ผจญภัยล่าขุมทรัพย์หมื่นลี้ 2566

เรื่องย่อ : ผจญภัยล่าขุมทรัพย์หมื่นลี้ (2566/2023) “จอย” เธอได้พบ “ริคกี้” ชายไทยที่ร้านขายของเก่าที่เซี่ยงไฮ้ จอยกับริกกี้แย่งกันซื้อรูปปั้นคู่หนึ่ง ริคกี้บังเอิญทำรูปปั้นแตก เขาพบว่าข้างในมีลายแทงส่วนหนึ่งอยู่ ริคกี้ขอจอยซื้อรูปปั้น แต่จอยไม่ยอม ริคกี้ต้องจำใจบอกความลับ พร้อมเสนอว่าจะแบ่งสมบัติให้ จอยตกลง เมื่อทุบรูปปั้นออกปรากฏว่ามีลายแทงส่วนที่สองอยู่จริงๆ แต่ก็ยังขาดอีกส่วน การผจญภัยตามล่าขุมทรัพย์ของสองคนก็เริ่มต้น (ที่มา : primevideo)

ปล้นทะลุไมล์ 2566

เรื่องย่อ : The X-Treme Riders ปล้นทะลุไมล์ (2566/2023) กล้ากับฝัน สองพี่น้องที่ต้องเข้าไปพัวพันกับแก๊งค์มาเฟียข้ามชาติที่วางแผนใช้ การแข่งขันชิงแชมป์ศิลปะการต่อสู้แบบผสมเพื่อกลบเกลื่อนการค้ายาเสพย์ติดครั้งใหญ่ อย่างไรก็ตามเกิดความขัดแย้งเรื่องผลประโยชน์ระหว่างหุ้นส่วนของแก๊งค์ซึ่งได้แก่ โจ และ กฤช ส่งผลให้ กล้า กับฝันต้องตกเปลี่ยนเครื่องมือของความรุนแรงที่ตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่พ้น เมื่อต้องเผชิญกับการถูกตามล่า สองพี่น้องจำต้องหาทางสู้กลับ (ที่มา : primevideo.com)

ขุนแหย 2565

เรื่องย่อ: ขุนแหย (2565/2022) ได้เวลาฮาลั่นอโยธยา กับภาพยนตร์คอมเมดี้ “ขุนแหย THE LOST HERO OF AYODHYA” ผลงานจาก MONO ORIGINALS ที่ได้ ‘เปลว ศิริสุวรรณ’ มานั่งแท่นกำกับและดึงเอาดาวตลกทั่วฟ้าเมืองไทย มาร่วมกันถ่ายทอด เรื่องราวสุดฮาเต็มคาราเบลของ “แหย” (กรภพ จันทร์เจริญ) หมอยาสมุนไพรใจพระแถมยังใจซื่อมือสะอาด ถูก “หลวงถลอก” (สมชาย ศักดิกุล) ขุนนางตัวร้าย ลวงให้ไปตัวหัว “เนเมียว” (จตุรงค์ พลบูรณ์) แม่ทัพชาวพม่าแล้วทำการพอกน้ำผึ้งไว้ไม่ให้หัวเน่า เพื่อจะได้ไปรับรางวัลที่อยุธยาได้ทันการ แต่เรื่องไม่ได้ง่ายอย่างนั้น เพราะถึงแม้แหยจะเอาชีวิตรอดจากสนามรบแถมยังมีหัวของแม่ทัพเนเมียวเป็นของแถม แต่ก็ต้องผจญกับจอมขมังเวทย์อสรพิษ (สายเชีย วงศ์วิโรจน์) ที่พยายามจะชิงหัวแม่ทัพ รวมถึงต้องเอาชีวิตรอดจาก “ลินดา” (ภัทรวดี เหลาสา) สาวนักฆ่าที่ถูกจ้างอีกด้วย งานนี้ต้องมาช่วยกันลุ้นว่า แหย จะสามารถเอาชีวิตรอด และจะได้กลับบ้านไปนอนกอด “สายสร้อย” (บุตรี กัลย์จารึก) เมียรักด้วยร่างกายที่ครบ 32 หรือไม่?  (ที่มา : monomax.me)

เล่า ฤๅ สื่อ IV (2563/2020) The Message เล่า ฤา สื่อ IV เล่าเรื่องของ พลอย และ ภณ หนุ่มสาวที่กำลังมีความรักสดใส พวกเขาได้ไปเที่ยวทะเลในวันที่เกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่ มีผู้คนมากมายสูญหาย และตายไปภายในวันนั้น ภณ เชื่อว่าพลอยยังมีชีวิตอยู่ เขาออกตามหาเธอ พลอย รอดชีวิตราวปาฏิหาริย์ เธอต้องใช้ชีวิตอย่างเดียวดายบนแพ ช่วงเวลานี้เองทำให้เธอมีเวลาครุ่นคิด เรื่องราวที่ผ่านมา ก่อนเกิดภัยพิบัติ ช่วงเวลาก่อนเกิดภัยพิบัติ 30 วัน อาจารย์หมอ ได้รับการเตือนภัยว่าจะเกิดภัยพิบัติครั้งยิ่งใหญ่ ในปี ค.ศ. 2020 สาเหตุ เกิดจากความเห็นแก่ตัวของมนุษย์ มัวเมาในกิเลสหลงลาภยศเงินทอง ต่างต่อสู้ฟัดฟันทำลายกันเอง ทำลายธรรมชาติ ซึ่งส่งผลให้จักรวาลเสียหาย คาน จิตต่างดาวในร่างมนุษย์ ทนไม่ไม่ไหว เปิดประชุมสภาจักรวาล ให้มีมติทำลายล้างโลก ก่อนที่โลกจะทำลายตัวเองวิน จิตต่างดาวในร่างมนุษย์ ผู้เชื่อใจมนุษย์ว่า ยังมีคนอีกมากมายที่เป็นคนดี สร้างบุญสร้างกุศล วิน จึงมาเตือนอาจารย์หมอ ให้ช่วยเตือนภัยเร่งให้คนทำความดี จะมี คนที่ความสามารถพิเศษ ถูกเลือกมาช่วยอีก 4 คน ดานูส ชาวอินเดียที่มีความสามารถสื่อสารกับบุคลสำคัญที่ล่วงลับไปแล้ว แคทเธอรีน จิตแพทย์สาว ที่สามารถเห็นเจ้ากรรมนายเวรของผู้อื่น อาตี๋น้อย ผู้สามารถสื่อสารกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ อาโป ผู้สามารถสื่อสารกับธรรมชาติ เจ้าป่า เจ้าเขา และเหล่าสัตว์ทั้งหลาย พร้อมด้วยกลุ่มเพื่อน ต่างช่วยกันเผยแพร่ในสิ่งที่ผู้ถูกเลือกทั้ง 4 สื่อสารได้ไปสู่คนทั่วไป เพื่อช่วยชีวิตคนให้ได้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ แล้วคุณล่ะ !!! จะรอดจากภัยพิบัติที่กำลังจะมาถึงหรือไม่ ?
เกมคนรวย The Prey (2562/2019) ‘ซิน’ นายตำรวจสายลับชาวจีน (รับบทโดย Gu Sheng Wei) กำลังปฏิบัติภารกิจลับระหว่างประเทศที่จับพลัดจับผลูทำให้เขาต้องไปอยู่ในเรือนจำในกลางป่าใหญ่ที่ห่างไกล โดยในที่แห่งนี้จะมีกฏบางอย่างที่ถูกสร้างขึ้นมาเอง และเปิดให้ผู้เข้าชมที่แสวงหาความตื่นเต้นเข้ามาทำกิจกรรมบางอย่าง... ทหารยามที่เป็นผู้คุมเรือนจำแห่งนี้ก็เป็นเพียงแค่หุ่นเชิดที่มีไว้แค่ประดับเรือนจำ ส่วนนักโทษก็เป็นเพียงแค่หมากตัวหนึ่งในเกมการล่าเพื่อความสนุกสนานของเหล่าคนรวยที่ไม่ต่างอะไรไปจากสัตว์ที่โดนล่า เหตุการณ์ทั้งหมดเริ่มขึ้นในวันที่ ‘ซิน’ ถูกส่งไปเป็นเหยื่อสำหรับเกมการแข่งขันของเหล่าคนรวยผู้มีอันจะกินและมีเงินเหลือเฟือจนไม่รู้จะเอาไปทำอะไรนอกจากหาความตื่นเต้นและสนุกสนานจากการล่ามนุษย์ หลังจากหลายปีของการตามล่าอาชญากรผู้โหดเหี้ยม ‘ซิน’ ก็พบว่ากลับกลายเป็นตัวเองที่ต้องวิ่งหนีเพื่อเอาชีวิตรอด หาก ‘ซิน’ สามารถเอาชีวิตรอดในเกมการล่ามนุษย์อันโหดร้ายนี้ได้ เขามีโอกาสได้ก้าวออกจากป่าแห่งนี้อย่างมีอิสรภาพ แต่ถ้าไม่ คำตอบเดียวสำหรับ ‘ซิน’ ก็จะเป็นเพียง ความตาย... และเป็นเพียงถ้วยรางวัลของเหล่าบรรดาคนรวยในการล่าสัตว์อีกตัวเท่านั้น
๔๐๐ นักรบ ขุนรองปลัดชู THE400BRAVERS (2561/2018) เรื่องราวของ ๔๐๐ นักรบ ขุนรองปลัดชู เกิดขึ้นในสมัยรัชกาลสมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์ ก่อนการเสียกรุงครั้งที่สองราวห้าปี พระเจ้าอลองพญา (กษัตริย์แห่งอาณาจักรอังวะของพม่า) ได้ส่งกองทัพรี้พลสองหมื่นนาย ยกมายึดเมืองตะนาวศรีและเมืองมะริด อันเป็นเมืองท่าที่สำศัญของอโยธยาในแถบทะเลอันดามัน หลังจากที่ทราบข่าวศึกทางอโยธยาได้ส่งกองทัพสองกองเพื่อปกป้องรักษาแผ่นดิน โดยกองทัพพระยายมราชและกองทัพพระยารัตนาธิเบศร์ ในขณะเดียวกัน ขุนรองปลัดชู กรมการเมืองวิเศษไชยชาญได้รวบรวมเหล่าอาสาอาทมาฏ จำนวน 400 นายมาร่วมทัพด้วย หลังจากนั้นเมื่อพระยารัตนาธิเบศน์ทราบข่าวว่า ทัพของพระยายมราชได้แตกพ่าย โดยกองทัพอังวะที่กำลังเดินทัพเข้ามา จึงมอบหมายให้ขุนรองปลัดชูนำกองอาทมาฏ 400 นาย ไปยันทัพที่เมืองกุยบุรี อีกไม่นานทางกองทัพมังระราชบุตรและมังฆ้องนรธาเคลื่อนผ่านช่องด่านสิงขร เข้ามาก็ได้พบทัพไทยขวางอยู่ที่เมืองกุยบุรี จึงยกพลเข้าโจมตี ถึงแม้จะมีทหารน้อยกว่าข้าศึกหลายสิบเท่าก็ตาม และรู้ว่าจุดจบจะเป็นเช่นไร แต่ขุนรองปลัดชูกับพวกนักรบผู้กล้าทั้ง 400 นายก็ต่อสู้ไม่หวั่น ต่อต้าน และต้านทานกันอย่างเข้มแข็ง ต่อสู้จนตัวตายในสนามรบจนหมดสิ้น..
๙ ศาสตรา (2561/2018) 9 ศาสตรา เป็นเรื่องราวการผจญภัยของเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ที่ชะตาลิขิตให้มากอบกู้อาณาจักรรามเทพนคร แผ่นดินปิตุภูมิของเขาให้รอดพ้นอำนาจทมิฬของยักษา ผู้ก่อความทุกข์เข็ญให้ประชาราษฎร์ เป็นการเดินทางที่ต้องอาศัยทั้งโชคชะตาและวิชายุทธอย่างมีคุณธรรม อ๊อด ชายหนุ่มแห่งโพ้นทะเล คือ ผู้ที่ถูกลิขิตมาให้รับภารกิจอันยิ่งใหญ่ในการกอบกู้อาณาจักร พร้อมกับพลพรรคเพื่อนพ้อง ที่มีทั้งอาวุธและยุทธวิธีตามวิถีตะวันออก ไม่ว่าจะเป็น “เสี่ยวหลาน”โจรสลัดอากาศชาวจีน เธอเป็นสาวงามนักแม่นปืนจากกองเรือเหาะทะยานเมฆ พร้อมด้วยลิงทโมน นามว่า วาตะ รวมถึง อสูรสีชาด ยักษ์สีแดงร่างใหญ่ใจดี ส่วนอ๊อดนั้นได้ร่ำเรียนศิลปะการต่อสู้มวยไทย ที่เคยหายสาบสูญจากครูมวยอันดับหนึ่งของแผ่นดิน และได้ฝึกฝนเคี่ยวกรำอย่างหนักมาโดยตลอด เพื่อเตรียมต่อสู้กับหมู่มวลอธรรม
ทองดีฟันขาว (2560)

ทองดี ฟันขาว (2560/2017) เรื่องราวความกล้าหาญและความจงรักภักดีในช่วงชีวิตสำคัญของ “นายทองดี ฟันขาว” นักสู้หัวใจแกร่งที่มากความสามารถและฝีไม้ลายมวย โชคชะตานำพาให้เขาได้เป็นทหารเอกคู่ใจแห่งพระเจ้าตากสินมหาราช และพลีชีพต่อสู้ปกป้องบ้านเมืองจนกลายเป็นวีรบุรุษของชาวไทยที่รู้จักกันในนาม “พระยาพิชัยดาบหัก” ทองดี นักสู้หัวใจแกร่ง ผู้มีความมุ่งมั่นไม่ย่อท้อรักษาคำมั่นสัญญา กล้าหาญจงรักภักดี มีความสามารถและฝีไม้ลายมือทางหมัดมวยและดาบอย่างหาตัวจับยาก เขาไม่ชอบกินหมาก จึงเป็นที่มาของฉายา ทองดีฟันขาว ชีวิตของเขาต้องระหกระเหินจากครอบครัวตั้งแต่ครั้งเยาว์วัย และต้องออกเดินทางหาเงินเลี้ยงตัวจากการชกมวย และร่ำเรียนวิชามวยเพิ่มเติมจากบรรดาครูมวยตามเมืองต่างๆ จนสุดท้ายโชคชะตาและวีรกรรมอันเลื่องชื่อของเขาก็นำพาให้เขาได้เป็นทหารเอกคู่ใจแห่ง พระเจ้าตากสินมหาราช และพลีชีพต่อสู้ปกป้องบ้านเมืองจนกลายเป็นวีรบุรุษของชาวไทย ที่รู้จักกันในนาม พระยาพิชัยดาบหัก

พันท้ายนรสิงห์ (2558/2015) ในปี พ.ศ. 2231 รัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชตอนปลาย ขณะที่สมเด็จพระนารายณ์มหาราชประทับอยู่ที่เมืองลพบุรีและประชวรหนัก หลวงสรศักดิ์ได้จับตัวเจ้าพระยาวิชเยนทร์ไปสำเร็จโทษ และพระเพทราชาได้กำจัดพระปีย์ พระโอรสบุญธรรมในสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เมื่อสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เสด็จสวรรคต บรรดาข้าราชการได้อัญเชิญพระเพทราชาขึ้นครองราชย์ ทรงพระนามว่า สมเด็จพระมหาบุรุษวิสุทธิเดชอุดม หรือ สมเด็จพระเพทราชา ในรัชสมัยสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 (พระเจ้าเสือ) แห่งกรุงศรีอยุธยา ราว พ.ศ. 2246 – 2252 บ้านเมืองวุ่นวายเพราะพระยาราชสงครามรีดไถประชาชนด้วยการอ้างพระบรมราชโองการในการเกณฑ์ช้างม้าวัวควายไปเพื่อเป็นภาษี ส่วนสาววัยรุ่นจะนำไปถวายพระเจ้าเสือ เพื่อเป็นนางสนมในพระราชวัง ส่งผลให้ชาวบ้านทุกทั่วหัวระแหงได้รับความเดือดร้อน ขณะเดียวกันพระพิชัย เจ้าเมืองวิเศษชัยชาญ ก็ได้ตั้งกลุ่มเพื่อต่อต้านการกระทำของขุนนางที่ฉ้อราษฎร์บังหลวง ด้วยการตั้งตัวเป็นกองโจรเพื่อปล้นเสบียงและผู้หญิงที่ถูกเกณฑ์ไปในวังหลวง ซึ่งหนึ่งในกองโจรนั้นมี สิน ซึ่งชอบช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน สินมีเมียรักชื่อ นวล ที่คอยช่วยเหลือทั้งงานบ้านและการต่อสู้กับทหารที่ฉ้อราษฎร์บังหลวง เธอเคยรบเร้าให้สินเลิกเป็นโจรหลายครั้งแต่ไม่เป็นผลเนื่องจากสินต้องการสร้างความยุติธรรมให้กับชาวบ้าน ต่อมาพระเจ้าเสือได้ทรงพระราชดำเนินไปตกปลากับขุนนางคนสนิทเป็นการส่วนพระองค์ โดยปลอมตัวเป็นสามัญชนชื่อว่า ทิดเดื่อ ซึ่งนัยหนึ่งพระองค์ต้องการทราบถึงความเป็นอยู่ของชาวบ้าน การเสด็จพระราชดำเนินในครั้งนั้นได้ปะฝีมือเชิงมวยกับสินผู้เป็นชาวบ้านธรรมดา โดยไม่รู้ว่าคนที่ตนกำลังชกอยู่ด้วยเป็นพระเจ้าแผ่นดิน แต่ไม่ทันได้รู้ผลแพ้ชนะก็มีขุนนางที่ฉ้อราษฎร์บังหลวงมาอ่านพระบรมราชองค์การในการเกณฑ์ราษฎรชายไปเป็นทหาร ทำให้พระเจ้าเสือได้รับทราบการทุจริตของข้าราชการและได้พูดคุยกับสินอย่างถูกคอ หลังจากพระเจ้าเสือเสด็จกลับพระราชวังได้มีรับสั่งให้สินเข้ารับราชการในตำแหน่งนายทหารคัดท้ายเรือประจำพระที่นั่งเอกไชยและช่วยเหลืองานราชการในการปราบขุนนางที่ฉ้อราษฎร์บังหลวง โดยต่อมาคือ พันท้ายนรสิงห์ จนได้รับคำยกย่องว่าเป็นผู้มีความซื่อสัตย์สุจริต จงรักภักดีและรักษาระเบียบวินัย ครั้นพระเจ้าเสือเสด็จประพาสปากน้ำสาครบุรี ซึ่งจะต้องผ่านตำบลโคกขามซึ่งคลองบริเวณดังกล่าวมีความคดเคี้ยวและแคบ ทำให้พระพิชัย และพระพินิจ ทหารเก่าในสมัยพระนารายณ์ที่เกลียดชังพระเจ้าเสือวางอุบายลอบปลงพระชนม์ได้ ขณะเดียวกันนั้นสินที่ได้ล่วงรู้แผนการนี้จึงให้นวลไปขอร้องกับพระพิชัยแต่ไม่ประสบความสำเร็จ ตนจึงวางแผนบังคับเรือพระที่นั่งให้ชนกับริมตลิ่งเพื่อไม่ให้พระเจ้าเสือเสด็จพระราชดำเนินไปถึงจุดที่กลุ่มชาวบ้านซุ่มอยู่ เมื่อเรือพระที่นั่งเอกไชยมาถึงตำบลโคกขาม สินพยายามคัดท้ายเรือพระที่นั่งจนชนตลิ่ง ทำให้หัวเรือพระที่นั่งเอกไชยหักตกลงไปในน้ำ สินรู้โทษดีว่าความผิดครั้งนี้ถึงประหารชีวิตตามโบราณราชประเพณีซึ่งกำหนดว่าถ้าผู้ใดถือท้ายเรือพระที่นั่งให้หัวเรือพระที่นั่งหักผู้นั้นถึงมรณะโทษให้ตัดศีรษะเสีย สินจึงกราบทูลขอน้อมรับโทษตามพระราชประเพณี พระเจ้าเสือทรงพิจารณาเห็นว่าอุบัติเหตุครั้งนี้เป็นเหตุสุดวิสัยมิใช่ความประมาทจึงพระราชทานอภัยโทษให้ แต่สินก็กราบบังคมยืนยันให้ตัดศีรษะตนเพื่อรักษาขนบธรรมเนียมในพระราชกำหนดกฎหมายและเป็นการป้องกันมิให้เกิดข้อติเตียนต่อพระเจ้าอยู่หัวว่าทรงละเลยพระราชกำหนดของแผ่นดิน พระเจ้าเสือไม่ต้องการประหารสินจึงทรงโปรดให้ฝีพายทั้งปวงปั้นมูลดินเป็นรูปสินแล้วให้ตัดศีรษะรูปดินนั้นเพื่อเป็นการทดแทน แต่สินยังคงยืนยันขอให้ตัดศีรษะตน โดยขอให้พระเจ้าเสืออภัยโทษให้แก่กลุ่มผู้ที่ลอบปลงพระชนม์ แม้พระเจ้าเสือจะทรงอาลัยรักน้ำใจพันท้ายนรสิงห์เพียงใดก็ทรงจำพระทัยปฏิบัติตามพระราชกำหนด จึงตรัสสั่งให้เพชฌฆาตประหารพันท้ายนรสิงห์แล้วโปรดให้ตั้งศาลสูงประมาณเพียงตาและนำศีรษะพันท้ายนรสิงห์กับหัวเรือพระที่นั่งเอกไชยซึ่งหักนั้นขึ้นพลีกรรมไว้ด้วยกันบนศาล ทำให้พระพิชัยที่แอบดูอยู่รู้ความจริงว่าพระเจ้าเสือมิได้เลวร้ายอย่างที่คิด จึงถวายตัว รับใช้พระเจ้าเสือด้วยความซื่อสัตย์ตลอดมา
สยามยุทธ Siam Yuth (2558/2015) ทัพ (ธันน์ ธนากร) นักดนตรีพเนจร ได้พบกับการสังหารเข่นฆ่าชาวบ้านโดยฝีมือของ ขุนราม (ธนายงค์ ว่องตระกูล) ผู้ทะเยอทะยานหมายยึดครองแผ่นดิน โดยป้ายความผิดให้แก่ขุนศึกที่แตกทัพมาอย่าง สิน (กฤษฏ์ศิรวัชร แก้วมณีกานนท์) ทัพเห็นความไม่เป็นธรรม และต้องการทวงคืนความยุติธรรมให้แก่ชาวบ้าน จึงเดินทางไปเมืองจันทบูร ซึ่งเป็นที่พำนักของขุนราม เขาได้พบกับอดีตคนรักอย่าง อังกาบ (ไปรยาพิณ เจริญวิชิตไชยเดช) ผู้ซึ่งเป็นอนุของเจ้าเมืองจันทบูรและยังเป็นมือสังหารของขุนรามด้วย ระหว่างการเดินทางไปพบเจ้าเมืองจันทบูร ทัพผู้เลือดร้อนตกอยู่ในวงล้อมของศัตรู แต่ได้ บุญมา (ธนาวุฒิ เกสโร) ขุนศึกของสินที่มาสอดแนมช่วยเหลือเอาไว้ ทัพตัดสินใจเข้าร่วมกับสินเพื่อลงโทษขุนรามผู้โฉดชั่วและร้ายกาจ และทัพก็ได้พบรักกับ ทิม นักรบหญิงภายใต้สังกัด แม่หญิงบัว (แคนดี้ รากแก่น) ซึ่งเข้ามาร่วมด้วยกับกองกำลังของสิน ระหว่างนั้นขุนรามซึ่งมองสินเป็นหอกข้างแคร่ ได้ออกปล้นสะดมไปทั่วและป้ายความผิดให้สิน ต่อมาได้วางแผนเพื่อที่จะล่อสินมากำจัดไปพร้อมๆ กับ เจ้าเมืองจันทบูร (โชคชัย เจริญสุข) เพื่อยึดเมืองจันทบูรเป็นของตนเองเป็นที่มั่นในการยึดครองแผ่นดิน ศึกสุดตัดสินระหว่างสินกับขุนรามจึงเริ่มขึ้นโดยมีเมืองจันทบูรเป็นเดิมพัน
ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๖ อวสานหงสา

ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๖ อวสานหงสา (2558/2015) ในปี พ.ศ. 2135 หลังพ่ายศึกยุทธหัตถี ฝ่ายหงสาวดีพระเจ้านันทบุเรง ทรงโทมนัสที่ต้องสูญเสียพระราชโอรส จึงมีรับสั่งให้คลอกไฟเหล่าแม่ทัพนายกอง ที่ตามเสด็จพระมหาอุปราช ให้ตายตกตามกัน ทั้งยังระบายพระโทสะไปที่ พระสุพรรณกัลยา องค์ประกัน และพระราชโอรสธิดาถึงสิ้นประชนม์ชีพ ข้าง สมเด็จพระนเรศวร นั้น มีพระราชประสงค์จะนำทัพปราบหงสาวดี ให้ราบคาบ มิให้ตกค้างเป็นเสี้ยนหนาม ครั้นมาได้ทราบข่าวการสิ้นพระชนม์ ของพระพี่นาง และพระราชนัดดาก็ยิ่งโทมนัส จึงตัดสินพระทัยยกทัพใหญ่ หมายเหยียบหงสาวดีให้ราบเป็นหน้ากลอง ในระหว่างที่เดินทางมาถึงเมืองเมาะตะมะได้จับตัว พระยาลอ ผู้สำเร็จราชการแทน ที่พระเจ้านันทบุเรง ส่งให้มาปกครองเมือง ถูก เม้ยมะนิก ราชธิดาของ ศิริสุธรรมราชา เจ้าเมืองเมาะตะมะลอบสังหาร เพื่อแก้แค้นแทนบิดา พร้อมรวบรวมชาวรามัญเพื่ออาสาขอเข้าร่วมรบพม่ากับชาวอโยยา แต่ครั้นเมื่อทัพของพระองค์เสด็จถึงหงสาวดีก็พบแต่เพียงเศษซากของมหานครอันเคยยิ่งใหญ่ ด้วยนัดจินหน่อง ราชบุตรพระเจ้าตองอูได้วางอุบาย เชิญพระเจ้านันทบุเรงพร้อมกวาดต้อนผู้คนแลทรัพย์ศฤงคารของหงสาไปไว้ยังตองอูจนหมดสิ้น ครั้งนั้น สมเด็จพระนเรศวร จึงทรงยกทัพตามขึ้นไปถึงเมืองตองอู มีพระราชบัญชาให้ เมงเยสีหตู เจ้าเมืองส่งตัว พระเจ้านันทบุเรงออกมาถวาย ด้านนัดจินหน่องเห็นว่าพระเจ้านันทบุเรง ที่เชิญมานั้น เป็นภัยชักศึกเข้าบ้าน จึงหมายยืมมือ สมเด็จพระนเรศวร สังหาร พระเจ้านันทบุเรง เสีย แต่เมื่อ สมเด็จพระนเรศวร ได้ทอดพระเนตรเห็น พระเจ้านันทบุเรง ที่ทรงทุพพลภาพเป็นที่น่าสมเพช ก็ให้สลดพระราชหฤทัย ระหว่างนั้น เมงราชาญี เจ้าเมืองยะไข่ได้แต่งทัพเป็นกองโจร ตีลัดตัดเสบียงอยุธยามิให้ส่งข้าวน้ำขึ้นไปเลี้ยงทัพที่ล้อมพระนครตองอูอยู่ สมเด็จพระเอกาทศรถ จึงแบ่งทัพลงมาหมายจะเผด็จศึกยะไข่มิให้เป็นหอกข้างเเคร่ แต่ทรงพลาดท่าถูกเมงราชาญีจับตัวได้ พระราชมนู จำต้องขันอาสานำกำลังลงมา แก้เอา สมเด็จพระเอกาทศรถ กลับคืน และยกทัพกลับยังอยุธยา ข้างฝ่ายพุกามประเทศนั้นได้บังเกิดกษัตริย์ชาตินักรบขึ้นมา แทนพระเจ้าชนะสิบทิศ มีพระนามว่า พระเจ้ายองยาน ตามชื่อพระนครที่ปกครอง พระเจ้ายองยาน ทรงขยายแสนยานุภาพครอบคลุมดินแดนพม่าตอนบน เข้ายึดครองหัวเมืองในรัฐไทยใหญ่ทั้งหลาย และทรงกรีฑาทัพเข้าตีเมืองยองห้วยและเมืองแสนหวีซึ่งขณะนั้นล้วนเป็นเมืองประเทศราชของอยุธยา เมื่อ สมเด็จพระนเรศวร ทรงล่วงรู้ก็ทรงมีพระราชดำริที่จะตัดไฟเสียแต่ต้นลม ไม่ให้อธิราชศัตรูพลิกฟื้นขึ้นมา เป็นเสี้ยนหนามแผ่นดินอยุธยาได้อีก สมเด็จพระนเรศวร จึงได้เสด็จยกกองทัพไปตีอังวะ ครั้งนั้น พระมหาเถรคันฉ่อง และ พระอัครมเหสีมณีจันทร์ ซึ่งกำลังทรงพระครรภ์ก็ทูลขอให้งด ซึ่งราชการสงคราม สมเด็จพระนเรศวร จึงทรงให้สัญญาว่า จะเสด็จไปทำศึกครานี้เป็นครั้งสุดท้าย เมื่อเสด็จถึงเมืองเชียงใหม่ก็ยั้งทัพจัดกระบวนอยู่หนึ่งเดือน แล้วให้ทัพ สมเด็จพระเอกาทศรถ ยกขึ้นไปทางเมืองฝาง ส่วนกองทัพหลวงยกไปทางเมืองหาง ตั้งค่ายหลวงประทับอยู่ที่ทุ่งแก้ว อยู่มา สมเด็จพระนเรศวร ทรงพระประชวรจึงโปรดให้ข้าหลวงรีบเชิญเสด็จ พระเอกาทศรถ มาเฝ้า ครั้นมาถึงได้ 3 วัน สมเด็จพระนเรศวร ก็เสด็จสวรรคตเมื่อวันจันทร์ขึ้น 8 ค่ำ เดือน 6 ปีมะเส็ง ตรงกับวันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2148 สมเด็จพระเอกาทศรถ จึงได้อัญเชิญพระบรมศพ สมเด็จพระนเรศวร กลับกรุงศรีอยุธยาราชธานี

อนันตา ศิลาพิชิตมาร ANANTA LIGHT OF HOPE (2558/2015) เมื่อหินศักดิ์สิทธิ์ที่ตกมาจากฟากฟ้าตกอยู่ในมือของอวันตีนคร หลายหัวเมืองจึงก่อสงครามหมายแย่งชิงหินศักดิ์สิทธิ์ ด้วยหวังในอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ของหินที่จะบันดาลความสุขให้กับผู้ที่ได้ครอบครอง พระราชาแห่งอวันตีนครถูกลอบปลงพระชนม์จากการสมคบคิดของนางสนมเอกและบิดา ทำให้พระมเหสี และ เจ้าหญิงสิสิรา พระราชธิดาแห่งอวันตีนครถูกกล่าวร้ายโยนความผิดว่าเป็นผู้วางยา ทั้งสองพระองค์ และ อนันตา เจ้าชายที่หัวใจก็เพิ่งเจ็บปวดกับความรักมาหมาดๆ ได้หนีออกจากพระราชวังไปอยู่ในป่าลึก โดยได้รับการช่วยเหลือจากทหารกล้านามว่า อลันเดส และเหล่าองครักษ์ผู้ภักดี ด้วยความรักที่มีต่อพระมารดา เจ้าชายผู้เสเพลจึงต้องเอาชนะใจตัวเอง เพื่อปฏิบัติภารกิจกอบกู้เอกราชให้แก่อวันตีนครให้จงได้
เร็วทะลุทุ่ง พุ่งทะลุเถียง E-SAN FILM NOIR (2558/2015) หนังสั้นฟิล์มนัวร์ภาษาอีสาน เล่าเรื่องราวของ อาจอง คะชาติ นักสืบหนุ่มแห่งดินแดนล้านช้างกับการไขคดีจอมโจรเร็วทะลุทุ่ง อาชญากรผู้ตั้งตนเป็นศาลเตี้ยออกปราบแก๊งค้ายาเสพติด สุดท้ายแล้วใครคือจอมโจรผู้มีความว่องไวเหนือมนุษย์คนนี้ ต้องติดตาม "เร็วทะลุทุ่ง พุ่งทะลุเถียง"
พระมหาชนก 2557

เรื่องย่อ: พระมหาชนก The Story of MAHAJANAKA (2557/2014) "องก์ ๑ กำเนิด" พระเจ้ามหาชนกฯ ผู้ครองกรุงมิถิลาแห่งแคว้นวิเทหะที่มีอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาล ทรงมีพระโอรส 2 พระองค์ พระองค์แรกทรงมีพระนามว่าพระอริฏฐชนกผู้ทรงมีความเข็มแข็งเฉียบขาด ส่วนองค์ที่สองทรงพระนามว่าพระโปลชนกผู้ทรงมีพระทัยเมตตาโอบอ้อมอารี ครั้น พระเจ้ามหาชนกฯ ทรงสวรรคต พระอริฏฐชนก ทรงขึ้นครองราชย์โดยมี พระโปลชนก เป็นอุปราช ทั้ง 2 พระองค์มีความคิดเห็นในการปกครองที่แตกต่างกัน พระอริฏฐชนก ทรงเห็นว่าอาณาจักรมิถิลาจะต้องยิ่งใหญ่ภายใต้กองทัพที่เข้มแข็ง ส่วน พระโปลชนก ทรงเห็นว่าต้องไม่ลืมจิตใจที่เปี่ยมสุขของประชาชนด้วย ในเวลาต่อมามีอำมาตย์ผู้ใกล้ชิดที่ทุตจริตได้ออกอุบายใส่ความว่า พระโปลชนก กำลังซ่องสุมผู้คนเพื่อก่อการกบฎ พระองค์จึงถูกจับไปขังไว้ แต่พระองค์ทรงตั้งจิตอธิฐานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์จนสามารถหลบหนีออกมาพร้อมผู้จงรักภักดีและได้ไปพำนักอยู่ ณ เมืองชายแดน จนกระทั่งวันหนึ่ง พระโปลชนก ได้นำทัพกลับมามิถิลาเพื่อหวังจะขอปรับความเข้าใจกับ พระอริฏฐชนก จึงส่งสาส์นเพื่อแสดงเจตนาขอปรับความเข้าใจกัน แต่ถูกขัดขวางจากอำมาตย์ผู้นั้นด้วยการปลอมแปลงข้อความในสาส์นให้เป็นสาส์นท้ารบขณะเดียวกันพระอริฏฐชนทรงเป็นห่วงพระเทวี มเหสีของพระองค์ที่กำลังทรงครรภ์อยู่ จึงได้ให้หลบหนีออกไปจากวังเสีย ในสนามรบ พระอริฏฐชนก ทรงสิ้นพระชนม์จากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากฝีมือของอำมาตย์ผู้นั้น หลังจากนั้น พระโปลชนก จึงทรงขึ้นครองราชย์สืบต่อแทน พระเทวี ทรงหนีออกจากเมืองมิถิลาอย่างยากลำบาก แต่ด้วยบุญญาธิการของพระโอรสในครรภ์จึงทำให้ทรงได้รับความช่วยเหลือจากท้าวสักกเทวราชที่ช่วยให้พระองค์สามารถหลบหนีไปถึงเมืองจัมปากะได้ ณ ที่นี้ พระเทวี ได้ทรงรับความช่วยเหลือจากอุทิจจพราหมณ์ โดยอุปการะรับ พระเทวี เป็นน้องสาว ต่อมาพระโอรสในครรภ์ทรงประสูติกาล โดยมีพระนามตามพระอัยยิกาว่า พระมหาชนกกุมาร "องก์ ๒ ความเพียร" เมื่อพระโอรสทรงเจริญวัยได้ถูกเพื่อน ๆ ล้อว่าเป็นลูกหญิงหม้ายพระมารดาจึงเล่าความจริงให้ทราบว่าพระองค์เป็นใคร พระองค์จึงตั้งพระทัยว่าเมื่อเติบใหญ่แล้วจะไปเอาราชสมบัติและนครมิถิลาคืนมาให้ได้ครั้นเมื่อ พระมหาชนกกุมาร ทรงเจริญวัยเติบใหญ่เปี่ยมไปด้วยพระปรีชาสามารถ พระองค์ทรงตรัสกับพระมารดาว่าจะไปล่องเรือทำการค้าขายที่ดินแดนสุวรรณภูมิ เพื่อสะสมทุนรอนและกำลังพลเพื่อหวังที่จะชิงราชสมบัติคืนมาให้ได้ ระหว่างทางในมหาสมุทร พระมหาชนก ได้มองเห็นว่าจะเกิดพายุขึ้น แต่ไม่มีใครเชื่อจนกระทั่งพายุกระหน่ำเรืออย่างรุนแรง บรรดาลูกเรือทั้งหลายหวาดกลัวคร่ำครวญหนีตายกันอย่างโกลาหล ตรงกันข้ามกับ พระมหาชนก ที่ทรงตระหนักว่าเรือใกล้จะแตกเต็มที จึงเตรียมพระองค์โดยทรงเสวยให้อิ่ม และนำผ้าชุบน้ำมันมาพันกายให้แน่นหนา เมื่อเรือล่มเหล่าบรรดาลูกเรือที่ขาดสติและเดิมไม่เชื่อในสิ่งที่พระมหาชนกได้เตือนเกี่ยวกับพายุได้ตกน้ำกลายเป็นอาหารของฝูงปลาและสัตว์ทะเลทั้งหลาย ส่วน พระมหาชนก ก็ทรงแหวกว่ายด้วยความเพียรอยู่ในมหาสมุทรนี้เป็นเวลาถึง 7 วัน 7 คืน นางมณีเมขลา เทพธิดาผู้รักษาท้องมหาสมุทรเห็น พระมหาชนก ว่ายน้ำอยู่จึงลงมาช่วย พระมหาชนก และได้มีโอกาสสนทนาแลกเปลี่ยนความเห็น จนทำให้ นางมณีเมขลา เข้าใจถึงหลักปรัชญาของการบำเพ็ญวิริยบารมีของ พระมหาชนก จากนั้น นางมณีเมขลา จึงช่วยอุ้ม พระมหาชนก จนมาถึงฝั่งเมืองมิถิลา "องก์ ๓ ปัญญา" ที่เมืองมิถิลานี้ พระโปลชนก กำลังทรงพระประชวรอย่างหนักพระองค์ต้องการให้พระธิดาคือ พระนางสิวลีเทวี ได้ทรงมีคู่ครอง โดยได้ทรงตรัสทิ้งไว้ก่อนสิ้นพระชนม์ว่าผู้ใดไขปริศนาของพระองค์ได้จะทรงยกพระราชสมบัติทั้งหมดให้พร้อมด้วยพระราชธิดา เมื่อ พระโปลชนก สิ้นพระชนม์ลงเหล่าอำมาตย์ได้จัดพิธีเสี่ยงราชรถเพื่อหาผู้มีบุญญาบารมีมาไขปริศนานั้น ราชรถได้มาหยุดที่ พระมหาชนก ผู้ซึ่งทรงบรรทมอยู่ในสวนพระองค์ทรงไขปริศนาได้หมดทุกข้อ ทุกคนในเมืองมิถิลาต่างพากันสรรเสริญในพระปรีชาสามารถของพระองค์ จึงได้อัญเชิญพระองค์ให้ทรงอภิเษกกับ พระนางสิวลีเทวี เมื่อขึ้นครองราชย์ได้ทรงปกครองด้วยหลักทศพิธราชธรรมและนำพาความผาสุกมาสู่ปวงประชาชน วันหนึ่ง พระมหาชนก เสด็จประพาสอุทยานและทรงทอดพระเนตรเห็นต้นมะม่วงต้นหนึ่งมีผลงามและอีกต้นหนึ่งไม่มีผลเลย พระองค์ทรงเสวยมะม่วง และตรัสว่ามะม่วงรสชาติดีดุจรสทิพย์ หลังจากพระองค์เสด็จกลับบรรดาประชาชนทั้งหลายก็เข้ามาโค่นต้นมะม่วงต้นนั้นเพื่อหวังจะเอาผลของมันมาบริโภค จนเป็นเหตุทำให้ต้นมะม่วงต้นนั้นถูกถอนรากโค่นลงมา เมื่อ พระมหาชนก ทรงทราบความ ทรงเศร้าพระทัยอย่างยิ่ง พร้อมกันนั้นทรงได้เปรียบเปรยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแก่ต้นมะม่วงกับพระราชสมบัติดังนี้ ต้นมะม่วงที่มีผลอาจจะถูกทำลายหรือถ้าไม่ถูกทำลายก็ต้องคอยเป็นกังวลจักต้องดูแลระแวดระวังรักษาไว้ ในทางกลับกันพระองค์ทรงคิดว่าถ้าจะเข้าถึงความสุขได้นั้นจักต้องทำตัวให้เป็นเสมือนเช่นต้นมะม่วงที่ไม่มีผล ที่ไม่ต้องกังวลว่าผู้คนในสังคมที่ไม่รู้จักคิดการณ์ไกลในการทำนุบำรุงต้นไม้เพื่อเก็บผลไว้กินในวันหน้า จะมาโค่นต้นมะม่วงนี้ได้ หลังจากนั้นจึงมอบหมายให้ผู้เชี่ยวชาญนำหลักการของพระองค์ไปทดลองเพื่อฟื้นฟูต้นมะม่วงที่ถูกโค่นลงและหาวิธีการที่ทำให้ต้นมะม่วงที่ไร้ผลกลับมาเกิดผล พร้อมกันนั้นพระองค์ทรงมีพระราชดำริให้จัดตั้งสถาบันการศึกษาขึ้นชื่อว่าปูทะเลย์วิชชาลัย เพื่ออบรมวิชาการด้านต่าง ๆ แก่บรรดาเหล่าอำมาตย์ข้าราชการและประชาชนในเมืองมิถิลา เพื่อที่ทุกคนจะได้มีวิชาความรู้ทั่วไป และมีสามัญสำนึกไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวแฉกเช่นเหล่าคนที่ชอบกินผลมะม่วงแต่กลับทำลายต้นมะม่วงทิ้งไป และเพื่อสังคมจะได้เจริญรุ่งเรืองและอยู่กันอย่างผาสุกสืบต่อไปกาลนานเทอญ

ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๕ ยุทธหัตถี

ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๕ ยุทธหัตถี (2557/2014) ในปี พ.ศ. 2129 พระเจ้านันทบุเรง ทรงแค้นเคืองที่ต้องปราชั­ยต่อ สมเด็จพระนเรศฯ อย่างย่อยยับ ทั้งต้องเสียไพร่พลและพระสิริโฉม จึงระบายความแค้นนั้นไปที่องค์พระสุพรรณกั­ลยา เมื่อ สมเด็จพระมหาธรรมราชา พระราชบิดาทราบค­วามก็ให้โทมนัสด้วยสำนึกว่าชะตากรรมของพระ­ราชธิดาและแผ่นดินอยุธยาที่ถูกกระทำการย่ำ­ยีก็ด้วยเพราะพระองค์ทรงแปรพักตร์ไปเข้าข้­างศัตรู จนตรอมพระทัยเสด็จสวรรคต สมเด็จพระนเรศฯ ทรงมีพระชนมายุ 31 พรรษา จึงเสด็จขึ้นเสวยราชสมบัติค­รองกรุงศรีอยุธยาสืบต่อจากพระราชบิดา สมเด็จพระมหาธรรมราชา หรือ (สมเด็จพระสรรเพ็ชญ์ที่ 1) ข่าวการผลัดแผ่นดินของกรุงศรีอยุธยารู้ไปถึง พระเจ้านันทบุเรง แห่งกรุงหงสาวดี พระเจ้านันทบุเรง พระราชโอรสในพระเจ้าบุเรงนอง สำคัญว่าราชอาณาจักรสยาม หรืออาณาจักรอยุธยาจะไม่เป็นป­กติสุขเป็นช่องชวนชิงเชิง จึงโปรดให้พระราชบุตร พระมังสาม­เกียด หรือ(พระมังกะยอขวาที่ 1) พระมหาอุปราชเจ้าวังหน้ากรีฑาทัพไปตีกรุงศรีอยุธยาอีกคำรบ นำกองทัพทหาร 240,000 นาย (สองแสนสี่หมื่นนาย) มาตีกรุงศรีอยุธยาหมายจะชนะศึกในครั้งนี้ สมเด็จพระนเรศวร ทรงทราบว่า พม่ายกทัพใหญ่มาตี จึงทรงเตรียมไพร่พล มีกำลัง 100,000 นาย (หนึ่งแสนนาย) เดินทางออกจากบ้านป่าโมก อ่างทองไปสุพรรณบุรี ข้ามน้ำตรงท่าท้าวอู่ทอง ลพบุรี และตั้งค่ายหลวงบริเวณหนองสาหร่าย โดย สมเด็จพระนเรศวร โปรดให้ พระราชมนู แต่­งพลเป็นทัพหน้าขึ้นไปลองกำลังข้าศึกถึงหนอง­สาหร่าย ทัพหน้า พระราชมนู ปะทะเข้ากับทัพพม่าถึงขั้­นตะลุมบอน แต่กำลังข้าง พระราชมนู น้อยกว่าจึงแตกพ่ายถ­อยลงมาเป็นอลหม่าน สมเด็จพระนเรศฯ ทราบความจึงออกอุบายให้ทัพข้าศึกไล่เตลิดลงมาจนเสียกระบวนแล้วจึงทรงนำกำลังออกยอทัพข้าศึก ครั้งนั้นพระคชสารทรงของสมเด็จพระนเรศฯ นามเจ้าพระยาไชยานุภาพ และพระคชสารทรงของสมเด็จพระเอกาทศรถคือเจ้าพระ­ยาปราบไตรจักรต่างตกมัน วิ่งเตลิดแบกพลฝ่าเข้าไปในทัพพม่ารามัญกลางว­งล้อมข้าศึก และหยุดอยู่หน้าช้าง พระมังสามเกียดพระมหาอุปร­าชา พระองค์ทรงทอดพระเนตรเห็นพระมหาอุปราชาทรงพระคชสารอยู่ในร่มไม้กับเหล่าพระยาขุนศึก จึงทราบได้ว่าพระคชสารทรงของสองพระองค์หลงถลำเข้ามาถึงกลางกองทัพข้าศึก และตกอยู่ในวงล้อมข้าศึกแล้ว แต่ด้วยพระปฏิภาณไหวพริบของสมเด็จพระนเรศวร ทรงเห็นว่าเป็นการเสียเปรียบข้าศึกจึงไสช้างเข้าไปใกล้ แล้วตรัสถามด้วยคุ้นเคยมาก่อนแต่วัยเยาว์ว่า "พระเจ้าพี่เราจะยืนอยู่ใยในร่มไม้เล่า เชิญออกมาทำยุทธหัตถีด้วยกัน ให้สมพระเกียรติยศไว้ในแผ่นดินเถิด ภายหน้าไปไม่มีพระเจ้าแผ่นดินที่จะได้ยุทธหัตถีแล้ว" พระมังสามเกียดพระมหาอุปราชาได้ยินดังนั้น จึงไสพระคชสารนามว่า พลายพัทธกอเข้าชนเจ้าพระยาไชยานุภาพเสียหลัก พระมังสามเกียดพระมหาอุปราชาทรงฟันสมเด็จพระนเรศวรด้วยพระแสงของ้าว แต่ สมเด็จพระนเรศวร ทรงเบี่ยงหลบทัน จึงฟันถูกพระมาลาหนังขาด จากนั้น เจ้าพระยาไชยานุภาพชนพลายพัทธกอเสียหลัก สมเด็จพระนเรศวร ทรงฟันด้วยพระแสงของ้าวถูก พระมังสามเกียด พระมหาอุปราชา เข้าที่อังสะขวา สิ้นพระชนม์อยู่บนคอช้าง ส่วน สมเด็จพระเอกาทศรถ ทรงฟันเจ้าเมืองจาปะโรเสียชีวิตเช่นกัน พม่าจึงยกทัพกลับกรุงหงสาวดีไป นับแต่นั้นมาก็ไม่มีกองทัพใดกล้ายกมากล้ำกรายกรุงศรีอยุธยาอีกเป็นระยะเวลาอีกยาวนาน

ต้มยำกุ้ง 2 (2556)

ต้มยำกุ้ง 2 3D (2556/2013) เมื่อสาเหตุการฆาตกรรม เสี่ยสุชาติ เจ้าของปางช้างผู้กว้างขวาง คือการถูกกระแทกเข้าอย่างจังในจุดตาย 3 แห่งโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการต่อสู้ หลักฐานทั้งหมดบ่งชี้มัดตัว ไอ้ขาม เนื่องจากเขาเป็นคนสุดท้ายที่ถูกพบอยู่ในที่เกิดเหตุกับผู้ตาย ขามจึงต้องหลบหนีจากการจับกุมและการตามล่าเพื่อทวงแค้นจาก ปิงปิง-ซือซือ หลานสาวฝาแฝดของเสี่ยสุชาติ แต่โชคยังเข้าข้างเมื่อระหว่างการหลบหนี ขามได้รับการช่วยเหลือจาก จ่ามาร์ค ตำรวจสากลที่ถูกส่งมาจากซิดนีย์เพื่อจัดการภารกิจบางอย่าง ขามหนีการตามล่าพร้อมกับการตามหา ขอน ช้างตัวเดียวที่เป็นเสมือนทั้งเพื่อนและพี่น้องที่ถูกขโมยไปเมื่อหลายวันก่อน ยิ่งหนีขามก็ยิ่งต้องเข้าไปพัวพันกับองค์กรลึกลับที่ถูกควบคุมโดย แอล ซี นายใหญ่ผู้คลั่งไคล้การสะสมนักสู้จากทั่วโลกอย่างลับๆ ทำให้เหล่านักสู้ที่ถูกตีตราด้วยตัวเลข ไม่ว่าจะเป็น ทเวนตี้ หรือ Number 2 ล้วนแต่มีเป้าหมายอยู่ที่การจัดการไอ้ขามเพื่อวัตถุประสงค์บางอย่างของนายใหญ่

หน้าที่