ผีตายซาก
ผีตายซาก (2480/1937) ที่พระนครศรีอยุธยา หมอคำ แพทย์แผนโบราณชักจูงสี่หนุ่ม กั่ว แก้ว พิศ และ ทอง ไปแสวงโชค ตามลายแทงซึ่ง ขุนอัคนีฯ นายทหารที่เสียชีวิตในสนามรบได้สั่งเสียให้ฝังตำราชุบชีวิตไว้พร้อมศพของตนใต้เจดีย์ สี่หนุ่มตกลงร่วมขบวนไปขุดศพเพราะหวังว่าอาจจะเจอสมบัติอย่างกล้าๆ กลัวๆ เมื่อขุดพบศพตามลายแทง หมอคำไม่รอช้าผสมยาชุบชีวิตตามตำรา และลองกรอกยาให้ขุนอัคนีฯ หลายต่อหลายครั้งก็ยังไม่เป็นผล หมอคำจึงชวนกั่วและพิศไปขุดศพที่เพิ่งตายมาทำการทดลอง ทิ้งทองกับแก้วเฝ้าศพขุนอัคนีฯคล้อยหลังหมอคำ ขุนอัคนีฯ ก็ลุกพรวดตรงมาจับบ่าแก้ว ทั้งสองสะดุ้งตัวลอยวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต ทันใดนั้นเสียงกรีดร้องของผู้หญิงก็ดังขึ้น เมื่อไปถึงที่มาของเสียงก็พบศพหญิงสาวถูกบีบคอตาย แต่ไร้ร่องรอยของขุนอัคนีฯ เที่ยงคืนวันหนึ่ง สนาน นัดแนะ เพลินพิศ มาพลอดรักกันในสวน ขณะที่หนุ่มสาวกำลังกอดรัดกัน ขุนอัคนีฯก็โผล่เข้ามาบีบคอสนานสลบคามือ เพลินพิศตื่นตระหนกกรีดร้องสลบไปอีกคน ขุนอัคนีฯ พลิกดูใบหน้าของเพลินพิศแล้วให้นึกถึง สุดา เมียรักที่ต้องจากกันเมื่อครั้งไปออกรบ จึงอุ้มเพลินพิศหายไปในความมืด นายพิณ และ นางสิน ผู้เป็นพ่อและแม่ของเพลินพิศ เห็นลูกสาวหายไปนานจนผิดสังเกตจึงตระเวนเดินหาจนมาพบสนานที่เพิ่งฟื้นจากการสลบ จึงไปตามตัวหมอคำ เมื่อหมอคำได้ฟังความจากสนานจึงปักใจเชื่อว่าเป็นฝีมือของขุนอัคนีฯ และบอกให้ทุกคนเริ่มออกตามหาเพลินพิศในเวลากลางวัน เพราะเป็นเวลาที่ขุนอัคนีฯ หมดฤทธิ์และคงจะหลบซ่อนตัวในโลงศพที่วัดร้างสักแห่งเป็นแน่ ทุกคนแยกย้ายกันออกตามหา จนพบร่องรอยว่าขุนอัคนีฯ ว่าจ้างแท็กซี่ขนโลงศพสองโลงไปส่งที่โกดังสินค้าสนานและหมอคำจึงรีบไปยังที่หมายตามคำบอกเล่าของคนขับแท็กซี่ เพลินพิศพยายามหาทางหลบหนีแต่ขุนอัคนีฯ ตามมาทัน โชคดีที่สนานและหมอคำมาถึง หมอคำจึงใช้มีดอาคมแทงขุนอัคนีฯ กลายเป็นซากศพสิ้นฤทธิ์ตั้งแต่นั้นมา
Placeholder
นางนาคคืนชีพ (2480/1937) "นางนาคพระโขนง" เท่าที่ทราบกันแต่เพียงว่า ได้ถูกถ่วงน้ำและหายสาบสูญไปนั้น บัดนี้นางนาคได้กลับคืนชีพมาอีก และหนีจากถ่วงน้ำมาแผลงฤทธิ์ ดุร้าย น่าหวาดเสียว น่าตื่นเต้น และแสดงอภินิหารร้ายกาจกว่าเก่าหลายสิบเท่า (ที่มา: หนังสือพิมพ์รายวัน ศรีกรุง 8 มิถุนายน พ.ศ. 2480)

กำลังแสดงผลลัพธ์ทั้งหมด 2 รายการ