เห่าดง (2501)

เห่าดง (2501/1958) บอกตรง-ตรง เห่าดงดีจริง-จริง กรุงเทพมหานครกำลังวุ่นวายเนื่องจากแก๊งโจรสามกลุ่ม คือ เล็บเหล็ก, แสงเทียน และ เห่าดง ออกปล้นสะดมอย่างต่อเนื่อง และกำลังเป็นที่ต้องการตัวของเจ้าหน้าที่ ในขณะที่เล็บเหล็ก และแสงเทียน ทำงานเป็นแก๊ง และฆ่าเจ้าทุกข์อย่างโหดเหี้ยม เห่าดงกลับทำงานคนเดียว และมักจะปล้นตลบหลังเล็บเหล็ก และแสงเทียน สร้างความอาฆาตแค้นให้กับทั้งคู่ วันหนึ่ง เล็บเหล็กออกปล้นร้านทองเยาวราช และถูกเจ้าหน้าตำรวจ นำโดย ร.ต.ท.วุฒิ (ไชยา สุริยัน) เข้าล้อมปราบ ขณะกำลังยิงต่อสู้กัน เห่าดงซึ่งเข้ามาอยู่ในเหตุการณ์ด้วย ถูกว่อง สมุนแก๊งเล็บเหล็กสังหาร ทำให้ตำรวจทราบว่าแท้ที่จริงแล้ว เห่าดง คือ เพลิง พัชรพิบูลย์ อดีตนายทหารม้า ต่อมา มีโจรลึกลับคนหนึ่ง สวมรอยใช้ชื่อเห่าดงออกทำการ ร.ต.ท.วุฒิ ได้ใช้กำลังปราบปราบแก๊งโจรอย่างจริงจัง และสามารถปราบเล็บเหล็ก และแสงเทียนได้ เหลือเพียงเห่าดงคนใหม่ ซึ่ง ร.ต.ท.วุฒิ ทราบในเวลาต่อมา ว่าแท้ที่จริงแล้วก็คือ พราว พัชรพิบูลย์ (อมรา อัศวนนท์) ลูกสาวบุญธรรมของเพลิง พัชรพิบูลย์ ซึ่งเป็นหญิงสาวที่เขาหลงรัก นั่นเอง

จารกรรมหมายเลข 1 (2501)
จารกรรมหมายเลข 1 (2501/1958) จารกรรมหมายเลข 1 เป็นภาพยนตร์ไทยที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2501 สร้างโดย สหภาพยนตร์ โดยมี บุญฤทธิ์ พานิชเจริญผล, ธนู สุนทรฉาย, จำนงค์ กาญจนวัฒน์ เป็นผู้อำนวยการสร้าง กำกับการแสดงโดย อนุมาศ บุนนาค ดำเนินงานสร้างโดย ประโยชน์-สอางค์ นาคสวัสดิ์ และถ่ายภาพโดย วิชัย ทรงเยาวศรี
โม่งแดง (2501)
โม่งแดง (2501/1958) นิสา กับ ดาริน สองพี่น้องลูกสาวของดนัยและอุษา ซึ่งเป็นเจ้าของรายการโทรทัศน์ต้องพบกับจุดพลิกผันในชีวิตเมื่อ อมาวดี ก้าวเข้ามาเป็นเลขาของ ดนัย อมาวดีเป็นสาวสวยมีเสน่ห์ อมาวดีใช้ความสวยของตัวเองหลอกล่อหว่านเสน่ห์จนดนัยหลงใหล และมีความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวกับอมาวดีอย่างลับๆ โดยอมาวดีมีจุดประสงค์ที่จะได้ครอบครองธุรกิจบันเทิงที่มีมูลค่าในตลาดหลักทรัพย์นับพันล้านบาทของดนัย อมาวดีวางแผนฆ่าอุษาก่อนจะเข้ามาเป็นแม่เลี้ยงของนิสากับดารินอย่างเต็มตัว อมาวดีเริ่มเข้ามามีบทบาทในรายการโทรทัศน์ของดนัย อมาวดีคิดการใหญ่หวังจะฮุบสมบัติทั้งหมดของดนัยด้วยการวางแผนฆ่าให้เหมือนกับเป็นอุบัติเหตุรถตกเหว ดนัยพยายามช่วยนิสาและดารินจนออกมาจากรถได้สำเร็จ แต่ตัวเองต้องตาย ด้านนิสากับดารินที่รอดชีวิตพากันหนีและได้พบกับ ยามาดะ เจ้าพ่อยากูซ่าแก็งค์มังกรแดงที่กำลังถูกตามล่าจากแก็งค์ยากูซ่าพยัคฆ์ดำ นิสาช่วยยามาดะหลบหนี ทำให้ยามาดะประทับใจในความฉลาดมีไหวพริบและความกล้าของนิสา ยามาดะจึงตัดสินใจอุปถัมภ์นิสากับดารินและพานิสากับดารินไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ญี่ปุ่น นิสาผู้ซึ่งในใจคุกรุ่นไปด้วยความแค้นในสิ่งที่อมาวดีทำกับครอบครัวของตน ได้ขอร้องให้ยามาดะฝึกสอนศิลปะวิชาต่อสู้ให้อย่างลับๆ โดยไม่ให้ล่วงรู้ไปถึงดาริน นอกจากนี้นิสายังขอร้องให้ยามาดะปกปิดเรื่องแก็งค์ยากูซ่าและดูแลดารินอย่างเด็กปกติทั่วไป สิบกว่าปีผ่านไป ดาริน เติบโตเป็นหญิงสาวร่าเริงแจ่มใส แก่นแก้ว ช่างพูดช่างเจรจา ลืมเรื่องอดีตไปจนหมด ในขณะที่นิสาเป็นสาวสวยที่สุขุมเยือกเย็น แต่อีกด้านหนึ่งที่
เหยี่ยวราตรี (2501)
เหยี่ยวราตรี (ตอนหน้ากากผี) (2501/1958) แมน ดำเกิงเดช คุณพ่อของเขามีศักดิ์เป็นพระยาครอบครองทรัพย์สมบัติมากมาย แมนเป็นลูกชายคนเดียวได้รับมอบหมายให้สืบทอดกิจการทั้งหมด เขาถูกคุณพ่อส่งไปเรียนที่ยุโรปตั้งแต่วัยเยาว์ แต่ชะตาชีวิตผลิกผัน แมนประสบอุบัติเหตุตกจากม้าจนหลังหักและสมองได้รับความกระทบกระเทือน จากชายหนุ่มรูปงามกลายเป็นชายปัญญาอ่อน หลังพิการ ขาเป๋ คุณพ่อของเขาพยายามหาหมอมือดีมารักษาแต่ก็ไม่ดีขึ้น จนได้ข่าวว่ามีหมอผู้เชี่ยวชาญในประเทศทิเบตจึงส่งแมนไปรักษา แต่แมนกลับหายสาบสูญในทิเบตจนทุกคนเข้าใจว่าเขาเสียชีวิตแล้ว คุณพ่อของแมนป่วยเพราะตรอมใจจนเสียชีวิต แต่หลังจากนั้นอีกสามปีโดยไม่มีใครคาดคิด แมนกลับมาเมืองไทยเพื่อจัดการมรดก แต่เขาก็ยังคงเป็นชายอัปลักษณ์หลังโกง ขาเป๋ นิสัยคุ้มดีคุ้มร้ายจนไม่มีใครอยากเข้าใกล้ แม้แต่คู่หมั้นสาวสวยที่เฝ้ารอการกลับมาของเขายังขอถอนหมั้น แมนขายกิจการทั้งหมดของพ่อเหลือไว้แต่คฤหาสน์ส่วนตัวและเงินสดจำนวนมากในธนาคาร ทุกวันชาวบ้านแถวนั้นจะ ได้ยินเสียงเปียโนกับเสียงหัวเราะอันวิกลจริตของแมนดังก้องออกจากคฤหาสน์ที่ ทรุดโทรมเหมือนบ้านผีสิงเข้าไปทุกวันยามกลางวันเขาคือคนบ้าในสายตาผู้คน แต่ในยามราตรีเขาคือยมทูตของเหล่าคนชั่ว ที่แท้แมนได้รักษาตัวเองจนหายดีแล้ว เขาได้ร่ำเรียนการบำเพ็ญจิตและทักษะการต่อสู้จากนักบวชในทิเบต หลังจากสำเร็จวิชาทั้งหมด แมนตัดสินใจยุติชีวิตลูกพระยาที่แสนสบาย เที่ยวเล่น เจ้าชู้จีบผู้หญิงไปวัน ๆ ตั้งอุดมการณ์ใหม่ออกปราบอธรรมเพื่อช่วยเหลือชาวโลกผู้อ่อนแอกว่าในนามวีรบุรุษผู้สวมหน้ากาก สีดำ ‘เหยี่ยวราตรี’
กตัญญูปกาสิต (2501)
กตัญญูปกาสิต (2501/1958) กตัญญูปกาสิต เป็นภาพยนตร์สี 35 มม.ที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2501 สร้างจากบทประพันธ์ของ ส.อาสนจินดา กำกับการแสดงโดยครูเนรมิต (อำนวย กลัสนิมิ) ภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์อีกครั้งในปี พ.ศ. 2526
มังกรแดง (2501)

มังกรแดง (2501/1958) ลือชัย-อมรา ข้อความบนรูปโฆษณา ภาพยนตร์สหะนาวีไทย โดย สุพรรณ พราหมณ์พันธุ์ ผู้สร้าง เล็บครุฑ ขอนำเสนอ มังกรแดง เพื่อให้ลบสถิติรายได้...เล็บครุฑ ของตัวเอง มังกรแดง คือภาพยนตร์ไทยเรื่อง ที่ 2 จากการแสดงของ ลือชัย นฤนาท ดาราลักยิ้ม ที่ได้รับรางวัลจากประชาชน มังกรแดง คือภาพยนตร์ไทยเรื่องหลังสุด จากผลงานของ สุพรรณ พราหมณ์พันธุ์ ที่ประชาชนเชื่อถือแล้วจาก เล็บครุฑ ประสิทธิ์ ศิริบรรเทิง สร้างบท ปรีชา ทรัพย์พระวงศ์ ถ่ายภาพ 

 
เซียนดำ (2501)
ดอกฟ้าในมือโจร (2501)
ดอกฟ้าในมือโจร (2501/1958) ดอกฟ้าในมือโจร เป็นภาพยนตร์ไทยที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2501 เป็นผลงานการกำกับของ ส.อาสนจินดา สร้างโดย สุจินต์ภาพยนตร์ ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างจากบทประพันธ์ของ อดุลย์ ราชวังอินทร์ และมีคำโปรยว่า จึงเป็นภาพยนตร์เรื่องที่สี่ที่..ลือชัย นฤนาท ได้รับอนุญาตให้แสดงจากผู้จัดการของเขา เพราะลือชัย จะไม่มีโอกาสได้แสดงภาพยนตร์บ่อยครั้งนัก
ลบลายเสือ (2501)
ลบลายเสือ (2501/1958) ลบลายเสือ เป็นภาพยนตร์ไทยที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2501 สร้างโดยนรสิงห์ภาพยนตร์ โดยมี เพ็ญประภา อรรถจินดา เป็นผู้อำนวยการสร้าง กำกับการแสดงโดย อธึก อรรถจินดา และถ่ายภาพโดย อภิชาติ เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่ ประจวบ ฤกษ์ยามดี แสดงนำเป็นพระเอกเต็มตัว

กำลังแสดงผลลัพธ์ทั้งหมด 9 รายการ