4 หัวใจแห่งขุนเขา วายุภัคมนตรา 2553

4 หัวใจแห่งขุนเขา วายุภัคมนตรา

4 หัวใจแห่งขุนเขา วายุภัคมนตรา (2553/2010) ทิชากร หรือ กะทิ ( ราศรี บาเล็นซิเอก้า ) เป็นนักเขียนนิยายโรมานซ์ซึ่งมีนามปากกาว่า “ฮัมมิ่งเบิร์ด”นิยายของ ทิชากรได้รับความนิยมในหมู่นักอ่านเพราะมีบทโรมานซ์หวือหวาเอาใจตลาดแต่ความจริงเธอยัง เวอร์จิ้น และเริ่มจะหมดมุกเลิฟซีนที่จะเขียนเธอเป็นสาวโบฮีเมียนขนานแท้แถมยังชอบทำอะไรโก๊ะๆโดยไม่รู้ตัวอยู่บ่อยๆ และสิ่งที่น้อยคนรู้ก็คือเธอเป็นลูกสาวของหมอไกรฤทธิ์ (สุเชาว์ พงษ์วิไล) อดีตหมอไสยจอมขมังเวทที่ผันตัวมาเป็นแพทย์แผนโบราณเพราะกลัวบาป ทิชากรกำลังจะเขียนนิยายโรมานซ์ซึ่งเกิดในไร่องุ่น ซาร่า (บรมวุฒิ หิรัณยัษฐิติ) บก.สาวประเภทสองของเธอจึงเสนอให้หญิงสาวไปใช้ชีวิตในไร่องุ่นสายลม ซึ่งเป็นไร่องุ่นของรุ่นน้องซาร่าเพื่อหาข้อมูล หารู้ไม่ว่าไกรฤทธิ์หวงลูกสาวคนเดียวที่จะต้องจากบ้านไปไกลโดยลำพัง เขาจึงแอบส่งรัก(สุพิชชา มงคลจิตตานนท์)-ยม (ทัศน์พล วิวิธวรรธ์) ให้ไปตามดูแลเธอ ในวันที่ ทิชากรไปถึงไร่องุ่นสายลม เธอประหลาดใจเมื่อเห็นท้องฟ้าเหนือไร่องุ่นเต็มไปด้วยเมฆดำทะมึนปกคลุม เธอรู้โดย สัญชาตญาณของลูกอดีตจอมขมังเวทว่าต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่รวมทั้ง รัก-ยมในกระเป๋าก็ออกมายื่นยันว่ามีสิ่งผิดปกติ สิ่งที่ทิชากรเห็นไม่ใช่ความหล่อบาดใจของเขาที่ผู้หญิงทุกคนเป็นต้องหลงใหล แต่เป็นใบหน้าหมองคล้ำเหมือนถูกของและเงาของ นางโหงพราย(จุฬา ศรีคำมา) ที่เกาะอยู่บนหลังเขาต่างหาก ทิชากรจึงเดินเทิ่งๆไปบอกผู้ชายคนนั้น แต่กลับถูกเขาตอกหน้ากลับมาอย่างไม่เชื่อถือทำให้เธอโกรธมาก หนุ่มหล่อปากร้ายคนนั้นก็คือ วายุภัค หรือ ลม (ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์) หนึ่งในสี่ฝาแฝดตระกูลอดิศวรซึ่งได้รับหมอบหมายให้ดูแลไร่องุ่นของครอบครัวนั่นเอง วายุภัคมีนิสัยไม่ต่างจากลมเพลมพัด รักง่ายหน่ายเร็ว ไม่ชอบทำอะไรซ้ำๆ และมีอารมณ์ศิลปินสูง ด้วยหน้าตาที่หล่อเหลาบาดใจราวกับเทพบุตรเดินดินและนิสัยรื่นรมย์ช่างยิ้ม วายุภัคจึงมีสาวมากหน้าหลายตาผลัดเปลี่ยนไปมาอยู่ตลอด เมื่อต่างคนต่างรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร วายุภัคกับ ทิชากรจึง ปฎิเสธที่จะเกี่ยวข้องกัน แต่ซาร่าห้ามไว้และเตือนให้เธอเห็นแก่หน้าที่ พร้อมกับลำเลิกบุญคุณกับวายุภัคที่เธอเคยกีดกันสาวๆของเขาสมัยที่ชายหนุ่มไปเรียนปริญญาโทด้านการองุ่นและทำไวน์ ที่ ฝรั่งเศส ชายหนุ่มจึง ปฏิเสธไม่ได้ สองคนจึงต้องอยู่ในไร่องุ่นอย่างเป็นไม้เบื่อไม้เมาต่อไป วายุภัคมีอาการเปลี่ยนไปจากเดิม มักได้ยินภาษาแปลกๆ เห็นเงาวูบวาบ ปวดศรีษะและท้องทรมานอย่างไม่รู้สาเหตุ ทิชากรรู้จากท่านเจ้าที่ว่านางโหงพราย ถูกหมอไสยคนหนึ่งเสกมาเพราะมีความแค้นกับวายุภัคแต่ไม่รู้ว่าเป็นใคร ทิชากรจึงพยายามบอกกับวายุภัค เขายิ่งคิดว่าเธอบ้า ทิชากรกับวายุภัคทะเลาะกันหลายครั้ง ทิชากรโกรธจัดจึงประกาศกร้าวว่าเธอจะทำให้เขาเห็นว่าเขาผิดให้ได้และต้องคลานมาขอโทษเธอ การต่อสู้ห้ำหั่นกันระเบิดขึ้นไปทั้งไร่ เมื่อ ทิชากรบุกสาดน้ำมนต์ใส่วายุภัคไปทุกที่ด้วยวิธีการ ต๊องๆตามประสาเธอ เพื่อให้อาการของคนถูกของแสดงออกมาแต่วายุภัคก็ไวสมชื่อลม เขาสามารถรอดพ้นจากการจู่โจมของ ทิชากรได้ทุกที สาวๆของวายุภัคหายไปเกือบหมดแต่ วายุภัคไม่เดือดร้อนกับการที่ผู้หญิงของเขาหายหน้าไปทีเดี่ยวเกือบหมด ที่สำคัญ วายุภัคแอบประทับใจทิชากรอย่างไม่รู้ตัว เธอเป็นผู้หญิงคนแรกที่เขาไม่เคยนึกเบื่อ หมอไสยดำ(สะอาด เปี่ยมพงศ์สานต์) ส่งคุณไสยครอบงำจิตใจของวายุภัคจนใช้ชีวิตไม่ต่างจากผีดิบ โดยทั้งให้นางโหงพรายถึงสามตนควบคุมเขาไว้ ทิชากรจึงบุกเข้าไปช่วยเขาโดยมี รัก-ยม และเจ้าที่อีกแรงหนึ่ง เมื่อวายุภัคฟื้น เขาโกรธจัด เพราะเสียหน้าที่หญิงสาวบุกเข้ามาถึงในบ้านและกล่อมทุกคนในครอบครัวเขาจนเชื่อว่าเขาถูกคุณไสยจริง พวกเขาจึงมีปากเสียงกันรุนแรง วายุภัคเผลอลวนลามจูบ ทิชากรไปโดยไม่รู้ตัว ทำให้เธอโกรธมากและประกาศว่าจะไม่ช่วยวายุภัคอีกแล้ว วันนั้นเองวายุภัคถูกคุณไสยและผีตายโหงทำร้ายปวดท้องเกือบตาย เขาจึงเริ่มเชื่อเธอในที่สุด เมื่อไปถึงโรงพยาบาลก็พบวัตถุประหลาดที่อยู่ในท้องของวายุภัค ทิชากรเลยจำเป็นต้องช่วยเขาเพราะไม่อยากให้เขาตาย จึงเอาน้ำมนต์ให้ดื่มแล้วอาเจียนออกมาโดยที่ไม่ต้องผ่าตัด วายุภัคพบความจริงว่าเขาหลงรัก ทิชากรเข้าแล้ว วายุภัคยอมให้ ทิชากรช่วยอย่างเต็มใจ เขาหัดสวดมนต์ นั่งสมาธิ ทำบุญทำทานแผ่เมตตา แม้จะไม่หายขาดเพราะหมอไสยดำยังไม่ยอมรามือแต่อาการของวายุภัคก็ดีขึ้นพร้อมๆกับความสัมพันธ์ของเขากับ ทิชากรที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว ความสัมพันธ์ที่ดีก็สะดุดลงเมื่อ พัชนี(สุมนต์รัตน์ วัฒนาเศลารัตน์) บุตรสาวกำนันทอง(สมชาย ศักดิกุล) ซึ่งหลงรักวายุภัคมาตั้งนาน มาหา ทิชากรและบอกเธอว่าวายุภัคมีลูกมีเมียแล้ว ทิชากรจึงทะเลาะกับชายหนุ่มรุนแรง วายุภัคน้อยใจที่หญิงสาวไม่เชื่อ ความสัมพันธ์ของทั้งสองยิ่งเลวร้ายกว่าเก่าเมื่อ ซองแตล (อเล็กซานดร้า สติเบิร์ท) คู่รักเก่าของวายุภัคและที่ปรึกษาของไร่เดินทางมาจากฝรั่งเศสเพื่อช่วยพัฒนาคุณภาพไวน์ ความสวยสง่าและมีรสนิยมเดียวกันของลมกับซองแตลตอกย้ำให้ ทิชากรเห็นความแตกต่างระหว่างเธอกับชายหนุ่มมากขึ้นทุกที ทิชากรรู้สึกแปลกแยกทุกครั้งที่ซองแตลพูดเรื่องในอดีตของเธอกับวายุภัค ในเทศกาลเก็บเกี่ยวองุ่นประจำปีของไร่ วายุภัคอธิบายให้นักเขียนสาวได้รับรู้ถึงความรักและจริงใจที่เขามีต่อเธอ และถือโอกาสปรับความเข้าใจกันได้ในที่สุด ทิชากรพยายามสืบหาว่าใครเป็นคนสั่งหมอไสยให้ทำร้ายวายุภัค จึงขอความช่วยเหลือจาก อัจจิมา(อุรัสยา เสปอร์บันด์)ภรรยาของ อัคนี (ณเดช คูกิมิยะ)และ เฌอเอม(ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง)คนรักของ ปฐพี (ปริญ สุภารัตน์)สามสาวจึงบุกบ้านปิ่นมุกรวมทั้งตระเวนทั่วจังหวัดเพื่อหาหมอไสยดำ หมอไสยดำรู้ว่า ทิชากรตามหาเขา เขายังรู้อีกว่างานของเขาถูกขัดขวางจากเธอเขาจึงเบนเข็มมาจัดการทิชากรก่อน หญิงสาวโดนทำคุณไสย ทิชากรฝันร้ายและอาการไม่ดี ในเวลาเดียวกัน ไกรฤทธิ์โทรศัพท์มาบอกว่าเธอกับวายุภัคมีเคราะห์หนักห้ามออกไปไหนเด็ดขาด เธอจึงรีบไปตามวายุภัคแต่ถูก ปฏิเสธและเข้าข้างซองแตลตำหนิ ทิชากรว่าเหมือนเด็กไม่มีเหตุผล ทิชากรโกรธและน้อยใจมากเธอจึงไปสวดมนต์นั่งสมาธิคนเดียวเพื่อช่วยวายุภัค วันนั้น หญิงสาวได้รับจดหมายลับให้ไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง ถ้าต้องการช่วยวายุภัคเธอจึงรีบไปเพียงลำพัง ด้วยความเป็นห่วงชายหนุ่ม แต่พบหมอไสยดำที่รอคอยทำร้ายเธอให้กลายเป็นนางโหงพรายรับใช้ วายุภัครู้ข่าวว่า ทิชากรหายตัวไปจากปฐพีและอัคนี อัจจิมากับเฌอเอมเล่าความจริงว่า ทิชากรทำอะไรมากมายเพื่อวายุภัคบ้าง เขาจึงสำนึกผิดและออกตามหา ทิชากรที่บ้านกำนันทองพร้อมพี่น้องของเขาและ เจ้าชายภูวเนศ(อธิชาติ ชุมนานนท์) และองครักษ์ที่มาเมืองไทยพอดีกำนันทองรับสารภาพว่าสะกดรอยตาม ทิชากรจิงแต่ไม่ได้ทำร้าย และบอกตำแหน่งสุดท้ายที่คนของเขาเห็นหญิงสาวทั้งหมดจึงรีบตามไปทันที รัก-ยม บอกชายหนุ่มว่า ทิชากรอยู่ในป่าช้าพวกเขาช่วยเธอออกมาได้โดยมีนางโหงพรายสามตนช่วยอีกแรงเนื่องจาก ทิชากรและวายุภัคแผ่เมตตาให้พวกมันมาตลอด ทิชากรอาการหนักไม่ฟื้นเสียที ไกรฤทธิ์กับภรรยาก็มาถึงโรงพยาบาลอย่างไม่มีใครคาดฝัน และต่อว่าวายุภัคที่ไม่ยอมเชื่อลูกสาวเขา และกีดกันตามประสาคนห่วงลูก หมอไสยดำใช้อำนาจทำร้าย ทิชากรกับวายุภัคอีก แต่ไกรฤทธิ์ไม่ยอมอยู่เฉยจึงใช้อาคมสู้กับหมอไสยดำ จึงช่วยทิชากรและวายุภัคไว้ได้ ส่วนหมอไสยดำก็ถูกนางโหงพรายทั้งสามฆ่าตายด้วยความแค้น ทิชากรฟื้นคืนสติ แต่เธอไม่ยกโทษให้วายุภัคเพราะไม่กล้าเชื่อใจเขาอีกต่อไป ปฐพี อัคนี และ ทิพย์ธารา(คิมเบอร์รี่ แอนโวลเทมัส) คู่แฝดของวายุภัคจึงช่วยกันวางแผนง้องอน จนหญิงสาวยอมใจอ่อนและเปิดเผยความลับที่วายุภัคหมกมุ่นกับการทำไวน์จนละเลยทิชากร ก็เพราะต้องการทำไวน์ที่เหมาะสมกับผู้หญิงสวยเก๋ ห้าวหาญ มุ่งมั่น และไม่น่าเบื่ออย่าง ทิชากร รามทั้งส่งไวน์รุ่น “ทิชากร” นี้ เข้าประกวดรางวัลระดับโลก เพื่อเป็นของขวัญแต่งงานให้กับเจ้าสาวของเขา วายุภัคขอโทษทิชากรและคืนดีกันในที่สุด วายุภัคสัญญากับทิชากรว่าเขาจะไม่เจ้าชู้อีก เพราะเห็นโทษของความเจ้าชู้ที่ทำให้เข้ากับคนที่เขารักเกือบตายมาแล้ว วายุภัคแต่งงานกับทิชากร หลังทำไวน์ที่เหมาะสมกับหญิงสาวได้สำเร็จ โดยกวาดรางวัลมากมายสมความตั้งใจ แต่เขาก็ยังไม่หยุดที่จะพัฒนาไวน์ใหม่ๆและสะสมถ้วยรางวัลให้เต็มห้อง ขณะที่ทิชากรเองก็มีฉากรักไว้เขียนนิยายโรมานซ์ของเธอโดยไม่ติดขัดอีกเลย

นักแสดงและทีมงาน

บอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์

วายุภัค อดิศวร (ลม)

อั้ม อธิชาติ ชุมนานนท์

เจ้าชายภูวเนศ วาสุเทพ ศรีวาสตาวา ราชพุฒ มกุฎราชกุมารแห่งปารวัตร (ปูเป็น)

คิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส

แพทย์หญิงทิพย์ธารา อดิศวร (น้ำ)

แบรี่ ณเดชน์ คูกิมิยะ

อัคนี อดิศวร (ไฟ)

ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์

อัจจิมา อดิศวร (จี๊ด)

หมาก ปริญ สุภารัตน์

ปฐพี อดิศวร (ดิน)

มิ้นต์ ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง

ชะเอม อดิศวร (เฌอเอม)

สุเชาว์ พงษ์วิไล

หมอไกรฤทธิ์

ก้อง สรวิชญ์ สุบุญ

ณภัทร (หมอณัฐ)

กํากับการแสดง

เสาวณิต สันตติวงศ์ไชย

ผู้ช่วยผู้กำกับ

มัทนา เสือป่า

ผู้ช่วยผู้กำกับ

อิสรพงษ์ อุประ

ผู้ช่วยผู้กำกับ

ช่างภาพ

อชิระ ดำพลับ

กำกับภาพ

โปรดักชั่น

เสาวณิต สันตติวงศ์ไชย

ดูแลการดำเนินงาน

แดง ธัญญา โสภณ

อำนวยการดำเนินงาน
ชื่อไทย : 4 หัวใจแห่งขุนเขา วายุภัคมนตรา

ชื่ออังกฤษ :
ละครช่อง : ช่อง 3
บทประพันธ์ : แพรณัฐ
บทโทรทัศน์ : ฐานวดี สถิตยุทธการ
กำกับการแสดง : พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง
แสดงนำ : ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์, ราศรี บาเล็นซิเอก้า จิราธิวัฒน์
ออกอากาศ : 10 ธันวาคม 2553 – 25 ธันวาคม 2553
วัน/เวลาออกอากาศ : ศุกร์ 20.30 – 22.30 น. , เสาร์ – อาทิตย์ 20.15 – 22.30 น.
จำนวนตอน :
ความยาวตอน :
เรทละคร :
เป็นคนแรกที่รีวิว “4 หัวใจแห่งขุนเขา วายุภัคมนตรา”

ยังไม่มีรีวิว