แสงดาวแห่งหัวใจ 2550

แสงดาวแห่งหัวใจ (2550/2007) แสงดาวแห่งหัวใจ เป็นเรื่องราวของ ธาม พนักงานธนาคารสหัสวรรษ หนุ่มอ่อนโยนอารมณ์ดีมีชีวิตเรียบง่ายเคยชินกับความจำเจไม่กล้าตัดสินใจ ลังเลขาดความเชื่อมั่น ธามแอบมอง นภสร หญิงสาวลูกคนเล็กเจ้าของธนาคารเหมือนหมามองเครื่องบินไม่กล้าเผลอใจไปเด็ดดอกฟ้า ต่างจาก ชนะพล เพื่อนร่วมรุ่นที่ประกาศตัวตั้งแต่ต้นว่าจะพิชิตใจนภสรทำให้เธอยอมรับเขาเป็นคู่รักให้ได้ ชนะพลหาโอกาสใกล้ชิดกับนภสรทุกครั้งที่มีโอกาส ทำให้ธามมองชนะพลด้วยสายตาอิจฉาทุกครั้ง ธามเป็นเด็กกำพร้า พ่อแม่ถูกโจรฆ่าตายต่อหน้าต่อตาตั้งแต่ยังเด็ก มีชีวิตอยู่ท่ามกลางความหวาดผวาและหวาดกลัว ธามอาศัยอยู่กับ ลุงนพ เพื่อนสนิทคนเดียวของพ่อที่เอามาเลี้ยงตั้งแต่เด็ก ลุงนพพยายามปลูกฝังความเชื่อมั่นและกล้าหาญให้ธามแต่ไม่เป็นผล อาจเป็นเพราะปมความหวาดกลัวที่เห็นพ่อแม่เสียชีวิตต่อหน้าต่อตาก็เป็นได้ ช่วงระยะ 2-3 ปีหลัง ธามซึ่งร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงอยู่แล้ว มีเรื่องแปลก ๆ เกิดขึ้นกับตัวเองอย่างคิดไม่ถึง เขามักปวดหัวจี๊ดๆ บ่อยครั้ง แต่ร่างกายธามกลับมีพลังพิเศษตอบสนองอาการปวดหัวนั้นอย่างผิดมนุษย์ เช่นหลายอาทิตย์ก่อน…ภายหลังอาการปวดหัวจู่ ๆ เขาก็มีอำนาจจิตดึงข้าวของใกล้ตัวได้ด้วยวิธีง่าย ๆ แค่จ้องเขม็งไปที่สิ่งของเหล่านั้น วันต่อมา…หลังปวดหัวเล็กน้อย ธามกลับมีกำลังมาจากไหนไม่รู้ ทำให้ทำงานบ้านได้เป็นชั่วโมง ๆ โดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย หนำซ้ำยังรวดเร็วผิดปกติซะอีก อีกวันหนึ่งต่อมา…ธามเกิดอาการแปลกประหลาดอยู่ยงคงกระพันขึ้นมากะทันหัน เผลอทำมีดปาดมือแต่กลับไม่มีแผลเลือดออกเลยสักนิด แต่ความสามารถพิเศษเหล่านี้มาไม่นาน เหมือนกับอาการปวดหัวของธามที่มาเยือน เมื่อธามเล่าเรื่องราวเหล่านี้ให้เพื่อน ๆ ฟังจึงไม่มีใครเชื่อ หนำซ้ำยังทำให้ความมั่นใจในตัวเองของเขาเสื่อมถอยลงไปอีก เพราะเริ่มคิดว่าตัวเองบ้าเหมือนที่คนอื่นคิดแล้ว ยิ่งสะสมความไม่มั่นใจในตัวเองมากขึ้นเท่าไหร่ ชีวิตของธามยิ่งแย่ลงไปเรื่อย ๆ ธามปล่อยให้โอกาสดีในชีวิตลอยผ่านไปอยู่เสมอ อย่างน้อยก็สองครั้ง… ครั้งหนึ่งธามกับ วินธุ เพื่อนซึ่งรักในเสียงเพลงเหมือน ๆ กัน ต่างกันที่หลายคนบอกว่าธามร้องและแต่งเพลงดีกว่าวินธุเสียอีก วันหนึ่งวินธุชวนธามเข้าสมัครประกวดร้องเพลงชิงแชมป์ประเทศไทย แต่ด้วยความไม่มั่นใจธามกลับปฏิเสธและปล่อยให้วินธุไขว่คว้าความฝันนั้น ไม่นานวินธุกลายเป็นซูเปอร์สตาร์นักร้องดังชื่อก้องของเมืองไทย ในขณะที่ธามยังคงเป็นพนักงานธนาคารนั่งอยู่ที่หน้าเคาน์เตอร์เช่นเดิม ครั้งที่สองเมื่อธนาคารเปิดโอกาสให้พนักงานสอบแข่งขันชิงตำแหน่งผู้บริหารใหม่ ธามเป็นทั้งคนเก่งและคนดีเพื่อนร่วมงานยกให้เป็นตัวเก็งที่จะชนะเลิศ แต่เพราะความไม่มั่นใจในตัวเอง ธามสละโอกาสนั้นให้ชนะพลเหยียบหัวเพื่อนร่วมงานทุกคนไต่เต้าไปสู่ความสำเร็จ หลังจากนั้นไม่นานสาขาของธนาคารสหัสวรรษถูกโจรปล้น และจำเพาะเจาะจงมาปล้นวันที่นภสรพาพนักงานรวมทั้งธามไปเยี่ยมชมกิจการ นภสรถูกจับเป็นตัวประกันเป็นลมล้มพับไปตรงนั้น ส่วนธามจะด้วยเพราะตื่นเต้นหรือตื่นกลัวก็ไม่ทราบได้ เขาปวดหัวรุนแรงมากกว่าทุกครั้ง…หลังจากปวดหัวธามเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เขามีความรวดเร็วและมีเรี่ยวแรงพลังดุจช้างสาร ช่วยนภสรรอดจากอันตรายและเล่นงานโจรจนสลบเหมือด แต่หลังจากนั้นตัวเองกลับเป็นลมล้มตึงหมดเรี่ยวแรงไปเสียเฉย ๆ นภสรจึงไม่เห็นความดีในครั้งนี้ของเขา ไม่รู้ว่าเขาเป็นคนช่วยเธอ ซึ่งสร้างความไม่มั่นใจในตัวเองให้กับธามอีกเป็นทวีคูณ ด้วยตำแหน่งใหม่ชนะพลสามารถเอาชนะใจนภสร เธอเปิดโอกาสให้เขาใกล้ชิดมากกว่าเดิมจนเป็นเหมือนว่าที่แฟนหนุ่มคนหนึ่ง นภสรเป็นสาวเชื่อมั่นในตัวเองมีความรู้บริหารงานคล่องแคล่ว เป็นที่รักของพี่ชายคนโตคือ ดิตถ์ และ กณิศ พี่ชายคนรองเป็นอย่างยิ่ง เธอคือนางในฝันของหนุ่มหลายคน ธามได้แต่เฝ้ามองชีวิตคู่รักสดชื่นสวยงามเหมือนโรยด้วยกลีบกุหลาบระหว่าง ชนะพล กับ นภสร ด้วยแววตาแสนเศร้าและรันทดใจ แล้วเคราะห์กรรมก็กระหน่ำเข้าใส่ชีวิตธาม เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วประเทศ ธนาคารสหัสวรรษขาดทุนอย่างหนัก ดิตถ์ ประธานธนาคารฯ หมดทางแก้ไขปัญหาฆ่าตัวตาย กณิศและนภสรต้องเรียกประชุมผู้บริหารเพื่อแก้ไขปัญหา ทางออกเดียวที่ทำได้คือต้องเลย์ออฟพนักงาน ชนะพลพิจารณารายชื่อพนักงานที่ต้องโดนเลย์ออฟด้วยตัวเอง เดาได้ไม่ยากว่าพนักงานคนแรกที่จะต้องถูกชนะพลกาชื่อพิจารณาให้ออกจากงานก็คือ ธาม พนักงานที่ทำงานมานานแต่อยู่ในตำแหน่งเดิม ๆ โดยตลอด เพราะไม่มีความเชื่อมั่นและไม่กล้าตัดสินใจในทุกเรื่อง “งาน” สิ่งเดียวที่ยืนยันความมีค่าในการมีชีวิตอยู่ของธามต้องสูญสิ้น ธามขอร้องชนะพลแต่ไม่เป็นผล ชนะพลไม่มีวันยอมอ่อนข้อให้กับอดีตคู่แข่งเป็นอันขาด เขายืนยันคำพูดเดียวคือธามจะต้องออกจากธนาคารไปเพื่อความอยู่รอดของธุรกิจ หนำซ้ำเมื่อกลับมาบ้านธามต้องทุกข์แสนสาหัส เมื่อญาติคนเดียวอย่างลุงนพถูกขี้ยาเมายาบ้าฆ่าตาย เพราะลุงนพเอาตัวเข้าแลกกับเด็กที่ถูกจับเป็นตัวประกัน ที่จะถูกปาดคอ ธามร้องไห้ปิ่มว่าจะขาดใจ ปวดหัวอย่างรุนแรงเป็นลมล้มคว่ำหมดสติไปคาบ้าน เมื่อฟื้นตื่นขึ้นมาธามต้องพบความจริงที่เจ็บปวด หมอวินิจฉัยว่าธามมีเนื้องอกประหลาดในสมองเหลือเวลาอยู่บนโลกอีกไม่นาน เป็นเนื้องอกที่ขึ้น ณ จุดสำคัญที่สุดอาจทำให้ร่างกายหลั่ง “อาดรินาลีน” มากหรือน้อยกว่าปกติ ซึ่งยังไม่มีใครทราบผลของอาการนี้… ธามสิ้นหวังทุกสิ่งในชีวิตจบสิ้น ด้วยความเสียใจทำให้เขาคิดสั้นวางแผนจบชีวิตอย่างรอบคอบรัดกุม แต่มีอันต้องคลาดแคล้วความตายไปได้ทุกหน ครั้งแรกเมื่อเขาโดดลงมาจากยอดตึกระฟ้า ร่างกระทบกับคอนกรีตด้านล่าง แต่ร่างกายกลับไม่เจ็บปวด เลือดที่ไหลออกมาจากร่างหยุดไหลอย่างรวดเร็ว ร่างกายสามารถรักษาตัวเองกลับเป็นปกติราวปาฏิหาริย์ ครั้งต่อมา…ธามตัดสินใจวิ่งออกไปกลางถนนตั้งใจจะให้รถเทรเลอร์คันใหญ่บดขยี้ให้ร่างแหลกเหลว แต่สิ่งที่แหลกกลับเป็นรถเทรเลอร์ที่พุ่งเข้ามาชน ธามมีร่างกายแข็งแรงขึ้นอย่างมหัศจรรย์ อีกครั้ง…ธามจะไปซื้อปืนมายิงหัวตัวเอง ร้านปืนที่จะไปซื้อกลับโดนโจรปล้น ตำรวจมาปิดล้อมเต็มไปหมด ธามตั้งใจสละชีวิตต่อสู้กับโจรด้วยมือเปล่าจะได้ตายสมใจ แต่เขากลับพบความสามารถพิเศษอีกอย่าง นั่นคือสามารถต่อสู้กับโจรด้วยมือเปล่าด้วยความเฉียบขาดและรุนแรง ปราบโจรนับสิบได้อย่างง่ายดาย ครั้งนี้นอกจากจะตายไม่สำเร็จแล้วธามยังสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองในฐานะคนดีของสังคม หากแต่ทุกครั้งหลังจากร่างกายธามหลั่งสารพิเศษออกมา เขาจะปวดหัวหนักอ่อนเพลียรุนแรงถึงขั้นยืนไม่อยู่ ต้องนอนนิ่ง ๆ พักให้ร่างกายรักษาตัวเองสักระยะหนึ่งจึงจะกลับมาดำรงชีวิตได้เหมือนคนธรรมดาทั่วไป ธามเบื่อหน่ายกับชะตากรรมที่เล่นตลกกับชีวิตตัวเอง จะตายก็ไม่ได้…ครั้นมีชีวิตอยู่ก็ไร้คุณค่า เย็นวันหนึ่งขณะที่เขาเดินอยู่กลางสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาสูงลิบ ตั้งใจจะจบชีวิต ณ ก้นบึ้งของสายน้ำเบื้องล่าง ยืนเก้ ๆ กัง ๆ นิ่งอยู่นานนับชั่วโมง…ฉับพลันมีรถตู้คันหนึ่งแล่นปราดเข้ามาจอดที่กลางสะพาน ประตูรถตู้เปิดออก ชายลึกลับโยนร่างเด็กชายอายุ 10 ขวบ ลอยร่วงลงสู่พื้นน้ำเบื้องล่าง ธามกลายเป็นฮีโร่จำเป็นอีกครั้ง เขาโดดลงไปช่วยเด็กชายขึ้นมาจากน้ำเด็กชาย แนะนำตัวว่าเขาชื่อ ต้นไม้ ถูกจับมาจากโรงเรียนเพื่อเอามาฆ่า บนรถตู้เขาได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับการแย่งชิงสมบัติของครอบครัว แต่จิตใจของธามยามนี้ไม่มีจะจิตจะใจอยากรับรู้เรื่องอะไรได้แต่พยักหน้า ตั้งใจจะเอาเด็กคนนี้ไปส่งบ้านให้เร็วที่สุด เพื่อจะปฏิบัติภารกิจฆ่าตัวตายให้สัมฤทธิ์ผลเสียที ต้นไม้อ้างว่าไม่อยากกลับไปตายที่บ้าน ทั้งบ่ายเบี่ยง ทั้งวิ่งหนี กระทำตัวน่ารำคาญให้ธามที่เหนื่อยจากการออกแรงมาก ยังต้องเหนื่อยหอบปวดหัวมากกว่าเดิม ธามกัดฟันไล่ตามต้นไม้จนทัน จับมาจ้องหน้าดุ เข้าใส่ด้วยแววตาเหี้ยมเกรียมที่สุดในชีวิตเท่าที่คนเคยอารมณ์ดีอย่างเขาจะทำได้ ทันทีที่จ้องไปยังใบหน้าเด็กชายต้นไม้ ธามถึงกับอึ้งไปชั่วขณะจำได้ทันทีว่าเด็กคนนี้คือทายาทคนเดียวของ ดิตถ์ เจ้าของธนาคารที่เพิ่งฆ่าตัวตาย ต้นไม้เป็นหลานชายแท้ ๆ ของนภสรนางในฝันของเขานั่นเอง เมื่อพักตัวเองหนึ่งคืนจนหายเป็นปกติแล้ว ธามรีบพาต้นไม้ไปส่งบ้านโดยไม่ฟังคำขอร้องใด ๆ เมื่อมาถึงธามต้องปะทะคารมกับนภสรอย่างรุนแรง นภสรคิดว่าพนักงานแบงก์ที่โดนเลย์ออฟจับหลานชายไปเรียกค่าไถ่ กว่าจะเจรจาความกันจนรู้เรื่องก็สร้างความเหนื่อยอ่อนแกมโกลาหลให้กับทั้งเขาและเธอ ธามออกมาจากบ้านหลังนั้นด้วยความน้อยใจนางในฝันที่ด่าว่าอย่างสาดเสียเทเสีย โดยไม่รู้เลยว่ากำลังปล่อยให้นภสรกับต้นไม้ต้องเผชิญกับเพชฌฆาตที่กำลังปิดล้อมบ้านหลังนั้นอยู่ ขณะที่นภสรกำลังไต่ถามเรื่องราวทั้งหมดจากต้นไม้ เสียงปืนกระหน่ำยิงดังลั่น ชายฉกรรจ์หลายสิบคนถล่มคฤหาสน์หวังให้นภสรกับต้นไม้ตายคาที่ ร้อนถึงธามที่ได้ยินเสียงต่อสู้กันภายในบ้านต้องรุดเข้าไปใช้ความสามารถพิเศษของตัวเองอีกครั้ง ธามต่อสู้กับเหล่าร้ายได้อย่างรุนแรงเร้าใจและน่ามหัศจรรย์ในความสามารถพิเศษ ธามสามารถช่วยชีวิตนภสรกับต้นไม้ รอด ได้ด้วยปาฏิหาริย์ส่วนตัวที่มาพร้อมกับอาการเจ็บป่วยในสมอง แต่เช่นเดียวกับทุกครั้ง เมื่อกำจัดเหล่าร้ายหมดสิ้นแล้วธามกลับปวดหัวล้มทั้งยืน หมดสติ นภสรกับต้นไม้ต้องพาธามไปส่งบ้านเพื่อให้พักรักษาตัว ขณะกำลังจะเดินทางกลับมาที่คฤหาสน์ นภสรจะโทรบอกกณิศที่ยังไม่กลับบ้าน แต่ต้นไม้รีบร้องห้ามบอกว่าคนน่าสงสัยที่สุดคืออากณิศ เพราะก่อนตายดิตถ์ผู้เป็นพ่อบ่นบ่อย ๆ ว่ากณิศเปลี่ยนไปแล้ว ตั้งแต่กณิศพบรักกับผู้ช่วยสาวสวยของเขา ตรีนุช กณิศก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน มักจะทะเลาะเบาะแว้งกับครอบครัวอยู่เสมอ และคิดฟังความเห็นแต่เพียงตรีนุชคนเดียว ทั้งสองโซซัดโซเซจะไปแจ้งตำรวจ แต่พอไปถึงหน้าสถานีตำรวจสายตาของต้นไม้ไปปะทะกับ พบธรรม นายตำรวจหนุ่มคนหนึ่งเข้าอย่างจัง พบธรรมกำลังสั่งงานชิ้นสำคัญกับลูกน้องคนสนิท เจษ และ พล อดีตตำรวจรับหน้าที่สายคนสำคัญ ทำหน้าที่แทนเขาในทุก ๆ เรื่อง ต้นไม้รีบดึงนภสรออกมาแทบไม่ทันเพราะ เจษ และ พล เป็นคนไปรับต้นไม้ที่โรงเรียน และโยนร่างเด็กน้อยออกจากรถตู้ลงน้ำด้วยตัวเอง นภสรมึนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตัดสินใจโทรตามชนะพลคนรักให้มารับเธอกับหลานที่ตู้โทรศัพท์เปลี่ยวแห่งหนึ่ง ด้วยความเหนื่อยอ่อนเธอเอาตัวต้นไม้ไปนั่งพักที่ศาลาริมทาง เพียงเวลาไม่กี่นาทีนภสรก็แทบเป็นลมล้มครืนกับภาพที่ปรากฏต่อสายตา คู่รักคู่หนึ่งเดินเข้าไปในตู้โทรศัพท์ตู้นั้นแทนที่เธอกับต้นไม้ ขณะกำลังพูดโทรศัพท์อยู่นั้นเองรถปิ๊คอัพลึกลับตรงเข้ามากระหน่ำ ยิงร่างทั้งสองพรุนไปทั่วร่างสิ้นใจตายคาที่แล้วหนีไป เด็กชายต้นไม้กับนภสรหมดทางเลือกในชีวิต นภสรเข้าใจว่าต้องมีคนดักฟังโทรศัพท์บ้านของชนะพลแน่ ๆ สองอาหลานเลยต้องหาที่พึ่งใหม่เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง คนเดียวที่ต้นไม้คิดออกขณะนี้คือฮีโร่ในดวงใจ ธาม อดีตหนุ่มแบงก์นั่นเอง ธามฟื้นคืนสติมาในบ้านของตัวเอง ยังคงแปลกใจกับความสามารถพิเศษที่เกิดขึ้นก่อนวาระสุดท้ายของชีวิตจะมาถึง นภสรกับต้นไม้โผล่พรวดเข้ามาในห้องขอให้เขาช่วยเหลือเธอกับหลาน ธามโวยวายกับนภสรอย่างคนสิ้นหวัง เธอจะมาหวังพึ่งอะไรกับคนใกล้ตายอย่างเขา นภสรทนเห็นความอ่อนแอไม่ได้ต้องต่อปากต่อคำกับธามไปบ้าง บรรยากาศภายในห้องโกลาหลเพราะผู้ใหญ่สองคนต่อล้อต่อเถียงกันไปมา ต้นไม้กลุ้มนึกในใจว่าผู้ใหญ่บางครั้งก็ทำตัวยิ่งกว่าเด็กซะอีก เสี้ยวนาทีทันใดนั้นเอง…ธามมองลงไปที่ด้านล่างของบ้านเห็นเจษกับพลนำผู้ชายท่าทางน่ากลัวหลายคนกำลังปิดล้อม สงครามปากระหว่างนภสรกับธามจำต้องสงบลงชั่วคราว ธามใช้อิทธิฤทธิ์ที่มาทุกครั้งยามฉุกเฉิน ต่อสู้กับเหล่าร้ายพาสองอาหลานจอมยุ่งหนีออกไปได้อย่างหวุดหวิดชนิดเส้นยาแดงผ่าแปด เกือบเสียท่าเหล่าร้ายหน้าเหี้ยมทั้งหลาย จากคนไร้ความหมายและแก่นสารต้องการจบชีวิตตัวเอง นายธามต้องกลายเป็นบอดี้การ์ดให้นางในดวงใจกับเด็กชายวัยสิบขวบโดยไม่ตั้งใจ เฮ้อ…เขาจะทำยังไงต่อไป ในเมื่อความสามารถพิเศษที่เกิดขึ้นนี้มาพร้อมกับโรคร้าย โรคร้ายที่เป็นมัจจุราชพร้อมปลิดชีวิตเขาทุกเมื่อ หากอาการปวดหัวอย่างรุนแรงเกิดขึ้นขณะต่อสู้กับเหล่าร้าย เขาจะทำยังไง ต้นไม้หิวข้าวแสบท้องจนทนไม่ไหว ประกอบกับธามก็มีอ่อนเพลียจนแทบหมดสติ ร้อนถึงนภสรต้องพาทั้งคู่ไปหาข้าวทานในฟาสฟู๊ตห้างสรรพสินค้าพร้อมกับปรึกษาหาทางหนี นภสรสงสัยกณิศพี่ชายมากที่สุด เพราะได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการมรดกของดิตถ์ ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านั้นดิตถ์เคยบอกว่าจะแต่งตั้งให้เธอเป็นผู้จัดการร่วม ประกอบกับการตายของดิตถ์มีเงื่อนงำ ธนาคารมีทางออกในการแก้ปัญหาแล้วโดยต่างชาติยินดีเข้ามาร่วมถือหุ้น พิธีลงนามการเป็นเจ้าของร่วมระหว่างกณิศกับต่างชาติจะมีขึ้นในเดือนหน้า ขณะที่ทั้งสามคนกำลังคุยอยู่ที่หน้าร้านขายเครื่องไฟฟ้าในห้างฯ นั้นเอง จอโทรทัศน์หลายสิบจอเบื้องหลังเสนอข่าวด่วน เห็นหน้าคนทั้งสามเต็มพรืดไปหมด พบธรรมนายตำรวจมือปราบกำลังให้สัมภาษณ์นักข่าว ระบุว่าเขาสืบพบธามร่วมมือกับนภสรฉ้อโกงธนาคารสหัสวรรษ รวมทั้งมีส่วนเกี่ยวพันกับการฆ่าตัวตายแบบมีเงื่อนงำของดิตถ์ คนในห้างสรรพสินค้าต่างหันขวับมามองธามกับนภสรเป็นตาเดียวกัน ธามรีบกระชากนภสรกับต้นไม้เดินออกมาทันทีหวังจะหนีออกไปให้พ้น แต่ก็ช้าไปแล้วเพราะมีคนแจ้งตำรวจ ศูนย์การค้าถูกปิดล้อมอย่างรวดเร็วดูเหมือนจะสิ้นหนทางสำหรับพวกเขาแล้ว ธามรีบพานภสรกับต้นไม้หลบเข้าไปที่คอนเวนชั่นฮอลล์ห้างสรรพสินค้าซึ่งมีการแสดงคอนเสิร์ตของ วินธุ นักร้องซูเปอร์สตาร์ของเมืองไทย แต่แล้วจะด้วยความเฮงหรือเฮงซวยก็ไม่ทราบได้ กล้องวิดีโอวงจรปิดจับภาพ กลุ่มคนดูเห็นหน้าธามอย่างชัดเจน วินธุซึ่งไม่รู้เรื่องประกาศเชิญเพื่อนรักขึ้นมาร่วมร้องเพลงร่วมกันเพื่อรำลึกความหลัง ธามสุดจะขัดขืนฝูงชนที่เบียดเสียด ร้องกรี๊ด ๆ ดันให้ขึ้นไปร่วมร้องเพลงบนเวที ขณะที่ธามปากสั่นเสียงหลงร้องเพลงอยู่นั้นเอง พบธรรมนำกำลังตำรวจมาปิดล้อมฮอลล์ไว้ ยิ้มรอเวลาที่ธามจะลงมาจากเวทีให้จับกุมโดยไม่มีทางขัดขืน แต่แล้วสมองธามบังเกิดความคิดโลดแล่น เขาประกาศใส่ไมโครโฟนว่ามีการวางระเบิดหอประชุมแห่งนี้ ผู้ชมแตกตื่นลุกฮือวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต ธามกระโดดลงจากเวทีคว้ามือนภสรกับต้นไม้หนี แฝงตัวหนีออกไปกับผู้คนได้อย่างหวุดหวิด… ธามตัดสินใจพานภสรและเด็กชายต้นไม้ไปหลบภัยอยู่ที่เกาะคราม รีสอร์ทส่วนตัวสมบัติเก่าของวินธุซึ่งห่างไกลผู้คน วินธุเพื่อนรักมั่นใจว่าธามไม่ใช่คนเลวอย่างที่หลายคนคิดจึงเขียนจดหมายแนะนำตัวธามไปกับ ลุงสิงห์ ผู้จัดการเกาะครามซึ่งเป็นคนดูแลกิจการรีสอร์ทเล็ก ๆ ทั้งหมดแทนวินธุ สมาชิกของเกาะครามประกอบไปด้วยลุงสิงห์ผู้จัดการฯ ป้าผุดผาด แม่ครัวประจำรีสอร์ท นวลฉวี สาวไฮเปอร์หลานสาวแท้ ๆ ของลุงสิงห์ รวมไปถึงเจ้าปุ๊ก กับเจ้าปิ๊ก สองหนุ่มสาวชาวบ้านที่เข้ามารับทำงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ภายในรีสอร์ท ซึ่งตอนนี้ไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยวทำให้การกบดานอยู่ที่นี่ของธามกับนภสรสามารถทำได้โดยไม่เป็นที่สงสัย ที่รีสอร์ท ธามตั้งใจจะบอกความจริงเกี่ยวกับความสามารถพิเศษที่มาพร้อมกับความตายให้นภสรรับรู้ แต่ไม่ได้จังหวะสักครั้งมักจะถูกขัดขวางโดยต้นไม้บ้าง เหล่าสมุนของป้าผุดผาดบ้าง นภสรจึงไม่รู้ว่าวาระสุดท้ายของชีวิตธามใกล้เข้ามาทุกที แรกทีเดียวสมาชิกเกาะคิดว่าธามกับนภสรเป็นสามีภรรยากัน โดยมีลูกชายคือต้นไม้ พวกเขาจัดให้พักอยูในเรือนรับรองและนอนห้องเดียวกัน ยังความโกลาหลและขวยเขินให้กับนภสรเป็นอย่างยิ่ง ธามเองก็เกิดความรู้สึกแปลก ๆ เพราะคราวนี้เป็นครั้งแรกที่มีโอกาสใกล้ชิดผู้หญิงคนที่แอบชอบมานาน ถึงแม้ว่ามันจะเป็นความสุขชั่วครู่…รอวันลาจากเพราะโรคร้าย แต่มันก็เป็นความสุขใจ เกาะครามเป็นรีสอร์ทที่มีกิจกรรมผจญภัยทางน้ำต่างๆ มากมายให้กับคนมาพัก และด้วยความสามารถพิเศษของธามซึ่งมีเรี่ยวแรงมากกว่าปกติ มีความเร็วมากกว่ามนุษย์ธรรมดา ทำให้กิจกรรมความบันเทิงภายในรีสอร์ทสนุกสนานมากกว่าเดิม ประกอบกับความอารมณ์ดีของธามยิ่งทำให้หลายคนยิ้มได้ รวมทั้งนภสร…จนเวลานี้เกิดดอกรักบานขึ้นภายในใจเธอโดยไม่รู้ตัว ที่รีสอร์ทนั้นเองที่ธามกับนภสรได้มีโอกาสเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ธามเองตระหนักว่าตัวเองมีคุณค่ากับผู้คนรอบข้างได้เสมอถ้ารู้จักคุณค่าของตัวเอง ธามสนิทสนมกับลุงสิงห์ ป้าผุดผาด และ นวลฉวี ต้นไม้เหมือนมีธามเป็นฮีโร่ในดวงใจ นภสรเฝ้ามองธามอย่างชื่นชม เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขชัดเจนสำหรับชีวิตคนทั้งสาม ดูเหมือนธามผู้มีชีวิตธรรมดาสามัญในเมืองหลวงกลับกลายเป็นคนมีค่าสำหรับคนท้องถิ่น ก่อนที่ทุกอย่างจะลงเอยด้วยดี พบธรรมสืบทราบว่าทั้งสามคนหนีไปกบดานที่เกาะคราม เขาส่งทั้งตำรวจ และพลกับเจษออกตามล่าคนทั้งสามอย่างหัวซุกหัวซุน ทั้งสามไม่มีทางออกนอกจากต้องต่อสู้แบบสุดฤทธิ์กับทั้งตำรวจและโจรชั่ว ธามใช้ความสามารถพิเศษที่ออกมาช่วยเขาทุกครั้งยามฉุกเฉิน ต่อสู้กับทั้งเหล่าร้ายและตำรวจจนเกือบจะรอดพ้นเงื้อมือพวกมัน แต่แล้ว…นี่เป็นครั้งแรกที่อาการปวดหัวอย่างรุนแรงของธามเกิดขึ้นในขณะต่อสู้กับเหล่าร้ายเพื่อช่วยเหลือนภสรกับต้นไม้ ธามหมดสติล้มคว่ำหมดแรงไปเสียเฉย ๆ ทำให้พบธรรมจับกุมกับนภสรกับต้นไม้ไปได้ต่อหน้าต่อตา โดยเขาช่วยเหลืออะไรไม่ได้เลย ธามซมซานไปขอความช่วยเหลือจากชาวเกาะคราม ในที่สุดจากการช่วยเหลือของ ลุงสิงห์ ป้าผุดผาด นวลฉวี ปุ๊ก กับ ปิ๊ก ทำให้ธามชิงตัว และพานภสรกับต้นไม้ฝ่าวงล้อมของเหล่าร้ายกับตำรวจออกมาได้โดยเหล่าวายร้ายต้องพบกับความสูญเสียไม่น้อย ธามบอกความจริงให้นภสรรู้ว่าเขาอาจจะมีชีวิตเหลืออยู่บนโลกอีกไม่นาน เพราะฉะนั้นจึงจำเป็นต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อนำตัวคนผิดมาลงโทษ พิสูจน์ให้เห็นความสุจริตของนภสรว่าไม่ได้เป็นอย่างที่พบธรรมกล่าวหา เด็กชายต้นไม้เกิดความคิดบางอย่าง เขาจำได้ว่าเคยเล่นกล้องดิจิตอลแบบแอบถ่ายกับดิตถ์ในบ้าน ทั้งคู่ซ่อนกล้องไว้ในห้องทำงานเพื่อเล่นเกมนักสืบโดยไม่เฉลียวใจเลยว่าในคืนวันนั้นเองที่ดิตถ์จะฆ่าตัวตาย ในเมื่อทุกคนลงความเห็นว่าดิตถ์ไม่ได้ฆ่าตัวตาย กล้องดิจิตอลต้องถ่ายให้เห็นโฉมหน้าคนร้ายที่แท้จริง นภสรตัดสินใจจะบุกเข้าไปในคฤหาสน์เพื่อไปเอาหลักฐานนี้มาด้วยตัวเอง ทั้งสามคนแอบเข้าไปในคฤหาสน์ของดิตถ์ได้อย่างเงียบเชียบ ต้นไม้ไปยังบริเวณที่ซ่อนกล้องดิจิตอลไว้กำลังจะเปิดดูหลักฐานทั้งหมด ทันใดนั้นกณิศก็เดินเข้ามาในห้อง ความจริงเขาเห็นคนทั้งสามตั้งแต่ก่อนเข้ามาในบ้าน รอเพียงให้ธามพานภสรและต้นไม้มาติดกับเท่านั้น ขณะนี้เขาโทรแจ้งพบธรรมให้มาจับทุกคนไปรับโทษที่ก่อไว้แล้ว กณิศด่าว่านภสรต่างๆ นานา หาว่าเป็นคนโลภหวังทรัพย์สินเงินทอง โดยลืมความถูกต้องฆ่าได้แม้กระทั่งพี่ชายตัวเอง ในขณะที่นภสรก็ประณามว่ากณิศต่างหากที่เป็นฆาตกร ขณะที่ทั้งคู่กำลังปะทะคารมกันอยู่นั้นเองความจริงก็ปรากฏต่อสายตา ภาพในกล้องดิจิตอลเห็นชัดเจนว่าใครเป็นคนทำ… ภาพที่ต้นไม้ฉายออกมาในจอ ดิตถ์กำลังเปลี่ยนแปลงข้อความในพินัยกรรมเพื่อประโยชน์ของธนาคาร ชนะพลเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับพบธรรมตำรวจกังฉินเพื่อนของเขา เมื่อดิตถ์เห็นหน้าชนะพลก็ด่าทอบอกว่าจะไล่ออก เพราะจับได้เรื่องที่ชนะพลร่วมกับตรีนุชใช้อำนาจบริหารโกงธนาคารวางแผนกับต่างชาติจะเทคโอเวอร์ เป็นคู่รักกับนภสรก็เพื่อผลประโยชน์ไม่ได้รักกับน้องสาวเขาจริง ๆ ชนะพลหัวเราะเหี้ยมร่วมมือกับพบธรรมฆ่าดิตถ์ตายอย่างเลือดเย็นในห้องทำงาน แล้วจัดฉากทำให้เหมือนเป็นการฆ่าตัวตายเพื่อหนีปัญหา ชนะพลวางแผนต่อไปจะกำจัดทายาทโดยตรงของดิตถ์และผู้บริหารของธนาคาร ที่เหลืออยู่คือ นภสร และ กณิศ เพื่อทำให้ตัวเองมีอำนาจเบ็ดเสร็จในการเจรจากับต่างชาติแต่เพียงผู้เดียว ทุกคนในห้องตกตะลึงเมื่อเห็นหลักฐานชิ้นนี้ ชนะพลกับพบธรรมปรากฏตัวขึ้นในห้องทำงาน ยินดีที่ทุกคนอยู่กันพร้อมหน้า แผนการของเขาจะได้สัมฤทธิ์ผล เขาจะฆ่าทุกคน แล้วโยนความผิดว่าธามกับนภสรเข้ามาในบ้านเพื่อลอบทำร้ายกณิศแต่กณิศต่อสู้ขัดขืนจนในที่สุดต้องตายไปพร้อมกัน แต่ก่อนที่ทุกอย่างจะเลวร้ายลงไป ธามตัดสินใจเด็ดขาดกระโดดเข้าแย่งปืนจากชนะพลกับพบธรรม ใช้ความสามารถพิเศษเพื่อปกป้องคนรักและคงไว้ซึ่งความยุติธรรม แต่เหมือนชะตากรรมเล่นตลก จู่ ๆ ธามก็ปวดหัวอย่างรุนแรงด้วยอาการประจำตัวอีกครั้ง เขาถูกชนะ พลกับพบธรรมทำร้ายจนล้มกลิ้งชนะพลเบี่ยงปืนในมือกำลังจะลั่นไกเข้าใส่นภสร ขวากหนามสำคัญที่อาจจะทำให้เขาล้มเหลวในชีวิต ธามกระโดดสุดตัวเอาตัวเข้าบังร่างนภสรไว้ เธอรอดชีวิตจากความกล้าหาญของธาม และรู้ความในใจของเขาที่มีต่อเธอตลอดมา… เด็กชายต้นไม้ใช้ความเฉลียวฉลาดร่วมมือกับกณิศ เล่นงานชนะพลกับพบธรรม เสียอยู่หมัด เพราะทั้งคู่ไม่รู้ว่าต้นไม้ซ่อนของเล่นไฮเทคมากมายไว้ในห้อง ๆ นี้ ทุกชิ้นสามารถใช้เล่นงานชนะพลกับพบธรรมให้เสียท่าโดยคาดไม่ถึง ร่างกายของธามแทบทรงตัวไม่อยู่ อานุภาพความสามารถพิเศษหมดสิ้นลงไปแล้ว ร่างกายที่เคยซ่อมแซมตัวเองได้กลับไม่ทำงาน ดูเหมือนวาระสุดท้ายของผู้ชายคนนี้ใกล้เข้ามาทุกขณะ…ธามถูกนำตัวไปส่งโรงพยาบาลในสภาพร่างชุ่มเลือดและอยู่ในอ้อมกอดนภสรตลอดเวลา นภสรร่ำไห้ปิ่มว่าจะขาดใจ เธอกอดร่างผู้ชายที่รักเธอมากและเธอก็รู้ว่ารักเขามากมายเช่นกัน เพียงเวลาเดือนเศษเกิดความเปลี่ยนแปลงในชีวิตของธามและนภสรมากมาย แบบที่ทั้งคู่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน นภสรรู้ว่ามีผู้ชายคนหนึ่งที่แอบรักและรักเธอเรื่อยมาโดยไม่คิดจะหวังสิ่งใดตอบ แทน ได้เรียนรู้ความรักที่บริสุทธิ์ใจ แม้ว่าที่สุดแล้วอาจจะไร้การครอบครอง…ต้องแยกจากกันตลอดชีวิต ธามรู้ซึ้งถึงคุณค่าของชีวิต เรียนรู้ถึงคุณค่าในตัวเองและคุณค่าต่อคนอื่น ถึงวันนี้ เขาอาจจะต้องจบชีวิตไปด้วยโรคร้าย แต่เป็นการจบลงอย่างล้ำค่า…ทำให้ใครหลายคนเรียนรู้ที่จะมีชีวิตอยู่เพื่อสร้างคุณค่าให้กับตัวเองและคนรอบข้าง…โดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน เมื่อถึงโรงพยาบาลหมอนำร่างธามเข้าห้องผ่าตัดฉุกเฉิน ต้องช่วยชีวิตเขาทั้งบาดแผลจากคมกระสุน และต้องพยายามยื้อชีวิตเขาจากเนื้องอกในสมองที่ไม่มีทางรักษาเวลาผ่าน ไปนับสิบชั่วโมง… เตียงผู้ป่วยถูกเข็นออกมาจากห้องผ่าตัด นภสรพุ่งตรงเข้าไปหาหมอเจ้าของไข้ด้วยความเป็นห่วงคนรักอย่างที่สุด เมื่อได้ยินคำพูดออกจากปากหมอทำให้เธอถึงกับแทบล้มทั้งยืนด้วยความปิติ “ผู้ป่วยรอดชีวิตได้ราวปาฏิหาริย์ เนื้องอกในสมองหายไปจนแทบไม่เห็นร่องรอย สาเหตุที่อำนาจพิเศษของธามหายไปก็เพราะเหตุนี้ ไม่ใช่เพราะอาการหนักถึงขั้นโคม่าอย่างที่ใครหลายคนเข้าใจ…” อาจเป็นเพราะอานุภาพแห่งความรัก ธามมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้นนับตั้งแต่พบพานคนรักที่แท้จริงอย่างนภสร ปาฏิหาริย์นี้จึงเกิดขึ้นได้…เธอเป็นเหมือนแสงดาวที่ฟ้าประทานลงมาสู่ดวงใจที่กำลังจะแห้งเหือดของผู้ชายคนหนึ่ง ให้มีกำลังใจต่อสู้ไปในโลกที่โหดร้ายใบนี้ ธามกำลังจะมีชีวิตใหม่ในโลกแห่งความเป็นจริง ชีวิตใหม่ที่มีนภสรซึ่งมีเขาอยู่เต็มหัวใจของเธอเสมอ รอยยิ้มและความดีงามที่ธามสร้างไว้ให้นภสรกับต้นไม้เปรียบเหมือนเมล็ดพันธุ์แห่งกำลังใจชั้นดี ที่จะทำให้เธอต่อสู้ยืนหยัดเพื่อความดีงาม…สร้างสรรค์ชีวิตบนโลกใบนี้ให้น่าอยู่และงดงามต่อไป…

บุษบาเร่รัก 2550

บุษบาเร่รัก (2550/2007) บุษบามินตรา นักร้องสาวสวยเฉิดฉาย คนที่ตั้งใจให้บทเรียนที่เจ็บแสบแก่ผู้ชายเจ้าชู้ทุกคน อีกภาพหนึ่ง...หล่อนคือบุษบา ครูสาวคนงาม อ่อนโยน และรักเด็ก เป็นบุษบาคนที่เร่หาความรัก เพื่อชดเชยความอบอุ่นที่ขาดหายไปจากชีวิต เขาคือ...ศิธา ผู้ชายที่ก้าวเข้ามาในชีวิตและทำให้บุษบาค้นพบรักที่แท้จริง เขาทำให้เธอมั่นใจได้ว่า ผู้ชายไม่ได้เหมือนกันทุกคน อาจมีผู้ชายที่สารเลวมากมาย แต่ก็มีผู้ชายที่แสนดีอยู่ไม่น้อย ใยหล่อนจึงผูกมัดชีวิตที่มีคุณค่าของตนไว้กับอดีต กับความขมขื่น คับแค้น ชิงชัง ในเมื่อหล่อนสามารถเลือกมีชีวิตอยู่ท่ามกลางความรัก เลือกอยู่กับคนที่รักหล่อนได้ ...

ฟ้ามีตะวัน หัวใจฉันมีเธอ 2550

ฟ้ามีตะวัน หัวใจฉันมีเธอ (2550/2007) คุณหญิง ดารา สุริยกานต์ หอบลูกชาย ด.ช.ปรมี ไปอยู่ออสเตรเลีย หลังจาก ม.ล.ปารมี คว้า เสลา สาวใช้มาเป็นเมียน้อย พอคุณหญิงหนีไป เสลา จึงขึ้นเป็นใหญ่ในบ้านและเปลี่ยนชื่อเป็น เนตรเสลา แต่ไม่มีทายาท จึงขอ ด.ญ.นัยน์นภา หรือ แนน มาเป็นบุตรบุญธรรม จน ปารมี ถึงแก่อนิจกรรม เวลาล่วงไปนับสิบปี ปรมี กลับมาในฐานะนักธุรกิจใหญ่ในชื่อ พอล เพื่อทวงทุกสิ่งที่เป็นของเขากลับคืนจาก เนตรเสลา ผู้กุมบังเหียนบริษัทจิวเวลรี่ยักษ์คราวน์ไดม่อน ซึ่งสภาวะการเงินย่ำแย่เพราะ เนตรเสลา ยักยอกไปเล่นการพนัน ปรมี จึงขอยืมเงินจาก มร.เดสมันต์ พ่อเลี้ยง เพื่อเข้าไปเป็นหุ้นส่วน เนตรเสลา หลงใหลความหล่อของ พอล จึงทำให้ สิงขร เลขาฯ ชู้รักลับๆไม่พอใจ ปรมี ได้พบแนนขณะเดินแฟชั่นโชว์เครื่องเพชร พอลใ้ช้วิธีก้าวเข้ามาโดยมีแผนว่าจะเป็นหุ้นส่วนกับเนตรเสลา แต่สร้างความลำบากให้กับแนนมาก ทั้งเรื่อง ขายสร้อยเพชร ที่ขอยืมมาจากที่อื่น และเมื่อเนตรเสลานำเพชรที่จะไปทำสร้อยให้กับคุณหญิงอรอุษาไปใช้หนี้การพนัน และนำโมอิสไปทำขายแทน เมื่อแนนตรวจพบและบอกความจริงนั้น ทำให้เนตรเสลาโกรธมาก เนตรเสลา จะยกแนนให้ สิงขร แต่ ปรมี ตามมาช่วยทัน และเมื่อเนตรเสลา เพิ่งรู้ตัวว่า ปรมี หรือ พอล ประธานบริษัทคนใหม่คือผู้อยู่เบื้องหลังการหลอกลวง หล่อนจึงจับตัวทั้งคู่ไป แต่พลาดยิงไปถูกสิงขรเสียชีวิต เนตรเสลามีอาการเส้นเลือดในสมองแตก จนป่วยเป็นคนพิการ ปรมี แต่งงานกับ นัยน์นภา ในที่สุด

เหลี่ยมเพชรกะรัต 2550

เหลี่ยมเพชรกะรัต (2550/2007) เหลี่ยมเพชรกระรัต เป็นเรื่องราวของ กะรัต สาวสวย เปรี้ยว บุคลิกมั่นใจมาก เธอเรียนจบเร็วจึงเริ่มทำงานเร็วตั้งแต่อายุเพียงยี่สิบต้น ๆ กะรัตรักงานโฆษณา เธออยากเป็นครีเอทีฟที่มีความสามารถ มีชื่อเสียงด้วยความสามารถและฝีมือ แต่เพียงปีแรกกะรัตต้องเปลี่ยนงานถึง 3 ครั้ง เป็นเพราะความสวยบวกกับการแต่งตัวเปรี้ยวอย่างสาวมั่น ทำให้เจ้าของบริษัทที่เป็นผู้ชายเห็นเธอเป็นขนมที่ต้องเขมือบให้ได้ ทั้ง 3 รายส่อแววเฒ่าหัวงูตั้งแต่เริ่มงานไม่นาน สารพัดข้อเสนอที่จะให้เธอทั้งบ้าน รถ และอื่น ๆ แม้กระทั่งเลื่อนตำแหน่ง แต่กะรัตเป็นผู้หญิงที่รักศักดิ์ศรี รักนวลสงวนตัว ต่างกับการแต่งกายที่มักจะเปรี้ยว และ Sexy จนเหมือนยั่วยวนตลอดเวลา ที่จริงแล้วเธอเกิดเป็นคนสวย และ Sexy มีเสน่ห์ด้วยตัวเอง ถึงแม้เธอจะแต่งตัวเรียบร้อยทว่าเธอก็ยังสวยบาดตาบาดใจ และ Sexy ไม่เปลี่ยน กะรัตเป็นคนเก่งและฉลาด วันนี้เธอกำลัง Present สตอรี่บอร์ดงานโฆษณาสินค้านมเปรี้ยวยี่ห้อหนึ่ง เธอแต่งตัวเรียบเก๋ สวย และ Present งานด้วยความมั่นใจ เธอตั้งใจคิดและอดนอนหลายวัน กว่าจะได้รับงานที่ถูกใจ เมื่อ Present เสร็จ กะรัตก็ไม่ผิดหวังเมื่อลูกค้าพอใจมาก และเซ็นสัญญาให้บริษัทโฆษณาของ เกษม ทำโฆษณาให้ กะรัตเพิ่งมาทำงานที่นี่ไม่กี่สัปดาห์ แต่เกษมก็มั่นใจที่มอบงานชิ้นนี้ให้เธอรับผิดชอบ เธอจึงภูมิใจมาก เมื่อลูกค้ากลับไปแล้วเกษมเรียกกะรัตไปพบ เขาชื่นชมเธอมาก และบอกว่าคืนนี้เขาจะเลี้ยงฉลองความสำเร็จให้ ที่ห้องอาหารในโรงแรมแห่งหนึ่ง ซึ่งจะมีการร้องคาราโอเกะกันด้วย เขาบอกอีกว่าเขาเลี้ยงเธอและเพื่อนร่วมงานทั้งแผนก กะรัตรีบกลับบ้านเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ เธอพบ อ้อมขวัญ อยู่บ้านแล้ว กะรัตและอ้อมขวัญเป็นเพื่อนสนิทกัน บิดาและมารดาเสียชีวิตแล้วเหมือนกัน ทั้งคู่เช่าคอนโดหรูกลางเมืองอยู่ด้วยกัน อ้อมขวัญทำงานอยู่ฝ่ายการตลาดของบริษัท เอส เอส โฆษณา เมื่อกะรัตบอกข่าวดี อ้อมขวัญดีใจกับเพื่อนด้วย และเร่งให้ไปอาบน้ำแต่งตัว เมื่อกะรัตแต่งตัวเสร็จออกมาจากห้อง อ้อมขวัญยิ้มให้เพื่อนอย่างชื่นชม กะรัตสวยจริง ๆ รูปร่างสมส่วนอิ่มเอิบ Sexy ยิ่งสวมชุดราตรีสั้นสายเดี่ยวสีชมพูหวานเก๋ ยิ่งทำให้เธอสวยมากขึ้น กะรัตแต่งตัวอย่างมั่นใจเสมอ เธอชอบสไตล์เปรี้ยว เฉี่ยว เท่ห์ ซึ่งเหมาะกับเธอมาก เมื่อถึงห้องอาหารกะรัตแปลกใจที่เห็นเกษมนั่งดื่มอยู่คนเดียว สาวสวยเริ่มหวาดระแวง แต่เท่าที่ทำงานร่วมกันมาร่วมเดือน เกษมไม่มีท่าว่าจะเจ้าชู้หัวงูกับเธอเลย จะอย่างไรก็ตามเธอต้องระวังตัวไว้ก่อน กะรัตถามหาเพื่อน ๆ เกษมมองเธอด้วยแววตากรุ้มกริ่ม จนกะรัตเย็นวาบด้วยความขยะแขยง และพยายามไม่คิดมาก เกษมบอกเธอว่าเพื่อน ๆ ไปหาของขวัญมา เซอร์ไพรส์ เธอ เขาพยายามคะยั้นคะยอให้เธอดื่ม กะรัตจิบเป็นพิธี ตรงข้ามกับเกษมที่ดื่มราวกับน้ำ เวลาผ่านไปนานผิดสังเกต กะรัตเริ่มกระวนกระวายนั่งไม่ติด เกษมเริ่มออกลายเจ้าชู้ เขาเริ่มจากแตะนิดแตะหน่อย กะรัตขยับหนี เกษมไม่ลดละ กะรัตหวังว่าเพื่อนเธอหรือพนักงานสักคนจะโผล่เข้ามาช่วยเธอ เกษมมองกิริยาหวาด ๆ ของกะรัตอย่างช้า ๆ ก่อนจะบอกว่า คืนนี้เป็นคืนพิเศษของเธอกับเขาเท่านั้น ไม่มีเพื่อนหรือพนักงานคนไหนของบริษัทมาเพราะเขาไม่ชวน เกษมมองกะรัตด้วยตาเจ้าชู้ และพยายามลวนลามเธอมากขึ้น กะรัตหลบไปหลบมา เพราะไม่อยากตกงานอีก พยายามเตือนสติเกษม แต่เขาไม่สนใจในเมื่อสาวสวย Sexy อยู่ตรงหน้า แล้วสถานที่ก็เหมาะสำหรับจะจู๋จี๋กันอยู่แล้ว เขารอวันนี้มานาน รอวันที่กะรัตจะไว้ใจเขา เขาชอบเธอและอยากให้เธอเป็นของเขา เกษมก็เหมือนกับผู้ชายคนอื่นที่มองว่ากะรัตเป็นสาว “รักสนุก” หารู้ไม่ว่าสาวเปรี้ยวอย่างกะรัต รักศักดิ์ศรีและรักนวลสงวนตัวที่สุด เกษมได้ใจที่เห็นกะรัตนิ่ง เขาไม่รู้ว่าเธอกำลังพยายามอดทนและทนไม่ไหว เมื่อเกษมตรงเข้าปล้ำเธออย่างบ้าคลั่ง กะรัตระวังตัวอยู่แล้วจึงหลบจนเกษมล้มลง เขาไม่เลิกความตั้งใจพยายามปล้ำเธออีก กะรัตจึงหยิบที่เขี่ยบุหรี่อันใหญ่ฟาดศีรษะเขาอย่างแรงจนหัวแตกเลือดอาบหน้า กะรัตตกใจเหมือนกันที่เห็นเลือด แต่เกษมกลับบ้ามากกว่า เขากลับยิ้มและตรงเข้าหาเธออีก แถมบอกว่าถ้ากะรัตชอบแบบซาดิสต์ เขาก็จะสนองอารมณ์เธอให้เต็มที่ แววตาหื่นกามของเกษมทำให้กะรัตสุดจะทน เธอจึงฝากเขาซ้ำอีกรอยจนเกษมนิ่งไป กะรัตอังนิ้วกับจมูกเขาจนแน่ใจว่าเขาไม่ตาย เธอจึงหยิบกระเป๋าสตางค์ของเกษมขึ้นมา อย่างไรเสียเธอต้องได้ค่าจ้างของเธอเดือนนี้ ซึ่งตกลงกันว่าเป็นเงิน 20,000 บาท กะรัตเปิดกระเป๋าและหยิบเงินออกมาหมด เธอนับได้เพียงหมื่นเดียว ขณะที่กะรัตอารมณ์เสียอยู่ที่ไม่ได้เงินเท่าที่ต้องการ เกษมก็รู้สึกตัว เขาโวยวายทันที เมื่อเห็นเธอหยิบเงินจากกระเป๋าเขา เลือดบนศีรษะไหลลงมาอาบหน้า เขากุมหัวอย่างเจ็บปวดเมื่อเห็นเลือดเปื้อนเต็มมือ เกษมโวยวายว่าเธอเป็นขโมย กะรัตไม่อยากมีปัญหาเธอจึงรีบวิ่งออกจากห้องนั้น เธอชนผู้ชายคนหนึ่งจนล้มไปด้วยกัน กะรัตรีบลุกขึ้นเป็นจังหวะเดียวกับที่เกษมออกมาโวยวายว่า เธอล่อลวงทำร้ายและปล้นทรัพย์ ชายคนนั้นมองกะรัตอย่างลังเล สาวสวย เปรี้ยว และ Sexy เสื้อผ้าสวยยับยุ่ง เงินสด ๆ อยู่ในมือกับภาพของเกษมซึ่งกุมหัวเลือดไหล เขาเลือกที่จะเชื่อเกษม เขาคว้าตัวกะรัตไว้แต่สาวสวยไวกว่า เธอสะบัดหลุดและวิ่งหนีอย่างเร็ว นึกเจ็บใจรองเท้าส้นสูง 4 นิ้วของตัวเองที่ทำให้ไม่คล่องตัวเท่าที่ควร กะรัตหนีสุดชีวิตพลางนึกแค้นเกษมที่เลวที่สุด ลวนลามเธอแล้วยังหาว่าเธอเป็นขโมยอีก กะรัตวิ่งไปถึงลานจอดรถก่อนจะถึงรถเธอ ชายคนนั้นก็วิ่งมาทัน เขารวบเธอไว้ทั้งตัว กะรัตพยายามอธิบายเขาก็ไม่ฟัง กะรัตโมโหจึงกระแทกส้นสูงลงบนเท้าเขาอย่างเต็มแรง จนเขาปล่อยตัวเธอและก้มลงกุมเท้าอย่างเจ็บปวด กะรัตบอกเขาเสียงเข้มว่าเขาเข้าใจผิด เธอต่างหากที่เป็นฝ่ายเสียหาย ทว่าท่าทางเขาจะไม่เชื่อ กะรัตจึงบอกว่าให้เขาเลิกยุ่งกับเธอเสียไม่งั้นเธอจะตะโกนให้คนช่วยว่าเขาลวนลามจะปล้ำเธอ ซึ่งได้ผลเขาตกใจด้วยไม่คิดว่าสาวสวยจะฤทธิ์มากขนาดนี้ กะรัตฉวยโอกาสวิ่งหนีไปที่รถ และขับกลับคอนโดอย่างโมโหสุด ๆ ทั้งโมโหและไม่รู้จะโทษใครดีที่เธอต้องตกงานเพราะปัญหาซ้ำซากเดิม ๆ อย่างนี้ ทำไมคนเราประเมินคนจากการแต่งตัว แต่ไม่ดูความสามารถ กะรัตกลับเข้าห้องอย่างเหนื่อยสุด ๆ อ้อมขวัญซึ่งนั่งดูโทรทัศน์อยู่ตกใจที่เห็นสภาพเพื่อนรัก กะรัตเสื้อผ้ายับยุ่ง ผมสลวยที่เกล้าและติดกิ๊ฟเพชรหลุดลุ่ย กะรัตเดินโผเผมานั่งอย่างเซ็ง ๆ อ้อมขวัญรีบรินน้ำเย็นให้เพื่อนดื่ม เธอรอโดยไม่ถามเพราะรู้ว่าเดี๋ยวเพื่อนก็เล่าเอง ซึ่งก็จริงตามนั้น กะรัตเล่าด้วยท่าทางเซ็ง ๆ ที่โมโหที่สุดคือ เธอยังได้เงินเดือนไม่ครบ เธอเจ็บใจพลเมืองดีจอมยุ่งที่เข้ามาขัดขวางทำให้เธอต้องหนีเกษมจนเหนื่อย อ้อมขวัญซึ่งเป็นสาวหวานเรียบร้อยตกใจมาก เธอกลัวว่าเกษมจะแจ้งตำรวจมาจับกะรัต เพราะไปทำร้ายเขา แต่กะรัตไม่กลัว ในเมื่อเธอเป็นคนถูกทำร้าย เธอมั่นใจว่าเกษมไม่กล้าแลกชื่อเสียงของเขากับเธอแน่นอน กะรัตเข้าห้องนอน เริ่มเหนื่อยและท้อกับชีวิตตัวเองที่ต้องหางานใหม่อีกแล้ว เธออดคิดไม่ได้ว่าถ้า ดำรงอาของเธอไม่โกงฮุบกิจการโรงงานทอผ้า และผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปส่งต่างประเทศ ซึ่งพ่อของเธอกับอาลงทุนร่วมกัน กะรัตจำได้ว่าพ่อเอาบ้านไปจำนองและกู้เงินมาลงทุนหลายสิบล้าน แต่เมื่อพ่อตาย อาดำรงกลับบอกว่าโรงงานขาดทุนอาจถึงต้องขาย เงินลงทุนของพ่อเธอนั้นหมดไปกับการใช้หนี้แล้ว เธอไม่ได้เป็นหุ้นส่วนต่อจากพ่อแทนการรับสภาพหนี้หลายล้านก็น่าจะดีแล้ว แม่ของเธอตรอมใจกับเรื่องนี้และเสียชีวิตในเวลาต่อมา กะรัตแค้นใจมาก เธอยังโชคดีที่บิดานำเงินเข้าบัญชีให้เธอไว้ก้อนใหญ่พอสมควร มากพอที่เธอจะเรียนจบ และเหลือพอที่กะรัตจะใช้ชีวิตสบาย ๆ ถ้าไม่ฟุ้งเฟ้อเกินไป ประสบการณ์ชีวิตทำให้กะรัตไม่ประมาท เธอเก็บเงินไว้และถอนมาใช้แต่ที่จำเป็น เธอเรียนจบและรีบหางานทำทันที เธอรักงานโฆษณา รักงานครีเอทีฟ และจะไม่ยอมแพ้กับโชคชะตาเด็ดขาด ส่วนที่บ้าน “จตุทยา” เรืองรอง ภรรยาม่ายของ สมศักดิ์ เจ้าของบริษัท เอส เอส โฆษณา นั่งรอ ชัย ลูกชายคนเล็กอย่างเป็นห่วง เรืองรองแต่งงานกับสมศักดิ์หลังจากภรรยาเขาตายแล้ว สมศักดิ์มีลูกติด 1 คน ชื่อ นิพนธ์ ตอนแต่งงานกัน นิพนธ์ อายุเพียง 3 ขวบ เรืองรองเลี้ยงนิพนธ์เหมือนลูกแท้ ๆ จึงไม่มีปัญหาเรื่องแม่เลี้ยงกับลูกเลี้ยง แต่สมศักดิ์ทั้งรักและสงสารนิพนธ์ที่กำพร้าแม่ จึงตามใจจนนิพนธ์เสียนิสัย เขาเอาแต่ใจ ขี้เกียจเรียนและค่อนข้างเกเรเพราะพ่อตามใจ อีกไม่นานเรืองรองก็ท้อง เธอคลอดลูกเป็นผู้ชาย ก็คือ “ชัย” นั่นเอง เรืองรองเห็นโทษของการเลี้ยงลูกอย่างตามใจจากนิพนธ์ เธอจึงเลี้ยงชัยอีกแบบหนึ่ง ไม่ตามใจ แต่ไม่กดดัน บีบบังคับ ชัยจึงเป็นชายหนุ่มที่มีความรับผิดชอบ มีความคิด เขาจบปริญญาตรีและไปเรียนต่างประเทศ 4 ปี ชัยไม่กลับบ้านเลย ใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่าที่สุด ชัยเรียน 4 ปี แต่ได้ปริญญา 2 ใบ เขาเรียนทั้งตรี และโทในเวลาเดียวกัน ตอนนี้ชัยกลับมาแล้ว เรืองรองหวังว่าลูกชายคนนี้จะช่วยบริหาร บริษัท เอส เอส โฆษณาของสมศักดิ์ให้รุ่งเรืองต่อไป เธอรู้ว่าสมศักดิ์สามีนั้นรักบริษัทนี้มาก เขาทุ่มเททำงานจนบริษัทเติบโตมีชื่อเสียงก่อนจะเสียชีวิต เขาก็ยังสั่งให้ลูกและเรืองรองดูแลบริษัทต่อไป แต่เมื่อสมศักดิ์ตายไป นิพนธ์กลับไม่สนใจทำงาน เขาจะเข้าบริษัทก็เพื่อเซ็นเอกสารสำคัญกับเบิกเงินค่ารับรองลูกค้าเท่านั้น เรืองรองเองก็ไม่ถนัดงานด้านนี้ จึงได้แต่ฝากการบริหารไว้กับคนเก่าแก่ลูกน้องสมศักดิ์ ซึ่งบริษัทก็ทำกำไรได้แต่ไม่รุ่งเรืองเหมือนสมัยสมศักดิ์ยังอยู่ เรืองรองอดคิดไม่ได้ว่าถ้านิพนธ์สนใจกิจการของครอบครัวบ้างคงจะดี เรืองรองรอไม่นานชัยก็กลับเข้ามา เขาเดินเขยกอย่างเห็นได้ชัด เรืองรองอดถามไม่ได้ว่าเขาเป็นอะไร ชัยจึงเล่าเรื่องที่เขาเป็นพลเมืองดีพยายามจับแม่เสือสาวที่ตีหัวเหยื่อและขโมยเงินไป เขาจับเธอได้แล้ว แต่เธอเจ้าเล่ห์กระทืบเท้าเขาอย่างแรง รองเท้าส้นสูงแหลมปรี๊ดของเจ้าหล่อนทำให้เท้าเขาเจ็บน่าดู เรืองรองตกใจมากและเตือนให้เขาระวังตัว กรุงเทพเดี๋ยวนี้น่ากลัวมาก ชัยหัวเราะอย่างไม่คิดอะไรประสาคนหนุ่ม เขาบอกมารดาว่าเขาจะเข้าไปทำงานที่บริษัทในตำแหน่งพนักงานส่งเอกสาร ซึ่งเป็นตำแหน่งต่ำสุด เขาอธิบายว่าเขาอยากรู้จักคนและงาน การเริ่มต้นจากตำแหน่งต่ำ ๆ จะทำให้เขารู้จักพนักงานทุกคนดีกว่าจะเริ่มต้นที่ “คุณชัย จตุทยา” รองประธานบริษัท เรืองรองแม้จะงงกับความคิดลูกชาย แต่ก็ต้องยอมรับว่า “การรู้จักคน” นั้นเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะคนในบริษัทของครอบครัว ส่วนนิพนธ์เมื่อรู้ความคิดของน้องชาย เขาคิดว่าน้องชายเพี้ยน งานตำแหน่งนั้นทั้งเหนื่อยและถูกใช้ราวกับคนรับใช้ แต่ชัยไม่เดือดร้อน ยังยืนยันตามเดิม แถมยังขอร้องทั้งมารดาและพี่ชายว่าถ้าพบเขาที่บริษัทก็ห้ามทักเด็ดขาด เขากลัวว่าแผนจะแตก วันรุ่งขึ้น กะรัตแต่งตัวเตรียมสมัครงานอีกครั้ง เธอได้ยินอ้อมขวัญพูดโทรศัพท์แว่ว ๆ ก็พอเดาได้ว่า อ้อมขวัญมีนัดกับ วีรเดช อีกแล้ว ซึ่งกะรัตไม่พอใจมากเพราะวีรเดชแต่งงานแล้ว ในแวดวงไฮโซ วีรเดชกับ พจนีย์ ภรรยาเป็นคู่สามี – ภรรยาตัวอย่างที่ถึงแม้จะแต่งงานกันมานาน 12 ปี แม้ไม่มีลูกด้วยกัน ทั้งคู่ก็ยังสวีทหวานแหววต่อกันเสมอ คำสัมภาษณ์ลงแมกกาซีนผู้หญิงเล่มดัง วีรเดชพูดชัดว่าเขารักภรรยาของเขามาก ถึงจะมีข่าวเขากับผู้หญิงอื่น แต่เขาพูดได้เต็มปากว่าเขาภูมิใจภรรยาของเขามาก ซึ่งเขาเปรียบเป็นเพชรแท้ในชีวิต ผู้หญิงอื่นเป็นแค่ทางผ่าน กะรัตอ่านเจอแค้นจนแสนแค้นแทนเพื่อน แต่ซื้อหนังสือมาให้อ้อมขวัญอ่านไม่ทัน กะรัตอ่านหนังสือที่ร้านเสริมสวยแห่งหนึ่ง เมื่อกลับไปอีกหนังสือเล่มนั้นก็ไม่อยู่แล้ว เธออยากให้อ้อมขวัญรู้ว่าวีรเดชเป็นอย่างไร อ้อมขวัญรักวีรเดชมาก เธอพบเขาโดยบังเอิญเพราะเธอไปติดต่องานที่บริษัทแมกกาซีนแฟชั่นของวีรเดชในวันหนึ่ง ด้วยความเพลียและเหนื่อยอ้อมขวัญจึงเป็นลม ก่อนที่เธอจะล้มลง วีรเดชเข้ามาพบพอดี เขาอุ้มเธอไปที่ห้องรับรองลูกค้าโดยมีพนักงานหญิงตามไปด้วย วีรเดชดูแลเธออย่างดีและเป็นสุภาพบุรุษทำให้อ้อมขวัญประทับใจเขามาก แม้อายุจะต่างกันเกือบยี่สิบปี แต่อ้อมขวัญก็ไม่สนใจ ขอเพียงเธอได้รักเขา ไปกินข้าวและเที่ยวกับเขาบ้างเธอก็พอใจแล้ว วีรเดชเองก็พอใจอ้อมขวัญเช่นกัน เธอสวย หวาน เรียบร้อย บอบบางน่าทะนุถนอม วีรเดชจึงไม่เคยล่วงเกินเธอมากไปกว่ากอดหรือหอมแก้มเนียนใสเบา ๆ เท่านั้น กะรัตถามเพื่อนรักตรง ๆ ว่า มีอะไรเกินเลยกับวีรเดชหรือไม่ เธอไม่อยากให้อ้อมขวัญต้องทำผิดมากไปกว่านี้ ถึงแม้ไม่มีอะไรกัน แต่ก็ต้องถือว่าผิดศีลธรรมอยู่ดี อ้อมขวัญเองก็รู้ตัว แต่ก็ห้ามใจไม่ได้สักที กะรัตได้แต่เตือนเพื่อนอย่างเป็นห่วงก่อนออกไปสมัครงาน จนใกล้เที่ยงกะรัตเดินออกจากบริษัทโฆษณาที่ไปสมัครงานอย่างเพลีย ๆ เธอไปมาหลายแห่งแล้วทุกแห่งบอกให้รอเรียกสัมภาษณ์ทั้งนั้น ระหว่างเดินอยู่บนทางเท้า เธอได้ยินเสียงผู้หญิงร้องให้ช่วยว่าถูกวิ่งราวกระเป๋า กะรัตหันไปดูก็เห็นผู้หญิงสูงอายุคนหนึ่งโบกมือร้องให้ช่วย ขณะเดียวกันเธอก็เห็นชายวัยรุ่นผอม ๆ วิ่งผ่านหน้าเธออย่างเร็ว กะรัตวิ่งตามทันที เธอเคยเป็นนักวิ่งแข่งของโรงเรียนมาก่อนระดับแชมป์เลยทีเดียว เธอวิ่งกวดคนร้ายไม่ลดละ รองเท้าส้นสูงที่ใส่อยู่ทำให้เธอวิ่งไม่ถนัด กะรัตวิ่งพลางสลัดรองเท้าทิ้งอย่างรวดเร็ว เธอวิ่งทันคนร้ายจนได้ คนร้ายเมื่อจวนตัวก็โยนกระเป๋าถือของเหยื่อใส่หน้ากะรัตเพื่อหนีต่อ แต่กะรัตหลบทัน เธอก้าวไปหามันอย่างลืมตัว คนร้ายชักมีดคัตเตอร์อันใหญ่ขึ้นมาทันที กะรัตยกแขนขึ้นป้องกันใบหน้าตามสัญชาตญาณ คมมีดคัตเตอร์กรีดลงบนแขนเธอเป็นแผลลึกและยาว ก่อนที่เหตุการณ์จะเลวร้ายกว่านี้ ก็มีพลเมืองดีซึ่งเป็นผู้ชายตามมาช่วยจับคนร้ายไว้ทัน กะรัตหยิบกระเป๋าถือหรูราคาแพงส่งให้เจ้าของ ซึ่งอุตส่าห์วิ่งกระหืดกระหอบตามมา กะรัตอดนึกชมไม่ได้ที่สตรีผู้นั้นดูดี แต่งตัวงามสมวัย เมื่อส่งกระเป๋าคืนให้เจ้าของแล้ว กะรัตทำท่าจะไปแต่เรืองรองหรือเจ้าของกระเป๋าท้วงว่าเลือดที่แขนไหลมาก กะรัตมองแขนตัวเองเห็นเลือดไหลอาบแขนก็ชักตกใจเหมือนกัน เธอจึงยอมให้เรืองรองพาไปโรงพยาบาล หมอต้องพาเธอไปเย็บแผลเพราะแผลยาวและลึกอย่างน่ากลัว ระหว่างเรืองรองรออยู่หน้าห้องฉุกเฉิน เธอโทรตามชัย แต่เขาอยู่ไกลมากจึงติดต่อนิพนธ์มาดูแลมารดาแทน เมื่อพบกันนิพนธ์กอดเรืองรองอย่างห่วงใย จะอย่างไรผู้หญิงที่เป็นแม่เลี้ยงคนนี้ก็ดูแลเขามาอย่างลูก เมื่อรู้เรื่องจากเรืองรอง นิพนธ์เสนอให้เงินกะรัตก้อนหนึ่งเพื่อเป็นรางวัล แต่เมื่อเห็นกะรัตสาวสวยผู้ช่วยเหลือมารดา นิพนธ์มองอย่างตะลึงและไม่เชื่อว่า สาวสวยสูงเพรียวแต่งตัวเปรี้ยวคนนี้คือคนที่ช่วยเหลือมารดา เรืองรองขอไปส่งหญิงสาวที่บ้าน แต่กะรัตปฏิเสธบอกว่าเพื่อนมารับแล้ว เมื่อเธอขอตอบแทนกะรัตที่ช่วยเหลือเธอ กะรัตปฏิเสธอย่างน่ารัก เธอตอบว่าเธอช่วยโดยไม่หวังอะไรตอบแทน โดยนิสัยแล้วเธอไม่ชอบพวกเอาเปรียบคนอื่นอยู่แล้ว นิพนธ์พยายามยื่นข้อเสนอเพราะอยากคุยกับสาวสวย แต่อ้อมขวัญมาพอดี อ้อมขวัญแปลกใจที่เห็นกะรัตยืนคุยกับเรืองรอง ประธานบริษัท และ นิพนธ์ ลูกชายซึ่งเป็นผู้บริหารคนสำคัญ เอื้อมขวัญทำความเคารพทั้งสองคนอย่างเรียบร้อย เรืองรองถามชื่อพลเมืองดีคนสวย กะรัตบอกอย่างเรียบร้อย นิพนธ์มองตามอย่างเสียดาย เมื่อกลับบ้านเรืองรองเล่าให้ชัยฟัง ขณะที่นิพนธ์บอกแต่ว่า กะรัตสวย และเก่งมาก ชัยฟังเรื่องกะรัตอย่างไม่สนใจ เขาห่วงมารดามากกว่า ชัยบอกว่าทรัพย์สินไม่ต้องเสียดาย เขาเป็นห่วงมารดามากกว่า แต่เรืองรองบอกว่าในกระเป๋ามีเข็มกลัดเพชรซึ่งสมศักดิ์ให้เธอไว้ ซึ่งเป็นของมีค่าต่อจิตใจของเธอมาก เรืองรองพูดถึงความดีของกะรัตอีกหลายคำ และพยายามหาทางตอบแทนเธอ ชัยจึงแนะให้เรืองรองถามเพื่อนกะรัตที่ทำงานที่บริษัทดูแล้วกัน วันรุ่งขึ้น เรืองรองจึงไปบริษัทและเรียกอ้อมขวัญมาคุย เมื่อรู้ว่ากะรัตกำลังหางานทำและเธอต้องตกงานเพราะอะไร เรืองรองสงสารมาก เธอให้กะรัตมาสมัครงานที่บริษัท เอส เอส โฆษณาทันที ด้วยความเห็นชอบอย่างเต็มที่ของนิพนธ์ อ้อมขวัญมาบอกกะรัตอย่างดีใจ กะรัตเองก็ดีใจเช่นกัน แต่ก่อนเริ่มงานใหม่ เธอไปทวงเงินที่เหลือจากเกษม จึงรู้ว่าเกษมพูดถึงเธออย่างเสียหาย กะรัตโมโหจึงอาละวาด และว่าเขาเจ็บ ๆ ต่อหน้าลูกค้า เมื่อกะรัตทวงเงิน เกษมจึงยอมจ่ายแต่โดยดี เพราะท่าทางของกะรัตนั้นพูดจริงทำจริงแน่ กะรัตรับเงินที่เหลือมาอย่างสะใจ เธอออกจากห้องเกษมและออกมาประกาศกับพนักงานโดยเฉพาะผู้หญิงว่า ให้ระวังเกษมซึ่งเป็นคนเจ้าชู้ เจ้าเล่ห์ และหัวงูให้ดีแล้วกัน เสียงของกะรัตดังเข้าไปถึงหูเกษม เขาโกรธจนหน้าแดงแต่ไม่กล้าโวยวายเพราะเขาผิดจริง ต้นเดือน กะรัตมาทำงานที่ เอส เอส โฆษณา เธอพบชัยซึ่งมาในมาดของพนักงานส่งเอกสาร ทั้งคู่จำกันได้ดี กะรัตอธิบายชัยอีกครั้ง แต่สายตาเขาดูไม่เชื่อ กะรัตไม่ว่าอะไร เมื่อถึงบริษัททั้งคู่ต้องอึ้งเมื่อพบว่าทำงานที่เดียวกัน ในออฟฟิศฝ่ายโฆษณา มี โชติ ที่ดูจะเป็นมิตรกับกะรัต ส่วน พิทักษ์ กับ รัชนี นั้นดูไม่น่าไว้ใจ โดยเฉพาะรัชนีที่ประกาศความเป็นศัตรูอย่างชัดเจน ในบริษัทพิทักษ์กับ รัชนี วางมาดราวกับเจ้าของ จนชัยนึกตำหนินิพนธ์ว่าควรเข้ามาดูบ้าง รัชนีวางอำนาจข่มกะรัตกับชัยจนน่าเกลียด แต่ทั้งคู่ไม่สนใจ เวลาผ่านไปชัยได้รู้ว่ากะรัตเป็นผู้หญิงน่ารัก จริงใจ และน่าคบ กะรัตไม่ถือตัว ไม่แบ่งชนชั้น เธอนับถือคนที่นิสัยใจคอ ไม่ใช่เปลือกนอก ทั้งคู่สนิทกันมากขึ้น นิพนธ์ทำยุ่งเมื่อส่งดอกไม้มาให้กะรัต รัชนีหึงจนตาลาย เพราะนิพนธ์กับเธอมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งต่อกัน และทุกครั้งเขาบอกว่าเขาจะแต่งงานกับเธอ แต่มาวันนี้นิพนธ์ดูจะสนใจกะรัตมากไป รัชนียิ่งหาเรื่องกะรัตมากขึ้นทุกวัน วันหนึ่งพิทักษ์บอกว่าบริษัทผลิตเบียร์รายใหญ่กำลังเปลี่ยนแคมเปญโฆษณา และพิทักษ์อยากให้บริษัทได้งานนี้ รัชนีเจ้าเล่ห์วางแผนชวนกะรัตไปเจรจากับ พิชิต ซึ่งเป็นผู้จัดการฝ่ายโฆษณาด้วยกัน กะรัตไปเพราะงาน ในห้องอาหารญี่ปุ่น กะรัตถูกบีบให้นั่งคู่พิชิตโดยพิทักษ์กับรัชนีอยู่ฝั่งตรงข้าม ทั้งคู่รู้ดีว่าพิชิตชอบดื่มและชอบผู้หญิง พิชิตเองเมื่อเห็นกะรัตก็ถูกใจ พอเริ่มเมาก็เริ่มลวนลามจนกะรัตโมโห พิทักษ์และรัชนีไม่มีทีท่าว่าจะช่วยเธอเลย ความอดทนของกะรัตสิ้นสุดเมื่อพิชิตบอกว่าเขาจะเสนอเรื่องให้ประธานบริษัทคือ คุณยุทธ์ ทันที ถ้ากะรัตยอมไปกับเขาและอยู่กับเขาตลอดคืน กะรัตยกแก้วเหล้าสาดหน้าพิชิต และหนีกลับทันที เธอหวั่นใจว่าอาจตกงานอีกครั้ง ส่วนอ้อมขวัญถูกพจนีย์ภรรยาวีรเดชตามระราน ตบหน้าประจานถึงบริษัท เธอทั้งเจ็บทั้งอาย ดีว่า อนุชา น้องวีรเดช คอยช่วยทุกครั้ง อนุชาเป็นเพื่อนกับชัย เขาสงสารอ้อมขวัญเพราะรู้ฤทธิ์พจนีย์ดี กะรัตกัดฟันทำงานต่อไปเพราะชัยให้กำลังใจ นิพนธ์ยังตามส่งดอกไม้ไม่เลิก จนกะรัตเบื่อเต็มที เธอไม่ชอบทะเลาะกับใคร รัชนีให้พิทักษ์บีบให้กะรัตลาออก โดยยื่นคำขาดให้เธอติดต่อขอโทษพิชิต เพื่อทำสัญญาโฆษณากับบริษัทของยุทธ์ให้ได้ภายใน 1 เดือน กะรัตยอมอดทนไปติดต่อ จนพิชิตยอมพบ เขานัดเธอคนเดียวที่ห้องอาหารเดิม กะรัตไม่วางใจนัก เธอเล่าให้ชัยฟังอย่างอดไม่ได้ วันต่อมา กะรัตไม่สบายใจจึงไปก่อนเวลา เธอแวะพักใจ พักสมองที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่ง ระหว่างเดินเล่น เธอเห็นเด็กวัยรุ่นวิ่งไล่กัน และชนชายแก่คนหนึ่งตกน้ำ กะรัตรีบลงไปช่วยลุงคนนั้นทันที อะไรบางอย่างทำให้เธอเล่าให้ชายชราซึ่งบอกว่าชื่อยุทธ์ฟังเรื่องงาน ลุงยุทธ์ฟังอย่างสนใจ ก่อนแยกจากกันกะรัตให้เงินแกกลับบ้าน 100 บาทอย่างหวังดี แล้วก็ถึงวันนัดกับพิชิต กะรัตแต่งตัวเรียบร้อยเป็นพิเศษ เธอแวะสวนสาธารณะตามเคย และพบลุงยุทธ์อีก ยุทธ์คืนเงินให้เธอ ธนบัตรถูกพับอย่างเรียบร้อย แต่กะรัตไม่รับ เธอขอให้แกเอาใจช่วยให้เธอทำงานสำเร็จ เมื่อพบพิชิต แม้กะรัตจะระวังตัวอย่างดี เธอก็พลาดจนได้ พิชิตแอบวางยาเธอ กะรัตหลับไม่รู้เรื่อง พิชิตประคองเธอไปอย่างกระหยิ่มใจ เขากะจะแก้แค้นกะรัตให้เจ็บแสบ พอพิชิตประคองกะรัตถึงรถ ชัยเข้ามาช่วยเธอพอดี ชัยกับพิชิตต่อยกัน พิชิตสู้ไม่ได้ ชัยจึงพากะรัตไปทาวน์เฮ้าส์ของเพื่อนและเฝ้าเธอทั้งคืน จนใกล้เช้ากะรัตจึงรู้ตัว เธอขอบคุณชัย และกินอาหารกับเขา ชัยทอดเบค่อน ไข่ดาว ปิ้งขนมปังอย่างคล่องแคล่ว เมื่อกะรัตถามเขาก็บอกว่าอยากเก่ง อยากหรูบ้าง ระหว่างกินข้าวกะรัตแนะให้ชัยเรียนต่อ และถ้ามีโอกาสเธอจะสนับสนุนเขาเอง ชัยยิ่งประทับใจเธอมากขึ้น เวลาผ่านไป ชัยและกะรัตสนิทกันมาก ชัยดีใจที่กะรัตไม่รักนิพนธ์ วันหนึ่งกะรัตพาชัยไปพบยุทธ์และพาไปกินข้าว กะรัตเล่าเรื่องพิชิตให้ยุทธ์ฟัง ซึ่งยุทธ์ฟังอย่างสนใจ ส่วนชัยกับยุทธ์มองตากันเหมือนรู้ว่าต่างก็มีความลับต่อกัน ในเย็นวันต่อมาชัยแอบมาพบยุทธ์ ทั้งคู่คุยกันอย่างเปิดอก จึงรู้สถานะที่แท้จริงของกันและกัน ชัยดีใจมากที่รู้ว่ายุทธ์คือประธานบริษัทเบียร์ กะรัตถูกบีบให้ทำสัญญาให้ได้ ทั้งคู่ตกลงกันว่าจะไม่บอกกะรัต ส่วนอ้อมขวัญตัดสินใจบอกเลิกกับวีรเดช แต่วีรเดชไม่ยอมขอนัดอีกครั้งเป็นครั้งสุดท้าย เมื่อกะรัตรู้เธอไม่ยอมให้อ้อมขวัญไป เธอจะไปเอง เมื่อถึงเวลานัดชัยขอไปเป็นเพื่อนด้วย กะรัตพูดรุนแรงกับวีรเดชมากจนตัดสินใจกลับ ส่วนชัยรออยู่ข้างนอกเขาเห็นพจนีย์คอยหน้าร้านอย่างลับ ๆ ล่อ ๆ น่าสงสัย เมื่อกะรัตออกมาชัยจึงประกบทันที เป็นจังหวะเดียวกับที่พจนีย์สาดน้ำกรดใส่กะรัตเพราะเข้าใจว่าเป็นอ้อมขวัญ ชัยกระชากกะรัตหลบอย่างเฉียดฉิว น้ำกรดไม่โดนหน้าแต่แรงสาดน้ำกรดทำให้แขนกะรัตและชัยโดยพิษของมันเต็มที่ วีรเดชตกใจมากรีบพาทั้งคู่ไปโรงพยาบาล กะรัตเจ็บมากกว่า ส่วนชัยทำแผลแล้วก็ไปนั่งเฝ้ากะรัต อ้อมขวัญรู้เรื่องรีบตามมาโรงพยาบาล เธอพบวีรเดชและรู้ว่าลึก ๆ ในใจแล้ว วีรเดชรักพจนีย์มากกว่าเธอ เมื่อเขาขอให้อ้อมขวัญขอร้องกะรัตไม่ให้แจ้งความเพื่อเห็นแก่พจนีย์และชื่อเสียงของเขา อ้อมขวัญเจ็บใจและตาสว่าง เธอกลับไปบอกให้กะรัตและชัยแจ้งความ แต่กะรัตกลับใช้มาเป็นเครื่องต่อรองกับวีรเดชให้เลิกยุ่งเกี่ยวกับอ้อมขวัญ วันต่อมา เมื่อกะรัตมาทำงานก็โดนพิทักษ์ซึ่งเป็นคู่ขาเก่าของรัชนี และรัชนีบีบเรื่องสัญญาอีก พอดีว่าวันนั้นยุทธ์มาบริษัทมาในแบบธรรมดา ซึ่งแกถูกรัชนีชนจนล้มบาดเจ็บ และไล่แกอย่างรังเกียจ แต่ชัยกับกะรัตออกมารับพอดี รัชนียิ่งไม่พอใจเพิ่มขึ้น กะรัตพา 2 หนุ่มต่างวัยไปกินข้าว เมื่อส่งยุทธ์แล้ว ชัยพยายามบอกเป็นนัยว่าเขาชอบกะรัต ซึ่งเธอมีท่าว่าไม่รังเกียจ ขณะที่ทุกคนวุ่นวายกัน จึงไม่รู้ว่าพิทักษ์แอบยักยอกเงินบริษัทไปมากมาย จนชัยเห็นรัชนีทะเลาะกับพิทักษ์ เขาจึงสังเกตมากเป็นพิเศษ ก่อนสิ้นเดือนรัชนีข่มขู่กะรัตอีกเรื่องสัญญาบริษัทเบียร์ กะรัตไม่สนใจ จนถึงวันสุดท้าย ระหว่างกะรัตค่อย ๆ เก็บของเพราะคิดว่าคงต้องออกจากงานอีกแล้ว ยุทธ์ก็เข้ามาคราวนี้เขาแต่งตัวสมภาคภูมิ รัชนีไล่ตามเคย ยุทธ์ตรงไปหากะรัตและพูดชัดเจนว่าจะมาจ้างบริษัท เอส เอส โฆษณาทำโฆษณา รัชนีช็อค แต่ยังปากดีดูถูกแกอีก กะรัตเริ่มโมโห ก่อนเหตุการณ์จะบานปลาย พิชิตวิ่งเข้ามาอย่างกระหืดกระหอบพร้อมกระเป๋าเอกสาร รัชนีและพิทักษ์แทบช็อคเมื่อพิชิตขอโทษยุทธ์และถูกตำหนิต่อหน้าคนอื่น พิชิตบอกว่ายุทธ์คือประธานบริษัทเบียร์ที่พิทักษ์และรัชนีบีบกะรัตหนักหนานั่นเอง ยุทธ์ระบุให้กะรัตรับผิดชอบงานนี้คนเดียว รัชนีเสียหน้ามากเธอง้อนิพนธ์ แต่นิพนธ์ปฏิเสธ รัชนีจึงหันมาหาพิทักษ์ พิทักษ์จำยอมรับส่ง เพราะรัชนีรู้ความลับของเขา ทั้งคู่ไม่รู้ว่าชัยก็รู้เช่นกัน แล้ววันหนึ่ง ทุกคนในบริษัทตกใจกันหมดทุกคน เมื่อเรืองรองและชัยในมาดของ ชัย ลูกชายของเรืองรอง และตำรวจมาจับพิทักษ์และรัชนีข้อหาฉ้อโกง ความจริงของชัยทำให้กะรัตโกรธ ยิ่งก่อนหน้านี้ รัชนีเป่าหูว่าชัยจีบเธอเพราะเธอง่าย กะรัตเสียใจที่สุด เธอเขียนใบลาออกเพราะโกรธชัย กะรัตไม่ยอมพบชัยอีก เธอไปพบกับยุทธ์บ่อย ๆ ส่วนชัยเมื่อเคลียร์งานเสร็จ จึงตามไปง้อกะรัตที่สวนสาธารณะ เขารู้ว่าเธออยู่ที่นั่น เพราะยุทธ์ช่วย เมื่อชัยมากะรัตจะหนี ยุทธ์เตือนเธอว่า เธอและชัยเป็นคนดี เธอควรเปิดโอกาสให้ชัยอธิบายบ้าง ยุทธ์เดินไปเพื่อเปิดโอกาสให้หนุ่มสาว และเหมือนฟ้าเป็นใจเมื่อฝนตกอย่างแรง ชัยจึงฉุดกะรัตไปหลบฝน เขาฉวยโอกาสกอดเธอพลางสารภาพเรื่องทั้งหมด กะรัตเองยอมแพ้ใจเธอเอง เพราะเธอก็รักเขาเช่นกัน ชัยขอเธอแต่งงาน กะรัตแกล้งทวงแหวนเพชร ชัยจึงจูบเธอ บอกว่าจูบมัดจำแทนแหวนเพชรสำหรับ กะรัตผู้หญิงที่เขารัก และอยากให้เป็นเพชรในชีวิต กะรัตยิ้มพลางซุกอกชัยอย่างอบอุ่น เธอสัญญาว่าจะเป็นเพชรให้สมกับชื่อกะรัตของเธอเช่นกัน ส่วนอ้อมขวัญให้อนุชาดูแลรักษาหัวใจ จนเริ่มมีความสุขอีกครั้ง ทุกอย่างจึงลงเอยด้วยดี

วิวาห์อลเวง 2550

วิวาห์อลเวง (2550/2007) ทิพเกสร ถูก เทวี แม่เรียกตัวกลับจากเมืองนอกเพื่อมาแต่งงานกับ ชาวี หนุ่มชาวไร้น้องชายของ พัฒนา สามีใหม่ของแม่ ซึ่งทิพเกสรเกลียดหนักหนาเพราะเธอคิดว่าพัฒนาแต่งงานกับแม่ของเธอเพราะหวัง สมบัติ โดยที่ทิพเกสรไม่รู้เลยว่าแม่ป่วยเป็นโรคมะเร็งระยะสุดท้าย และฐานะการเงินของแม่เธอย่ำแย่ลง พัฒนาเป็นฝ่ายเข้ามาช่วยซื้อบ้านไร่ของแม่เธอเอาไว้ ทิพเกสรตัดสินใจหนีออกจากบ้านไปที่บ้านไร่เทวี โดยไม่รู้ว่าบ้านไร่นั้นไม่ใช่ของแม่เธออีกแล้ว ชาวีซึ่งดูแลไร่ของครอบครัวเขาซึ่งอยู่ติดกับไร่เทวี ชาวีรู้ว่าทิพเกสรจะมาจึงวางแผนกับ ลุงขาบ คนเฝ้าไร่ว่าไม่ต้องบอกทิพเกสรว่าเขาเป็นใคร ทิพเกสรมาถึงตัวอำเภอเอาตอนค่ำและหลงทาง ชาวีขี่ม้าตามเธอมาและอาสาจะพาเธอไปส่งที่บ้านไร่เทวี โดยไม่บอกว่าเขาเป็นใคร ระหว่างทางชาวีพูดจากวนโทสะทิพเกสร ทิพเกสรก็ตอบโต้ไม่ลดละจนชาวีรู้ฤทธิ์ของทิพเกสร และบอกตัวเองว่าเขาจะไม่ยอมแต่งงานกับเธอเด็ดขาด และชาวีเองก็มีผู้หญิงที่เขาคั่วอยู่คือ บัวริน นางงาม 3 ตำแหน่งประจำจังหวัด จันทร์แจ่ม แม่ของชาวีรู้ว่าพัฒนากำลังวางแผนจะให้น้องชายแต่งงานกับทิพเกสร จันทร์แจ่มก็หงุดหงิดมากเพราะเธอผิดหวังจากพัฒนาที่ไปแต่งงานกับแม่ม่าย อย่างเทวีมาแล้ว จึงคิดว่าจะไม่ยอมให้ชาวีแต่งงานกับลูกสาวเทวีอีกเด็ดขาด อาการป่วยของเทวีทรุดหนัก เทวีคิดว่าจะต้องจัดการให้ทิพเกสรแต่งงานกับชาวีโดยเร็ว เทวีกับพัฒนามาหาทิพเกสรที่ไร่ แต่ทิพเกสรโวยวายไม่ยอมแต่งและตราหน้าชาวีกับพัฒนาว่าหวังสมบัติของแม่เธอ ชาวีทนไม่ได้เผลอบอกความจริงว่าพัฒนาต่างหากเป็นฝ่ายมาช่วยพยุงฐานะแม่เธอ และตอนนี้พัฒนาได้ซื้อไร่ของแม่เธอไว้แล้ว ทิพเกสรช็อกและทำใจไม่ได้ ขณะเดียวกันนั้น พล เพื่อนชายที่แอบรักทิพเกสรมานาน ตามมาหาเธอที่ไร่เทวีด้วยความเป็นห่วง ชาวีเห็นความสนิทสนมระหว่างพลกับทิพเกสรเขาก็เริ่มหึง จึงขู่จะปล้ำเธอทิพเกสรตกใจจนสลบไป ชาวีจึงจัดฉากให้ทิพเกสรเข้าใจว่าเธอตกเป็นของเขาแล้ว ทิพเกสรเสียใจมากเมื่อเข้าใจว่าเธอเสียท่าชาวี เธอกลายเป็นคนเศร้าซึมและจำต้องยอมตอบตกลงแต่งงานกับชาวี เพราะชาวีขู่ว่าจะเอารูปที่เขาถ่ายเอาไว้ตอนมีอะไรกันออกมาแฉ แต่พอถึงวันแต่งงานบัวรินร่วมมือกับ ทัศนัย นายทุนที่มากว้านซื้อที่ดินแถบนี้ ลักพาตัวชาวีไปเพื่อหวังล้มงานแต่งงาน ทิพเกสรคิดว่าชาวีหนีงานแต่งงานเพราะต้องการฉีกหน้าเธอ เธอโกรธจึงขับรถหนีออกจากบ้าน พอดีรถเสียกลางทางทิพเกสรออกเดินจนหลงป่า ชาวีกลับมาถึงบ้านแล้วพอรู้ว่าทิพเกสรหายไปก็เข้าป่าไปตามหา พัฒนาพา แก้วดารา เพื่อนสนิทของทิพเกสรที่ทำงานเป็นเลขาฯ เขาไปช่วยกันตามหาด้วย ทัศนัยไปฟ้อง เจ้าทิพย์ทอง แม่ของแก้วดาราว่าพัฒนาพาแก้วดาราเข้าไปในป่าด้วยกัน ทิพย์ทองมาโวยวายเทวีจึงให้พัฒนาแสดงความรับผิดชอบด้วยการแต่งงานกับแก้ว ดารา แต่ทิพย์ทองไม่ยอมเลยไปเร่งรัดงานแต่งงานของทัศนัยกับแก้วดาราให้เร็วขึ้น พัฒนาไปหาหลักฐานมาแฉว่าทัศนัยต้องการแต่งงานกับแก้วดารา เพราะต้องการสมบัติงานแต่งงานจึงล่ม พลดีใจที่ทิพเกสรกลับมาเขาตัดสินใจขอ แต่งงานกับทิพเกสร ทิพเกสรต้องการประชดชาวีด้วยการตอบรับ เทวีมาขัดขวางแม่ลูกจึงทะเลาะกัน เทวีตกบันไดเข้าโรงพยาบาลทิพเกสรจึงได้รู้ว่าเทวีป่วยเป็นมะเร็งขั้นสุดท้าย ทิพเกสรรู้สึกผิดจึงเปลี่ยนใจยอมแต่งงานกับชาวีตามที่เทวีต้องการ ชาวีไม่ยอมแต่งงานเพราะคิดว่าทิพเกสรยอมแต่งงานเพื่อแม่โดยไม่ได้รัก จึงไปเฉลยกับทิพเกสรว่าความจริงเธอยังไม่เคยตกเป็นของเขา และไล่ให้เธอไปแต่งงานกับพล ทิพเกสรกับพลจึงแต่งงานกัน พลจึงบอกทิพเกสรว่าให้แต่งงานกันแต่ในนามเท่านั้น รอเวลาจนกว่าเธอจะพร้อม สุดท้ายอาการป่วยของเทวีก็หนัก จนถึงวาระสุดท้ายเวทีจึงเรียกแก้วดารากับพัฒนามาหา และขอร้องให้แก้วดาราดูแลพัฒนาต่อไปแทนตน เพราะรู้ว่าตลอดว่าทั้งคู่มีใจให้กัน พัฒนาและแก้วดาราปฏิเสธไม่ได้ พอเทวีตายไปทิพเกสรก็โศกเศร้าหมดกำลังใจ พลจึงชวนทิพเกสรไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เมืองนอก แต่ระหว่างนั้นชาวีมาขอร้องพัฒนาให้ยกไร่คืนให้ทิพเกสรเสีย เพราะเทวีก็ตายไปแล้ว พัฒนาก็แต่งงานใหม่ไปแล้ว ไร่ก็ควรตกเป็นของทิพเกสรมากกว่า พอพัฒนาตกลงชาวีก็เพิ่งรู้ความจริงว่าทิพเกสรจะไปเมืองนอก เขาจึงมาห้ามเธอแต่ก็ไม่ทัน ชาวีกลับไปที่ไร่อย่างโศกเศร้า แต่จู่ๆ ก็ได้รับจดหมายจากพลบอกเล่าความจริงในนาทีก่อนที่เขาจะขึ้นเครื่องว่า ทิพเกสรไม่ได้ไปต่างประเทศกับเขาเพราะเธอไม่ได้รับเขาอย่างที่เขารักเธอ พลยอมรับความจริงและยอมแยกทางกับทิพเกสร พลบอกที่อยู่ของทิพเกสรให้กับชาวี ชาวีรีบไปหาทิพเกสรและปรับความเข้าใจกัน ชาวีและทิพเกสรยอมตกลงใช้ชีวิตร่วมกันอย่างแท้จริงเป็นครั้งแรก แม้จะไม่ต้องมีงานแต่งงานมีเพียงความรักระหว่างคนสองคนเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว

เพลงรักริมฝั่งโขง 2550

เพลงรักริมฝั่งโขง (2550/2007) คำ ม่วน สาวลาวที่รักอยู่กับ จิมมี่ ฝรั่งที่มาใช้ชีวิตอยู่ในประเทศลาวในฐานะสปาย หลังจากเขาทำภารกิจเสร็จแล้วจึงให้สัญญากับคำม่วนว่าจะกลับมาสู่ขอเธอเพื่อ แต่งงาน เวลานั้นคำม่วนตั้งท้องอ่อนๆ อยู่แต่ไม่ได้บอกให้จิมมี่รู้ ตั้งใจว่าจะบอกเขาในวันที่เขามาสู่ขอ แต่จิมมี่กลับฝั่งไทยไปแล้วเขาก็ไม่ได้กลับมาหาคำม่วนอีกเลย เพราะถูกลอบยิงขณะเดินทางกลับมาหาคำม่วนอีกครั้ง คำม่วนคิดว่าจิมมี่ผิดคำสาบานที่ให้ไว้กับพระธาตุเมืองเก่า เธอจึงตัดใจเลิกคิดถึงจิมมี่นับแต่นั้นมา โดยมี ท่านทองใบ ชายหนุ่มที่หลงรักคำม่วนมาขอเธอแต่งงาน แต่คำม่วนก็ปฏิเสธ คำม่วนคลอดลูกออกมาเป็นผู้หญิงให้ชื่อว่า จำปา ท่านทองใบพาคำม่วนไปใช้ชีวิตอยู่ที่ปากเซน้อย เพื่อไม่ให้คำม่วนอับอายเพื่อนบ้าน 20 ปีผ่านไปจำปาเติบโตเป็นลูกครึ่งที่หน้าตาสะสวย ดูแลกิจการโฮมสเตย์ของท่านทองใบในฐานะไกด์สาว และมี สะเดา ลูกพี่ลูกน้องคอยช่วยเหลือ พิณ ลูกชายของพ่อเคน มีอาชีพเป็นนักดนตรีที่ดีดพิณได้ไพเราะมากในคณะเสียงสวรรค์ของ ครูสมาน พิณได้เจอกับจำปาตอนที่เธอพาลูกทัวร์มาเที่ยวงานพระธาตุที่นครพนม พิณหลงรักจำปาตั้งแต่แรกเห็นจึงใช้วิธีตามตื้อ

เขาหาว่าหนูเป็นเจ้าหญิง 2550

เขาหาว่าหนูเป็นเจ้าหญิง (2550/2007) แคว้นหยวนเป็นแคว้นเล็กๆ ในประเทศทางเหนือของไทย ถูกประเทศที่เป็นเจ้าของแผ่นดินพยายามกลืนเข้าเป็นดินแดนเดียว โดย นายพลลี ได้วางแผนสังหาร เหล่ากง เจ้าองค์สุดท้ายแล้วสถาปนา เอ้ออี้ ลูกชายของ หูลี่ พระขนิษฐาที่แอบฝักใฝ่รัฐบาลขึ้นเป็นเจ้ามณฑล แต่แผนการกลับไม่เป็นอย่างที่คิดเพราะพบหลักฐานว่ามีรัชทายาทที่หายสาบสูญอยู่ที่เมืองไทยเมื่อสิบแปดปีก่อนปรากฏขึ้น พบรัก หญิงสาวห้าวใจเด็ดประจำหาดป่าตอง ที่ใครๆ ก็รู้จักเธอดีในนาม เจ้าแม่หาดป่าตอง

เงื่อนริษยา 2550

เงื่อนริษยา (2550/2007) ชาลี เด็กหนุ่มหน้าสวยที่ใช้ชีวิตอยู่ในสลัมกับ ดนัย สุวงศ์ พ่อที่ป่วยหนัก นอกจากพ่อแล้วชาลียังมี ไอ้จ้อย เพื่อนสนิทผู้นำพาให้ชาลีได้พบกับ อิราวัต สหเทพ เจ้าของกระเป๋าที่ไอ้จ้อยเอามายัดใส่มือชาลี จนอิราวัตเข้าใจผิดคิดจะจับชาลีส่งตำรวจ โชคดีที่ชาลีใช้วิธีเจ้าเล่ห์หนีมาได้ แต่แล้วชะตาก็ทำให้ชาลีได้พบกับอิราวัตอีกครั้งในวันที่พ่อของชาลีกำลังจะ สิ้นใจ ดนัยอดีตทนายความอนาคตไกลที่อิราวัตตามหา ได้เพียงกล่าวคำสั่งเสีย “ฝากลูกพี่ด้วย..ช่วยดูแล..ระวังอันตราย” เท่านั้นดนัยก็สิ้นลม ทิ้งไว้เพียงปริศนาและชีวิตเด็กหนุ่มตรงหน้าที่อิราวัตต้องดูแล ชา ลีต้องย้ายมาอยู่ในบ้านสหเทพ ที่นอกจากอิราวัตแล้วยังมี อภินัทธ์ น้องชายของอิราวัตที่ความรักกำลังมีปัญหาเพราะ สิรินัดดา ( พราว ) แฟนสาวลูกของ คุณหญิงพิมพา ต้องการได้อิราวัตเป็นลูกเขยมากกว่า ชาลีสงสารหาทางช่วยทำให้สนิทสนมกับพราวเป็นพิเศษ จนเกือบมีเรื่องกับอภินัทธ์เพราะความหึงหวง นอกจากศึกภายในบ้านแล้วชาลียังมีศึกนอกบ้านอีกเมื่อ คาร่า คู่ควงของอิราวัตสงสัยในความผิดปกติบางอย่างในตัวชาลี และตั้งหน้าตั้งตาจับผิดจนชาลีไม่เป็นอันทำอะไร อิราวัตเลยพาชาลีไปพักผ่อนที่ไร่สหเทพที่มี สุกฤต เป็นผู้ดูแล

ภูตสาวพราวเสน่ห์ 2550

เรื่องย่อ : ภูตสาวพราวเสน่ห์ (2550/2007) นิศา สาวสวยอายุ 22 ปี ทำงานอยู่ในกองถ่าย โดยหวังว่าสักวันจะได้เป็นดารา วันหนึ่งนิศาจับได้ว่า ไฉไล เพื่อนรักกับ ชาติชาย แฟนหนุ่มมีอะไรกัน ซ้ำร้ายบทนางเอกที่คาดหวังจะได้เล่นก็ถูกเปลี่ยนเป็นแค่บทผีสาวตัวประกอบ นิศาสุดจะทนเดินออกจากกองถ่ายทั้งชุดไทย แต่ดันถูกวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งมามอมยาเพื่อจะพาไปรูดทรัพย์ ขณะเดียวกัน ชโนทัย หนุ่มวัย 22 เจ้าของโมเดลลิ่งเล็กๆ กำลังมีปัญหาว่ากิจการใกล้เจ๊ง แถม เรืองอรุณ แฟนสาวทายาทหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ก็ยังมาเร่งให้ขอแต่งงาน คณิน เพื่อนนักข่าวที่ทำเรื่องเกี่ยวกับวิญญาณจึงพาไปหา ซินแสจิว ซินแสจิวดูดวงให้แล้วบอกว่าชโนทัยดวงตกต้องจ่ายเงินแก้เคล็ด แต่ชโนทัยไม่เชื่อสร้างความขัดเคืองให้ซินแส ซึ่งที่แท้เป็นพวกต้มตุ๋นอย่างมาก ซินแสจิวให้ลูกน้องดักทำร้ายชโนทัยแล้วเอาไปโยนไว้แถวเพิงเดียวกันกับที่นิศาถูกวัยรุ่นจับมา วัยรุ่นตกใจทิ้งนิศาไว้แล้วหนีไปโดยที่ยังไม่ได้ทำอะไร นิศารู้สึกตัวอีกทีก็พบว่าตัวเองตายแล้ว เพราะมีคนมาเผาหญ้าแล้วทำไฟครอกเธอ นิศากลายเป็นผีเร่ร่อนอยู่บริเวณศาลร้างของ "เจ้าแม่สไบทอง" วิญญาณของนิศาถูกบันทึกภาพในกล้องของคณินโดยบังเอิญ คณินนำภาพไปลงหนังสือพิมพ์ ชาวบ้านต่างร่ำลือกันว่าผู้หญิงในภาพคือเจ้าแม่สไบทองที่ศักดิ์สิทธิ์มากในสมัยก่อน บริษัทพาวเวอร์แอ็ค ยักษ์ใหญ่ประกาศเกาะกระแสรีบสร้างละครผีเรื่อง "สไบทอง" ชโนทัยเห็นลู่ทองในการกอบกู้กิจการโมเดลลิ่ง จึงทุ่มสุดตัวเพื่อหาคนมาเล่นเป็นผีสไบทอง ผีนิศาระหกระเหินไปเจอกับผีคณะตลกคาเฟ่ "เชิญก๊าก" คือ เด้ง เชิญก๊าก, หนีด เชิญก๊าก, กึ๋ย เชิญก๊าก เชิญก๊ากกลายมาเป็นผีเพื่อนซี้ของนิศา ทั้ง 3 ยุให้นิศาสวมรอยเป็นเจ้าแม่สไบทอง เพื่อหลอกกินของเซ่นจากชาวบ้าน

ตุ๊กตาเริงระบำ 2550

เรื่องย่อ : ตุ๊กตาเริงระบำ (2550/2007) อินทุอร สาวสวยนักเรียนนอก ที่ใกล้จะเรียนจบปริญญาตรี แต่บิดาของเธอ อนันต์ มาเสียชีวิตลงกะทันหัน อินทุอรหยิบจดหมายจาก ศจี ซึ่งมีศักดิ์เป็นแม่เลี้ยงขึ้นมาอ่านหลายครั้ง เพราะเธอไม่เชื่อว่าบิดาของเธอจะฆ่าตัวตาย เพราะเขาเป็นถึงนักธุรกิจชื่อดัง ร่ำรวยมหาศาล ประสบความสำเร็จในอาชีพตลอดมา อินทุอรคิดไม่ตกว่าทำไมบิดาถึงฆ่าตัวตาย ในเมื่อท่านสั่งสอนเธอมาเสมอว่าคนฆ่าตัวตายคือคนโง่ เธอไขลานให้ตุ๊กตาบัลเลต์หมุนไปรอบตัวตามจังหวะดนตรีอีกครั้ง อินทุอรนั่งมองตุ๊กตาแต่น้ำตาไหลพราก เพราะตุ๊กตาตัวนี้บิดาซื้อให้เธอเป็นของขวัญวันเกิดเมื่อปีที่แล้ว และสั่งนักสั่งหนาว่าให้เก็บตุ๊กตาตัวนี้ไว้ให้ดี ตุ๊กตาตัวนี้จะเป็นตัวแทนของท่าน เมื่อเธอคิดถึงก็ให้กอดตุ๊กตาแล้วก็เหมือนกับกอดท่าน อินทุอรแปลกใจที่บิดาพูดแปลก ๆ ณ วันนี้เธอไม่มีใครแล้วนอกจาก “ตุ๊กตาเริงระบำ” วันรุ่งขึ้นเธอตัดสินใจเก็บของกลับกรุงเทพฯทันที เธอไม่เชื่อว่าบิดาของเธอจะฆ่าตัวตาย บนเครื่องบินเที่ยวบินอังกฤษ-กรุงเทพฯ ทยา หนุ่มหล่อนักธุรกิจไฟแรงนั่งมองสาวสวยที่นั่งติดกันอย่างสงสัย เธอนั่งกอดตุ๊กตากระเบื้องในชุดบัลเลต์ไว้แน่น สีหน้าเศร้าหมอง แต่ถึงจะเศร้าเธอก็สวยจับตาจับใจเหลือเกิน ทยาพยายามคุยด้วยเมื่อรู้ว่าเธอเป็นคนไทย แต่เธอไม่สนใจเขาเลย จนทยาเข้าใจว่าเธอหยิ่ง ทว่าความจริงแล้วสาวสวยคนนั้นหรือ อินทุอรกำลังเศร้าและสับสนที่สุด พอมาถึงกรุงเทพฯ ทยาช่วยดูแลเธอจนออกมาถึงนอกสนามบิน เมื่อเขารู้ว่าเธอไม่มีใครมารับ ทยาก็อาสาจะไปส่ง ระหว่างเดินมาที่รถทยา สาวสวยแต่งตัวเปรี้ยวอีกคนหนึ่งก็วิ่งถลามากอดเขาอย่างรักและคิดถึงเต็มที่ อาการของเจ้าหล่อนใครมองก็รู้ว่าเป็นแฟนกัน ทยาตกใจแต่อินทุอรตกใจกว่า เธอจำได้ว่าสาวเปรี้ยวคนนี้คือ สลีวัลย์ ลูกสาวศจีนั่นเอง อินทุอรรีบลากกระเป๋าหนีมาขึ้นแท็กซี่ทันที โดยไม่สนใจเสียงเรียกของทยา อินทุอรมาที่สำนักงานทนายความของ ประชา ทนายประจำตระกูล ประชา และ ประพล ลูกชายตกใจที่อินทุอรมาอย่างกะทันหัน อินทุอรซักถามถึงการตายของบิดาอย่างละเอียดเพราะไม่เชื่อ แต่ประชาก็ยืนยันว่าอนันต์ฆ่าตัวตายจริง ๆ ที่สำคัญคือยังหาพินัยกรรมไม่พบ อนันต์เขียนพินัยกรรมต่อหน้าประชา แต่บอกว่าจะเก็บไว้เอง ไม่มีใครรู้ว่าเขาเก็บไว้ที่ไหน ประชารู้เพียงว่าจะเปิดพินัยกรรมได้ก็เมื่ออินทุอรอายุครบ 20 ปี บริบูรณ์พอดี อินทุอรและประชากลุ้มใจเพราะมีเวลาเพียง 6 เดือนเท่านั้นในการหาพินัยกรรม วันนั้นประพลรีบอาสาไปส่งอินทุอรที่บ้าน ศจีและสลีวัลย์ตกใจที่เห็นอินทุอรมาแบบกะทันหัน รวมถึงทยาซึ่งสลีวัลย์ชวนมาที่บ้านด้วย ส่วนอินทุอรมองศจีที่วางมาดเป็นเจ้าของบ้านอย่างปวดร้าว ใบหน้าเรียบเฉย ตาดุ มองศจีอย่างโกรธแค้น ชิงชัง ศจีข่มใจวางมาดผู้ใหญ่ใจดี ปลอบอินทุอรเรื่องบิดา และพยายามเกลี้ยกล่อมให้เธอกลับไปเรียนต่อ แต่อินทุอรกลับตอบโต้อย่างรุนแรง นมอ่อน แม่นมของบิดา และ กิ่งแก้ว พี่เลี้ยงของเธอต้องไปอยู่เรือนคนใช้ ทั้งที่เคยมีห้องพักบนตึกใหญ่ เมื่ออินทุอรลงไปหาทั้งคู่ เธอยิ่งเสียใจเมื่อเห็นว่านมอ่อนป่วยมาก กิ่งแก้วกอดอินทุอรอย่างรักและคิดถึง และบอกว่านมอ่อนป่วยมานานแล้ว แต่ศจีไม่ยอมให้พาไปโรงพยาบาล อินทุอรโกรธจัด บอกให้กิ่งแก้วเตรียมตัวไว้ เธอจะพานมอ่อนไปโรงพยาบาลเอง เธอกลับไปหาทนายประชาอีกครั้ง คราวนี้เธอขอแฟ้มคดีของบิดามาด้วย เธอต้องการรู้ข้อมูลอย่างละเอียด อินทุอรไปเยี่ยมนมอ่อนทุกวัน เธอเริ่มอ่านรายละเอียดคดีของบิดาบ้างแล้ว ข้อมูลหลายอย่างทำให้อินทุอรสงสัยศจีและสมบูรณ์ น้าชายแท้ ๆ ของเธอ สมบูรณ์ดูแลเรื่องการเงินแต่ก็เหมือนอยู่ใต้อำนาจของศจี จนอินทุอรแค้นใจมากขึ้น อินทุอรนั่งทบทวนรายละเอียดการตายของบิดาจนหมด เธอเชื่อว่าบิดาถูกฆาตกรรมแน่นอน เพราะบิดาเป็นคนถนัดขวาก็จริง แต่เมื่อยิงปืนแล้ว ท่านจะถนัดใช้มือซ้ายมากกว่า เรื่องราวต่าง ๆ จะลงเอยอย่างไรติดตามต่อในละคร

สตรีที่โลกลืม 2550

เรื่องย่อ : สตรีที่โลกลืม (2550/2007) อรอุรินทร์ เด็กสาวชาวนาเกลือ สวยกว่าใครในหมู่บ้าน จนน่าจะเป็นลูกคนมีเงินหรือผู้ดีมากกว่าเป็นลูกชาวบ้านอย่าง อุ้ม อรอุรินทร์มีอาชีพรับจ้างทำนาเกลือให้กับ คุณสมหญิง เจ้าของที่ดินผู้ร่ำรวย อรอุรินทร์เคยถามถึงพ่อแต่อุ้มบอกเป็นนัยเพียงว่า พ่อเป็นผู้ชายที่ไม่รับผิดชอบคนหนึ่งที่เคยทำให้อุ้มรัก อรอุรินทร์จึงมีปมด้อยเรื่องพ่อ อรอุรินทร์มีนิสิยมองโลกในแง่ดี ซึ่งมักจะเป็นหนทางที่ทำให้โดนเพื่อนคนอื่นเอาเปรียบเสมอ หนึ่งในนั้นคือ นิติภูมิ ( บอย ) ที่จ้องลวนลามด้วยคำพูดและท่าทางปากว่ามือถึง และ นิชา เพื่อนร่วมชั้นเรียนที่เป็นคู่แข่งในด้านความสวย แต่อรอุรินทร์ยังมี นรดี ( แต๋ว ) เป็นผู้ช่วยตอบโต้บอยกับนิชา แต๋วกับอุ้มเป็นห่วงอรอุรินทร์กลัวความซื่อไว้วางใจคนอื่น มองโลกในแง่ดีของอรอุรินทร์จะนำภัยมาสู่ตน แต่อรอุรินทร์บอกวาเธอต้องการเอาชนะคนคิดร้ายด้วยความดี วันหนึ่งขณะกำลังเก็บหอยหลอดไปขาย อรอุรินทร์ได้เจอกับ อธิการ ( บิ๊ก ) อรอุรินทร์กับบิ๊กไม่ชอบหน้ากันตั้งแต่แรกพบ แต่อรอุรินทร์มารู้ภายหลังว่าบิ๊กกับบอยคือหลานของคุณสมหญิง บอยยิ่งกลั่นแกล้งลวนลามอรอุรินทร์ แต่บิ๊กคอยปรามบอยพร้อมทั้งขอโทษอรอุรินทร์แทนน้อง อรอุรินทร์เริ่มประทับใจที่บิ๊กให้เกียรติเด็กผู้หญิงจนๆ อย่างเธอ บิ๊กมองเห็นความดีในตัวอรอุรินทร์และเริ่มรักเธอ อรอุรินทร์ก็รักชอบบิ๊ก แต่พยายามห้ามใจเพราะเจียมตัว แต่บิ๊กก็หาโอกาสมาดูแลงานที่นาเกลือบ่อยๆ จนทั้งสองใจตรงกัน คุณสมหญิงบอกกับบิ๊กและบอยว่าจะยกมรดกให้ แต่ในส่วนของบอยต้องมีบิ๊กคอยดูแล บอยไม่พอใจอย่างมากประชดคุณสมหญิงโดยการเล่นพนันจนเป็นหนี้บ่อนของ นายบัญชา บิ๊กได้โอกาสขอแต่งงานกับอรอุรินทร์หลังจากเรียนจบ คุณสมหญิงซึ่งมีเมตตาต่ออุ้มและอรอุรินทร์ก็ยินดีจะให้ทั้งสองแต่งงานกัน วันรับประกาศนียบัตรอรอุรินทร์เป็นตัวแทนของนักเรียนกล่าวขอบคุณอาจารย์ และมีการแสดงของนักเรียนกว่าจะเลิกงานก็ค่ำ อรอุรินทร์แยกทางกับแต๋วกลับบ้านพบแก๊งค์มอเตอร์ไซด์ของ เบิ้ม ลูกชายของนายบัญชาล้อมจับตัว อรอุรินทร์หนีเข้าไปในป่าแสม อุ้มเข้ามาช่วยแต่ถูกทำร้ายบาดเจ็บ อรอุรินทร์ถูกเบิ้มและบอยจับตัวไปกักขังจะปลุกปล้ำข่มขืน แต่ทั้งสองแย่งกันเป็นคนแรกเลยตกลงกันไม่ได้ เลยนั่งดื่มเหล้าจนเมา สงคราม เพื่อนรุ่นน้องของอรอุรินทร์เข้ามาช่วย แต่อรอุรินทร์กลับเข้าใจว่าสงครามคือหนึ่งในแก๊งค์ที่ย่ำยีเธอ อรอุรินทร์ฟื้นขึ้นมากับความปวดร้าวเสียใจ เพราะคิดว่าตนเองถูกข่มขืนไปแล้ว อรอุรินทร์จำใจแต่งงานกับบิ๊กทั้งที่ละอายใจ อุ้มห้ามอรอุรินทร์พูดเรื่องถูกทำร้าย นิชารักบิ๊กจึงร่วมมือกับบอยป่าวประกาศเรื่องอรอุรินทร์ไม่บริสุทธิ์ โดยมี เมตตา และปราณี เป็นลูกคู่ ทำให้อรอุรินทร์เป็นผู้หญิงไม่ดีในสายตาของชาวบ้าน ซ้อลูกนก และ เฮียจอห์นนี่ พ่อแม่ของนิชาเป็นตัวตั้งตัวตีขับไล่อรอุรินทร์ โดยที่ชาวบ้านไม่รู้เลยว่ากำลังตกเป็นเหยื่อของเฮียจอห์นนี่กับนายบัญชา ที่คิดจะทำลายป่าโกงกางเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง อรอุรินทร์ปลุกระดมชาวบ้านให้รักถิ่นเกิด ให้อนุรักษ์ป่าโกงกางซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของสัตว์น้ำทรัพยากรอันล้ำค่า การตั้งตัว ต่อต้านโครงการกินบ้านกินเมืองทำให้อรอุรินทร์ถูกทำร้ายหลายครั้งจนคลอดก่อน กำหนด สร้างความข้องใจให้ทุกคนโดยเฉพาะบิ๊ก เพราะสถานการณ์ต่างๆ ที่นิชาสร้างขึ้นมาป้ายสีอรอุรินทร์ครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้บิ๊กเชื่อว่าเด็กไม่ใช่ลูกของเขา รอุรินทร์กับบิ๊กอยู่กันอย่างหวานอมขมกลืน เมื่ออรอุรินทร์ยังมุ่งมั่นทำความดี ส่วนบิ๊กก็ถูกบอยประสงค์ร้าย ด้วยความริษยาที่บิ๊กเป็นคนดูแลมรดกตามพินัยกรรมของคุณสมหญิงซึ่งเสียชีวิต ไปแล้ว บอยอ้างว่าลูกของอรอุรินทร์เป็นลูกของเขา และข่มขู่เอาเงินจากอรอุรินทร์ไปใช้หนี้บ่อนหลายครั้ง ครั้งละหลายล้านบาท นอกจากนั้นบอยยังร่วมมือกับนิชาและนายบัญชา หาทางบีบบังคับให้อรอุรินทร์ถอนตัวจากการอนุรักษ์ชายทะเล แต่อรอุรินทร์ไม่ยอม บิ๊กตามปกป้องอรอุรินทร์ทั้งๆ ที่ยังไม่รู้ว่าอรอุรินทร์มีความลับอะไรกับบอย อรอุรินทร์ไม่ยอมให้ลูกเข้าใกล้บอย จนในที่สุดบิ๊กก็รู้เรื่องราวในอดีตของอรอุรินทร์ อรอุรินทร์ไม่อยากให้บิ๊กอับอายชาวบ้านจึงขอหลีกทางไปเอง แต่บิ๊กไม่ยอมเพราะคามรักที่มีต่ออรอุรินทร์และลูก แม้จะคิดว่าไม่ใช่ลูกตัวเองก็ตาม โครงการตัดป่าโกงกางใกล้สำเร็จ อรอุรินทร์ระดมพลังชาวบ้านประท้วง แต่ถูกกลุ่มนิชาขัดขวาง นิชาแกล้งจนอรอุรินทร์ทำลูกหลุดมือตกพื้นสลบเหมือดต้องผ่าตัดด่วน หมอต้องการเลือดสำรองให้เด็ก ผลการเจาะเลือดจึงช่วยยืนยันว่าเด็กเป็นลูกของบิ๊ก นายบัญชากับเบิ้มจับตัวบอยไปสั่งบังคับให้หลอกอรอุรินทร์ไปให้เพื่อสังหาร บอยจำเป็นต้องทำตามที่นายบัญชาสั่งเพราะเป็นหนี้บ่อนนับล้าน ถ้าไม่ทำเขาก็ตายเหมือนกัน อรอุรินทร์ตกไปอยู่ในอุ้งมือของจอมอิทธิพลอย่างนายบัญชาแล้ว ความดีที่ตั้งใจทำเพื่อสังคมมาตลอดชีวิตจะปกป้องอรอุรินทร์จากคนชั่ว แลทำให้บิ๊กกลับมาเข้าใจเธอได้หรือไม่ ติดตามชมได้ในละคร “สตรีที่โลกลืม”

เลือดในดิน 2550

เรื่องย่อ : เลือดในดิน (2550/2007) อาทิตย์ ใจกล้า อดีตทารกที่รอดตายอย่างปาฏิหาริย์ เพราะแม่ต้องหนีตายซมซานไปคลอดกลางป่าและนั่นคือที่มาของรอยแผลเป็น บนหน้าอกใกล้หัวใจของอาทิตย์ ... รอยแผลอันย้ำถึงที่มาและความเจ็บปวดของแม่บังเกิดเกล้ากับชีวิตจากเลือดก้อนหนึ่งที่ไหลลงสู่ดิน และเติบโตขึ้นมาพร้อมกับความอาฆาตที่อันฝังใจ จวบจนกระทั่งในวันที่ เสียงระเบิดพร้อมเสียงตะโกน "กูจะฆ่ามึง" ดังกึกก้องทั่ว เหมืองท้องฟ้า ดั่งสัญญาณแห่งการประกาศสงครามของอาทิตย์กับ นายแม่ ย่าแท้ๆ และพ่อ ผู้เป็นต้นเหตุแห่งความแค้นทั้งปวง อาทิตย์กับ ปาน พี่เลี้ยงที่เติบโตมาด้วยกัน จึงเข้ากรุงเทพฯ เพื่อควานหาตัว ย่าและพ่อ โดยมีจุดมุ่งหมายที่โรงแรมใหญ่ แล้วอาทิตย์ก็สมหวัง เมื่อ เยาวดี หญิงสาวมาดเนี๊ยบ ผู้บริหารโรงแรม แกรนด์ไดมอนด์ รับอาทิตย์ เข้าทำงานด้วยความเสน่หา ซึ่งอาทิตย์ก็ยินดีตอบสนองเพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปตามแผน โดยไม่รู้ว่าเยาวดีนั้นมีลูกติดคือ หนูดี ซึ่งเยาวดีก็ปิดบังในตอนแรกเพราะรู้สึกอิหลักอิเหลื่อที่จะให้หนูดีมีพ่อใหม่ที่อ่อนกว่าหลายปี สุดท้ายเยาวดี ก็ตัดสินใจบอกอาทิตย์ตามตรง อาทิตย์ไม่มีท่าทีรังเกียจ จนเยาวดีแอบปลื้มใจ เพราะไม่รู้ว่าในใจอาทิตย์นั้น ไม่คิดจะลงหลักปักฐานกับเยาวดีจริงจัง เพราะหัวใจของอาทิตย์มีเพียง ตรีทิพย์ หญิงสาว งามสง่า ลูกสาวของ เจ้าสัวลิ้ม หุ้นส่วนของโรงแรมและเรื่องล้างแค้นเท่านั้น จนปานต้องคอยเตือนให้นึกถึง กาหลง หญิงสาวแสนซื่อที่รอคอยอาทิตย์อยู่ที่ทุ่งกาหลง แล้วที่สำคัญตรีทิพย์กำลังจะหมั้นกับชาย ราชภูมิ ลูกชายเจ้าของโรงแรมแกรนด์ไดมอนด์ ในขณะที่อาทิตย์กำลังสืบเรื่องราวต่างๆ แม่กำไล หรือ นางชื่น ใจกล้า ก็ถูกทำร้ายสาหัสอีกครั้ง เพราะ ตาเรือง กับ ยายทองคำ ตากับยายของอาทิตย์ไปช่วยไม่ทัน ผลจากที่แม่เจ็บครั้งนี้ ทำให้ความอดทนของอาทิตย์หมดลง อาทิตย์จึงฆ่าลูกน้องคนหนึ่ง ของ ไอ้หรั่ง มือขวาของนายแม่ด้วยความไม่ตั้งใจ อาทิตย์ต้องหนีจากการไล่ล่าของลูกน้องนายแม่ ในสภาพจิตใจที่ขาดวิ่น ... ตรีทิพย์สังเกตอาการลนลานของอาทิตย์ด้วยความเป็นห่วง และพยายามหาทางช่วย แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มาก เพราะยังมีเยาวดีขัดขวางไม่ยอมให้อาทิตย์เข้าใกล้ตรีทิพย์ ... จนอาทิตย์เริ่มกังวล หากตรีทิพย์คือดวงใจ แต่เยาวดีคือแขนขาที่จะพาอาทิตย์ไปสู่ความจริง ... แล้วความวุ่นวายก็เพิ่มขึ้น เมื่อกาหลง กับ สวิง หนุ่มใจหญิง เข้ามาหาอาทิตย์ที่กรุงเทพ ฯ เรื่องราวสับสนต่างๆ จึงเกิดขึ้น และยังไม่มีท่าทีว่าจะจบลงแค่นั้น เพราะอาทิตย์กำลังจะมีคู่แข่งคือ วิมุต นักธุรกิจ ที่เยาวดีใช้ดึงความสนใจของอาทิตย์มาจากตรีทิพย์ พ่วงมาด้วย วิมลมณี น้องสาวของวิมุตที่สนใจอาทิตย์เช่นกัน แถมมี พิธาน ชายหนุ่มที่มาติดพันวิมลมณี จนเกือบมีเรื่องกับอาทิตย์หลายครั้ง .. ขณะที่เรื่องรักยังพัวพัน นายแม่ก็รู้ว่าอาทิตย์เป็นลูกของกำไล นางแม่จึงวางกลลวงเป็นผู้ใหญ่ที่แสนดี มีความเมตตา จนอาทิตย์ไม่ระแวงเลยว่านายแม่คนนี้นี่เองที่อาทิตย์ตามหามานาน .... แล้ววันที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตอาทิตย์ก็มาถึง เมื่อนายแม่พรากชีวิตแม่กำไลให้จากไปไม่มีวันกลับ ... อาทิตย์เฝ้าโทษตนเองที่มิอาจตามหาคนที่ก่อกรรมกับแม่ได้สักทีจนเป็นเหตุให้แม่ต้องตาย แต่แล้ว วินาทีเป็นวินาทีตายมาถึง ... เมื่อความจริงปรากฏว่านายแม่ เจ้าของโรงแรมแกรนด์ไดมอนด์ กับชาย ราชภูมิ คือย่า และพ่อบังเกิดเกล้า ผู้เป็นชนวนเหตุแห่งเรื่องทั้งหมด อาทิตย์แทบคลั่งเมื่อคิดว่า แท้จริงตรีทิพย์คือคนที่นายแม่ส่งมาสืบหาความจริง.. อาทิตย์เสียใจมากที่ผู้หญิงที่รักที่สุดหลอกลวงตนมาตลอด ทั้งยังไม่สามารถทำอะไรนายแม่ กับชายได้ถนัด อาทิตย์จึงเอาตรีทิพย์เป็นเดิมพัน ชายพยายามเตือนสติอาทิตย์ว่าตรีทิพย์ไม่รู้เรื่อง แต่อาทิตย์ไม่เชื่อ และระบายความแค้นทั้งหมดลงที่ตรีทิพย์ เพราะรู้ว่าตรีทิพย์คือความหวังของนายแม่และชาย ตรีทิพย์ไม่โกรธ ยอมรับชะตากรรมที่ตนเองไม่ได้ก่อไว้เพียงผู้เดียว เพราะหวังว่าความพยาบาทของอาทิตย์อาจจางหายไป ... แต่ความหวังของตรีทิพย์ก็แทบจะหมดลง เมื่อนายแม่กับชาย ราชภูมิ ล้มละลาย ... อาทิตย์เข้าครอบครองทุกสิ่ง นายแม่กับเจ้าสัวลิ้มจึงขอให้อาทิตย์แต่งงานกับตรีทิพย์ อาทิตย์ตอบตกลงเพราะวางแผนที่จะตอบแทนนายแม่กับชายให้สาสม โดยใช้ตรีทิพย์เป็นเครื่องมือ หลังจากแต่งงานอาทิตย์ก็ทิ้งให้ตรีทิพย์ไว้เพียงลำพัง แถมยังซื้อบ้านและเลี้ยงดูกาหลง เยี่ยงภรรยาไปหาเยาวดีเสมอๆ เพื่อทำให้ตรีทิพย์เจ็บปวด ตรีทิพย์ยอมรับทุกอย่างไว้ด้วยหัวใจที่ร้าวราน จนอาทิตย์เกือบ ใจอ่อน แต่เมื่อนึกขึ้นว่าถ้ารักตรีทิพย์เมื่อไหร่นายแม่ก็จะเป็นผู้ชนะ อาทิตย์จึงต้องพยายามต่อสู้กับหัวใจตัวเอง แม้ว่าจะเจ็บปวดมากเพียงใดก็ตาม อาทิตย์หาทางพานายแม่ไปที่หลุมศพแม่กำไลสำเร็จ และที่นั่นนายแม่เกิดล้มหัวฟาด เลือดหยดลงสู่ดินที่ฝังศพแม่กำไล ... อาทิตย์ยืนมองหยดเลือดด้วยสายตาว่างเปล่า และกระซิบบอกแม่กำไลว่า บัดนี้เลือดได้ล้างด้วยเลือดแล้ว ..นายแม่ฟื้นขึ้นมาในสภาพคนมีแต่ร่าง ไม่เดิน ไม่พูด แววตาเหม่อลอยจนชายใจหาย ชายได้แต่บอกอาทิตย์ว่า ถึงนายแม่จะเป็นเช่นไร ก็ยังเป็นแม่ของตน และที่สำคัญเป็นย่าของอาทิตย์ด้วย อาทิตย์เริ่มคิดถึงสิ่งที่ทำลงไป จึงไปเยี่ยมนายแม่ที่มีชายและ ผดา พยาบาลญาติห่างๆ คอยดูแล เมื่อเห็นสภาพนายแม่ อาทิตย์ก็เริ่มทบทวนถึงเรื่องราวต่างๆ อีกครั้ง อาทิตย์จะจัดการเช่นไรกับย่าและพ่อ... ชนวนเหตุแห่งเลือดในดิน ปัญหารักสามเส้า ตรีทิพย์ เยาวดี กาหลงจะจบลงแบบไหน ความเสน่หา ความซื่อสัตย์ หรือความรัก สิ่งใดจะลบล้างความพยาบาทนี้ได้ ติดตามได้ใน... เลือดในดิน

กาษา นาคา 2550

เรื่องย่อ : กาษา นาคา (2550/2007) หญิงสาวสวยจัด ผมดำยาวสยาย ดวงตาดำสนิทลึกล้ำ ร่างแบบบางเหมือนต้นอ้อที่กำลังล้อลม เธอนั่งอยู่บนตั่งใหญ่ เสียงฆ้องพลิ้วใสดุจเสียงทิพย์คนธรรพ์ลอยแผ่วมาตามสายลมแทรกด้วยเสียงหูกทอผ้า เธอกำลังทอผ้า ผ้าไหมเนียนนุ่ม เส้นลื่น สีขาวสะอาดตาถูกทักทอยาวเป็นวา แล้วผ้าไหมผืนนั้นก็ถูกวางลงบนมือของ วารี เสียงแผ่วเหมือนกระซิบกล่าวว่า ฝากผ้ากาษาให้วาดจันทร์ สำหรับใช้ในวันที่ผู้ชายที่วาดจันทร์รักที่สุดบวช อย่าลืม ให้ผ้ากาษาแก่วาดจันทร์ ผ้ากาษานี้เป็นของวาดจันทร์ วารีสะดุ้งตื่นจากฝันที่ชัดเจนราวกับความจริง และในวันรุ่งขึ้นผ้าไหมสีขาวผืนยาวก็ตกมาถึงมือวารีจากร้านขายของเก่าร้านนั้น ผ้าผืนนั้นถูกเก็บอย่างดีตราบจนกระทั่ง วาดจันทร์ ลูกสาวคนเดียวของวารีและพิสุทธิ์ อายุ 21 ปีบริบูรณ์ วาดจันทร์จึงได้พบกับ พงศ์พญา ผู้ชายคนที่เธอรักที่สุดในชีวิต

สุภาพบุรุษชาวดิน 2550

เรื่องย่อ : สุภาพบุรุษชาวดิน (2550/2007) สุภาพบุรุษชาวดิน เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นจาก สกุลศิริเสนี ซึ่งเป็นพวกผู้ดีเก่า ประมุขของตระกูลคือ คุณอมรา มีลูกชายคนเดียวชื่อ สรวิชญ์ นักธุรกิจหนุ่มเนื้อหอม สรวิชญ์แต่งงานกับ สุดาวรรณ หญิงสาวลูกเศรษฐี ด้วยเหตุผลเดียวคือความเหมาะสมกันทางสังคมและเศรษฐกิจ เมื่อแต่งงานกันแล้วทั้งสรวิชญ์และสุดาวรรณก็ยังคงใช้ชีวิตเหมือนเมื่อก่อนแต่งงาน สรวิชญ์ยังคงเป็นเพลย์บอยเที่ยวเตร่หาความสำราญแบบคนหนุ่ม ในขณะที่สุดาวรรณก็ใช้ชีวิตวนเวียนอยู่ในสังคมชั้นสูง แม้จะมีบุตรชายหญิง 2 คนคือ อติศักดิ์ และอรศรี แต่สุดาวรรณไม่สนใจเลี้ยงลูกปล่อยให้พี่เลี้ยงและคุณอมราผู้เป็นย่าเลี้ยงหลานไป

คุณอมรามีเด็กสาวต้นห้องชื่อ วาด เป็นผู้หญิงเรียบร้อย อ่อนหวาน นุ่มนวลเอาใจเก่ง และวันหนึ่งวาดก็ตกเป็นภรรยาของสรวิชญ์ ด้วยความจำยอมกึ่งเต็มใจของวาดเอง และด้วยแรงผลักดันของคุณอมราด้วย และในที่สุดวาดท้อง สุดาวรรณโกรธจะฟ้องหย่า แต่คิดขึ้นมาได้ว่าเรื่องอะไรจะปล่อยให้วาดมีโอกาสเลื่อนฐานะขึ้นมาเป็นภรรยาเอก เพราะรู้ดีว่าคุณอมรารักวาดมาก อีกทั้งกิจการบ้านเรือนตลอดจนการเข้าสังคมคุณอมราฝึกฝนไว้ทุกอย่าง สุดาวรรณจึงใช้วิธีเดียวกับคุณอมราคือพาหลานสาวคนหนึ่งเข้ามาอยู่ในบ้าน และพวงมณี หลานของสุดาวรรณตกเป็นภรรยาของสรวิชญ์อีกคน วาดคลอดบุตรชาย คุณอมราตั้งชื่อว่า วศิน เด็กชายเป็นเหมือนสายน้ำประโลมใจผู้เป็นแม่ เพราะพ่อไม่รักและไม่สนใจ สรวิชญ์ยังคงดำเนินชีวิตสนุกสนาน เที่ยวเตร่ เจ้าชู้เรื่อยไป เมียทุกคนต้องหวานอมขมกลืน เว้นแต่วาดที่ปลงได้ ก้มหน้าก้มตาเลี้ยงลูกไป พร้อมทั้งปรนนิบัติคุณอมรา

ต่อมาคุณอมราล้มเจ็บ สรวิชญ์เชื่อแรงยุของสุดาวรรณว่าระวังคุณนายจะยกสมบัติให้วาด จึงพยายามเคี่ยวเข็นถามหาพินัยกรรม ในที่สุดเมื่อคุณอมราเสียชีวิตทรัพย์สมบัติทั้งหมดตกเป้นของสรวิชญ์ โดยที่ทุกคนหารู้ไม่ว่าคุณนายออกจากโรงพยาบาลไปโอนที่แปลงหนึ่งให้วศินเรียบร้อยแล้ว เมื่อไม่มีคุณอมรา วาดกับวศินก็ไม่มีที่พึ่ง เด็กชายวศินอายุเพียง 10 ขวบถูกรังแกจากแม่เลี้ยง พี่ชายและพี่สาว วาดช่วยเหลือลูกได้น้อยมาก ทำได้แต่เพียงป้องกันไม่ให้วศินออกไปเสวนาวิสาสะ กับใครๆ ในบ้าน แม้แต่พ่อบังเกิดเกล้าก็ไม่สามารถปกป้องลูกชายจากแรงเกลียดและกลั่นแกล้งของสามแม่ลูกได้ วศินจึงเป็นเด็กค่อนข้างเงียบขรึมฟังและคิดมากกว่าพูด แล้ววันสิ้นสุดก็มาถึง วาดหอบลูกออกจากบ้านทันทีเมื่อพบว่า สรวิชญ์ตัดสินกรณีพิพาทระหว่างเด็กๆ อย่างไร้ความยุติธรรม ไม่มีการสอบสวนหาความจริง วศินถูกลงโทษอย่างหนักทั้งๆ ที่ไม่ใช่คนผิด วาดเสียใจหนักขึ้นเพราะสรวิชญืไม่ทัดทานแม้แต่คำเดียว

สองแม่ลุกออกมาเช่าบ้านหลังเล็กๆ และเปิดร้านขายอาหาร กิจการร้านอาหารเจริญขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะฝีมือ อัธยาศัย การบริการของสองแม่ลูก วศินนั้นเป็นอภิชาตบุตรโดยแท้ เขาตั้งใจเรียนและตั้งใจช่วยแม่ทำมาค้าขาย เขาทำทุกอย่างเพื่อแบ่งเบาภาระของแม่ เขายืนยันว่าจะออกจากโรงเรียนเดิม เพราะเป็นโรงเรียนของพวกผู้ดีมีเงินเก็บค่าเล่าเรียนแพงมาก แต่วาดยืนยนให้วศินเรียนที่โรงเรียนนี้ต่อไป แม่ลูกขัดแย้งกันค่อนข้างแรงวศินตัดสินใจลาออกด้วยตัวเอง ปลอมลายเซ็นแม่เพราะยอมให้แม่ลำบากต่อไปอีกไม่ได้ วาดเสียใจมากเมื่อรู้ความจริง วาดไปหาครูใหญ่สมัครให้วศินเข้าไปเรียนอีก วศินไม่ยอมท่าเดียวจนวาดต้องเปิดสมุดบัญชีให้ดูว่าเงินมี เพราะวาดขายที่ดินมรดกแปลงนั้นไปแล้ว เงินนี้เท่ากับคุณย่าให้หลานเรียนหนังสือนั่นแหละวศินจึงยอม

ที่โรงเรียนวศินเป็นที่รักของเพื่อนฝูง ครูอาาจารย์ ยกเว้นสองคนคือ อดิศักดิ์ พี่ชายต่างมารดาและ สิทธิศักดิ์ เพื่อนของอดิศักดิ์ เด็กชายที่มาจากครอบครัวที่ร่ำรวย พ่อของสิทธิศักดิ์ชื่อ วรกิจ เป็นเพื่อนสนิทของสรวิชญ์ แม่ชื่อ ภัสสร ผู้หญิงที่มีชีวิตฟุ้งเฟ้อ ดูถูกคนจน ตรงกันข้ามกับ ภัควดี น้องสาวที่นิสัยเหมือนพ่อคือ เมตตากรุณา น้ำใจดีงาม และเห็นคนทุกคนเท่าเทียมกัน วันหนึ่งฝนตกหนัก รถของวรกิจจอดรับวศินไปส่งบ้าน ทันทีที่เห็นภัควดี ได้ยินเสียงภัควดี ความเย็นฉ่ำชื่นใจหลั่งไหลไปทั่วหัวใจของวศิน เย็นฉ่ำยิ่งกว่าสายฝนที่กำลังตกหนักอยู่ในขณะนั้น และต่อจากนั้นจนตลอดชีวิตภัควดีไม่เคยจากหายไปจากจิตใจของวศิน เธอคือผู้หญิงคนเดียวที่ตรึงใจตรึงชีวิตของวศิน เธอคือแสงสว่างที่ส่องกลางใจเขาให้เขามีความมานะ อดทน พยายาม และตั้งมั่นอยู่ในความดีตลอดมา

วันหนึ่งวศินกลับจากโรงเรียน เและรับรู้ แม่วาดเสียชีวิตอย่างงฉับพลัน วศินรู้สึกเหมือนโลกถล่มทลายต่อหน้าจนไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไป ต่อมาวันหนึ่งสรวิชญ์ปรากฏตัวมารับวศินกลับบ้าน ชีวิตของวศินในบ้านของพ่อบังเกิดเกล้า ต้องอดทนอดกลั้น เพราะทุกคนเกลียดชัง กลั่นแกล้ง แม้จะมีภัควดีคอยปลอบโยนให้กำลังใจ แต่ด้วยความอ่อนเยาว์ ความว้าเหว่ และโดดเดี่ยวในบ้านเกิดของตนแท้ๆ ทำให้วศินหมดความอดทนเขาจึงต้องออกจากบ้านไป

สิบปีผ่านไปชายหนุ่มคนหนึ่งปรากฎตัวในงานศพของวรกิจ ทุกคนคลับคล้ายคลับคลาว่าเคยเห็นหน้า แต่ไม่มีใครทราบว่าชายหนุ่มผู้มางานในรถคันโก้ พร้อมทั้งหรีดดอกไม้สดราคาแพงผู้นี้เป็นใคร ภัควดีดูจะเป็นคนเดียวที่นึกออกว่าชายหนุ่มผู้นี้คือ วศิน แต่เจ้าตัวปฏิเสธและบอกว่าเขาชื่อ คำอินทร์ สุริยวงศื อยู่เชียงใหม่

ย้อนหลังไปสิบปีที่แล้ว วศินผู้กำลังผิดหวังและเสียใจ ขึ้นรถไฟไปทางเหนือเพื่อไปหาผึ้งกับแตนที่เคยเป็นคนช่วยขายของในร้านของแม่ พบชายผู้หนึ่งกำลังถูกคนร้ายจี้ชิงทรัพย์ที่ตู้รถโดยสารชั้นหนึ่งวศินช่วย ไว้ได้ ชายผู้นั้นคือ เจ้าอินมงคล พ่อเลี้ยงทางเหนือ เจ้าอินมงคลชวนไปอยู่เชียงใหม่ด้วยเมื่อรู้ว่าเขาไม่มีที่ไป ที่เชียงใหม่เจ้าอินมงคลพาไปทำงานรับใช้ในไร่ของ แม่เลี้ยงอังกาบ ผู้ซึ่งเมตตารักใคร่วศินอย่างแปลกประหลาด ในที่สุดก็รู้ว่าวศินคือหลานแท้ๆ ของตน เพราะอังกาบเป็นน้องแท้ๆ ของสรวิชญ์ชื่อ เสาวภา แต่หนีตาม ประมวล คนรักมาสร้างฐานะร่ำรวยอยู่เชียงใหม่ แต่สองคนไม่มีลูกจึงรับวศินเป็นบุตรบุญธรรมและรักใคร่วศินยิ่งนัก วศินเองทำตัวสมกับความรักเขาขยันขันแข็งช่วยกิจการงานในไร่ ต่อมาได้เดินทางไปศึกษาต่อด้านการเกษตรที่สหรัฐอเมริกา เมื่อกลับมาพ่อเลี้ยงประมวลเสียชีวิต วศินหรือคำอินทร์ในชื่อใหม่ จึงรับผิดชอบดูแลกิจการไร่ส้มและโรงงานทอผ้าและอื่นๆ ของแม่เลี้ยงต่อมา วศินกลับมาเชียงใหม่ โดยมีภัควดีอยู่ในความคิดคำนึงตลอดเวลา เขารู้ว่าภัควดีจำเขาได้ คำที่เธอถามเขาว่า วศินใช่ไหมคะ ดังก้องกังวานอยู่ในหู และเช่นเดียวกับภัควดี เธอแน่ใจว่าเขาคือ วศิน แต่คำตอบที่เธอได้ยินกลับเป็นคำว่า ไม่ใช่ครับ ผมชื่อ คำอินทร์ สุริยวงศ์

หลังจากงานศพคุณวรกิจเสร็จสิ้นลง สิทธิศักดิ์ได้ชักชวนมารดาขึ้นมาเชียงใหม่เพราะเขาและอดิศักดิ์คิดจะลงทุน เปิดโรงงานผลิตผลไม้กระป๋องที่นั่น ร่วมกับ ทองเติม นักธุรกิจที่จะเป็นนายทุนใหญ่ ทองเติม ต้องการที่จะซื้อที่ดินของ เจ้าพลกาวิน ซึ่งเป็นน้องชายของเจ้าอินมงคล แต่พลกาวินต้องการที่จะขายที่ดินให้กับวศิน เนื่องจากหวังที่จะให้ลูกสาวคือ เจ้าน้อย หรือ เจ้าวินพัตรา ได้แต่งงานกับคำอินทร์ นอกจากจะได้คนดีๆ เป็นลูกเขยแล้วทรัพย์สมบัติยังไม่ไปไหนอีกด้วย ทองเติมพาคณะจากกรุงเทพฯ เที่ยวชมตามสถานที่สำคัญต่างๆ วันหนึ่งขณะลงจากดอยรถเกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำ คุณนายภัสสรบาดเจ็บสาหัส นอกนั้นเจ็บคนละเล็กละน้อย ทำให้ภัควดีและสรวิชญ์ต้องเดินทางขึ้นมาเชียงใหม่อย่างเร่งด่วน ทั้งหมดได้พบกับวศินภายใต้ชื่อพ่อคำอินทร์ ภัควดีจำเขาได้แม่นยำแน่ใจว่าคือวศิน แต่เธอก็ต้องเก็บทุกอย่างไว้ในใจเพราะวศินยังไม่เปิดเผยตัว เขาบอกตัวเองไม่ถูกว่าทำไมไม่บอกความจริงไปอาจจะเป็นความรู้สึกส่วนลึกที่ อยากรู้ว่าเธอจะมั่นคงกับวศินคนจนๆ เมื่อก่อน หรือกับพ่อเลี้ยงคำอินทร์ผู้ร่ำรวย การพบกันไม่กี่วันที่เชียงใหม่นี้ทำให้ทั้งสองคนได้ใกล้ชิดกันจนเกือบจะเข้า ใจกันแล้วว่าต่างคนต่างมีใจให้กัน ถ้าไม่มีผู้หญิงอีกสามคนที่ภัควดีได้พบในเวลาต่อมา

ที่ไร่อังกาบมีแขกประจำคนหนึ่งชื่อ เรือนแก้ว เป็นแม่ม่ายสาวสวยมีกิจการค้าขายพืชผลการเกษตรมากมาย ซึ่งมีเหตุผลที่จะต้องมาติดต่อกับทางไร่เป็นประจำ และคำอินทร์หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องพูดจาสัมพันธ์ด้วย และเพราะคำอินทร์เป็นสุภาพบุรุษยิ่งนักเขาจึงพูดจากกับเรือนแก้วอย่างสุภาพ แม้เรือนแก้วเข้าใจผิดว่าคำอินทร์ชอบตนเกินเพื่อน คนอื่นๆ ทั่วไปก็เข้าใจดังนั้น คำอินทร์ไม่เคยปริปากแก้ความเข้าใจผิดให้เป็นที่เสื่อมเสียแก่เรือนแก้ว เขาเพียงแต่บอกกับแม่เลี้ยงอังกาบว่าความจริงต้องปรากฏขึ้นวันหนึ่ง แม้ในเวลาต่อมาคำอินทร์จะได้รู้เรื่องอดีตของเรือนแก้วว่าเบื้องหลังความสุข และเสียงหัวเราะ คือชีวิตที่บอบช้ำจากครอบครัวที่กดขี่บังคับ และจากสามีที่เจ้าชู้และทารุณถึงขั้นทำร้ายจนเรือนแก้วมีสภาพจิตใจไม่ปกติ คำอินทร์เคยเห็นอาการผิดปกติรุนแรงของเรือนแก้วจึงสงสาร บางเวลาที่เรือนแก้วต้องการที่พึ่งคำอินทร์จึงช่วยเหลืออย่างเต็มใจ ดัง นั้นจึงเป็นที่ร่ำลือกันไปว่าคำอินทร์รักกับเรือนแก้ว ประกอบกับเรือนแก้วพยายามที่จะทำให้คนเข้าใจอย่างนั้นโดยการแสดงออกทุกอย่าง หาโอกาสที่จะได้ไปไหนต่อไหนกันสองต่อสองเป็นประจำ ผู้คนจึงเข้าใจผิดกันไปใหญ่ เรือนแก้วมีคู่แข่งคนหนึ่งชื่อ บัวขาว ผู้เป็นน้องสาของ อินปัน คนสนิทของคำอินทร์ อินปันเป็นคนซื่อสัตย์สุจริตและรักคำอินทร์มาก เพราะคำอินทร์เคยช่วยชีวิตไว้ ความรักนั้นเผื่อแผ่มาถึงบัวขาวที่ทำหน้าที่เป็นแม่บ้านของไร่อังกาบ คำอินทร์เมตตาบัวขาวมากเกินกว่าคนงานธรรมดา ทำให้บัวขาวเพ้อฝันหลงรักและเป็นปฏิปักษ์กับใครก็ตามที่จะเข้ามาใกล้ชิดคำ อินทร์ และแน่นอนคนแรกคือเรือนแก้ว คนสำคัญอีกคนหนึ่งที่ภัควดีระแวงว่ามีอะไรกับคำอินทร์หรือเปล่าคือเจ้าน้อย วินพัตรา หญิงสาวสวย น่ารัก ชาติตระกูลดี เป็นผู้ดีทั้งกิริยาและวาจา เธอเป็นคนที่ผู้ใหญ่หมายมั่นจะให้แต่งงานกับคำอินทร์เพราะความเหมาะสมกัน ทุกอย่าง วินพัตรารักคำอินทร์แต่คำอินทร์สุภาพและอ่อนโยนกับเธอไม่มีทีท่าอะไรพิเศษ วินพัตราเข้าใจโดยสัญชาติญาณของผู้หญิง แต่ด้วยความรักจึงยังคทำตัวใกล้ชิดกับคำอินทร์ตามแรงยุของผู้ใหญ่ตลอดเวลา ภัควตีเป็นเป้าความไม่ชอบและไปถึงขั้นเกลียดชัง จากผู้หญิงสองคนที่เกี่ยวข้องกับคำอินทร์คือ เรือนแก้วและบัวขาว ภัควดีพร้อมที่จะถอยเธอไม่ทำตัวเป็นคู่แข่งของสองสาว แต่คำอินทร์ก็ไม่เคยชี้แจงอย่างเป็นทางการว่าเขาไม่มีอะไรกับสองคนนั้น เขาเพียงแสดงให้เธอรู้ว่าเธอคือคนสำคัญของเขา แต่สิ่งที่ภัควดีได้ยินได้ฟังหรือได้ประสบกับตนเองจากสองสาว ทำให้ภัควดีเข้าใจผิดและคิดว่าเธอต้องเป็นฝ่ายล่ำถอย

หญิงสาวทั้งสี่คนต่างก็รักพ่อเลี้ยงคำอินทร์ ส่วนคำอินทร์นั้นสงวนท่าที เพราะภัควดีไม่เคยแสดงท่าทีอะไรเกินเลยกับเขา ในที่สุดความลับของคำอินทร์ก็เปิดเผยขึ้นเมื่อสรวิชญ์ได้พบกับอังกาบหรือ เสาวภาน้องสาวที่จากกันมานาน พ่อเลี้ยงคำอินทร์คือ วศิน บุตรชายของเศรษฐีผู้ดีเก่าอย่างสรวิชญ์ จากลูกเลี้ยงที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าได้กลายเป็นหลานแท้ๆ ของอังกาบเจ้าของไร่ พ่อเลี้ยงคำอินทร์ผู้ซึ่งเป็นที่รักใคร่ของคนทั้งหลายอยู่แล้ว ยิ่งเพิ่มความน่ารัก น่านับถือ น่าสนใจจากผู้คน ทั้งหลายอีกเป็นทวีคูณ

แต่ความดีมิได้ชนะทุกคนอย่างที่ควรจะเป็น พ่อเลี้ยงคำอินทร์หรือวศิน มีคนที่เห็นเขาเป็นศัตรูอยู่หลายคน นายทองเติมเห็นว่าเขาเป็นศัตรูหมายเลขหนึ่ง เพราะทองเติมเป็นพ่อค้าที่การโกงและความทุจริตเป็นสรณะในการประกอบอาชีพ ทำให้ขัดแย้งกับคำอินทร์และจบลงด้วยความพ่ายแพ้ของทองเติมทุกครั้ง ในฐานะนายวศินอติศักดิ์พี่ชายเกลียดชังจนเข้ากระดูก เพราะตนเองเป็นคนเลวสมบูรณ์แบบทั้งสุรานารี และไม่เคยเอาใจใส่การงานจนสรวิชญ์ผู้พ่อเอือมระอา อีกคนที่ไม่ชอบวศินเลยคือสิทธิศักดิ์พี่ชายของภัควดี เพราะสิทธิศักดิ์ชอบเจ้าน้อยวินพัตรา แต่วินพัตรารักวศินใครๆ ก็รู้ดี สิทธิศักดิ์หรือจะไม่หมายมั่นอยากกำจัดวศินให้ตายไปจากโลกนี้ ที่สำคัญทองเติม อติศักดิ์ และสิทธิศักดิ์ เป็นพันธมิตรทางธุรกิจกัน คือ โรงงานผลไม้กระป๋องที่กำลังจะสร้าง ที่ดินที่ทั้งสามต้องการเพื่อสร้างโรงงานคือที่ดินผืนใหญ่ติดกับไร่อังกาบ ที่ดินผืนนั้นเจ้าของคือเจ้าพลกาวิน บิดาของเจ้าน้อยวินพัตรา และในขณะเดียวกันวศินก็ติดต่อขอซื้อที่ผืนนั้นเพื่อขยายธุรกิจการทำผลไม้ กระป๋องเช่นกัน แผนการณ์กำจัดคำอินทร์หรือวศินในฐานะศัตรูหมายเลขหนึ่งดำเนินไปจนถึงลอบฆ่า ให้ตาย ทองเติมเป็นคู่ขาของเรือนแก้วมานาน จึงใช้เรือนแก้วเป็นเหยื่อล่อวศินให้มาติดกับ แต่วศินก็แคล้วคลาดไปได้ สุดท้ายคือการจับวศินไปเพื่อฆ่าในที่ดินที่แย่งชิงกันอยู่นั่นเอง อดิศักดิ์ลั่นวาจาขอฆ่าด้วยตนเอง เพราะมีความแค้นต่อกันมาเนิ่นนาน กระสุนจากปืนอติศักดิ์ลั่นเข้าสู่ร่างกายของวศิน พร้อมๆ กับกำลังตำรวจถึงทีเกิดเหตุพอดี ภัควดีผู้ซึ่งรู้ถึงแผนการโดยบังเอิญบอกสรวิชญ์ สรวิชญ์นำกำลังตำรวจไปทันทีแต่ไม่ทันเวลาวศินบาดเจ็บสาหัส อติศักดิ์ยิงตัวตายต่องหน้าสรวิชญ์ ทองเติมหนีไปได้แต่สุดท้ายก็จนมุมเพราะเรือนแก้วบอกความลับที่ตั้งเซฟเฮาส์ ของทองเติม ตำรวจตามจับได้พร้อมๆ กับทำลายแหล่งค้ายาเสพติดของทองเติมด้วย

หลายเดือนต่อมาวศินหายเจ็บแต่กลับต้องมาพิการ แต่วศินก็ไม่ยอมแพ้ และที่สำคัญภัควดี คอยเป็นกำลังใจเคียงข้างเขาตลอดเวลา ความรักที่บ่มเพราะตั้งแต่เป็นต้นกล้าเล็กๆ จนเติบใหญ่มั่นคงแข็งแรงในหัวใจของเขาทั้งสองจึงได้เปิดเผยต่อกันและกัน ท่ามกลางความชื่นชมยินดีของผู้คนใต้ร่มใบบุญของไร่อังกาบ งานแต่งงานแบบล้านนาของทั้งสองคนจะสวยงามยิ่งใหญ่และตราตรึงผู้คนไปอีกนาน เท่านั้น ถ้าไม่มีบัวขาวหญิงสาวที่หลงรักวศินมากจนจิตใจฟั่นเฟือนยอมรับความสูญเสีย ไม่ได้ปรากฏตัวในงานพร้อมกับปืนกระบอกหนึ่งที่เล็งไปยังภัควดี วศินจะทำอย่างไร ต้องติดตามต่อไปใน สุภาพบุรุษชาวดิน

รหัสริษยา 2550

เรื่องย่อ : รหัสริษยา (2550/2007) พาไล ทายาทคนเดียวของ เอกภพ ปลัดกระทรวงสาธารณสุขและเจ้าของธุรกิจนำเข้าอุปกรณ์การแพทย์ชื่อดัง ต้องสูญเสียทรัพย์สินทุกอย่าง เมื่อเอกภพและ รัชนี พ่อแม่ของเธอเสียชีวิตอย่างกะทันหันด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ รวมทั้งถูกกล่าวหาว่าเป็นข้าราชการคอรัปชั่น รสิกา ป้าของเธอได้เข้ายึดกิจการทั้งหมดรวมทั้งบ้านที่พาไลอาศัยอยู่ โดยอ้างว่าพ่อของพาไลกู้หนี้ยืมสินจำนวนมหาศาลจากรสิกาไว้ก่อนเสียชีวิต พาไลกลายเป็นลูกจ้างและผู้อาศัยในบริษัทและบ้านของตัวเอง โดนทั้งรสิกาและหลานสาว จันทร์แจรง โขกสับ แต่พาไลก็ไม่ท้อเธอเชื่อว่าการตายของพ่อแม่เป็นฝีมือของรสิกาและ นพ.สรศักดิ์ ที่ร่วมมือกันนำเข้ายาอันตรายจากต่างประเทศ และพยายามให้สินบนเอกภพให้เข้าร่วมขบวนการด้วย แต่เอกภพไม่ยอมร่วมมือรวมทั้งทำการตรวจสอบระงับการสั่งเข้า ทำความเสียหายกับรสิกาและนพ.สรศักดิ์ เป็นอย่างมาก รสิกาและนพ.สรศักดิ์จึงจัดการขั้นเด็ดขาด โดยการสั่งเก็บพ่อและแม่พาไลก่อนเรื่องชั่วร้ายจะฉาวโฉ่ออกมา และยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินของพาไลด้วยการปลอมเอกสารให้ทุกอย่างกลายมาเป็น ของตัวเอง หลังจากเปลี่ยนฐานะมาเป็นผู้อาศัยในบ้าน จันทร์แจรงยิ่งเล่นงานพาไลอย่างหนักถึงขนาดไล่พาไลให้ไปนอนห้องคนใช้ และขู่ว่าจะเฉดหัวไล่พาไลออกจากบ้านวันไหนก็ได้ พาไลเก็บความแค้นไว้แน่นอกสัญญากับตัวเองว่าเธอจะต้องได้ทุกอย่างคืนมา ไม่ว่าจะเป็นเงินทองรวมทั้งเกียรติยศของพ่อที่เสียหายในข้อหาคอรัปชั่น โดยมี ธนากร แฟนหนุ่มที่คบกันตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยคอยช่วยเหลือ ธนากรเป็นทนายฝีมือดีอยู่กับแม่ชื่อ แกมแก้ว ส่วนจันทร์แจรงมีคู่หมั้นที่กำลังจะแต่งงานคือ ศิวา นักธุรกิจหนุ่มเจ้าของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง และเป็นลูกชายคนเดียวของนพ.สรศักดิ์ พาไลทำการติดต่อกับต่างประเทศด้ๆ ทำให้ พาไลได้หลักฐานเรื่องการซื้อขายยาผิดกฎหมายของนพ.สรศักดิ์และรสิกา โดยพาไลได้นำข้อมูลที่ได้เก็บไว้ในเวปไซด์แห่งหนึ่ง และคนที่เปิดเข้าไปดูข้อมูลนี้ได้จะต้องมี รหัสผ่าน ที่พาไลตั้งไว้ว่า ENVY หรือ ริษยา แล้วแผนการของพาไลก็เริ่มขึ้น เธอต้องการแก้แค้นคนสามคนคือ รสิกา, นพ.สรศักดิ์ และจันทร์แจรง เธอปรึกษากับธนากร จึงได้รู้ว่าธนากรก็มีความแค้นกับนพ.สรศักดิ์เหมือนกัน เพราะพ่อของเขาขัดผลประโยชน์กับนพ.สรศักดิ์และถูกฆ่าตาย โดยกฎหมายทำอะไรไม่ได้ พาไลบอกธนากรว่าเธอจะเป็นคนเรียกร้องความยุติธรรมให้เอง พาไลบุกไปหาศิวาที่บริษัทบังคับให้ศิวาจดทะเบียนแต่งงานกับเธอ ไม่เช่นนั้นเธอจะแฉข้อมูลลับที่เปิดเผยความผิดของนพ.สรศักดิ์ผู้เป็นพ่อของ ศิวา ซึ่งถ้าเรื่องราวเปิดเผยออกมาเมื่อไหร่รับรองว่า ดารณี แม่ของศิวาที่ป่วยเป็นโรคหัวใจคงรับไม่ได้แน่ว่าสามีที่เธออยู่ด้วยตลอด ชีวิต ทำความผิดมากมายและเป็นฆาตกรฆ่าคน แม้ว่าศิวาจะเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งแต่ก็จำใจจดทะเบียนกับพาไล โดยมีเงื่อนไขว่าเรื่องนี้จะต้องเป็นความลับระหว่างเธอกับเขาเท่านั้น รวมทั้งจะไม่มีพิธีแต่งงานเกิดขึ้น พาไลยินยอมและบอกว่าเมื่อถึงเวลาอันสมควร เธอจะให้ รหัสผ่าน แก่ศิวา พาไลยื่นใบลาออกจากบริษัท รสิกาและจันทร์แจรงสะใจคิดว่าพาไลยอมแพ้ราบคาบ แต่พาไลยังให้ มีนา เลขาคนสนิทของเธออยู่ในบริษัทเพื่อส่งข่าวความเคลื่อนไหวของสองอาหลานให้เธอ รับรู้ตลอดเวลา ส่วนพาไลย้ายไปอยู่เรือนกล้วยไม้ภายในบ้านของศิวา โดยมี แป้ง คนรับใช้ผู้รู้ใจตามไปด้วย สองอาหลานยังเข้าใจว่าพาไลออกไปอยู่กับธนากร แม้ว่าพาไลจะทำใจกล้าเข้าไปอยู่ในบ้านของศิวา แต่ลึกๆ นั้นเธอก็แอบหวั่นใจอยู่ไม่น้อย เพราะศิวามีทีท่าดูถูกและรังเกียจเธออย่างออกนอกหน้า แถม ประกาศว่าเมื่อเธอเข้ามาอยู่ในบ้านก็ต้องทำตัวให้เป็นเมียที่สมบูรณ์แบบ นั่นหมายความว่านอกจากพาไลจะเอาชีวิตมาเสี่ยงกับเกมการแก้แค้นครั้งนี้แล้ว เธอต้องเอาความเป็นลูกผู้หญิงมาเสี่ยงกับชายหนุ่มเช่นศิวาด้วย ศิวาคอยตก่อกวนเล่นแง่กับพาไลและทวงสิทธิ์ความเป็นสามี แต่พาไลก็มีแป้งคอยคุมเชิงและช่วยเหลือให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของศิวา แต่ศิวาแก้เกมด้วยการให้ ต๋อย คนขับรถคนสนิทมาแยกแป้งออกไป แต่พาไลก็รอดตัวแทบทุกครั้ง พาไลให้มีนาหาหลักฐานรายชื่อพยานจากคดีการตายของพ่อแม่พาไล โดยให้ไปขอความร่วมมือจาก หมวดวีรกร เพื่อนของธนากร ทำให้มีนากับหมวดวีรกรเริ่มสนิทกันมากขึ้น ศิวาพยายามปกปิดความสัมพันธ์ของเขากับพาไลไม่ให้จันทร์แจรงรู้ แต่สุดท้ายจันทร์แจรงก็รู้จนได้ว่าพาไลมาอยู่ในบ้านของศิวาในฐานะภรรยาที่ ถูกต้องตามกฎหมาย จันทร์แจรงโมโหมากทั้งคู่ปะทะตบตีกัน จันทร์แจรงเสียใจจนป่วยมีอาการของโรคหัวใจ รสิกาบีบบังคับให้ศิวาแต่งงานกับจันทร์แจรง โดยให้ดารณีเป็นคนบังคับ ศิวาปฏิเสธและบอกแม่ว่าพาไลกำลังตั้งท้อง ยิ่งทำให้รสิกาและจันทร์แจรงโมโหมาก รสิกาติดต่อให้ ประเมิน ( แมน ) ลูกน้องเก่าไปทำร้ายพาไลเพื่อให้แท้งลูกให้ได้ แมนไม่อยากทำเพราะเคยฆ่าคนตายมาแล้วมากมาย และแมนเป็นคนตัดสายเบรกรถทำให้พ่อแม่ของพาไลประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต เรื่องราวจะลงเอยอย่างไรต้องติดตามกันต่อในละคร รหัสริษยา