
พี่เลี้ยง
พี่เลี้ยง (2559/2016) สัตยากับเรไร เติบโตขึ้นมาด้วยกันในบ้านสวนหลังงามริมน้ำ โดยสัตยาได้รับการอบรมเลี้ยงดูมาเหมือนเป็นพี่ชาย และพี่เลี้ยงที่ต้องคอยดูแลเรไรทุกฝีก้าว จนเรไรเรียกสัตยาติดปากว่า พี่ชาย และสัตยาเรียกเรไรว่า คุณเร หลายครั้งสัตยามักจะหนีไปเล่นคนเดียว เพราะอึดอัดใจที่เด็กหญิงตัวน้อยคอยตามติดตลอดเวลา ไม่ว่าจะทำอะไร แม้ในวันที่สัตยาปีนป่ายเล่นทโมนแบบเด็กผู้ชายบนต้นฝรั่งริมน้ำ เรไรก็ยังตามมาขอให้เก็บลูกฝรั่งให้ สัตยาตัดรำคาญโดยเก็บให้แล้วแกล้งปาส่งเดชจนไปโดนหน้าผากน้องน้อยบวมปูด สัตยาตกใจรีบเข้ามาช่วย แล้วสร้างเรื่องให้เรไรโกหกผู้ใหญ่ว่า ปาฝรั่งหวังจะไล่แมลง แต่เรไรเอาหน้าผากมารับไว้ เรไรพาซื่อรับปากจะช่วยพี่ชายไม่ให้ถูกทำโทษ แต่แล้วสัตยาโยนฝรั่งลงพื้นจนเปื้อนดิน เรไรเอาฝรั่งไปล้างในน้ำจนตกน้ำไปสุรางค์ แม่ของสัตยารู้ว่าลูกชายทำน้องตกน้ำจึงลงโทษอย่างหนัก แม้เรไรจะช่วยแก้ตัวว่าไม่ใช่ความผิดของพี่ชายก็ตาม แต่เพราะความจงรักภักดี และสำนึกในบุญคุณของระริน เพื่อนรักที่กลายมาเป็นเจ้านาย ระรินเป็นแม่ของเรไร หลังจากสามีซึ่งเป็นอธิบดีกรมการทูตเสียชีวิตลง จึงเลี้ยงดูลูกสาวเพียงคนเดียว และให้ที่พักพิงกับสุรางค์ เพื่อนสนิทซึ่งเป็นหม้ายเช่นกัน จากการสูญเสียสามีทหาร แถมยังอุปการะส่งเสียสัตยาให้ร่ำเรียนอย่างดี สุรางค์จึงเข้มงวดกับสัตยาให้ดูแลน้องอย่างดีที่สุดระรินเข้ามาห้ามสุรางค์ขณะกำลังลงโทษสัตยา ด้วยมองเห็นว่าการเล่นซนของเด็กก็ต้องมีเจ็บตัวบ้างมอมแมมบ้างตามประสา เรไรออกรับแทนสัตยา สุรางค์จึงยิ่งตอกย้ำให้สัตยาจดจำ และเจียมตัวในฐานะของตนกับแม่ สัตยาโกรธเรไรที่ทำให้เขาถูกทำโทษ แต่เรไรก็มอบไข่ต้มที่เธอมักจะวาดเป็นหน้าของสัตยาในอารมณ์นั้น ๆ ให้เขา เพื่อเป็นการง้องอน สัตยาจำต้องคืนดี แต่ก็แอบหมายมั่นไว้ในใจแบบเด็ก ๆ ว่าเมื่อไรเรไรโตขึ้นเขาจะเลิกยุ่งด้วยเสียทีหน้าที่อีกอย่างของสัตยาคือการคอยสอนเรไรทำการบ้าน ในห้องสมุดของตระกูลพจนภาคย์ ซึ่งเป็นตระกูลนักการทูต ตั้งแต่ปู่ของเรไร จนถึงพ่อของเธอ เมื่อเรไรไม่เข้าใจในสิ่งที่สัตยาสอน เขาก็มักจะดุว่า และโต้เถียงกับเธอเสมอ เรไรต้องเป็นฝ่ายยอมสัตยาทุกครั้ง เรไรมุ่งมั่นจะทำงานด้านทูตเหมือนกับปู่และพ่อ เรไรพูดตามประสาเด็กว่า หากสัตยาไปเห็นทหารแล้ว เธอจะยอมเป็นม่ายให้ 3 ปี แต่สัตยาไม่อยากเป็นทหารเหมือนพ่อ เพราะไม่อยากให้แม่ต้องถูกทิ้งอยู่คนเดียวหากเขาเป็นอะไรไป เขาจึงตั้งใจจะเป็นวิศวกร ทั้งสองเกิดการถกเถียงกัน จนระรินต้องเข้ามาไกล่เกลี่ย โดยให้สัตยารับปากว่าจะดูแลเรไรเมื่อเธอโตขึ้น เพราะระรินเองสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรงนัก มีโรคหัวใจเป็นโรคประจำตัวนอกจากช่วยดูแลเรไรแล้ว สัตยายังมีหน้าที่ช่วยแม่ทำขนมไทยขาย จึงได้รับการถ่ายทอดความละเอียดอ่อนละเมียดละไมมา ทั้งที่นิสัยแท้จริงนั้นเป็นเด็กผู้ชายใจเพชร และเป็นเสือยิ้มยาก ในขณะที่เรไรมักจะเข้ามาขอชิมขนมในเรือนของสุรางค์บ่อย ๆ แม้จะสนใจอยากช่วยทำขนมด้วย แต่สุรางค์มักจะห้าม ให้นั่งรอกินอย่างเดียว บงกช เพื่อนร่วมรุ่นเดียวกับระริน และสุรางค์กลับมาจากเมืองนอก หลังจาก ประทีป สามีซึ่งเป็นทูตกลับมาประจำการเมืองไทย จึงย้ายกลับมาอยู่ที่บ้านซึ่งอยู่ในหมู่บ้านเดียวกับระริน บงกชรับจัดโต๊ะอาหารงานเลี้ยงการกุศล จึงถือวิสาสะเข้ามาหาสุรางค์ หวังจะขนข้าวของเครื่องใช้ของระริน และนำฝีมือทำอาหารระดับชาววังของสุรางค์ไปอวดในงานในนามของตัวเอง เพราะบงกชกับระรินเป็นคู่แข่งกันมาตั้งแต่สมัยสาว ๆสัตยากับเรไรจึงได้พบกับโชติวัน ลูกชายเพียงคนเดียวของบงกชด้วย บงกชอดไม่ได้ที่จะค่อนแคะสัตยาที่ดูมีวาสนาได้ใกล้ชิดเรไร โชติวันโตกว่าสัตยาเล็กน้อย และการที่ได้ไปเรียนเมืองนอกจึงทำให้มีมุมมองแปลกใหม่ และดูเป็นผู้ใหญ่กว่าทั้งสองมาก เรไรตื่นต้นที่มีเพื่อนใหม่ จึงซักถามโน่นนี่ตามประสาเด็กช่างเจรจา จนไม่ทันสังเกตว่าสัตยาผู้เงียบขรึมแอบน้อยใจ พอเรไรรู้ก็ตามมาง้อ แต่สัตยาไล่ไป และแอบโกรธจนเก็บไปละเมอยามหลับหลังจากนั้น โชติวันก็กลายเป็นแขกประจำของบ้านพจนภาคย์ ความสุภาพ และเป็นผู้ใหญ่ของโชติวันทำให้สัตยายอมรับในที่สุด และยังสนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว เพราะสัตยาสามารถเล่นทโมนอย่างเด็กผู้ชายได้เต็มที่ เรไรจึงกลับเป็นฝ่ายงอนพี่ชาย แต่โชติวันก็เป็นตัวกลางให้ทั้งสองคืนดีกันทุกครั้ง ในขณะเดียวกัน บงกชนั้นมองการณ์ไกลที่ยอมให้ลูกชายคนเดียวไปใกล้ชิดกับเรไร โดยอ้างว่าห่วงที่สัตยากับเรไรไม่เหมาะสมกัน ประทีปดูออกจึงคอยปรามภรรยาไว้ เพราะเห็นเป็นเรื่องบุพเพสันนิวาส และบุญวาสนา ไม่ควรบังคับใจใครหรือดูแค่ความเหมาะสม ไม่เช่นนั้นจะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เหมือนกับที่เขาเคยประสบวันเวลาผ่านไป สัตยาได้เข้าเรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์อย่างที่ตั้งใจไว้ เขาแอบหวังว่าเรไรจะสอบได้คนละที่กับเขา เพื่อที่เขาจะได้เป็นอิสระ ไม่ต้องมีเธอมาคอยตามติดทุกฝีก้าวได้ แต่เรไรกลับสอบติดคณะอักษรศาสตร์ในมหาวิทยาลัยเดียวกับสัตยาได้ เรไรดีใจมาก สัตยาแอบผิดหวัง แต่ก็ยังต้องทำหน้าที่คอยดูแลเรไรอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะระรินซื้อรถให้สัตยาไว้ขับไปมหาวิทยาลัยกับเรไรด้วย สัตยาขัดใจที่มักจะถูกเพื่อน ๆ ร่วมคณะล้อเรื่องต้องรับส่งเรไร เพราะเรไรนั้นยิ่งโตยิ่งสวยงามน่าทะนุถนอม เป็นที่หมายปองของหนุ่ม ๆ แต่หลายคนไม่แน่ใจว่าสัตยากับเรไรเป็นพี่น้องกันแบบไหน เรไรกลับไม่ทุกข์กับคำแซวของเพื่อน และทำเฉยเสีย พอเห็นสัตยาไม่พอใจก็เอ่ยถึงโชติวันทำนองไม่ง้อ หากโชติวันกลับจากการฝึกวิชาทหารอากาศ เธอจะให้มารับส่งแทนสัตยาหลังเลิกเรียนวันหนึ่ง สัตยาแกล้งถ่วงเวลามารับเรไรช้า ๆ จึงได้พบกับ เวณิกา เพื่อนสนิทของเรไรที่อยู่รอเป็นเพื่อน ทำให้เขารู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นมาบ้างที่ได้ต่อปากต่อคำกับหญิงสาวฝีปากกล้า สัตยาชื่นชมความมั่นใจ และคล่องแคล่วของเวณิกา ซึ่งตรงกันข้ามกับเรไรที่เขาต้องคอยช่วยเหลืออยู่ตลอดเวลา แต่เวณิกาเกรงใจเจียมตนไม่อยากติดรถกลับบ้าน เรไรเป็นห่วงเพื่อน จึงรีบบอกสัตยาว่าเวณิกานั้นอยู่ทางเดียวกัน เมื่อเขาไปส่งเธอ จึงรู้ว่าเวณิกากำพร้าพ่อ อยู่กับแม่ และน้องชาย แม่มีอาชีพรับจ้างเย็บผ้า ส่วนเวณิกานั้นหารายได้พิเศษส่งตัวเองเรียนด้วยการทำงานในร้านกาแฟ ชีวิตต้องต่อสู้ดิ้นรนคล้ายสัตยากับแม่ เขาจึงยิ่งนิยม และสนใจในตัวเธอเมื่อเรไรต้องไปทำงานรายงานกับเวณิกาที่บ้าน สัตยาได้ทีจึงรีบอาสาไปรับส่งด้วย วัลภา แม่ของเวณิกาให้การต้อนรับทั้งสองเป็นอย่างดี ส่วนเวทินก็มองสัตยาเป็นแบบอย่าง เพราะอยากเรียนวิศวะเหมือนกัน และดูเหมือนสัตยาจะเลิกทำหน้าเคร่งขรึม กลายเป็นคนช่างพูดช่างเย้าแหย่กับเวณิกา หากจะเปรียบผู้หญิงเป็นดอกไม้ เรไรนั้นเหมือนดอกไม้สีขาวบริสุทธิ์ไร้รอยมลทิน แต่ดูจืดชืดเมื่อได้พบกับดอกไม้พันธุ์ใหม่ที่สีสันสดใสน่าพิศวงอย่างเวณิกา วันหนึ่งสัตยาบอกให้เรไรกลับเอง เพราะจะไปติวต่อกับเพื่อนที่คณะ เรไรจึงวิ่งฝ่าสายฝนไปขึ้นรถไฟฟ้า และเห็นภาพบาดใจ เมื่อรถของสัตยาเลี้ยวจากประตูรั้วมหาวิทยาลัยแล่นผ่านไป โดยมีหญิงสาวที่นั่งอยู่ในรถคือเวณิกาโชติวันเมื่อได้หยุดพักจากการฝึกก็รีบมาหาเรไรก่อนทันที โดยยังไม่เข้าบ้านตัวเอง เรไรดีใจที่เห็นโชติวัน รีบเอาขนมออกไปต้อนรับ และคุยด้วยนิสัยออดอ้อนอย่างเคย แต่คราวนี้สัตยากลับรู้สึกแปลก ๆ ที่เห็นภาพนั้น จึงเลี่ยงออกมาให้ทั้งสองพูดคุยกัน และเปิดโอกาสให้โชติวันได้ไปรับไปส่งเรไรที่มหาวิทยาลัยแทนตน แล้วตัวสัตยาเองก็หาโอกาสใกล้ชิดกับเวณิกา เหมือนจะทดแทนความรู้สึกบางอย่างที่อ้างว้างในใจ โชติวันมักจะแวะดื่มกาแฟขณะรอไปรับเรไรที่มหาวิทยาลัย ในร้านกาแฟที่เวณิกาทำงานอยู่ เมื่อเห็นโชติวัน เวณิกาก็แอบปลื้ม ด้วยความร่าเริงเป็นกันเอง และมีน้ำใจของเขา โดยยังไม่รู้ว่าโชติวันกับเรไรรู้จักกัน แม้แต่อุษณีย์ เจ้าของร้านก็มักจะล้อว่าเวณิกาให้บริการกับนายทหารหนุ่มคนนี้เป็นพิเศษ จนกระทั่งวันที่เรไรชวนเวณิกาไปเที่ยวบ้าน เมื่อเวณิกาว่างจากการทำงานพิเศษ และโชติวันก็มานั่งเล่นอยู่ที่บ้านของเรไร เวณิกาดีใจที่มีโอกาสได้รู้จักกับโชติวันมากกว่าการพบกันในร้านกาแฟระหว่างที่หนุ่มสาวทั้งสี่รับประทานของว่างร่วมกัน สัตยาพยายามหาโอกาสเอาใจเวณิกา ขณะที่โชติวันไม่ห่างจากเรไร เวณิกาจึงดูออกว่าในสายตาของโชติวันมีเพียงเรไรเท่านั้น แต่ลึก ๆ ก็ยังแอบหวังว่าโชติวันจะสนใจเธอบ้าง เพราะดูเหมือนเรไรจะยังไม่แสดงท่าทีพิเศษกับโชติวันมากไปกว่าสัตยา โชติวันอิ่มแล้วหนังตาหย่อนจะนอนพักสักงีบ แต่เรไรมาอ้อนให้ขับรถไปส่งเวณิกาก่อน สัตยาอาสาไปส่งเอง แต่เวณิกาออกตัวว่า ให้โชตินอนก่อนแล้วค่อยไปส่งพร้อมกัน สัตยาจึงกระซิบว่าน่าจะให้โอกาสเรไรกับโชติได้มีเวลาส่วนตัว เวณิกาจึงจำใจต้องตกลง แต่เรไรกลับบอกว่าจะไปส่งด้วย สุรางค์จึงหันมาห้ามว่าหากโชติวันตื่นมาไม่พบใครจะพาลน้อยใจ เรไรจึงจำต้องปล่อยให้สัตยาไปส่งเวณิกาตามลำพังเรไรปรารภกับสุรางค์อย่างน้อยใจว่า หมู่นี้สัตยาดุเธอบ่อย สุรางค์ได้แต่ปลอบ และสอนว่าคนที่เรารักจะสู้คนที่รักเราไม่ได้ เมื่อเวลาผ่านไป เพราะเขารักเรา เขาจะยอมอดทนได้เสมอ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่เรไรว่าถ้าเธอไม่ได้แต่งงานกับคนที่เธอรัก เธอจะไม่แต่งงานเสียดีกว่า สุรางค์ได้แต่ภาวนาไม่ให้เรไรแคล้วคลาดจากโชติวัน ทั้งที่รู้ดีอยู่แก่ใจว่าต้องมีปัญหาตามมาอีกแน่ บงกชรู้ว่าลูกชายกลับมาก็หนีมาขลุกอยู่ที่บ้านกับเรไรทั้งวันก็ไม่พอใจนัก จึงมาโวยวายให้ลูกกลับบ้านบ้าง โดยหารู้ไม่ว่าที่โชติวันเลือกเรียนทหารเพราะต้องการหนีความเจ้ากี้เจ้าการของแม่ แม้บงกชจะสนับสนุนให้โชติวันดองกับเรไร แต่ก็อดแขวะไม่ได้ว่าที่บ้านนี้มียาเสน่ห์อะไร สุรางค์ต้องออกรับว่าไม่มียาเสน่ห์มีแต่น้ำใจ บงกชประชดกลับว่ามีแต่น้ำใจก็ขอให้ตลอดรอดฝั่ง อย่ามีมารผจญ พอบงกชไปแล้ว ระรินได้แต่ปลอบเพื่อนรักว่า บงกชปากอยู่ที่หัวใจ พูดอะไรไม่กลั่นกรองโชติวันชวนเรไรไปดูหนัง เรไรจึงชวนสัตยาไปด้วย สัตยาจะชวนเวณิกา แต่เวณิกาติดงาน จึงไปกันเพียงสามคน สัตยาเปิดโอกาสให้เรไรกับโชติใกล้ชิดกัน โดยตัวเองจะเลี่ยงในดูอย่างอื่น ขณะที่เรไรก็มัวแต่มองหา ห่วงว่าพี่ชายหายไปไหน โชติวันแก้ตัวให้ว่าคงจะมองหาของไปให้แฟน เรไรแอบเสียใจแต่ก็ฝืนทำหน้าปกติ ขณะที่สัตยาทำเป็นไม่สนใจ แต่ก็แอบมองทั้งสองแล้วรู้สึกเจ็บแปลบในใจเวณิกาคอยชะเง้อมองหาโชติวันที่ร้านกาแฟทุกวัน แต่พักหลังโชติหายไป เป็นสัตยาที่มักจะมานั่งที่ร้านแทน เวณิกาทำเป็นถามถึงเรไร สัตยาบอกว่ามีคนพาเที่ยวแล้ว เวณิกาจึงพอจะเดาออกว่าโชติวันหายไปไหน แล้ววันหนึ่งเวณิกาก็ดีใจมากเมื่อเห็นโชติวันเข้ามาซื้อกาแฟในร้าน เธอต้อนรับเขาอย่างคุ้นเคย แต่สักพักเรไรก็ตามมาพร้อมกับสัตยา โชติคอยดูแลเรไรเป็นพิเศษ จนทำให้สัตยากับเวณิกาอดมองด้วยความเจ็บปวดไม่ได้ สัตยาจำต้องยอมรับว่าตนเป็นได้แค่พี่ชายที่มีฐานะเป็นพี่เลี้ยงให้คุณเรเท่านั้น เพราะทุกคนยอมรับว่าคุณเรกับคุณโชติวันเหมาะสมและคู่ควรกันที่สุดความรักสี่เส้าดำเนินต่อไปอย่างคลุมเครือ จนมาถึงจุดแตกหัก เมื่อใกล้วันที่เรไรใกล้จะสำเร็จการศึกษา โชติวันขอร้องให้สัตยาเป็นพ่อสื่อให้เขากับเรไร เพราะเขาตัดสินใจแล้วว่าจะแต่งงานกับเธอหลังจากเธอเรียนจบ เพราะทุกครั้งที่เขาพยายามจะพูดเรื่องนี้ เรไรมักจะทำท่าใสซื่อไม่เข้าใจ ทำให้เขาไม่กล้าบอกความในใจกับเธอได้ จึงต้องอาศัยพี่ชายอย่างสัตยาช่วยสานสัมพันธ์ให้ การตัดสินใจทำหน้าที่พ่อสื่อของสัตยาเป็นการเปิดฉากโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ เรไรประชดพี่ชายว่า หากพี่ชายจะมีความสุขที่เธอยอมตกลงแต่งงานกับโชติวัน เธอจะยอมแต่งงานวันนี้หรือพรุ่งนี้เลยก็ได้งานหมั้นระหว่างโชติวันกับเรไรจึงจัดขึ้นอย่างสมหน้าสมตา สัตยารับหน้าที่ตากล้องจำเป็นอย่างเจ็บปวด เรไรเศร้าหมองไม่ยิ้มหรือร่าเริง เวณิกาก็มาร่วมงานอย่างฝืนยิ้มยินดีกับเพื่อน หลังจากงานหมั้นผ่านไป สัตยาตัดสินใจไปทำงานต่างจังหวัด เรไรเป็นห่วงสัตยามาก ขอสัญญาจากสัตยาว่าจะกลับบ้านเดือนละครั้ง สัตยาจำเป็นต้องรับปาก แต่พอถึงเวลาจริง สัตยาก็มักจะอ้างว่าติดงาน ปล่อยให้เรไรรออย่างเศร้าสร้อยเรไรเรียนจบและสอบเข้ากระทรวงต่างประเทศได้สมใจ โชติวันขอให้สัตยาช่วยทำเซอร์ไพรส์ขอเรไรแต่งงาน ตอนแรกเรไรไม่ตอบรับ ทำให้โชติวันใจเสีย สัตยาจึงถามย้ำ เรไรประชดตอบรับ โชติวันดีใจมาก แต่แล้วโชติวันได้รับคำสั่งให้ไปชายแดน จึงต้องเลื่อนงานแต่งงานออกไป โชติวันเลือกหน้าที่มาก่อนเรื่องส่วนตัว สัตยามาส่งโชติวันพร้อมกับเรไรและเวณิกา โชติวันล่ำลาอย่างอาลัยอาวรณ์ เขารับปากว่าจะกลับมาแต่งงานกับเรไรทันทีที่เสร็จภารกิจ เรไรห่วงโชติวันตามประสาคู่หมั้น และเพื่อนที่ผูกพันกันตั้งแต่วัยเด็ก แต่เวณิกานั้นสมัครใจจะจากเป็นกับโชติวันแต่แล้วเหมือนฟ้าผ่าลงมากลางใจของทุกคน เมื่อได้รับข่าวร้ายว่าเครื่องบินของโชติวันถูกยิงตก บงกชหัวใจแตกสลาย สัตยาอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ จึงอาสาไปรับศพเพื่อนด้วยความเศร้าโศก เรไรได้แต่พร่ำร้องไห้ว่า ถ้ารู้ว่าจะเป็นอย่างนี้ คุณเรจะรักคุณโชติให้สมกับที่เขารักเธอ เวณิการ่ำไห้ให้กับชายที่ไม่มีโอกาสล่วงรู้เลยแม้แต่น้อยว่าเธอแอบรักเขาอยู่เต็มหัวใจงานศพผ่านพ้นไปอย่างสำเร็จลุล่วงโดยสัตยา ผู้ที่เข้มแข็งพอจะดูแลงานจนแล้วเสร็จ และยังคอยปลอบใจบงกชที่เอาแต่คร่ำครวญเศร้าโศกกับการสูญเสียลูกชายเพียงคนเดียวจนไม่เป็นอันทำอะไร บงกชจึงยึดเหนี่ยวสัตยาเหมือนเป็นตัวแทนของโชติวันและเป็นลูกชายอีกคนของเธอ สัตยาขอย้ายกลับมาทำงานกรุงเทพฯ เพื่อช่วยดูแลบงกช โดยคอยขับรถให้ และพาไปทำบุญ ซึ่งอีกจุดประสงค์หนึ่งก็คือจะได้ช่วยดูแลเรไรด้วย บงกชมองเห็นว่าสัตยาคิดอย่างไรกับเรไร และเรไรรู้สึกอย่างไรกับสัตยา เธอจึงทำตัวเสมือนแม่อีกคนของสัตยา นำเรื่องนี้ไปหารือกับระรินและสุรางค์เรไรยังไม่คลายทุกข์โศกที่มีต่อโชติวัน หน้าที่พี่เลี้ยงของสัตยาจึงเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง โดยบงกชรับหน้าที่จัดผู้ใหญ่มาพบระรินเพื่อสู่ขอเรไรให้กับลูกชายคนใหม่ของเธอคือสัตยา งานหมั้นหมายระหว่างสัตยาและเรไรถูกจัดขึ้นท่ามกลางความยินดีของทุกฝ่าย เพื่อให้สัตยาทำหน้าที่เป็น พี่เลี้ยง ให้กับเรไรตลอดไป ติดตามชม ละครพี่เลี้ยง
คุณต้อง เข้าสู่ระบบ จึงจะสามารถรีวิวได้
ยังไม่มีรีวิว