2510
เมขลา (2510/1967) หญิงชาวญี่ปุ่นชื่อ มิสุโกะ (พิศมัย วิไลศักดิ์) พบรักกับนายทหารหนุ่มชาวไทย (อดุลย์ ดุลยรัตน์) ซึ่งไปราชการในญี่ปุ่น จนกระทั่งให้กำเนิดลูกสาวชื่อเมขลา (ภาวนา ชนะจิต) ต่อมาอดุลย์ต้องเดินทางกลับประเทศไทย จึงได้นำเมขลากลับมาก่อน และจะให้พิศมัยตามมาในภายหลัง แต่พิศมัยโชคร้ายถูกสารกัมมันตรังสีจากระเบิดปรมานูที่อเมริกาทิ้งลงที่ฮิโร ชิม่า จนทำให้เสียโฉม เมื่อเดินทางตามอดุลย์มาถึงเมืองไทย พบว่าอดุลย์แต่งงานใหม่และมีลูกสาวอีกคน ทั้งเมียใหม่และลูกสาวพยายามกลั่นแกล้งเมขลาอยู่เสมอ เพราะอิจฉาที่พระเอกในเรื่องคือ สมบัติ แสดงความสนใจต่อเมขลามากกว่าน้องเลี้ยง พิศมัยสำนึกในความอัปลักษณ์ของตนจึง ไม่กล้าแสดงตัว แต่ก็พยายามปกป้องเมขลาอย่างสุดชีวิต จนกระทั่งวันหนึ่งน้องเลี้ยงของเมขลาคนพบหลักฐานว่า หญิงหน้าตาอัปลักษณ์คือแม่ของเมขลา จึงจะนำหลักฐานไปเปิดโปงเพื่อประจานเมขลา พิศมัยพยายามยื้อแย่งหลักฐานจนเกิดพลั้งมือทำให้น้องเลี้ยงของเมขลาเสียชีวิต เมื่อขึ้นศาลทุกอย่างจึงเปิดเผย ทั้งเมขลาและอดุลย์ต่างแสดงความรักต่อพิศมัย และไม่รังเกียจในความอัปลักษณ์ แม้แต่ภรรยาใหม่ของอดุลย์ก็เข้าใจในความรักและเสียสละเพื่อลูก และทราบดีถึงความร้ายกาจของลูกตนเอง จนกระทั่งศาลตัดสินให้พิศมัยพ้นจากความผิด อดุลย์จึงได้ติดต่อศัลยแพทย์ที่เก่งที่สุดมาทำการผ่าตัดเปลี่ยนโฉมให้พิศมัย กับมาสวยงามดั่งเดิม และพ่อแม่ลูกก็ใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุข
สายเปล (2510/1967) มิตร-เพชรา ข้อความบนใบปิด บูรพาศิลป์ภาพยนตร์ ฉลองครบรอบ 38 ปี ด้วย สายเปล ของ ป.พิมล มิตร-เพชรา ประจวบ ฤกษ์ยามดี, ทักษิณ แจ่มผล, กิ่งดาว ดารณี, ชุมพร เทพพิทักษ์, สุดเฉลียว เกตุผล, บุษกร สาครรัตน์, มาลี เวชประเสริฐ, สมศรี, สมพงษ์ พงษ์มิตร, ล้อต๊อก, สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม นำแสดง ขอแนะนำ รองนางสาวไทยปี 2509 อุไรวรรณ งามบุญสืบ และ สรายุทธ เวชชยันต์ สำเภา ประสงค์ผล อำนวยการสร้าง ฉลอง ภักดีวิจิตร ถ่ายภาพ รังสี ทัศนพยัคฆ์ กำกับการแสดง