ดาวพระศุกร์ (2509)
ดาวพระศุกร์ (2509/1966) แสนจะสนุกอย่างสุดอารมณ์ จากรัก..ตลก..คติ... อาฆาตแค้น..และสมหวัง...เมื่อเธอจุติมาเกิด ขณะดาวประกายพฤกษ์จรัสฟ้า เธอจึงได้ชื่อว่า...ดาวพระศุกร์! จากละครวิทยุฮิตแห่งปี 2509 มาเป็นภาพยนตร์ยิ่งใหญ่...
ดรุณีสีเลือด (2509)
ดรุณีสีเลือด (2509/1966) มิตร-เพชรา ข้อความบนใบปิด คอยชื่นชม สมบัติไทย ที่เรา-ท่าน จะต้องภูมิใจยิ่ง ส.อาสนจินดา ภาพยนตร์ เสนอภาพยนตร์ 35 ม.ม. เสียง-สีอีสต์แมน ซูเปอร์ซีเนราเมติคสโคป ดรุณีสีเลือด GIRL IN THE BLOOD COLOUR มิตร ชัยบัญชา เพชรา เชาวราษฎร์ อดุลย์ ดุลยรัตน์, บุศรา นฤมิตร, รุจน์ รณภพ, อรสา อิศรางกูร, มานี มณีวรรณ, สมควร กระจ่างศาสตร์, จุรี โอศิริ, สาหัส บุญหลง, ชนินทร์ นฤปกรณ์, ชาณีย์ ยอดชัย, เทียนชัย สุนทรการันต์, สังเวียน หาญบุญตรง, ปฐมชัย ชมศรีเมฆ, จุ๋มจิ๋ม ศรทอง ดารารับเชิญ ธวัชชัย สุทธิมา, สักรินทร์ ปุญญฤทธิ์ ส.อาสนจินดา กำกับการแสดง ปรีชา ทรัพย์พระวงศ์-วิเชียร วีระโชติ ถ่ายภาพ
เพื่อนรัก (2509)
เพื่อนรัก (2509/1966) "ศิริ ศิริจินดา" ผู้กำกับการแสดง ซึ่งท่านเคยเชื่อมือในการปั้นดารามาแล้ว ขอเชิญท่านชมบทบาทการแสดง ของเพชรดาราคนใหม่ "รักชนก จินดาวรรณ" แก้ว (รักชนก จินดาวรรณ) อาศัยอยู่กับเนียน (ศรินทิพย์ ศิริวรรณ) ผู้ซึ่งแก้วเข้าใจว่าเป็นแม่ของตน เนียนและทุกคนในบ้านกดขี่ให้แก้วทำงานเพื่อเลี้ยงดูพวกตน วันหนึ่งแก้วได้ช่วยเหลือ เมืองแมน (มิตร ชัยบัญชา) จากเหล่าอันธพาล จนกระทั่งวันหนึ่งแก้วแอบรู้ว่าเนียนขายตนเองให้ไปเป็นเมียน้อยเศรษฐีแก่ แก้วจึงหลบหนีเข้ากรุงเทพฯ และหาเลี้ยงขีพด้วยการพายเรือขายข้าวแกง และบังเอิญได้พบกับเมืองแมน เขาต้องการตอบแทนแก้ว แต่ไม่สามารถพาแก้วเข้าไปอาศัยในบ้านได้เนื่องจากคุณย่าของเขาห้ามผู้หญิงเข้าบ้าน เมืองแมนจึงพาแก้วไปอาศัยกับญาติของเขาที่บ้านใกล้กัน โดยแก้วทำงานเป็นแม่ครัว วันหนึ่งขณะที่ทุกคนในบ้านไปเที่ยวกันที่ปีนัง แก้วพายเรือออกไปเที่ยวและได้พบจ้าวนก (รักชนก จินดาวรรณ) ผู้มีใบหน้าเหมือนแก้วดั่งเป็นฝาแฝดกัน ทั้งสองพูดคุยถูกอัธยาศัยกัน และจ้าวนกผุ้ถูกบังคับให้อยู่แต่ในบ้านเกิดนึกสนุกขอสลับตัวกับแก้ว และเมื่อจ้าวนกไปอยู่บ้านญาติของเมืองแมนก็สร้างความวุ่นวายจนกระทั่งถูกไล่ออกจากบ้าน ส่วนแก้วในคราบของจ้าวนกก็ถูกหม่อมเจ้านเรนทร์ (สุวิน สว่างรัตน์) ผู้เป็นอาของจ้าวนกจับตัวไปเชียงใหม่ เพื่อบังคับให้หม่อมน้อย (วิไลวรรณ วัฒนพานิช) แม่ของจ้าวนกเซ็นมอบมรดกทั้งหมดให้นเรนทร์ หม่อมน้อยซึ่งประสบอุบัติเหตุพิการเดินไม่ได้และมีอาการวิกลจริต แต่เมื่อได้พบแก้วในคราบของเจ้านกก็มีสติกลับคืนมา และจำได้ว่าตนมีลูกสาวฝาแฝด แต่ลูกคนหนึ่งถูกนเรนทร์และเนียนลักพาตัวไป เมืองแมนและจ้าวนกได้ทราบเรื่องแก้วถูกจับตัวไปจึงติดตามไปที่เชียงใหม่ ในขณะที่เมืองแมนและพวกเข้าช่วยแก้ว นเรนทร์เห็นจวนตัวจึงพยายามฆ่าจ้าวนก แต่หม่อมน้อยปกป้องลูกจนกระทั่งเสียชีวิตไปพร้อมกับนเรนทร์ เมือทุกอย่างสงบแล้วแก้วจึงแต่งงานกับเมืองแมน ส่วนจ้าวนกก็แต่งงานกับเดี่ยว คู่หมั้นที่เจ้าพ่อของเธอให้หมั้นหมายกันไว้
ไทรคู่ (2509)
ไทรคู่ (2509/1966) มิตร-โสภา ข้อความบนใบปิด อัมพรภาพยนตร์ เสนอ ไทรคู่ บทประพันธ์ของ พ.ณ.สายชล มิตร ชัยบัญชา โสภา สถาพร ทักษิณ แจ่มผล, รุจน์ รณภพ, ชุมพร เทพพิทักษ์, สมจิตต์ ทรัพย์สำรวย, ปรียา รุ่งเรือง, นภาพร หงสกุล, โฉม, เยาวเรศ นิศากร, มาลี เวชประเสริฐ, นาวิน เทพโยธี, ล้อต๊อก, ก๊กเฮง และด.ญ.น้อยหน่า อนุมาศ บุนนาค กำกับการแสดง เทวิน สุขศิลา ถ่ายภาพ อัมพร ประทีปเสน อำนวยการสร้าง ม.ร.ว.ธิติสาร สุริยง ดำเนินงาน วัชรภาพยนตร์ จัดจำหน่าย
เกล้าฟ้า (2509)
เกล้าฟ้า (2509/1966) ยอดนวนิยายแห่งความลึกลับ มหัศจรรย์ จากบทประพันธ์ของ...เครื่องหมายคำถามคู่ จากละครวิทยุของ...คณะแก้วฟ้า ร่วมกันให้เป็นภาพยนตร์ที่พิเศษ วิเศษจริงๆ เกล้าฟ้า ใน หุบผาสวรรค์ เจ้าแววดาว (เมตตา รุ่งรัตน์) แห่งเวียงนกยูงซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง มีนิสัยโหดร้ายจนกระทั่งเจ้าแสงคำ (รุจน์ รณภพ) ผู้เป็นสวามีทนไม่ได้จึงเดินทางเข้ากรุงเทพฯ และไม่กลับเวียงนกยูงอีกจนกระทั่งสิ้นชีวิต ทำให้เจ้าแววดาวเสียใจและแค้นใจมาก จึงได้เลี้ยงดูเจ้ารุ่งฟ้า (อดุลย์ ดุลยรัตน์) ผู้เป็นบุตรชายด้วยความเข้มงวด และต่อมาได้ส่งเจ้ารุ่งฟ้าไปศึกษาต่อที่ประเทศฝรั่งเศส ขณะที่กำลังศึกษาอยู่ที่ฝรั่งเศสเจ้ารุ่งฟ้าได้พบรักและแต่งงานกับมาเรีย (ปริม ประภาพร) หญิงสาวชาวฝรั่งเศส เมื่อศึกษาจบแล้วเจ้ารุ่งฟ้าจึงพามาเรียกลับมายังเวียงนกยูง เจ้าแววดาวไม่พอใจมากและระบายออกมาด้วยการทารุณบ่าวไพร่ในเวียง จนกระทั่งมาเรียตั้งท้อง แต่เจ้ารุ่งฟ้าต้องเดินทางเข้ากรุงเทพเพื่อทำงานราชการตามที่ได้เรียนมา เจ้าแววดาวทำทารุณกับมาเรียและบ่าวไพร่ จนมาเรียซึ่งกำลังตั้งครรภ์ใกล้คลอดตัดสินใจหนีออกมาจากเวียงนกยูงพร้อมกับหมอโจเซฟซึ่งเป็นผู้ดูแลครรภ์ของเธอ ทั้งสองเดินทางข้ามไปฝั่งประเทศลาว มาเรียคลอดบุตรออกมาและตั้งชื่อตามที่เจ้ารุ่งฟ้าตั้งเอาไว้ว่า "เกล้าฟ้า" ต่อมามาเรียได้แต่งงานกับหมอโจเซฟและได้เลี้ยงดูเกล้าฟ้าจนเติบใหญ่ เมื่อมาเรียหนีออกจากเวียงนกยูง เจ้าแววดาวได้ส่งข่าวให้เจ้ารุ่งฟ้าว่ามาเรียหนีตามชู้ ทำให้เจ้ารุ่งฟ้าเสียใจไม่ยอมเดินทางกลับเวียงนกยูง ทำให้เจ้าแววดาวเสียใจมาก และผูกอาฆาตผู้ชายทุกคนจนกระทั่งเสียชีวิต และได้สั่งให้บริวารนำร่างของตนไปซ่อนไว้ในถ้ำลับ แต่วิญญาณของเจ้าแววดาวยังคงสิงสถิตย์อยู่ที่เวียงนกยูง และหลอกหลอนผู้คนจนเป็นที่หวาดกลัวจนทำให้ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้เวียงนกยูง เกล้าฟ้า (โสภา สถาพร) อายุได้ 19 ปี เติบโตเป็นสาวสวยและมีความห้าวหาญ จึงมักปลอมตัวเป็นผู้ชายมารับจ้างขับรถม้ารับส่งผู้โดยสารที่หน้าสถานีรถไฟลำปาง โดยใช้ชื่อว่า "สวย" ทุกคืนวัน 15 ค่ำ วิญญาณของเจ้าแววดาวจะมีฤทธิ์แข็งกล้ามากจึงสกดจิตให้เกล้าฟ้านำผู้โดยสารที่เป็นผู้ชายมายังเวียงนกยูง เพื่อเอาชีวิตมาสังเวยเจ้าแววดาว เหตุการณ์เกิดขึ้นหลายครั้งจน ร.ต.ท.วัชระ (สมบัติ เมทะนี) เข้ามาสอบสวนคดี โดยมีเกียรติ (รุจน์ รณภพ) หัวหน้าสถานีรถไฟคอยให้ความช่วยเหลือ เกียรติค้นพบเส้นทางเข้าเวียงนกยูง เมื่อเข้าไปในเวียงแล้วก็พบเจ้าแววดาวในสภาพที่งดงาม เจ้าแววดาวรู้ว่าเกียรติคือเจ้าแสงคำกลับชาติมาเกิดจึงกักตัวเอาไว้ และทำให้เกียรติกลายเป็นคนเสียสติ ขณะเดียวกับที่เจ้ารุ่งฟ้าตัดสินใจเดินทางกลับเวียงนกยูงเพื่อสืบหาลูกของตน ส่วนวัชระก็ติดตามหาเกียรติจนกระทั่งหลงเข้าไปถ้ำที่เก็บร่างของเจ้าแววดาว แต่ก็ถูกเกียรติที่เสียสติทำร้ายจนบาดเจ็บ เกล้าฟ้าในสภาพสาวสวยได้ช่วยชีวิตเอาไว้ และดูแลรักษาจนกระทั่งหายเจ็บ ทั้งสองได้สารภาพรักต่อกัน ในที่สุดเกียรติพลาดตกหน้าผาเสียชีวิต ดวงวิญญาณระลึกได้ว่าตนเองคือเจ้าแสงคำในอดีตจึงขอโทษต่อดวงวิญญาณของเจ้าแววดาว จนเจ้าแววดาวสิ้นความอาฆาต ดวงวิญญาณของทั้งสองจึงสลายไป มาเรียติดตามมาหาเกล้าฟ้าจึงพบกับเจ้ารุ่งฟ้า ทำให้เจ้ารุ่งฟ้าได้ทราบความจริงว่าเกล้าฟ้าคือลูกของตน ขณะที่เจ้ารุ่งฟ้าก็สำนึกในความผิดของตนที่ทอดทิ้งมาเรียกับลูกไปจึงยินยอมให้มาเรียอยู่กับหมอโจเซฟต่อไป และวัชระก็ได้ทราบความจริงว่า "สวย" และ "เกล้าฟ้า" คือคนเดียวกัน ในที่สุดวัชระกับเกล้าฟ้าก็ได้แต่งงานครองคู่กัน
เกิดเป็นหงส์ (2509)
เกิดเป็นหงส์ (2509/1966) ทิว บรรณา (มิตร ชัยบัญชา) เป็นผู้ดูแลไร่บรรณาในศรีราชา เขาเป็นแค่ผู้จัดการทั้งที่ไร่นี้แต่เดิมเป็นของพ่อของเขาแต่ถูก เทพ บรรณา (อดุลย์ ดุลยรัตน์) ผู้เป็นอาโกงเอาไป เท่านั้นยังไม่พอเทพยังได้ พวงทอง (บุษกร สาครรัตน์) และผ่องศรี (ปริม ประภาพร) พี่สาวของทิวไปเป็นภรรยาอีกด้วย จากนั้นเทพก็ได้ ขวัญตา (เอื้อมเดือน อัษฎา) คนรักของทิวไปเป็นภรรยาอีกคน ทิวจึงต้องเก็บความแค้นนี้ไว้ในใจ ทิวได้พบกับ มจ.มารศรีโสรัจ กฤตยา (เพชรา เชาวราษฎร์) โดยบังเอิญที่ศรีราชา จากนั้นทั้งคู่ก็สนิทสนมกัน โดยที่ทิวไม่รู้เลยว่าเทพอาของเขาก็หมายปอง มจ.หญิง ผู้นี้มาเป็นภรรยาคนใหม่ แม้ว่าจะมีชาติตระกูลสูง แต่ฐานะทางการเงินของ มจ.หญิงกลับไม่ดีนัก พระบิดาของเธอเป็นหนี้อยู่จำนวนมาก เมื่อพระบิดาสิ้นลงด้วยอุบัติเหตุ มจ.หญิงจึงต้องยอมไปทำงานในไร่ของเทพ และเทพก็ประกาศให้ทุกคนในไร่รู้ว่า มจ.หญิงผู้นี้จะมาเป็นภรรยาคนใหม่ของเขาโดยที่เจ้าตัวเองก็ยังไม่ทราบเรื่อง ขวัญตาแอบลักลอบเป็นชู้กับวิวัฒน์ (ประจวบ ฤกษ์ยามดี) ลูกน้องของทิวจนตั้งท้อง เมื่อความแตกวิวัฒน์หนีไปขวัญตาจึงอ้างว่าทิวเป็นพ่อของเด็กในท้อง ทิวเองก็ไม่ปฏิเสธ เมื่อ มจ.หญิงมาถึงไร่และพบว่าทิวเองมีภรรยาอยู่แล้วคือขวัญตาจึงไม่พอใจ ในขณะที่ทิวเองก็มองว่า มจ.หญิงนั้นเป็นผู้หญิงที่เห็นแก่เงินจึงยอมแต่งงานกับเทพ ทิวลักพาตัว มจ.หญิงไปเพื่อพูดคุยและรู้ความจริงว่า มจ.หญิงไม่ได้รักเทพเช่นเดียวกับเธอก็พบว่าทิวไม่เคยมีอะไรกับขวัญตา แม้ทั้งสองจะปรับความเข้าใจกันได้ เทพก็กำลังเดินทางมาเพื่อจัดการกับทิว แต่ขณะที่เทพกำลังจะทำร้ายทิว พวงทองซึ่งเก็บความคับแค้นอยู่ในใจตลอดมาจึงยิงเทพเสียเอง ก่อนที่เทพจะสิ้นใจก็สำนึกผิดขออโหสิกรรมต่อทุกคน
อ้ายค่อม (2509)
อ้ายค่อม (2509/1966) ภาพยนตร์รักประทับจิต ชีวิตสะเทือนใจใหญ่ยิ่ง หนังดี! เรื่องดัง! ของ ‘พรานบูรพ์’ ค่อม อาศัยอยู่กับแม่สองคน ตอนเป็นเด็กด้วยความเมาของพ่อ ทำให้บ้านไฟไหม้เสียชีวิตในกองเพลิง คำ ซึ่งเป็นมารดาอุ้มค่อมแล้วโดดลงจากหน้าต่างได้ทัน เป็นสาเหตุทำให้ค่อมกลายเป็นคนพิการหลังค่อม แม่คำก็มาเจ็บออดๆ แอดๆ ค่อมจึงต้องออกหางานทำ วันหนึ่งค่อมเห็นคณะละครศรีเมืองตระเวนมาแสดง และได้รู้จักกับ เย็น ลูกสาวเจ้าของคณะละคร ซึ่งไม่มีทีท่ารังเกียจค่อมและมอบตุ๊กตาให้ ค่อมมุ่งมั่นที่จะหางานทำเพื่อเลี้ยงแม่ จึงไปขอทำงานกับ แนม ที่คณะละครศรีเมือง แนมเห็นความผิดปรกติของร่างกายของค่อมก็เกิดเวทนา จึงให้ค่อมเป็นผู้โปรยใบไม้ประกอบฉาก ในยามว่าง ค่อมมักจะแอบไปเล่นเปียโนเพลงที่แม่กล่อมตอนเป็นเด็ก วันหนึ่ง วิทย์ ผู้กำกับการละครเวทีได้ยินจึงนำไปแต่งเป็นเพลงในละครเรื่องใหม่ ขณะนั้นคณะละครบรรเทองไทยกำลังหาทางโค่นล้มละครศรีเมืองเนื่องจากดังกว่า โดยวางแผนฉุดเย็นซึ่งเป็นนางเอกละคร ค่อมกำลังนั่งรถขนฉาก ผ่านไปเห็นจึงรีบไปช่วยเย็นไว้ได้ เย็นจึงเชิญค่อมมาทานอาหารค่ำที่บ้านเป็นการตอบแทน คืนนั้น ค่อมบรรจงแต่งตัวไปอย่างดี แต่เมื่อก้าวเข้าไปในบ้าน ได้ยินเสียงของวิทย์กับเย็นร้องเพลงคลอกันอย่างมีความสุข จึงนึกเจียมตัวขึ้นมา แล้วกลับไปบ้าน ปรากฏว่าแม่คำอาการทรุดหนัก ค่อมอยู่พยาบาลแม่ทั้งคืนอาการก็ไม่ดีขึ้น จึงไปยังคณะละครเพื่อขอลางาน แต่ไม่ทันที่จะพูดอะไร แนมก็ให้ค่อมรีบไปปฏิบัติหน้าที่ ค่อมพะวงเพราะเป็นห่วงแม่ แล้วให้น้อยใจโชคชะตา จึงเหม่อลอยจนพลัดตกจากนั่งร้าน ก่อนตายค่อมได้ขอร้องเย็นเป็นครั้งสุดท้าย ให้ช่วยขับกล่อมดวงวิญญาณเขาด้วยน้ำเสียงอันไพเราะของเย็น
จ้าวหญิงนกกระจาบ (2509)
เจ้าหญิงนกกระจาบ (2509/1966) มิตร-กรุณา ข้อความบนใบปิด มารุตฟิล์ม เจ้าหญิงนกกระจาบ จาก ชาดกนิยาย ดินแดนแห่งความมหัศจรรย์ มาเป็นภาพยนตร์... แฟนตาซี สวยสด งดงาม มิตร ชัยบบัญชา กรุณา ยุวากร ร่วมด้วย สาหัส บุญหลง, สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม, ถวัลย์ คีรีวัต มารุต กำกับการแสดง
โนห์รา (2509)
โนห์รา (2509/1966) พิมพา (รัตนาภรณ์ อินทรกำแหง) สาวงามแห่งนครศรีธรรมราช มีความรักอยู่กับทิว ทองเติม (ทม วิศวชาติ) พระเอกโนห์รา แต่รักต้องพบอุปสรรคเมื่อขุนอรรถกรคดี (ประมินทร์ จารุจารีต) ผู้มีฐานะมั่งคั่งต้องการพิมพาเป็นเมีย จึงหลอกล่อยายของพิมพาว่าตนเองหย่าร้างกับภรรยาต้องการแต่งงานกับพิมพาอย่างสมเกียรติ และวางแผนวางยาพิมพาจนต้องตกเป็นเมียของขุนอรรถกรคดี พิมพาต้องตัดใจจากทิวโดยไม่บอกให้รู้ว่าเธอท้องกับเขา แต่เมื่อมาถึงกรุงเทพปรากฎว่าขุนอรรถกรคดีไม่ได้อย่ากับปรุงจันทร์ (สุพรรณ บูรณะพิมพ์) และเลี้ยงดูพิมพาอย่างคนใช้ ต่อมาปรุงจันทร์คลอดลูกเป็นลูกสาวชื่อ แข่งแข (ปรียา รุ่งเรือง) ส่วนพิมพาให้กำเนิดลูกสาวเช่นกันชื่อ โนห์รา (พิศมัย วิไลศักดิ์) ทั้งปรุงจันทร์และแข่งแขข่มเหงทั้งพิมพาและโนห์รามาตั้งแต่เด็กจนกระทั่งแข่งแขและโนห์ราโตเป็นสาว โนห์ราเข้าเรียนนาฎศิลป์ส่วนแข่งแขไม่สนในการเรียนเอาแต่เที่ยวแตร่ ทิว ทองเติมได้ทราบความจริงที่เกิดกับพิมพาจึงตามมาที่กรุงเทพ ได้เห็นโนห์ราแสดงบนเวทีอย่างสวยงามก็รู้สึกภาคภูมิใจ แต่ทิวไม่กล้าแสดงตัวว่าเป็นพ่อ ส่วนครรชิต (สมบัติ เมทะนี) เศรษฐีหนุ่มเดิมสนใจแข่งแข แต่เมื่อมาพบโนห์ราก็รู้สึกประทับใจในความงดงามทั้งหน้าตาและจิตใจ ยิ่งครรชิตแสดงความสนใจโนห์ราแข่งแขก็ยิ่งเพิ่มความริษยายิ่งขึ้น จึงร่วมกับปรุงจันทร์ทำร้ายโนห์ราทุกวิถีทาง ทั้งจ้างคนสาดน้ำกรด จ้างโจรให้ฉุดโนห์ราไปข่มขืนแต่โนห์ราหลุดรอดมาได้ หากแต่เป็นแข่งแขที่กรรมสนองถูกโจรข่มขืนเสียเองจนเสียสติ ส่วนปรุงจันทร์ถูกตำรวจจับก่อนที่จะสติแตกฆ่าขุนอรรถกรคดีตาย พิมพาได้รับโทรเลขแจ้งว่ายายตายจึงเดินทางกลับนครศรีธรรมราช และได้พบกับทิวที่กำลังจะแสดงโนห์ราแบบดั้งเดิมที่กำลังเสื่อมความนิยมแต่โชคร้ายถูกคนเมาแทงตาย ก่อนทิวจะตายพิมพาได้สัญญากับทิวว่าจะให้ลูกมาสืบสานศิลปะของพ่อ ทำให้โนห์ราต้องตัดสินใจอย่างหนักเพราะกำหนดวันงานแสดงโนห์ราตรงกับกำหนดวันแต่งงานของเธอกับครรชิต ในที่สุดโนห์ราเลือกที่จะเดินทางไปนครศรีธรรมราช โนห์ราแสดงความสามารถบนเวทีอย่างงดงามสร้างความประทับใจให้คนดูเป็นอย่างยิ่งรวมทั้งครรชิตที่ติดตามมา
มือนาง (2509)
มือนาง (2509/1966) หมอดนัย (อดุลย์ ดุลยรัตน์) แต่งงานกับ ทิพวรรณ (บุศรา นฤมิตร) มีบุตรสาวด้วยกันหนึ่งคนอายุประมาณ 7 ขวบ ชื่อ เมษยา วันหนึ่งหมอดนัยขับรถจะพาภรรยาและลูกไปเยี่ยมแม่ของดนัย รถเกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำบนเขาทำให้ทิพวรรณซึ่งนั่งคู่ไปกับหมอดนัยเสียชีวิตทันที และกระจกยังบาดที่ข้อมือทิพวรรณจนมือขาดกระเด็นไป หมอดนัย และเมษยาบาดเจ็บเล็กน้อย หมอดนัยเสียใจมากที่สุดเพราะรักทิพวรรณมากแต่เธอต้องมาตายจากไปเพราะความผิดพลาดของเขาเอง ก่อนที่ตำรวจจะมาพลิกศพ หมอดนัยเห็นมือของทิพวรรณที่ขาดกระเด็นไป นิ้วมือกระดิกได้ เขาคิดว่าจะใช้ความรู้ทางการแพทย์ทำให้มือของทิพวรรณที่ขาดออกจากร่างไม่เน่าไม่เปื่อย เขาจะเก็บมือของทิพวรรณไว้แทนตัวทิพวรรณในยามคิดถึง หมอดนัยได้นำมือของทิพวรรณมาเก็บไว้ในบ้าน โดยใส่ตู้กระจกไว้ในที่ที่ลับตา วิญญาณของทิพวรรณยังคงวนเวียนอยู่ในบ้านเพราะเป็นห่วงลูกมาก ต่อมา ภารดา (ชฎาพร วชิระปราณี) เพื่อนของทิพวรรณได้มาตีสนิทหมอดนัยและแสดงท่าทีรักใคร่เมษยา ในที่สุดหมอดนัยก็ตัดสินใจแต่งงานกับภารดาเพราะเห็นว่าเธอรักเมษยาเหมือนลูก หลังจากแต่งงานกับหมดดนัยแล้วภารดาก็แสดงธาติแท้ออกมา ด้วยการข่มเหงเมษยาจนวิญญาณของทิพวรรณทนไม่ได้ ทุกครั้งที่วิญญาณของทิพวรรณปกป้องลูก มือที่อยู่ในตู้กระจกซึ่งหมอดนัยซ่อนไว้ก็จะกระดิกได้ คุณนายชื่นวรรณ (กัณทรีย์ นาคประภา) แม่ของภารดาสั่งให้คนขับรถเอาด้ายสายสิญจน์ลงอาคมพันมือของทิพวรรณแล้วเอามือของทิพวรรณไปทิ้งในที่เปลี่ยวรกร้าง หมอดนัยทราบเรื่องก็ออกตามหามือของทิพวรรณจนพบ หมอดนัยตัดปัญหาระหว่างลูกกับภรรยาใหม่ด้วยการซื้อที่ดินติดกับรั้วบ้านปลูกบ้านใหม่ให้เมษยาอยู่ เมษยาโตเป็นสาว (เพชรา เชาวราษฎร์) ลูกของภารดาที่เกิดกับหมอดนัยหนึ่งคนก็เป็นสาวแรกรุ่นชื่อ มุตา (เยาวเรศ นิสากร) มีนิสัยเหมือนภารดาผู้เป็นแม่ทุกอย่าง ขณะที่ภีมภพ (มิตร ชัยบัญชา) ได้มางานวันเกิดของภารดา ภีมภพแสดงท่าทีสนใจเมษยา ทำให้ภารดาโกรธแค้นมาก เพราะหมายตาจะให้มุตาแต่งงานกับภีมภพเพราะพ่อของภีมภพมีฐานะดี คุณนายชื่นวรรณ ภารดา มุตาปรึกษาวางแผนจ้างคนฉุดเมษยาไปทำลาย แต่วิญญาณของทิพวรรณและภีมภพตามไปช่วยไว้ทัน ทิพวรรณโกรธแค้นมากจึงอาละวาดอย่างหนักจนคุณนายชื่นวรรณ ภารดาและมุตาต้องประสบเคราะห์กรรมตามสนองทุกคน ในที่สุดภีมภพกับเมษยาก็เปิดใจถึงความรู้สึกที่มีต่อกัน
ในม่านเมฆ (2509)
ในม่านเมฆ (2509/1966) ข้อความบนใบปิด จุฬาโลกภาพยนตร์ ใครๆก็คอยน้องทราย จากละครวิทยุของคณะ แก้วฟ้า ในม่านเมฆ ของ บุษยมาส นำโดย พิศมัย วิไลศักดิ์ สมบัติ เมทะนี อดุลย์ ดุลยรัตน์, ขวัญใจ สะอาดรักษ์, แก่นใจ มีนะกนิษฐ์, ทักษิณ แจ่มผล, รุจน์ รณภพ, ปรียา รุ่งเรือง, อนุชา รัตนมาลย์ และพบกับสามดาวตลก ชูศรี โรจนประดิษฐ์, สมพงษ์ พงษ์มิตร, ล้อต๊อก ศรินทิพย์ ศิริวรรณ, วิชิต ไวงาน, สมศรี, วงศ์ ศรีสวัสดิ์, กอบกูล ฯลฯ สุพรรณ พราหมณ์พันธุ์ ที่ปรึกษาและอุปการะ พันคำ กำกับการแสดง นิวัติ สิมะกริชษานนท์ อำนวยการสร้าง ปรีชา ทรัพย์พระวงศ์ ถ่ายภาพ เอกรัตน์ จัดจำหน่าย
เปลวสุริยา (2509)
เปลวสุริยา (2509/1966) ข้อความบนใบปิด รัตนงามภาพยนตร์ เสนอ เปลวสุริยา ของ สุวัฒน์ วรดิลก รัตนงาม จัดจำหน่าย *เป็นใบปิดที่แปลกประหลาด ไม่มีรายละเอียดผู้แสดงเลย *ใบปิดวาดโดย ทวีป *ข้อมูลเพิ่มเติมมีดังนี้ อำนวยการสร้างโดย หวน รัตนงาม กำกับการแสดงโดย ประทีป โกมลภิส -นำแสดงโดย มิตร ชัยบัญชา, เพชรา เชาวราษฎร์ ร่วมด้วย ทักษิณ แจ่มผล, อาคม มกรานนท์, สาหัส บุญหลง, ฑัต เอกฑัต, วิน วันชัย, พร ไพโรจน์, สิงห์ มิลินทราศัย, ไสล พูนชัย, เทียว ธารา, มาลี เวชประเสริฐ, แน่งน้อย แสงสุวิมล, สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม
แก้วกลางสลัม (2509)
แก้วกลางสลัม (2509/1966) ข้อความบนใบปิด ลดาพรรณภาพยนตร์ เสนอ แก้วกลางสลัม ของ สุมนทิพย์ มิตร ชัยบัญชา พบ โสภา สถาพร ดาราเงินล้านคนใหม่ อดุลย์ ดุลยรัตน์, รุจน์ รณภพ, เมตตา รุ่งรัตน์, พงษ์ลดา พิมลพรรณ, ศรินทิพย์ ศิริวรรณ, เชาว์ แคล่วคล่อง, กิ่งดาว ดารณี, มนัส บุณยเกียรติ, สุดเฉลียว เกตุผล, ชุมพร เทพพิทักษ์, ชนินทร์ นฤปกรณ์, สังเวียน หาญบุญตรง, โยธิน เทวราช, แป๊ะอ้วน, ประณีต คุ้มเดช ผู้ให้เกียรติร่วมแสดง ส.อาสนจินดา และจุรี โอศิริ อุเทน นุตเสน ดำเนินงาน ปรีชา ทรัพย์พระวงศ์ ถ่ายภาพ พงษ์ลดา พิมลพรรณ อำนวยการสร้าง วัชรภาพยนตร์ จัดจำหน่าย
เลือดทรนง (2509)
เลือดทรนง (2509/1966) ข้อความบนใบปิด ฉัตรชัยภาพยนตร์ เสนอ หน้ากากสังคมวัยรุ่นเมืองไทย ได้ถูกกระชากจากภาพยนตร์เรื่องนี้ จึงมีทั้งสุข เศร้า หัวเราะ น้ำตา ตื่นเต้น หวาดเสียว ดาราตุ๊กตาทองพระราชทาน ถวายชีวิตและความสามารถแสดงบทบาททุกแบบ คู่กับดาวรุ่งฟ้า สมบัติ เมทะนี โสภา สถาพร เลือดทรนง บทประพันธ์ของ อ้อย อัจฉริยกร ละครวิทยุเรื่องดีคณะ เสนีย์ บุษปะเกศ พร้อมด้วย ประมินทร์ จารุจารีต, ปรียา รุ่งเรือง, แก่นใจ มีนะกนิษฐ์, พูนสวัสดิ์ ธีมากร, ถวัลย์ คีรีวัต, ชาณีย์ ยอดชัย, ไกร ครรชิต, จุ๋มจิ๋ม ศรทอง, สังวรณ์, กล้า,พิภพ ภู่ภิญโญ, สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม, ประณีต คุ้มเดช, ทองถม, ชื้นแฉะ ฯลฯ ขอเสนอนักเพลงขวัญใจวัยรุ่น ทิว สุโขทัย, แอนนี่ แจ๋วแหวว และวงดนตรีเดอะแค๊ท
นางนกป่า (2509)
นางนกป่า (2509/1966) ณรงค์ (สาหัส บุญ-หลง) เศรษฐีใหญ่ใจบุญใครๆก็รู้จัก มีลูก 2 คน คือ นเรศ (มิตร ชัยบัญชา) กับ นรา (รุจน์ รณภพ) ทั้ง 2 หนุ่มเนื้อหอม เป็นที่หมายปองของสาวๆ วันหนึ่ง ณรงค์ได้มีโอกาสต้อนรับสาวแปลกหน้าคือ เพิ้ง (เพชรา เชาวราษฎร์) ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าเธอคือใคร เพิ้งได้เข้ามาสร้างความชุลมุนวุ่นวายในครอบครัวณรงค์ จนได้รับฉายาว่า นางนกป่า
จามเทวี (2509)
จามเทวี (2509/1966) ไชยา-เพชรา ข้อความบนใบปิด อมรินทร์ภาพยนตร์ โดย สุรัสน์ พุกกะเวส เสนอ จินตนาการประกอบอาชญนิยาย เหตุการณ์ระหว่าง 2000 ปี มาผนึกกับยุคปัจจุบัน สะเทือนขวัญ สยดสยอง สุดยอดของความตื่นเต้น จามเทวี นำโดย ไชยา-เพชรา แมน ธีระพล, แก่นใจ มีนะกนิษฐ์, มานี มณีวรรณ, เยาวเรศ นิศากร, สุลาลีวัลย์ สุวรรณทัต, สัมพันธ์, สุดเขต, อดินันท์ สิงห์หิรัญ, ปราณีต คุ้มเดช, สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม, ทองฮะ วงศ์รักไทย, แป๊ะอ้วน, ก๊กเฮง และขอแนะนำดาวรุ่งดวงใหม่ มิส เอ.ซี.บอลล์ รังสินี รอยวิวัฒน์ ในบท “พระนางจามเทวี” อุษา บุณยรักษ์ อำนวยการสร้าง อรรถ อรรถจินดา กำกับร่วมกับผู้กำกับเกียรติยศ ส.อาสนจินดา สมชาย จันทวังโส ถ่ายภาพ เอวันฟิล์ม จัดจำหน่าย

หน้าที่