลุมพุก ทั้งคู่ก็พยายามฝ่าฟันอันตราย ฝ่าสายฝนและพายุไปยังจุดนัดพบ แต่ลำพูโชคร้ายถูกพายุพัดตกทะเลได้รับบาดเจ็บหน้าเสียโฉมจนไม่อยากพบใคร ขณะที่สมบัติเองก็ออกตามหาลำพูสาวคนรักอย่างไม่ย่อท้อและด้วยอานุภาพแห่งรักแท้ ทั้งคู่ก็ได้พบกันอีกครั้งโดยมีผ้าเช็ดหน้าดอกลำพูเป็นสื่อรักและสมบัติก็พาลำพูไปรักษาตัวจนใบหน้าสวยงามดังเดิม แล้วก็ครองรักกันอย่างมีความสุข
ภูตเสน่หา (2513)
ภูตเสน่หา (2513/1970) ข้อความบนใบปิด ชมพูนุชภาพยนตร์ เสนอ...ภาพยนตร์ระดับเงินล้าน ภูตเสน่หา ของ สุชาดา สมบัติ เมทะนี อรัญญา นามวงษ์ รักชนก จินดาวรรณ ร่วมด้วย มาลาริน บุนนาค, รุจน์ รณภพ, เมืองเริง ปัทมินทร์, ฑัต เอกฑัต, เสน่ห์ โกมารชุน, สีเทา, ถวัลย์ คีรีวัต, ชูศรี โรจนประดิษฐ์, จุ๋มจิ๋ม ศรทอง ฯลฯ “อุดม พลูพานิช” ที่ปรึกษา สุรีย์ พุกกะเวส อำนวยการสร้าง สุริยน ดวงทองดี กำกับการแสดง สงคราม กวี ถ่ายภาพ ส.อาสนจินดา สร้างบท พิริยะฟิล์ม จัดจำหน่าย
จอมบึง (2513)
จอมบึง (2513/1970) เริง หนุ่มชาวจอมบึง จ.ราชบุรีที่ฝันอยากเป็นนักร้องลูกทุ่ง แม้พ่อที่เป็นครูจะไม่เห็นด้วยและคัดค้านอย่างเต็มที่ และให้เริงดูแลไร่ซึ่งเริงก็รับคำของพ่อแต่เขาก็ยังไม่ทิ้งความฝันในการเป็นนักร้อง จนกระทั่งได้มีโอกาสเมื่อมีวงดนตรีเข้ามาแสดงในตำบลใกล้ๆ เขาพยายามจนได้ขึ้นร้องเพลงแต่ทว่ามันกลับสร้างความผิดหวังให้กับตัวเขา จนเริงอับอายและหนีเตลิดออกจากหมู่บ้านไป ร้อนถึงเพื่อนๆ ที่ออกตามหา เริงได้พบกับ นำพร และจับพลัดจับผลูได้ไปทำงานในบ้านของเธอ เริงเกิดความรักต่อนำพรทว่าต้องผจญกับเรื่องยุ่งๆ จากพี่สะใภ้ของนำพรที่มาหลงรักเขาเข้า และสร้างความเข้าใจผิดระหว่างเขาและนำพร
จอมโจรมเหศวร (2513)
จอมโจรมเหศวร (2513/1970) ศวร ลูกชายผู้ใหญ่สุข ที่ปลดประจำการจากการเกณฑ์ทหารกลับมาบ้าน แล้วต้องพบกับเหตุการณ์พ่อถูกฆ่าด้วยน้ำมือของหมื่นชล ผู้ที่อยากเป็นเจ้าพ่อและครอบครองที่ดินทั้งหมดของผู้ใหญ่สุข โดยศวรถูกหมื่นชลและพวกไล่ตามฆ่าจึงต้องหนีเอาชีวิตรอดไปถึงที่ไร่แห่งหนึ่ง และพบรักกับโฉมยา หลานสาวเจ้าของไร่ ท่ามกลางความไม่พอใจของพิทักษ์ พี่ชายของโฉมยา ซึ่งได้วางแผนหลอกศวรว่าโฉมยากำลังจะแต่งงานกับชายอื่นที่คู่ควรกว่า ทำให้ศวรเสียใจมาก ด้วยความแค้นที่พ่อถูกฆ่าและโดนพรากคนรัก ทำให้ศวรเดินทางไปพบกับเสือฝ้าย และสร้างชื่อเป็นที่ร่ำลือกันทั่วในฉายาว่า "จอมโจรมเหศวร"
จุ๊บแจง (2513)
จุ๊บแจง (2513/1970) ข้อความบนใบปิด นวนิยายเรื่องเยี่ยม ที่ลงในนิตยสาร “ดรุณี” รายสัปดาห์ ละครวิทยุคณะ “แก้วฟ้า” พิภพภาพยนตร์ เสนอ จุ๊บแจง ของ ภูธัย กันชน สมบัติ เมทะนี อรัญญา นามวงษ์ ประจวบ ฤกษ์ยามดี, วิไลวรรณ วัฒนพานิช, ศรินทิพย์ ศิริวรรณ, สมจิตร ทรัพย์สำรวย, อบ บุญติด, โขมพัสตร์ อรรถยา, มารศรี อิศรางกูร, สมควร กระจ่างศาสตร์, พฤหัส บุญหลง, เทียวธารา, อดินันท์ สิงห์หิรัญ, ปราณีต คุ้มเดช, ชูศรี โรจนประดิษฐ์, สมพงษ์ พงษ์มิตร, สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม และ ด.ช.ตุ๊ดติ่ง ทัศนพยัคฆ์ พร้อมด้วยนักร้องลูกทุ่งพระเอก “สุรพลลูกพ่อ” บรรจบ เจริญพร และสองสาวดาวเต้นคู่ฝาแฝด อารยา-ปาริชาติ ฉายาลักษณ์ ฟัง 4 เพลงเอกแสนไพเราะ ในระบบ 35 ม.ม.สีเสียงในฟิล์ม วิฑูรย์ เชาวน์ประดิษฐ์ อำนวยการสร้าง ธีระ แอคะรัจน์ ถ่ายภาพ พงษ์สิทธิ์ กำกับการแสดง
โทน (2513)
โทน (2513/1970) โทน (ไชยา สุริยัน) หนุ่มกำพร้า อาศัยอยู่กับหลวงตาในชนบท โทนเป็นคนหน้าตาดี ฉลาด เรียนจบช่างยนต์ มีน้ำใจและชอบช่วยเหลือผู้อื่น สังข์ทอง (สังข์ทอง สีใส) เพื่อนรักของโทนเป็นลูกศิษย์วัดด้วยกัน ชอบร้องเพลง ทั้งสองสาบานว่าจะเป็นเพื่อนตายจนกว่าชีวิตจะหาไม่ โทนไม่สมหวังในเรื่องรักเช่นเดียวกับกุหลาบ (จารุวรรณ ปัญโญภาส) สาวผู้ที่มีอันจะกิน มีแต่สังข์ที่ใช้เพลงเป็นเพื่อนปลอบใจ แต่ไม่นานสงข์ก็ถูกยิงตกเขาตายในขณะที่โทนได้เข้ามาเรียนต่อในกรุงเทพที่มหาวิทยาลัยศิลปากร โดยการช่วยเหลือของอ๊อด (สายัณห์ จันทรวิบูลย์) จึงได้พบกับแดง (อรัญญา นามวงศ์) สาวสังคมที่มีนิสัยเย่อยิ่งและเกลียดขี้หน้าโทนอย่างไม่มีเหตุผล แต่เมื่อแดงถูกอิทธิพล (สะอาด เปี่ยมพงศ์สานต์) ฉุดไปแต่โทนช่วยแตงออกมาได้ ทำให้แตงเริ่มมองเห็นความดีของโทนที่คอยช่วยเหลือแต่เกิดเหตุร้ายขึ้นเมื่อแดงกับกุหลาบ ถูกคนร้ายจับตัวไป โทนและอ๊อดจึงตามไปช่วย
แม่ปิง (2513)
แม่ปิง (2513/1970) จุล จิโรประทัย (สิงห์ มิลินทราศัย) และธวัช (ศิริพงษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา) ร่วมมือกันหักหลังดุสิต (สุเทพ ศิริธร) หุ้นส่วนที่ทำธุรกิจร่วมกัน ทำให้ดุสิตสิ้นเนิ้อประดาตัวและต้องอพยพครอบครัวไปอยู่เชียงใหม่ ด้วยความเสียใจทำให้ดุสิตล้มป่วยกลายเป็นอัมพาต เรื่องที่เกิดขึ้นถูกถ่ายทอดให้ดอกบัวผู้เป็นลูกสาวได้รับรู้ หลายปีต่อมาดอกบัว (อรัญญา นามวงษ์) เติบโตเป็นสาวสวยได้พบกับจลา จิโรประทัย (สมบัติ เมทะนี) โดยบังเอิญและได้ทราบว่าจลาคือลูกชายของศัตรูผู้หักหลังพ่อของตน จึงวางแผนการแก้แค้น ดอกบัวเดินทางเข้ากรุงเทพและค้นหาบ้านของนายจุลจนพบและแกล้งให้ถูกรถของจลาเฉี่ยว ทำให้จลาต้องพาตัวดอกบัวเข้าไปดูแลอาการในบ้าน ด้วยความสวยของดอกบัวทำให้เจตนา (สุวิน สว่างรัตน์) พี่ชายของจลาเสนองานให้ดอกบัวทำงานในบ้านของตน โดยที่เจตนาแอบลักลอบเป็นชู้กับเพ็ญพรรณ (ชฎาพร วชิรปรานี) แม่เลี้ยงสาวของตนเอง นายจุลประสบอุบัติเหตุทำให้กลายเป็นอัมพาต ดอกบัวทำหน้าที่เป็นผู้ดูแล ความสวยและการเอาอกเอาใจของดอกบัวทำให้ทั้งนายจุลและเจตนาหลงใหลต้องการได้ดอกบัวเป็นเมียทั้งคู่ ในขณะที่จลาและดอกบัวเริ่มมีใจให้กัน เพ็ญพรรณหึงหวงที่ทั้งนายจุลและเจตนาหลงใหลดอกบัว จึงหลอกพาดอกบัวไปขายให้นายธวัชเพื่อนของนายจุล ทำให่นายจุลเสียใจมากที่สูญเสียดอกบัวไป เพื่อการแก้แค้นดอกบัวจึงยอมเป็นเมียของนายธวัช และใช้ความสวยทำให้ธวัชหลงใหลเป็นอย่างมาก ขณะเดียวกันดอกบัวก็โปรยเสน่ห์ให้กับธวัชชัย (ครรชิต ขวัญประชา) ลูกชายของนายธวัช จนธวัชชัยหลงใหลดอกบัวไปอีกคน ดอกบัวยุยงให้นายธวัชเขี่ยนายจุลออกจากกิจการที่ทำร่วมกัน ทำให้นายจุลเสียใจมากจนล้มป่วยหนัก ดอกบัวมาหานายจุลและบอกความจริงเรื่องการแก้แค้นของตน นายจุลเสียใจมากและสำนึกในความผิดก่อนจะเสียชีวิตจึงเขียนพินัยกรรมยกมรดกครี่งหนึ่งให้กับดอกบัวเพื่อเป็นการชดใช้ให้กับดุสิตพ่อของดอกบัว หลังจากนายจุลเสียชีวิตแล้วดอกบัวก็ผละจากนายธวัช ทำให้นายธวัชเสียใจจนเส้นโลหิตแตกเสียชีวิต ขณะที่เพ็ญพรรณก็หึงหวงเจตนาที่เพ้อหาแต่ดอกบัวจึงยิงเจตนาเสียชีวิต เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดจลาโทษว่าเป็นความผิดของดอกบัวที่มากชู้หลายใจ จึงด่าว่าดอกบัวด้วยถ้อยคำรุนแรงทำให้ดอกบัวเสียใจมากจึงเดินทางกลับเชียงใหม่ จิตรา (มารศรี ณ บางช้าง) ผู้เป็นอาของจลาบอกเล่าเรื่องที่นายจุลและนายธวัชโกงนายดุสิตพ่อของดอกบัว และขอร้องให้จลาให้อภัยในเรื่องที่เกิดขึ้น จลาจึงติดตามดอกบัวมาที่เชียงใหม่ ทั้งสองปรับความเข้าใจกันและสานต่อความรักที่มีในหัวใจของทั้งคู่
คู่สร้าง (2513)
คู่สร้าง (2513/1970) แพทย์หญิง นภาลัย นรินทร (พิศมัย วิไลศักดิ์) ที่มีอุดมการณ์แรงกล้า แต่ความหลังเมื่อ 15 ปีที่ผ่านมาเธอเป็นถึง เจ้าหญิงเอื้องม่านฟ้า ราชกุมารีแห่งนครไตหลวง เหนือสุดของประเทศไทย เสด็จพ่อของเธอถูกคนร้ายฆ่าชิงเมือง แต่ยังจับตัวคนร้ายไม่ได้ วันหนึ่งก็มีชายคนหนึ่งมาให้เธอรักษาบาดแผลฉกรรจ์ แต่ชายคนนั้นจ่ายค่ารักษาเป็นพลอยทับทิมสีแดงสดเม็ดใหญ่ ซึ่งพอเธอนำมาให้แม่เธอและหมอไสยศาสตร์ที่กำลังทำพิธีเข้าทรงดู ทุกคนก็รู้ว่า พลอยเม็ดนี้เองจะนำไปหาคนร้ายได้ ส่วน เจ้าชายภูมินทรา (มิตร ชัยบัญชา) แต่ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น ชิโนรส นักเรียนนอก ซึ่งมิตรลูกชายของคนที่ฆ่าพ่อนางเอกตายหรือก็คือคนที่มารักษาตัวและจ่ายค่ายาด้วยพลอยทับทิมสีแดงนั่นแหละ คราวนี้ นางเอกของเราจะแก้แค้นได้อย่างไร แม่ก็บอกว่า ให้ใช้วิชาชีพหมอ ฉีดยาให้ศัตรูตายไปเลย ไม่ต้องรักษาแล้ว แต่อุดมการณ์ที่แรงกล้าของเธอ จะฆ่าศัตรูที่เป็นพ่อของชายคนรักได้หรือไม่
สวรรค์เบี่ยง (2513)
สวรรค์เบี่ยง (2513/1970) ผลงานเด่นของ กฤษณา อโศกสิน ภาพยนตร์ชีวิตรัก สุขสันต์ สะเทือนอารมณ์ น่าชมที่สุด! ฮิตทั้งเมื่อเป็นนวนิยายจาก นิตยสารแม่ศรีเรือน รายสัปดาห์ และละครวิทยุเยี่ยมคณะ "แก้วฟ้า" ฟังเพลงไพเราะจากเสียงน้ำเซาะหิน "รวงทอง ทองลั่นทม"
ปี่แก้วนางหงษ์ (2513)
ปี่แก้วนางหงษ์ (2513/1970) ข้อความบนใบปิด เสน่ห์ศิลป์ภาพยนตร์ เสนอ มิตร ชัยบัญชา สุทิศา พัฒนุช ดรุณี ชื่นสกุล นำ ฟัง 5 เพลงเอกในระบบ 35 ม.ม. ปี่แก้วนางหงษ์ พร้อมด้วย อดุลย์ ดุลยรัตน์, เยาวเรศ นิสากร, กันทิมา ดาราพันธ์, รุจิรา อิศรางกูร, เสน่ห์ โกมารชุน, สมพงษ์ พงษ์มิตร, สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม, ท้วม ทรนง รวมดาราลูกทุ่งนักร้อง เรียม ดาราน้อย, มิตร เมืองแมน, ชาตรี ศรีชล, ปัทมา ณ เวียงฟ้า เสน่ห์ โกมารชุน อำนวยการสร้าง เสนีย์ โกมารชุน กำกับการแสดง สันทัด ศรีสัมพันธ์ ถ่ายภาพ ศานิต รุจิรัตนะตระกูล ถ่ายภาพ 35 ม.ม. รัตนาชัยฟิล์ม จัดจำหน่าย
อยากดัง (2513)
อยากดัง (2513/1970) ข้อความบนใบปิด ปฏิมาภาพยนตร์ เสนอ อยากดัง บทประพันธ์ของ รุ่งรัชนี นำโดย สมบัติ เมทะนี สุทิศา พัฒนุช เมตตา รุ่งรัตน์, ทม วิศวชาติ, ประจวบ ฤกษ์ยามดี, มนัส บุณยเกียรติ, ทานทัต วิภาตะโยธิน, มาลี เวชประเสริฐ, บุษกร สาครรัตน์, โกร่ง กางเกงแดง, หม่อมชั้น พวงวัน, ดาวน้อย ดวงใหญ่ พร้อมด้วยขบวนนักร้องเพลงลูกทุ่งชื่อดัง กังวานไพร ลูกเพชร, ไวพจน์ เพชรสุพรรณ, ชินกร ไกรลาศ, ศรีไพร ลูกราชบุรี, ศรีไพร ใจพระ และบุปผา สายชล ฟัง 12 เพลงเอก ถ่ายทำในระบบ 35 ม.ม.สีอิสต์แมน เสียงในฟิล์ม อยากดัง ทำไมถึงอยากดัง สุภาพ ประจวบเหมาะ อำนวยการสร้าง ปง อัศวินิกุล-เฉลิม บุตรบุรุษ ถ่ายภาพ หวน รัตนงาม กำกับการแสดง
รักนิรันดร์ (2513)
รักนิรันดร์ (2513/1970) ระทม สาวน้อยที่ถูกพ่อทิ้งไปในช่วงที่เกิดสงครามแถบชายแดนไทย เธอจึงต้องไปอยู่กับแม่ที่ฮ่องกง แต่เมื่อพ่อของเธอได้กลับมาพร้อมกับเมียใหม่ ทำให้แม่ของระทมตรอมใจฆ่าตัวตาย ในขณะที่เธอก็ได้พบรักกับโจรหนุ่มชื่อ รักษ์ และตัดสินใจหนีไปใช้ชีวิตทำมาหากินสุจริตด้วยกัน โดยมีพ่อของเธอคอยกีดกันความรักครั้งนี้ ระทม สาวน้อยที่ถูกพ่อทิ้งไปในช่วงที่เกิดสงครามแถบชายแดนไทย เธอจึงต้องไปอยู่กับแม่ที่ฮ่องกง แต่เมื่อพ่อของเธอได้กลับมาพร้อมกับเมียใหม่ ทำให้แม่ของระทมตรอมใจฆ่าตัวตาย ในขณะที่เธอก็ได้พบรักกับโจรหนุ่มชื่อ รักษ์ และตัดสินใจหนีไปใช้ชีวิตสุจริตด้วยกัน แต่พ่อของเธอกลับกีดกัน และพาเธอมาอยู่ด้วยกันในกองทัพชายแดนลาว รักษ์จึงออกตามหาคนรักโดยแฝงตัวอยู่ในกลุ่มผู้ก่อการร้าย

หน้าที่