ล่องสมุทร์ (2498)
ล่องสมุทร์ (2498/1955) ภาพยนตร์สีเรื่องผจญภัยของลูกน้ำเค็ม! ชมการต่อสู้ของเหล่าร้ายกับผู้รักษากฎหมาย (ที่มา: นิตยสารตุ๊กตาทอง ธันวาคม พ.ศ. 2498)
ขุนโจรสามร้อยยอด (2498)
ขุนโจรสามร้อยยอด (2498/1955) สภาพบ้านเมืองอันแร้นแค้นหลังสงครามโลกครั้งที่สอง บีบคั้นให้ชาวบ้านธรรมดาต้องผันตัวเป็นเสือออกปล้นเพื่อประทังชีวิต และอาละวาดหนักราวปี พ.ศ. 2493 ทางการจึงออกมาตรการกวาดล้างขุนโจรขนานใหญ่ เสือผิน เสือพาน และ เสือหรีด สามขุนโจรสามร้อยยอด เขตปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์จึงเริ่มหารือเรื่องการมอบตัว เสือพานได้ยินเข้าก็หัวเราะเยาะว่าเสือผินกับเสือหรีดขี้ขลาด แล้วสวมรอยใช้ชื่อเสือหรีดออกปล้น แต่สุดท้ายทั้งเสือพานและเสือหรีดก็หนีไม่พ้นการจับกุม ยกเว้นเสือผินซึ่งหลบซ่อนตัวอยู่กับ นิด ภรรยาและลูกโดยอำพรางตัวเป็นคนหาปลา เมื่อเหตุการณ์เป็นปรกติสุข ชาวบ้านหนองเตาปูนก็ย้ายกลับมาถิ่นฐานเดิม เสือพานแหกคุกมาหาผู้ใหญ่หนุน ซึ่งเป็นสายให้พวกเสือ แล้วใช้แผนชั่วหลอกให้เสือผินกลับมาร่วมโจรกรรม วันหนึ่ง สมุนของเสือพานไปรีดไถเงินจากญาติของ เยื่อ แต่ไม่สำเร็จ เสือพานจึงใช้สมุนไปปล้นวัวทั้งฉุด เจียน คนรักของเยื่อ แต่เยื่อก็ช่วยเจียนมาได้และเมื่อทราบว่าผู้ใหญ่หนุนอยู่เบื้องหลัง เยื่อจึงชวน ชู กับ พิศ บุกไปฆ่าผู้ใหญ่หนุน ทั้งสามจึงต้องกลายเป็นเสือเพราะความจำเป็น เสือสองกลุ่มจึงท้าดวลปืนกัน เสือเยื่อไปรอบริเวณที่นัดพบ แต่พวกเสือผินกับเสือพานไม่ยอมมา ตามเวลาที่กำหนด ผลสุดท้ายเสือพิศซึ่งเฝ้าต้นทางถูกยิงตาย ทางการได้สั่งให้ พ.ต.อ.ประชา บูรณะธนิต ผู้บังคับการตำรวจภูธรภาค 7 เป็นผู้อำนวยการปราบปรามภายในสามเดือน เป็นเหตุให้เสือพาน เสือผินและสมุนถูกยิงตายส่วนเยื่อกับชูที่ต้องเป็นเสือด้วยความจำเป็น ก็เข้ามอบตัวเพื่อรับผิดตามกฎหมายแต่โดยดี
สลัดดำ (2498)
สลัดดำ (2498/1955) ชะตากรรมของสี่พี่น้องต่างสายเลือด ไชยยศ คำรณ ทองสัช และทองจันทร์ เด็กกำพร้าสี่คนซึ่งร้อยเอกหม่อมเจ้ากมลสุริยารับมาเลี้ยงดู เมื่อโตขึ้นทั้งสี่ต่างหมายปอง ม.ร.ว.หญิงปัทมาวดี ลูกสาวของหม่อมเจ้ากมลสุริยา แต่สุดท้ายไชยยศก็เป็นฝ่ายพิชิตใจ ม.ร.ว.หญิงปัทมาวดี และแอบได้เสียกันจนกระทั่ง ม.ร.ว.หญิงปัทมาวดี ตั้งครรภ์ วันหนึ่ง หม่อมเจ้ากมลสุริยาอยากลองใจลูกทั้งสี่ จึงออกอุบายว่าแผนป้องกันประเทศหายไปและสงสัยว่าหนึ่งในสี่จะเป็นผู้ขโมย ปรากฏว่าไชยยศ คำรณ และทองสัชต่างก็หนีออกจากบ้านโดยเขียนจดหมายเหมือนกันว่าตนเองเป็นผู้ขโมย ในไม่ช้าเรื่องที่ปัทมาวดีท้องก็เปิดเผย หม่อมเจ้ากมลสุริยาโกรธมากบังคับให้ปัทมาวดีฆ่าตัวตาย แต่ทองสัชออกรับแทนว่าเป็นพ่อของเด็ก ทั้งคู่จึงได้แต่งงานกัน ไชยยศหลบไปอยู่กับนางจำปาซึ่งเป็นแม่ ชบา ญาติห่างๆ เกิดมาหลงรักไชยยศ ทำให้ โผน ลูกชายกำนันสังข์ ซึ่งหลงรักชบาไม่พอใจจึงหาเรื่องจับตัวไชยยศ เป็นเหตุให้นางจำปาถูกลูกหลงโดยยิงเสียชีวิต ไชยยศโกรธมากจึงหนีไปเป็นโจรสลัดกับทองสัชและคำรณ แต่ก่อนออกเรือ ชบาแอบได้เสียกับคำรณเพราะความเข้าใจผิดคิดว่าเป็นไชยยศ ไชยยศออกไปปล้นเรือของ สาหร่าย โจรสลัดหญิง กลุ่มนางนวลทะเลและจับมาอยู่บนเรือ คำรณที่ถูกบังคับให้รับเป็นพ่อของลูกชบาก็รู้สึกไม่พอใจจึงคิดจะฆ่าไชยยศ แต่สมุนโจรสลัดไม่ยอมร่วมมือด้วย คำรณจึงถูกฆ่าฐานคิดทรยศ โผนพาลูกน้องปล้นเรือของไชยยศม.จ. กมลสุริยาและเรือตรีทองจันทร์นำกำลังกองทัพเรือมาจับกุมโจรสลัด เป็นเหตุให้ทองสัชถูกทองจันทร์ยิงตาย หม่อมเจ้ากมลสุริยาพยายามเกลี้ยกล่อมไชยยศให้มอบตัวแต่เขาไม่ยอมมิหนำซ้ำยังใช้ปืนขู่หม่อมเจ้ากมลสุริยาให้นำกำลังกลับ ส่วนตัวเองลงเรือหนีไปกับสาหร่าย
อัศวินเหล็ก (2498)
อัศวินเหล็ก (2498/1955) บุษบง และ บุษบา สองศรีพี่น้องซึ่งกำลังเป็นสาวสะพรั่ง สร้างความกลุ้มอกกลุ้มใจแก่ นายพลตรีบรรลือฤทธิ์ ผู้เป็นบิดา เพราะเริ่มมีหนุ่มๆ มาจีบลูกสาวของตนโดยเฉพาะบุษบงผู้พี่ ซึ่งมี ธำรง มาติดพัน แม้บรรลือฤทธิ์จะปรามด้วยว่าบุษบงมีคู่หมั้นอยู่แล้ว แต่ก็ถูกบุษบงตอกกลับทุกครั้ง เพราะไม่เคยเห็นหน้าตาคู่หมั้นที่พ่อกล่าวอ้าง รู้เพียงว่าชื่อ เปีย วันหนึ่ง ด่วม ลูกชายผู้ว่าเชียงใหม่เกลอเก่าของบรรลือฤทธิ์ มาศึกษาต่อที่กรุงเทพและขออาศัยที่บ้านของบรรลือฤทธิ์ บุษบงมองด่วมด้วยสายตาดูถูก แถมยังบังคับไม่ให้บุษบาไปสุงสิงกับด่วม บรรลือฤทธิ์ได้แต่ระอาใจ จึงขอร้องให้ด่วมช่วยดูแลบุตรีในระหว่างที่ตนเองไปทำธุระที่ปากน้ำโพ ทำให้ด่วมมีเรื่องชกต่อยกับธำรงที่ดึงดันจะพาบุษบงไปเที่ยว บุษบงไม่เข็ดหลาบขอพ่อไปเที่ยวบางแสนกับ ธำรงบรรลือฤทธิ์อนุญาตโดยมีข้อแม้ว่าต้องมีด่วมไปด้วย ธำรงเกลียดด่วมเป็นทุนเดิมจึงไปจ้างวานนักเลงท้องถิ่นให้ฆ่าด่วม แต่กลับตาลปัตรเพราะนักเลงคนนั้นนับถือด่วมมาก จึงตลบหลังขูดรีดเงินจากธำรง ซ้ำยังขู่ให้ธำรงรีบไสหัวกลับกรุงเทพ ที่บางแสนนี่เองที่บุษบงได้รู้ว่าด่วมมีอีกชื่อ คือ โสภณ จู่ๆ บุษบาก็โทรเลขมาแจ้งว่าบรรลือฤทธิ์หายตัวไป โสภณสังหรณ์ใจว่าจะเกิดเหตุร้ายจึงรีบไปแจ้งตำรวจทำให้คลาดสายตาจากบุษบง ธำรงส่ง สกล มาหลอกบุษบงว่าธำรงถูกรถชนอาการปางตาย บุษบงหลงเชื่ออย่างง่ายดาย กว่าจะรู้ตัวว่าถูกหลอกก็ต่อเมื่อพบว่าธำรงเป็นคนจับตัวบรรลือฤทธิ์ไปทรมาน เพื่อเค้นถามที่ซ่อนอาวุธของรัฐบาล ร.ต.อ. เผชิญ กับ ร.ต.อ. โสภณ นำกำลังตำรวจมาล้อมที่บ้านธำรง เกลี้ยกล่อมให้ยอมมอบตัวแต่ไม่เป็นผลโสภณร้อนใจแอบปีนหน้าต่างเข้าไปภายในตึกและเกิดการต่อสู้กับธำรงขึ้น โสภณฟันธำรงเสียชีวิตและช่วยบุษบงออกมาได้สำเร็จ หลังเกิดเหตุ สิทธิศักดิ์ พ่อของโสภณเดินทางจากภาคเหนือมาเยี่ยมลูกชาย บุษบงจึงได้รู้ความจริงว่าแท้จริงแล้ว ด่วม หรือ โสภณ ก็คือ เปีย คู่หมั้นปริศนาที่บุษบงไม่เคยเห็นหน้านั่นเอง
ตังเก (2498)
ตังเก (2498/1955) ในเขตจังหวัดสมุทรปราการมีชาวประมงสองกลุ่มเป็นคู่แข่งกันในการจับปลา กลุ่มแรกนำโดย กังวาล เจ้าของเรือสิงห์สมุทรซึ่งให้ ทองหล่อ ลูกชายทำหน้าที่ควบคุมเรือ และให้ ผา เป็นไต้ก๋งเรือ อีกกลุ่มควบคุมโดย เม้ง มีลูกชายชื่อ ยี่ปลิว เป็นผู้ดูแลกิจการและมี จ่าย เป็นไต้ก๋ง ทองหล่อคบหาอยู่กับ หงษ์ฟ้าลูกสาวของเม้ง ส่วนยี่ปลิวหลงรักสร้อยแต่สร้อยกลับไปชอบผา เป็นเหตุให้ยี่ปลิวหาเรื่องทองหล่อกับผาอยู่เนืองๆ วันหนึ่งผาโดนสร้อยปฏิเสธจึงหนีกลับไปชุมพรบ้านเกิดเพราะเข้าใจผิดคิดว่าสร้อยไม่สนใจตน เมื่อถึงฤดูมรสุม ชาวตังเกต้องย้ายไปหาปลาในเขตปากน้ำชุมพร ยี่ปลิวกับจ่ายวางแผนกำจัดทองหล่อโดยให้ฉายไปสมัครเป็นไต้ก๋งเรือสิงห์สมุทร ในขณะที่ออกเรือฉายก็แอบตีศีรษะทองหล่อตกทะเล กัลปังหา ชาวเกาะพบทองหล่อโดยบังเอิญจึงช่วยชีวิตไว้ ผารู้ข่าวว่าทองหล่อพยายามสืบหาคนร้าย ฉายกลัวจะถูกจับได้จึงไปขอเงินค่าแรงกับยี่ปลิวแต่กลับโดนฆ่าปิดปาก ยี่ปลิววางแผนกับจ่ายจะฉุดสร้อย จ่ายยอมร่วมมือแต่มีข้อแม้ว่าขอหงษ์ฟ้าเป็นสิ่งตอบแทน ยี่ปลิวรับคำด้วยความไม่เต็มใจ คืนนั้น ทองหล่อมองเห็นสำเภาใหญ่ทอดสมออยู่จึงไปขอให้กัลปังหาพายเรือไปส่ง ส่วนยี่ปลิวหลังจากฉุดสร้อยมาได้ก็หักหลังฆ่าจ่ายทิ้ง เมื่อทองหล่อมาถึงเรือสำเภาจึงได้รู้ว่าเป็นเรือของเม้ง และถูกลูกน้องของเม้งทำร้าย ขณะนั้นเอง ผาพร้อมพวกชาวเกาะมาช่วยทองหล่อเม้งเห็นท่าไม่ดีคว้าดาบจะมาแทงทองหล่อแต่หงษ์ฟ้าเอาตัวมาขวางถึงแก่ความตาย เม้งเสียใจจึงฆ่าตัวตายตามทำให้เหตุร้ายสงบลง สร้อยปรับความเข้าใจกับผาทองหล่อกลับไปหากัลปังหา ซึ่งก็คือน้องสาวของผานั่นเอง
สิงห์ท่าเรือ (2498/1955) เมื่อสิงห์ กับเสือ ต้องมาเจอกัน มันก็หมายถึง เลือด เท่านั้น แต่ว่า สิงห์จะล้างเสือ หรือ เสือจะล้างสิงห์ นิยายรักที่ร้อนแรง เต็มไปด้วยการต่อสู้ เยี่ยงนักเลง ทั้งหมัด และกระสุนปืน ดุเดือด
ยอดคน (2498)
ยอดคน (2498/1955) ภูมิ สีหราช ขุนโจรนักแม่นปืนยอมมอบตัวกับตำรวจเพราะอยากจะเลิกเป็นโจร แต่ถูกกำนันอุ่น พ่อของ เกษรา คนรักล้อมยิง จึงหนีออกจากสามร้อยยอดและได้พบกับ หมอชวลิต ซึ่งชวนภูมิมาทำงานด้วย หมอชวลิตมอบหมายให้ภูมิช่วยดูแลงานแทนระหว่างที่ตนเดินทางไปกรุงเทพ ไม่กี่วันหลังจากนั้นปฐมสุข กับ เชิดชาย เพื่อนของ สุมาลย์ ภรรยาของหมอชวลิตก็เดินทางมาเพื่อขอซื้อที่ดิน แต่ภูมิไม่ยอมเพราะเห็นความไม่ชอบมาพากล หลังจากที่ภูมิหายตัวไป ก้าน รุ่งดี ก็ร่วมมือกับกำนันอุ่นเข้ายึดครองสามร้อยยอด เกษรารวบรวมคนเก่าแก่ของภูมิเพื่อจะต่อสู้แต่ถูกก้านจับตัวไป เกิด พลายแก้วสมุนเก่าซึ่งจงรักภักดีต่อภูมินำกำลังบุกรังของก้าน และเข้าไปช่วยเกษราไว้ได้ เกษรากับเกิดจึงเริ่มออกตามหาภูมิและได้พบกันในที่สุด ปฐมสุขวางแผนฆ่าหมอชวลิตแต่ก็ไม่รอดพ้นสายตาของภูมิ เมื่อช่วยหมอชวลิตได้แล้ว ภูมิจึงกลับไปชำระแค้นและได้ครองรักกับเกษราในที่สุด
สิงห์ สาว เสือ (2498)
สิงห์สาวเสือ (2498/1955) หนึ่ง รักระหว่างพี่กับน้อง สอง รักระหว่างชายกับหญิง กว่าจะรู้ว่ารักแท้ตกอยู่กับฝ่ายไหน ก็ต้องละเลงกันด้วยเลือด รักระหว่างกระสุนเหล็ก ตื่นเต้น เร้าใจ
สามเสือ (2498)
สามเสือ (2498/1955) ล้างอ้ายเสือครั้งใหญ่ ยิงกันสนั่นกรุง ตะลุมบอนกันบนบกและในน้ำ หมัดต่อหมัด ปืนต่อปืน
เสือน้อย (2498)
เสือน้อย (2498/1955) ดู.. ลูกหม่อมเจ้า ตกอยู่ในเงื้อมมือขุนโจรเจ้าสมุทร ต้องกลายเป็นสลัดใจเหี้ยมชื่อชั่วก้องท้องน้ำ เป็นพรานทะเลล่าสมบัติและชีวิตมนุษย์.. พรานพร่าผู้หญิงแม้ที่สุดน้องสาวร่วมสายโลหิต ดู.. พ่อ-เจ้า พบลูกสลัดเชื้อเจ้า ผลัดกันพบและพลัดกันซบสะอื้นเมื่อสายเสียแล้วที่บุญพ่อสิ้นทางจะอุปถัมภ์อุ้มชูสายเลือดตนไว้ได้ ดู.. กองเรือสลัดปะทะกองเรือตำรวจน้ำดุเดือดสะท้านชล ที่เกาะนางคำ อันเป็นที่ที่ เสือใหญ่และ เสือน้อย สองโจรสลัดพ่อลูกใช้เป็นที่ปล้นทรัพย์เรือสำราญที่เดินทางมาท่องเที่ยวยังแถบนี้ ไม้เว้นแม้แต่เรือของ ม.ร.ว.ศิรินิรันดร์ ลูกสาว กับ ม.ร.ว.นเรนทร์ หลานชายของ พลเรือโท ม.จ.นิรันดร์ฤทธิ์ ธำรง ก็ตกเป็นเหยื่อด้วยเช่นกัน นเรนทร์พยายามใช้ไหวพริบพูดจาหว่านล้อมให้เสือน้อยเปลี่ยนใจ แต่ กัปตันเมือง กลับหักหลัง กำจัดเสือน้อยลงทะเล ทว่ากัปตันเมืองก็ไม่สามารถลอยนวลต่อไปได้ เมื่อเสือน้อยพาสมุนมาแก้แค้นแล้วจับทุกคนบนเรือเป็นตัวประกัน ปล่อยให้นเรนทร์กลับกรุงเทพเพียงคนเดียว นเรนทร์เก็บความแค้นไว้ในใจ แล้วตั้งหน้าตั้งตาร่ำเรียนเป็นตำรวจเพื่อจะกลับมาแก้แค้นเสือน้อยท่ามกลางโจรสลัดที่โหดเหี้ยม ศิรินิรันดร์ หญิงสาวเพียงคนเดียวจึงตกเป็นเป้าสายตาของบรรดาโจรสลัดอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง ในที่สุด คืนหนึ่ง ศิรินิรันดร์ก็ถูก เสือเมฆ เข้าบุกปล้ำ เคราะห์ดีที่เสือน้อยมาช่วยไว้ทัน เสือเมฆเจ็บใจไปชักชวนกัปตันเมืองและชวน เทิ้ม หัวหน้าเกาะ จับตัวศิรินิรันดร์เรียกค่าไถ่ 100,000 บาทจาก ม.จ.นิรันดร์ฤทธิ์ โดยอ้างชื่อเสือน้อย เรื่องราวกลับตาลปัตรเพราะเสือน้อยเป็นลูกของ ม.จ.นิรันดร์ฤทธิ์ ที่เกิดจากดรรชนี สาวชาวเกาะเมื่อหลายปีก่อน ม.จ.นิรันดร์ฤทธิ์ รีบเดินทางไปเกาะนางคำโดยมีเสือเมฆและกำนันเทิ้มนำทาง เสือใหญ่และเสือน้อยนำสมุนมาคอยดักจัดการกับเสือเมฆได้ทัน แล้วยังปล่อยตัวศิรินิรันดร์โดยไม่เรียกร้องค่าตอบแทนใดๆ แต่แล้ว ม.จ.นิรันดร์ฤทธิ์ กลับขอซื้อตัวเสือน้อย ความจริงจึงถูกเปิดเผยขึ้น เสือใหญ่ยืนกรานไม่รับข้อเสนอ ส่วนเสือน้อยด่าทอ ม.จ.นิรันดร์ฤทธิ์ ที่ทิ้งแม่อย่างไม่เหลียวแล ทันใดนั้นเอง นเรนทร์ได้นำกำลังตำรวจน้ำมาบุกทำลายซ่องโจรสลัดเกาะนางคำ เสือน้อยจึงฉวยโอกาสจับตัวศิริ-นิรันดร์แล้วหนีไปซ่อนตัวในกระท่อมซึ่งเคยเป็นที่อยู่ของดรรชนี แต่พอรุ่งสาง นเรนทร์ก็ตามมาพบและเกิดการดวลปืนขึ้น แม้นเรนทร์จะเป็นฝ่ายได้เปรียบแต่ก็ไม่ยอมยิงเสือน้อย เสือน้อยชิงปืนมาได้ แทนที่จะยิงนเรนทร์กลับใช้ปืนจบชีวิตอันอาภัพของตน
คนจริง (2498)
คนจริง (2498/1955) อัมพร ประทีปเสน มาในบทบาท "มือปืน" เป็นภาพยนตร์สีธรรมชาติ บู๊ ดุเดือด ถึงใจ ดูคนจริงพบกับคนจริง บุกกันแค่แหลก ตลุยกันเสมอตาย (ที่มา: นิตยสารข่าวภาพยนตร์ มกราคม พ.ศ. 2498)

กำลังแสดงผลลัพธ์ทั้งหมด 11 รายการ