เท่ง โหน่ง คนมาหาเฮีย (2550/2007) ภารกิจฮามาหาเฮียเริ่มต้นขึ้น…เมื่อ “เท่ง” (พงษ์ศักดิ์ พงษ์สุวรรณ) และ “โหน่ง” (ชูศักดิ์ เอี่ยมสุข) 2 คู่ซี้เด็กรับรถธรรมด๊าธรรมดาประจำคาเฟ่แห่งหนึ่งต้องจับพลัดจับผลูออกเดินทางไปปฏิบัติภารกิจสำคัญที่ไม่ทำก็ไม่ได้ และคนที่ทำได้ก็มีแค่ “เท่ง-โหน่ง” สองคนเท่านั้น ตามคำสั่งแกมบังคับของ “เฮียเปี๊ยก” (ไพโรจน์ ใจสิงห์) มาเฟียรุ่นเดอะเพื่อจัดส่ง “ตุ๊กตาอาแป๊ะนั่งตกปลา” ไปให้กับ “เฮียสี่” (แอนดี้ เขมพิมุก) มาเฟียรุ่นใหม่ไฟแรง ถึงถิ่นที่ “หาดตาปุ่น” โดยหารู้ไม่ว่าภารกิจครั้งนี้มีสหายที่ไม่ได้รับเชิญร่วมติดตามกันเป็นพรวนตั้งแต่ “นวล” (มายากลแบทแมน) นักฆ่าฝีมือดีทั้งในเรื่องการฆ่าคนตามใบสั่งพอๆ กับความเป็นเลิศในการเล่นมายากลที่เฮียเปี๊ยกส่งมาให้จัดการปิดปากแพะอย่างเท่งโหน่งหลังเสร็จสิ้นภารกิจ รวมไปถึง “หมวดน้ำตาล” (วีเจลูกเกด) พร้อมคู่หู “จ่าแมน” (ต้น Thailand Perfect Man) และหน่วยปฏิบัติการพิเศษชุดใหญ่จากกรมตำรวจเพื่อเฝ้าติดตามภารกิจที่เป็นไปไม่ได้ของ 2 คู่ซี้เท่งกะโหน่งที่กำลังรวบรวมหลักฐานเพื่อจัดการกับ 2 เฮียมาเฟียซะด้วสิ งานนี้ทำเอาทั้งคู่ต้องเข้าไปนัวเนียกับสาวๆ มากหน้าหลายตา พัวพันกับผู้คนหลากชนชั้นหลายอาชีพตั้งแต่สาวเสิร์ฟผู้ปลาบปลื้มและหลงใหลในหมีแพนด้าเป็นชีวิตจิตใจ, ฝรั่งชาวต่างชาติตัวโตและขี้โมโหไม่ใช่เล่น, มาเฟียประจำท้องถิ่นที่ชอบหาเรื่องกร่างชาวบ้านแถบร้านข้าวมันไก่ริมทางไปเรื่อย ไปจนถึงสาวรถซิ่งที่งามงดหมดจดทั้งรูปร่างและหัวใจ หรือแม้แต่สารวัตรหน้าเหลี่ยมผู้มีเอกลักษณ์บนใบหน้าเฉพาะตัวไม่เหมือนใคร และอีกสารพัด ฯลฯ งานง่ายๆ ราวกับการส่งพิซซาแบบนี้ เท่งก็ชอบโหน่งก็ถนัด แต่ไหงทำไมพอมาตกอยู่ในมือของทั้งคู่จึงกลายเป็นภารกิจที่ยิ่งใหญ่ สนุกสนาน ชุลมุน ตื่นเต้น และอุดมไปด้วยความฮาตลอดการเดินทาง…มา…หา…เฮีย
เวิ้งปีศาจ (2550/2007) อดีตเสรีไทยอย่าง แนบหลังเลิกสงครามก็หันไปเป็นนายฮ้อยต้อนวัวควาย ท่ามกลางความเป็นห่วงเป็นใยของ จันทร์ เมียรัก ซึ่งได้แต่บนบานศาลกล่าวต่อ ศาลนางพราย ที่ตนศรัทธาให้ผัวรักแคล้วคลาดจากภยันตราย แต่แล้วเหตุร้ายก็เกิดขึ้นกับเธอเมื่อจันทร์ถูก ผู้ใหญ่ขุน และสมุนลากตัวไปข่มขืนฆ่าและอำพรางด้วยการนำร่างของเธอพร้อมกับ นวล ลูกน้อยวัย 2 ขวบไปทิ้งกลางลำคลอง ดีแต่ได้อิทธิฤทธิ์ของ นางพราย ช่วยให้เด็กน้อยรอดพ้นจากความตาย ส่วนตัวจันทร์นั้นกลายเป็นวิญญาณนางพรายสิงสถิตย์อยู่ ณ ศาลนางพราย เพื่อรอเวลาล้างแค้น นวล ในอีก 17 ปีต่อมาเป็นหญิงงามที่มีหลายชายหมายปอง แต่เธอต้องชะตากับ ร.ต.ต.ศักดิ์ ที่ถูกกรมตำรวจให้ปลอมตัวมาสืบเรื่องราวของผู้มีอิทธิพลในหมู่บ้าน โดยเฉพาะผู้ใหญ่ขุนและ เข้ม ลูกชายวัยฉกรรจ์ ความรักของนวลสร้างความไม่พอใจให้กับ สายพิณผู้เป็นเพื่อนที่หลงรักหมวดศักดิ์เช่นกัน สายพิณร่วมมือกับเข้มวางแผนดักฉุดนวลขณะที่กลับจากนำของไปเซ่นไหว้วิญญาณแม่ที่ศาลนางพราย แต่ต้องเผ่นหนีเพราะถูกผีนางพรายจันทร์เข้ามาขัดขวาง หมอผีแก้วจอมขมังเวทย์ผู้เก่งกล้าด้านคาถาอาคมถูกผู้ใหญ่ขุนและลูกชายตัวแสบตามตัวมากำจัดวิญญาณนางพรายจันทร์ ด้วยการจับขังไว้ในหม้อดินจนไม่สามารถออกมาช่วยนวลได้อีกต่อไป ในขณะที่ร.ต.ต.ศักดิ์ ปรึกษากับ จ่าถวัลย์ พ่อของสายพิณ เพื่อสู่ขอนวลที่กำลังตั้งท้องสายพิณจึงเข้าขัดขวางด้วยการวางยาเพื่อนสาวแล้วให้เข้มข่มขืน นวลขัดขืนก่อนที่จะตัดสินใจกระโดดลงคลองเพื่อฆ่าตัวตาย เคราะห์กรรมของเธอยังไม่หมดสิ้นเมื่อหมอผีแก้วใช้อาคมผ่าท้องเพื่อเอาลูกของเธอไปทำกุมารทอง แต่ก็ได้ เฒ่าจอม ที่มีอาคมแกร่งกล้าเข้ามาช่วยเหลือ ด้วยแรงอาฆาตของวิญญาณนางพรายนวล ความสยดสยองอันน่าสะพรึงกลัวจึงเกิดขึ้นกับทุกๆคนซึ่งต้องชดใช้กรรมที่ก่อไว้อย่างสาสม
ชุมทางรถไฟผี (2550/2007) โจ๊ก (สุระ ธีระกุล) หัวหน้าแก๊งค์โจร โดยมี เอก (วรฐก์ ปิฏกานนท์), มืด (ภูมิใจ ตั้งสง่า), ไก่ (แจ๊ค เฉลิมพล) และ จูน (อุ้ม ลักขณา) เป็นลูกน้อง ทั้งหมดปล้นโรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งอย่างอุกอาจ ตำรวจเข้าสกัดเอาไว้ ระหว่างการหลบหนี จูนถูกตำรวจยิงโดยไม่มีใครช่วย รถโจรหนีตำรวจ และหักหลบบางอย่างเข้าชนร้านข้างทาง เจ้าของร้านคือ โต (เขตต์ ฐานทัพ) เพื่อความอยู่รอดของกลุ่มโจร โจ๊กจึงสั่งให้ลูกน้องจับตัวโตเป็นตัวประกัน และหลบหนีมายังสถานีรถไฟที่ตู้ทึบท้ายขบวน เชื่อว่าจูนถูกยิง ก่อนถึงเวลาแบ่งเงิน ทุกคนตะลึงกับภาพที่เห็นเพราะรถไฟขบวนนี้เป็นรถไฟสำราญที่มีแต่คนรวย ทั้งหมดจึงคิดแผนที่จะปล้นอีกครั้ง การปล้นกำลังจะเริ่มขึ้น แต่ยังไม่ทันเริ่มงาน ปรากฎว่า เหยื่อที่ปล้นไม่มีใครอยู่แม้แต่คนเดียว โดยทุกคนคิดว่าโตทำให้แผนแตก โตถูกตามล่าแต่โชคดีที่ได้ ราตรี (พิงกี้ สาวิกา ) นางแบบสาวเข้าช่วยไว้ ทำให้เขาและเธอเป็นเหยื่อถูกตามล่า มีหลายอย่างที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นบนรถไฟขบวนนี้ ทุกคนต้องเผชิญแต่เรื่องสยดสยอง
Me...Myself ขอให้รักจงเจริญ (2550/2007) อุ้ม (ฉายนันทน์) เป็นครีเอทีฟของบริษัทออร์แกนไนเซอร์ พักอยู่สองคนกับ โอม (มณฑล) หลานชายวัยหกขวบที่กำพร้าพ่อแม่ คืนหนึ่งขณะขับรถกลับบ้าน เธอขับรถชนชายแปลกหน้าคนหนึ่ง (อนันดา) หมดสติ เมื่อชายคนนั้นฟื้นขึ้นมา ปรากฏว่าความจำเสื่อม ทำให้อุ้มจำต้องรับผิดชอบ มาเขามาพักที่ห้องด้วย ชายคนนี้จำไม่ได้ว่าตัวเองเป็นใครมาจากไหน มีเพียงสร้อยติดตัวอยู่หนึ่งเส้น เขียนว่า tan.. อุ้มจึงเรียกเขาว่า แทน
เปิงมาง กลองผีหนังมนุษย์ (2550/2007) พิง หนุ่มที่มีใจรักในเสียงดนตรี ออกจากราชการ มาฝากตัวเป็นลูกศิษย์ ครูด้วง เจ้าของสำนักปี่พาทย์ในจังหวัดปทุมธานี ซึ่งมีเรื่องเล่าสืบต่อกันมา ถึงกลองเปิงมางศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวสำนักใช้กราบไหว้บูชามาช้านาน และเรื่องการตายของลูกวงที่คิดทรยศ พิงมาเพื่อศึกษาร่ำเรียนวิชาเปิงมางตามที่บรรพบุรุษของพิงได้สั่งเสียไว้ก่อนตาย พิงได้พบกับหญิงสาวนางหนึ่งที่ชอบทำตัวลึกลับ เธอชื่อ ทิพย์ ตลอดเวลาพิงและทิพย์พบกันในเวลากลางคืน และสร้างสัมพันธ์ที่ดีร่วมกันจนเกิดเป็นความรัก ปลัดเหมือน นักเลงปี่พาทย์ผู้มีอาคม ที่ปรากฏตัววางแผนทำลายสำนักครูด้วง และหวังแย่งชิงเปิงมางศักดิ์สิทธิ์เพื่อให้ตัวเองได้เป็นที่หนึ่งในด้านดนตรีไทย ปลัดเหมือนใช้เงินหว่านล้อมจนลูกวงของครูด้วง หลายคนสับสนและทรยศย้ายสำนักไปอยู่กับปลัดเหมือน แต่ในที่สุดพวกลูกวงเหล่านี้ก็พบจุดจบอย่างสยดสยอง ต่อมาปลัดเหมือนก็กระทำการล้มครูด้วงจนสำเร็จ และ แย่งชิงเปิงมางศักดิ์สิทธิ์ไปได้ ทิพย์หายตัวไป ครูด้วงขอให้พิงสืบทอดวงต่อไป และเล่าความจริงว่า เปิงมางศักดิ์สิทธิ์นั้นได้ถูกสร้างมาจากผิวหนังของหญิงสาวคนหนึ่งชื่อทิพย์ ทำให้พิงรู้ว่าการตายของพวกลูกวงเป็นฝีมือของทิพย์ พิงเป็นคนเดียวที่จะกุมชะตาสำนักนี้ต่อไป หลายปีต่อมา พิงกลายเป็น ครูพิง ซึ่งตอนนี้ชราลงและพิงเห็นนางรําคนนึงรําจึงนึกถึงตอนที่เจอทิพย์และเมื่อการแสดงจบลง พิง ก็ได้เสียชีวิตด้วยวัยชราภาพ
เมล์นรก หมวยยกล้อ (2550/2007) ในวันสงกรานต์ โก๋ (อุดม แต้พานิช) กระเป๋ารถเมล์สาย 39 (สนามหลวง-รังสิต) ยังต้องมาทำงาน ซ้ำยังต้องจับคู่ไปกับคนขับขี้บ่นที่ไม่ชอบหน้ากันอย่าง เฮียหลา (สุเทพ โพธิ์งาม) ด้วย เฮียหลานั้นบ่นได้ทุกเรื่องไม่เว้นแม้กระทั่งเรื่องการเมืองหรือสังคม ซึ่งโก๋เองก็ปากร้ายไม่แพ้กัน และยิ่งมาเมื่อต้องมาขับรถในวันสงกรานต์ที่มีคนเล่นสาดน้ำกันข้างถนนด้วยแล้ว เฮียหลายิ่งหงุดหงิดใหญ่ จนกระทั่งเฮียหลาถูกสาดน้ำเข้าให้โดยรถกระบะคันหนึ่ง เฮียหลาขับรถไปตามจะเอาเรื่อง เลยทำให้ ยามคนหนึ่งชื่อทรัพย์ (เกียรติ กิจเจริญ) ที่นัดหมายกับเพื่อนจะลงรถเมล์เพื่อไปต่อรถเพื่อนกลับบ้านไปหาลูกสาวที่โคราช ไม่ได้ลงป้าย เลยโมโหสติแตกหยิบปืนขึ้นมาขู่ให้ขับไปเรื่อย ๆ ทำให้ผู้โดยสารที่มีอยู่บนรถขณะนั้นอีก 7 คน ซึ่งประกอบไปด้วย หมอกายภาพบำบัดสาว (อริศรา วงษ์ชาลี) ที่แต่งตัวค่อนข้างโป๊แต่พูดเสียงเหน่อ เลยถูกแม่ค้าปากร้าย (เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์) ว่าอยู่บ่อย ๆ ว่าเป็นหมอนวด หนุ่มใส่แว่นรูปร่างใหญ่ (คมสัน นันทจิต) ติ๊ก สาวท้องใหญ่ใกล้คลอด (ศรีพรรณ ชื่นชมบูรณ์) ที่ทะเลาะกับสามี เฮียซ้ง (ธีระธร สิริพันธุ์วราภรณ์) อยู่ตลอดเวลา สวย สาวสวยหน้าตาดีซึ่งกำลังปวดท้องอย่างเต็มที่ (อชิตะ ธนาศาสตนันท์) ซึ่งมากับเพื่อนทอมบอย (อัญชนา เพ็ชร์จินดา) ตกอกตกใจ ที่จู่ ๆ ก็ตกเป็นตัวประกัน ขณะเดียวกัน หมวย (พิมพ์ชนก พลบูรณ์) แฟนสาวของโก๋ ที่กำลังใจจดใจจ่อรอให้โก๋มาพบกับพ่อแม่ของตน (รับบทพ่อโดย อดิเรก วัฏลีลา) แต่โก๋ก็ไม่มาซักที เลยต้องโทรศัพท์มาตามอยู่ตลอด จนในที่สุดต้องบอกว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์ รถเมล์ยังคงวิ่งไปเรื่อย ๆ โดยที่ทรัพย์เองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไปทำไม และจะไปลงเอยที่ไหน เพราะถูกตำรวจตามตลอด จนท้ายที่สุด ขณะที่กำลังแย่งปืนกันอยู่นั้น ปืนก็เกิดลั่นไปโดนเฮียหลา รถก็เลยไม่มีคนขับ โก๋จึงต้องรับภาระมาขับรถให้ แต่ในที่สุดเรื่องราวก็จบลงได้ด้วยดี เพราะโก๋ที่ขอให้ทุกคนให้อภัยยามทรัพย์ และเกลี้ยกล่อมยามทรัพย์ สุดท้าย ยามทรัพย์จึงโยนปืนทิ้งไปในระหว่างทาง เฮียหลาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล โก๋ อาสาขับรถส่งยามทรัพย์ให้ถึงบ้านที่โคราชด้วย และโก๋ก็ได้พบกับหมวยอีกครั้งหนึ่ง
โกยเถอะเกย์ (2550/2007) ภาพยนตร์ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดแต่ปักใจให้ทุกคนได้ฮา “ตุ๊ด ยุทธล่อม – ต้อม ยุทธเลิศ” ผู้กำกับมาดกวนประกาศเปิดสถานีความฮาครั้งใหม่ กับภาพยนตร์เรื่องที่ 7 “โกยเกอะเกย์” (Ghost Station) ภาพยนตร์จาก “ก้น” บึ้งหัวใจ สถานีบริการอารมณ์ขันตลอด 24 ชั่วโมง “หอย-เกียรติศักดิ์ อุดมนาค” (นางเอกเสียวสุด) จูงมือเปิดประตู (หลัง) ประกาศรักครั้งใหม่สุดสยิวกิ้วหัวใจ ในบทบาทชายชนท้ายชายกับ “เปิ้ล-นาคร ศิลาชัย” (พระเอกสุดเตี๋ยว) แบบมันส์ไม่มีแตะเบรก… เตรียมพบสุขนาฏกรรมความเลิฟที่จะเติมทุกอารมณ์ความสุขสยองปนสยิวของคุณ…ให้เต็มถัง เพราะสองเรา บริสุทธิ์ใจ ในความรัก อยากฟูมฟัก ให้ยืนนาน ปานขุนเขา แม้ยามสุข ยามทุกข์ ช่วยแบ่งเบา อย่ามัวเอา ดุ้นหว่างขา มาใส่ใจ เรื่องราวความรักระหว่าง “อู๊ด” (หอย-เกียรติศักดิ์ อุดมนาค) กับ “ใหญ่” (เปิ้ล-นาคร ศิลาชัย) คู่รักพลพรรคชายรักชายที่ลงทุนทิ้งชีวิตอันวุ่นวายในเมืองหลวงมาซื้อปั๊มน้ำมันร้างแห่งหนึ่งที่อยู่ในหุบเขาห่างไกลความเจริญ เพื่อหวังเป็นรังรักไว้ครองคู่กันตราบฟ้าดินสลายสไตล์หนังโปรดแนวคาวบอยหนุ่มของทั้งคู่อย่าง “Brokeback Mountain” แต่ความจริงกลับไม่สวยงามอย่างที่คิดไว้เพราะอู๊ดจับได้ว่าใหญ่ดั๊นนน…ไป XXX ชนิดได้หน้าลืมหลังแบบอึ้ง-ทึ่ง-เสียว (โว้ย!!!) กับ “แตงโม” (อิม-อชิตะ สิกขมานา) ทอมสุดห้าวแฟนของดี้สาวนาม “เจนนี่” (ทราย-สุภัสสรา เรืองวงศ์) เรื่องมาถึงจุดวิบัติเมื่อใหญ่ไม่รู้ว่าแตงโมเป็นทอม แตงโมไม่รู้ว่าใหญ่เป็นเกย์ มีแต่อู๊ดคนเดียวเท่านั้นที่รู้ว่าตัวเองถูกทอมหน้าหวานสวมเขา เมื่อความรักแบบสุดใจต้องพบกับความผิดหวังแบบสุดแรง มันก็ทำให้เกิดความแค้นแบบสุดโคตร คนจริงอย่างอู๊ดจึงวางแผนเปลี่ยนปั๊มแห่งรักให้กลายเป็นหลุมฝังศพของคู่เกย์ที่กล้าขยี้หัวใจสีชมพูดวงน้อยๆ ของเขาให้แหลกคามือพร้อมทั้งนังชะนีทอมที่กล้าเป็นมือที่สาม แต่เรื่องมันกลับไม่เป็นอย่างที่คิด เมื่อปั๊มที่ทั้งคู่อยู่นั้นไม่ใช่แค่ปั๊มร้าง แต่มันคือปั๊มเฮี้ยนที่มีเซอร์ไพรส์สุดหลอนรออยู่ เรื่องราวจะลงเอยอย่างไร เกย์จะฆ่าทอม หรือว่าทอมจะฆ่าผี แล้วตกลงดี้จะฆ่าใคร ความแค้นของใครจะรุนแรงกว่ากัน “ต้อม-ยุทธเลิศ สิปปภาค” ขอเชิญพิสูจน์ความมันส์แบบการันตีความฮาในหนังตลกฮาตกเก้าอี้
มะหมา 4 ขาครับ (2550/2007) การผจญภัยของ มะขาม หมาพันธุ์ไทยหลังอานที่ถูกนำมาทิ้งที่วัดเพราะทำข้าวของของเจ้านายเสียหาย กับหมาข้างถนนฝูงหนึ่ง ประกอบด้วย ลุงกาแฟ หมาแก่หัวโจก เก่ง หมาขนยุ่งจอมกวน เปี๊ยก ปลากระป๋อง หมาตัวเล็กจอมซ่า เซ็กซี่ หมาพุดเดิลสุดเปรี้ยว และ พิกุล หมาสาวสุดเรียบร้อย สมเป็นกุลสตรี หมาข้างถนนฝูงนี้ แต่เดิมเป็นหมามีเจ้าของ แต่จับพลัดจับผลูต้องกลายเป็นหมาจรจัด เพราะชุมชนที่มันอาศัยอยู่ ถูกเจ้าของที่ดินเผาไล่ที่ เมื่อเจ้าของย้ายไปอยู่ที่อื่น พวกหมาๆ จึงต้องอยู่อย่างยากลำบาก ต้องเร่ร่อนไปตามหมู่บ้านจัดสรร ถูกหมาวัดเจ้าถิ่นรังแก พวกเขาจึงคิดจะเดินทางไป สุนัขวดี สวรรค์ในตำนานของหมาๆ ที่เล่าสืบต่อกันมา การเดินทางไป สุนัขวดี พวกเขาต้องประสบภยันตรายมากมาย ต้องเสี่ยงชีวิตวิ่งข้ามถนน 10 เลน ที่มีรถวิ่งด้วยความเร็วสูงตลอดเวลา สุนัขวดี จะเป็นสวรรค์ดังคำร่ำลือหรือไม่ ไม่มีใครทราบ เพราะไม่เคยมีหมาที่ข้ามไปได้ ข้ามกลับมาเล่าให้ฟัง นอกจากนี้ มะขาม ยังมีเรื่องวุ่นๆ เกี่ยวกับรักสามเส้าแบบหมาๆ กับ น้ำค้าง หมาอเมริกันพันธุ์คอลลี่แสนสวย ที่ต้องชิงรักหักสวาท ชิงไหวชิงพริบกับ ทอมมี่ หมาหนุ่มพันธุ์คอลลี่ พันธุ์แท้ อีกทั้งยังมี เรื่องรักสามเส้าคู่ขนานแบบคนๆ ของ แจ็ค ยามเฝ้าหมู่บ้านจัดสรร คนเลี้ยงมะขาม กับ หนูแหวน ไฮโซสาวสวย เจ้านายของน้ำค้าง ซึ่งก็เป็นที่หมายปองของ คุณองอาจ เจ้าของหมู่บ้านจัดสรร เจ้าของทอมมี่
แฝด (2550/2007) พิม (หทัยรัตน์ อีเกอรีฟ) และพลอย (ฤทัยรัตน์ อีเกอรีฟ) แฝดหญิงตัวติดกันวัย 15 ที่เข้ารับการผ่าตัดแยกช่องท้องและกระเพาะอาหารเป็นคู่แรกในเมืองไทย ผลปรากฏว่าพิมพี่สาวพ้นขีดอันตราย ส่วนคนน้องนั้นเสียชีวิต หลังพลอยตาย พิมเลือกที่จะทิ้งความเจ็บปวดและความรู้สึกผิดไว้เบื้องหลัง แล้วหนีไปตั้งต้นชีวิตใหม่ที่เกาหลี ชีวิตของพิมคงดำเนินต่อไปอย่างมีความสุขกับผู้ชายที่เธอเลือก ถ้าเสียงโทรศัพท์ในกลางดึกคืนหนึ่ง จะไม่ดึงให้เธอต้องหวนกลับมาพบความหลังที่เธอทั้งผูกพันและกลัวสุดหัวใจ ข่าวจากเมืองไทยแจ้งว่าแม่ของเธอ (รัชนู บุญชูดวง) ประสบอุบัติเหตุ พิม (มาช่า วัฒนพานิช) จึงรีบเดินทางกลับเมืองไทย แต่ทันทีที่เธอเหยียบย่างกลับเข้าบ้านหลังเก่า ความทรงจำในอดีตที่เธอแกล้งลืมมันไปก็ย้อนคืนมา ในบ้านเดิมที่พิมเคยอาศัยสมัยเด็ก ข้างของทุกอย่างของพิมและพลอยยังคงแน่นิ่งอยู่ในที่ของมัน รองเท้าสองคู่ ตุ๊กตาสองตัว เสื้อผ้าชุดติดกัน เวลาเหมือนจะหยุดนิ่งไม่ไหลผ่าน พิมเริ่มสัมผัสได้ถึงความรู้สึกเก่าๆ อีกครั้ง ความรู้สึกคล้ายมีคนอยู่ข้างกายตลอดเวลา ทุกลมหายใจ คงจะดีกว่าถ้าพลอยจะเกลียดพิมซะจนไม่อยากกลับมาอยู่ข้างๆ พิมเหมือนเดิม ทว่าพลอยยังคงอยู่ที่นี่ รอเธอและโกรธเธอ หรือกระทั่งความตายก็ไม่อาจแยกพลอยจากพิม
อสุจ๊าก (2550/2007) คุณเคย “ฝัน” อยากเป็น “คนดัง” หรืออยาก “Fun” กับ “ดารา” บ้างมั้ย ม่าย…ยยย ไม่ต้องคิดนานขนาดน้าน…นนน มันต้องเคย…ซักครั้งล่ะน่า แต่ถ้าโชคชะตาของคุณเกิดพลิกผัน ต้องกลายเป็นคนดังเพียงชั่วข้ามคืน ด้วยเหตุประหลาดอันมาจาก “น้ำเชื้อ” ของคุณเอง!!! และเหตุอลหม่านอีกนับไม่ถ้วนที่ทำให้คุณ “ดังกระจาย” สมใจ แถมต้อง “หนีกระเจิง” แบบสมยอมในคราวเดียวกัน ซะงี้แล้ว คุณยังฝันอยากจะเป็นคนดัง…อยู่อีกมั้ยล่ะ “อสุจ๊าก” (The Sperm) หนังตลกวัยรุ่นกับส่วนผสมอันหลากหลาย ทั้งไซไฟ แอนิเมชัน ทะลึ่งทะเล้น และมนุษย์พันธุ์ประหลาด!!! ที่จะบ่มเพาะเชื้อฮามาให้คุณได้เฮ ฤกษ์ดีเดย์ปล่อยเชื้อฮา 22 มีนานี้ ในโรงภาพยนตร์ “อสุจ๊าก” (The Sperm) เล่าเรื่องราวของ “สุทิน” (ลีโอ พุฒ) หนุ่มขายเสื้อผ้าย่านรามคำแหง เขาเป็นเพียงชายหนุ่มธรรมดาคนหนึ่งที่ฝันอยากจะมีชื่อเสียงและใฝ่ถึงนางแบบ-นางเอกสาวดาวรุ่งอย่าง “แลมมี่” (ผิง-พิมพาภรณ์ ลีนุตพงษ์) ชีวิตของเขาอาจจะลุ่มๆ ดอนๆ ไปตามเรื่องกับวงดนตรีฮาร์ดคอร์ที่ก่อตั้งขึ้นกับเพื่อนสนิทอีก 3 คนอย่าง “ประเสริฐ” (กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่), “สุรชัย” (สอง พาราด็อกซ์), และ “อนันต์” (ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์) ถ้าหากว่าเขาไม่บังเอิญไปเกิดเรื่องเสียก่อน เรื่องที่ว่าก็คือ…อยู่มาวันหนึ่งได้เกิดเหตุประหลาดที่หญิงสาวทั่วทั้งกรุงเทพฯ เกิดตั้งครรภ์อย่างเร่งด่วนขึ้นมาภายในคืนเดียว และคลอดในอีกหนึ่งวันต่อมา ที่น่าประหลาดกว่านั้นก็คือ เด็กทุกคนที่เกิดมามีใบหน้าเหมือนสุทินกันหมด นอกจากนี้อัตราการเจริญเติบโตของเด็กเหล่านี้ยังรวดเร็วชนิดที่เพียงไม่กี่วันก็เติบโตเป็นเด็กรุ่นกระทงได้แล้ว ที่น่าสังเกตก็คือ เด็กเหล่านี้มีความคลั่งไคล้ในตัวแลมมี่เช่นเดียวกับสุทินอีกด้วย สุทินต้องออกสืบค้นเรื่องราวประหลาดนี้ เพราะดูเหมือนจะมีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้นที่จะสามารถจัดการกับปัญหานี้ได้ โดยได้รับความช่วยเหลือจาก “ด็อกเตอร์สติเฟื่อง” (สมเล็ก ศักดิกุล) ที่ชอบนักกับการประดิษฐ์ทดลอง และดัดแปลงของแปลกประหลาด กับ “ลูกสาวด็อกเตอร์” (ดลรส เดชะประทุมวัน) คนเก่ง แสนซนและน่าร้าก…กกก เขาต้องหลบเลี่ยงจากการเป็นคนดังเพียงชั่วข้ามคืน และหนีการตามล่าจากทางการที่จะนำตัวเขามาสอบสวนข้อเท็จจริง ในขณะเดียวกัน เขาก็ต้องแปลงตัวเข้าร่วมงานคอนเสิร์ต “OTOB” (One Tambol One Band – หนึ่งตำบลหนึ่งวงดนตรี) เพื่อเข้าร่วมประกวดวงดนตรีตามที่เขาใฝ่ฝัน และช่วยเหลือนางในฝันอย่างแลมมี่ที่กำลังจะถูกคุกคามจากเด็กพันธุ์ประหลาดนี้โดยไม่รู้ตัวด้วย เอาล่ะสิ…แล้วทีนี้สุทินจะทำยังไงต่อดีล่ะเนี่ย จ๊าก…กกกกกกกกกก
ผีไม้จิ้มฟัน (2550/2007) สัจจะต้องรักษา ความแค้นต้องชำระ คำสัญญาจึงต้องทวงถาม ต่อให้เหลือซากกะแค่ไม้จิ้มฟัน… เจ้าพ่อต้นไทร สิ่งศักดิ์สิทธิ์สุดเฮี้ยนประจำซอยชื่อดี ฟังมงคล.. ซอยสุขคติ ลือกันนมนานว่า เจ้าพ่อเป็นนายทหารเก่าที่มีเกียรติยศ เป็นคนเฉียบขาด ยึดมั่นสัจจะแบบนายทหาร แต่ตายอย่างผิดธรรมชาติก่อนเวลาอันควร จึงเป็นผีเจ้าพ่อสิงสถิตย์ที่ต้นไทร ไม่ไปไหน ทั้งเฮี้ยน ทั้งศักดิ์สิทธ์ ผู้คนมากราบไหว้บนบาน เอก (บริวัตร อยู่โต), แว่น (ธีพร วีระจิตเอกวิชัย), ดอน (เฮนรี่ เดอ มาร์เซียค์) และ โม้ (นพดล ซอยสกุล) กลุ่มนักเรียนมัธยมที่ทำตัวเหลวไหล วันๆ ไม่เคยท่องหนังสือเรียน สมคบกับ พี่ควายน้อย (อี๊ด โปงลางสะออน) มอ’ไซค์วินเจ้าประจำ คอยมาร่วมก๊วนเหลวไหลด้วยประจำ วันสอบเอนทรานซ์ใกล้เข้ามา ความที่ไม่เคยท่องหนังสือเรียน เอาแต่เที่ยวเล่น ดริงค์ดื่ม เหล่หญิง เอกและเพื่อนๆ อยากเอนทรานซ์ติด จึงหันมาพึ่งเจ้าพ่อต้นไทร แค่จุดธูปบนบานเจ้าพ่อต้นไทรไม่นาน ทุกคนก็สมหวัง ไม่ว่าจะเรื่องเรียน เรื่องหญิง น้องเบลล์ (แอนนา - ปรางค์ทิพย์ เศวตประสาธน์) ที่ดอนเหล่มานาน ก็สอยมาอยู่ข้างกาย พี่ควายน้อยเองก็พลอยได้มอเตอร์ไซค์คันใหม่ ถึงเวลาต้องแก้บน เกิดเหตุไม่คาดฝัน... ต้นไทรถูกตัดหายไปแล้ว !!! ต้นไทรหายไป เอกและเพื่อนๆ ยังไม่ได้แก้บนเจ้าพ่อต้นไทร ชีวิตทุกคนที่บนบานไว้ ถูกคุมคามด้วยเหตุร้ายต่างๆ ราวกับมีสายตาน่ากลัวคู่หนึ่ง คอยจ้องมองอยู่ตลอดเวลา แต่ละคนเจอเหตุร้าย ชวนให้ขนลุกตามๆ กัน เอกและเพื่อนๆ เริ่มปฏิบัติการตามล่าหาต้นไทร ไม่ว่าเศษเสี้ยวชิ้นส่วนของต้นไทรจะยังอยู่ที่ไหน ต้องหาให้เจอ เพราะนี่คือหนทางเดียว ที่จะช่วยให้พ้นจากการถูกผีหลอกไปตลอดชีวิต ว่าแต่.. จะให้แก้บนกับอะไรล่ะ โต๊ะ เก้าอี้ เขียงสับหมู ไม้เกาหลัง ไม้กวาด ไม้แขวนเสื้อ ไม้ตะเกียบ ไม้เสียบลูกชิ้น หรือจะต้องแก้บนกับเจ้าไม้เล็กๆ กระจอกๆ กระจิ๋วหลิวอย่าง เจ้า “ไม้จิ้มฟัน” เนี้ยนะ ?!??
หอแต๋วแตก (2550/2007) ความสนุกกำลังจะเกิดขึ้นเมื่อ หมอผีอินเตอร์ถูกอิมพอร์ตมาปราบผีสาวคลิปวีดีโอฉาว และผีกระเทยไฮโซที่หอพักชายของสามสาวกระเทยรุ่นใหญ่ อุ๊ย! … ว้าย!…ต๊าย!…แต๋วกลัวฮ่าา !!!!!! สามกระเทยรุ่นใหญ่ อดีตเจ้าของค่ายมวยแต่โดนโกง เลยมาร่วมลงทุนสร้างหอพักชายแต่แล้ว เกิดมีคนมาตายในหอกลายเป็นผีออกอาละวาด เขาทั้งสามจะจัดการอย่างไร ก่อนที่ผู้เช่าจะย้ายออกไปหมด
บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม 2 (2550/2007) เรื่องราวต้นกำเนิดของวงศ์คมก่อนที่จะมาเป็นบอดี้การ์ดให้กับท่านโชติและชายชล ในขณะที่เป็นตำรวจพิเศษของรัฐบาลสาธารณรัฐหนองหวายหลึม เขาได้รับคำสั่งให้แทรกซึมเข้าไปยังบริษัท "GRSM GRAMMA" บริษัทค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ที่มี "เฮียสุรชัย" และ "สุชิน" เป็นเจ้าของ แต่เบื้องหลังแล้วทั้งสองคือพ่อค้าอาวุธเถื่อนรายใหญ่ คำเหลาได้แทรกซึมโดยการเข้าไปเป็นนักร้องในบริษัท โดยใช้ชื่อในวงการว่า "มัมมี่ เหลา" และที่นี่เขาได้พบกับ "พอลล่า" เลขาสาวสวยของเฮียสุรชัยและ สุชิน ซึ่งแท้จริงแล้วเธอคือ CIA ปลอมตัวมา ซึ่งทั้งคู่จะต้องร่วมมือกันหยุดยั้งเฮียสุรชัยและสุชินให้ได้ คำเหลา (เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา) เจ้าหน้าที่ มือดีอันดับต้น ๆ แต่ชอบทำเรื่องซวยให้เจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่หนักใจ ของหน่วยสืบสวนพิเศษสำนักงานสืบสวนเฉพาะกิจแห่งสาธารณรัฐชาติเวียง ได้ถูกส่งตัวไปยังประเทศไทยหลังจากที่ทางหน่วยงานได้ข้อมูลลับมาว่า มีผู้ก่อการร้ายรายใหญ่ สุชิน (สุชิน ควรสงวน) และสุรชัย (สุรชัย สมบัติเจริญ) ที่มุ่งทำลายสาธารณรัฐชาติเวียงแฝงตัวอยู่ในประเทศไทย โดยได้เปิดธุรกิจค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ ภายใต้แบรนด์ GRSM GRAMMA บังหน้า ทางหน่วย(รัฐเวียง)จึงได้ส่งคำเหลา เข้าไปปฏิบัติการต่อต้านผู้ไม่ประสงค์ดีรายนี้ คำเหลาเลยจำเป็นต้องงัดกลยุทธทั้งหมดโกหก เขียว (เจเน็ต เขียว) ภรรยาของตัวเองว่าต้องไปทำงานก่อสร้างที่กรุงเทพฯ โดยที่ไม่เคยปริปากบอกแม้แต่นิดเดียวว่าตัวเองทำงานมีเกียรติขนาดไหน เขียวได้แต่สงสัย คำเหลาแฝงตัวเข้าไปเป็นนักร้องในบริษัทค่ายเทป GRSM ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ระดับประเทศที่กลุ่มผู้ก่อการร้ายตั้งขึ้นเพื่อใช้บังหน้า โดยคำเหลามาสมัครเป็นนักร้องโดยใช้ชื่อว่า มัมมี่ เหลา จนกลายเป็นที่โด่งดังระดับซุปเปอร์สตาร์ขวัญใจประเทศเพียงชั่วข้ามคืน จนสามารถทำยอดทะลุเป้าไปได้มากกว่า 100 ล้านแผ่น และในขณะที่มัมมี่เหลาโด่งดังขึ้นก็ได้พบกับ พอลล่า (แจ็คเกอลิน อภิธนานนท์) นักสืบสาวจากหน่วยงานต่างประเทศที่แฝงตัวเข้ามาเป็นเลขาของ สุชิน และ เฮียสุรชัย ซึ่งเข้ามาปฏิบัติการอยู่ก่อนแล้วโดยที่คำเหลาไม่รู้ตัวมาก่อน คำเหลาและพอลล่า ทั้งสองคนต้องร่วมมือกันเพื่อจัดการกับผู้ก่อการร้ายกลุ่มนี้ให้ได้ก่อนที่จะเกิดการปฏิบัติการระเบิดถล่มเมืองขึ้น ภาระกิจเพื่อประเทศและแฟนเพลงจึงเต็มไปด้วยความโกลาหล ปฎิบัติการสาดกระสุนกระหน่ำ สาดมุขกระจายของคำเหลากำลังจะเริ่มต้นขึ้น!
ยังไงก็รัก (2550/2007) จะเป็นอย่างไรเมื่อมีการร่วมมือวางกลยุทธ์เอาความงมงาย และการเชื่อเรื่องโชคลางของคนรัก มาคิดเป็นหนทางกำจัดเธอออกไป ย้ง (สมพล ปิยะพงศ์สิริ) หนุ่มใหญ่เชื้อสายจีน อายุไม่เยอะแค่ 30 กว่าๆเป็นผู้ดีเก่าตกยาก อนาคตไม่ไกลนักกับตำแหน่งเซลล์แมนบริษัทขายเครื่องใช้ไฟฟ้า สุขภัณฑ์ห้องน้ำ และเครื่องครัว ย้งแต่งงานแล้วกับเง็ก (สุวัจนี ไชยมุสิก) ซึ่งก็เป็นสาวใหญ่เชื้อสายจีน วัยใกล้เคียงกับย้ง มีนิสัยเหมือนเมียหลวงมาตรฐานคือ แก่ง่าย ตายยาก เง็กขายขนมจุ่ยก้วยอยู่ที่บ้านแถวเยาวราช เธอเชือถือโชคลางเป็นที่สุด ทั้งสองแต่งงานอยู่กินกันมา 7 ปีท่ามกลางเสียงบ่นของเง็ก ที่กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตย้งไปแล้ว บ่อยครั้งที่ย้ง เบื่อมากจนอยากเลิกกับเง็ก แต่ย้งก็ทำไม่ได้เพราะย้งดันไปสาบานไว้กับเตี่ย ก่อนเตี่ยตาย ถ้าลื้อทิ้งอาเง็กขอให้มีอันเป็นไปในเจ็ดวัน ให้ลื้อเซ็กส์เสื่อมเอาผู้หญิงไม่ได้ตลอดไป อันที่จริงย้งสาบานไปอย่างนั้น เพราะต้องการเอาใจเตี่ยก่อนตาย แล้วก็ไม่ได้เชื่อในคำสาบานอะไรนั่นเท่าไหร่นัก แต่หลายครั้งที่มองรูปเตี่ย เป็นต้องมีอภินิหารให้เห็นอยู่ตลอด หลายต่อหลายอย่างจนย้งนึกหวาดๆ ยังเลยชักไม่แน่ใจ คำสาบานจะเป็นจริงหรือไม่ แต่ก็คิดปลอบใจตัวเองว่า ไม่เชื่ออย่าลบหลู่แล้วกัน จะว่าไปคำสาบานกับเตี่ยนั้น ก็คงไม่เป็นปัญหากับย้ง ถ้าไม่บังเอิ๊ญ..บังเอิญ ย้งมีจุดมุ่งหมายที่ต้องทำให้สำเร็จภายใน 7 วัน สำคัญมากแถมยังขัดกับคำสาบานที่ให้ไว้กับเตี่ย แต่ย้งต้องทำ จนแล้วจนรอดเวลาจวนเจียนจะหมดย้งก็ยังหาหนทางไม่ได้ ท่ามกลางความมืดมนที่ดูเหมือนไม่มีทางออก เพราะดันไปสาบานกับเตี่ยไว้ว่า ห้ามเลิกกับเง็ก แต่ฟ้าก็ยังเห็นใจ จึงส่ง เล้ง (สมเล็ก ศักดิกุล) ผู้ที่ชอบสวมวิญญาณเป็นโกวเล้ง และด้วยความเป็นกูรูในเรื่องๆเมียของเล้ง เขาจึงร่วมด้วยช่วยกันกับย้งอย่างเต็มที่ เพราะว่าเล้งนั้นเป็นคนกลัวเมียมาก การช่วยย้งจึงเป็นการระบายในสิ่งที่ตัวเองไม่มีวันทำได้ และย้งก็เริ่มปฎิบัติการกลบความผิด ตัดทอนความรัก เพื่อเฉลี่ยความรักในอีกรูปแบบหนึ่ง
ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๒ ประกาศอิสรภาพ

ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๒ ประกาศอิสรภาพ (2550/2007) พ.ศ. 2114 “สมเด็จพระมหาธรรมราชา” ซึ่งพระเจ้าหงสาวดีบุเรงนองสถาปนาขึ้นเป็นกษัตริย์ครองกรุงศรีอยุธยาสืบต่อจากพระมหินทราธิราชได้โปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงเป็นอุปราชครองเมืองพิษณุโลก เมื่อพระเจ้าหงสาวดีบุเรงนองสวรรคตในปี พ.ศ. 2124 “พระเจ้านันทบุเรง” ขึ้นเสวยราชย์สืบแทน และสถาปนาพระโอรส “มังสามเกียด” ขึ้นเป็น “พระมหาอุปราชา” รัชทายาท ในการนี้เจ้าเมืองประเทศราชทั้งหลายต้องมาร่วมแสดงความสวามิภักดิ์ รวมถึงพระมหาธรรมราชาและสมเด็จพระนเรศวรด้วย ในขณะที่เจ้าฟ้าเมืองคังไม่ได้เสด็จมาร่วมพระราชพิธีสำคัญครั้งนี้ เป็นเหตุให้พระเจ้าหงสาวดีนันทบุเรงทรงมอบหมายให้พระมหาอุปราชา, พระราชนัดดา “นัดจินหน่อง” พระโอรสเจ้าเมืองตองอู, และสมเด็จพระนเรศวรช่วยกันเข้าตีเมืองคัง แต่พระมหาอุปราชากลับสั่งให้สมเด็จพระนเรศวรเข้าตีเป็นทัพสุดท้าย ด้วยความมั่นใจว่าทัพของพระองค์และนัดจินหน่องจะประสบความสำเร็จ แต่ปรากฏว่าสมเด็จพระนเรศวรทรงมีชัยชนะในศึกเมืองคังนี้ สามารถจับตัวเจ้าฟ้าเมืองคังและพระธิดา “เลอขิ่น” กลับมาได้ รัชทายาทหงสาวดีและราชนิกูลฝ่ายพม่าซึ่งเป็นคู่ปรับกันมาตั้งแต่เยาว์วัยจึงขุ่นเคืองอาฆาตสมเด็จพระนเรศวรเป็นทวีคูณ ต่อมาเมื่อเกิดศึกอังวะ พระเจ้าหงสาวดีนันทบุเรงให้สมเด็จพระนเรศวรนำทัพมาช่วยรบ แต่พระมหาอุปราชากลับใช้โอกาสนี้วางแผนลอบปลงพระชนม์ ในขณะที่สมเด็จพระนเรศวรทรงยั้งทัพอยู่ ณ เมืองแครง แต่ข่าวการลอบปลงพระชนม์ได้ล่วงรู้ถึงสมเด็จพระนเรศวรผ่านทางพระมหาเถรคันฉ่อง สมเด็จพระนเรศวรจึงถือเหตุการลอบปลงพระชนม์ในการประกาศอิสรภาพตัดสัมพันธไมตรีกับหงสาวดี และกวาดต้อนชาวไทยชาวมอญกลับคืนพระนคร ฝ่ายหงสาวดีเมื่อทราบว่าการลอบปลงพระชนม์ไม่สำเร็จจึงให้นายทัพสุระกำมาเร่งนำทัพออกติดตามทัพของสมเด็จพระนเรศวร ในที่สุดก็ทัพหงสาวดีก็ตามมาถึงในขณะที่สมเด็จพระนเรศวรและไพร่พลกำลังข้ามแม่น้ำ และศึกครั้งนี้สมเด็จพระนเศวรทรงใช้พระแสงปืนต้นยิงข้ามแม่น้ำสะโตงถูกแม่ทัพสุระกำมาตายบนคอช้าง ทัพพม่าจึงล่าถอยกลับไป

ทะเลของก้อย (2550/2007) ก้อย เด็กสาวชั้นมัธยมปลายท้อแท้กับการเตรียมตัวเข้ามหาวิทยาลัย ในขณะที่เธอนั่งปลดปล่อยอารมณ์ที่ห้องสมุด ก้อยได้เหลือบไปเห็นหนังสือเล่มพระมหาชนก แต่ตอนนี้เธออ่อนหล้าจากการอ่านหนังสือสอบ เธอเบื่อที่จะอ่านตัวหนังสือ จึงขอดูแต่ภาพ ภายในมีภาพประกอบที่ประณีตสวยงาม ก้อยเปิดผ่านไปอย่างช้า ๆ แล้วสายตาเธอก็ไปหยุดอยู่ที่ภาพหนึ่ง ภาพที่พระมหาชนกว่ายในมหาสมุทรน้ำเจ็ดวันเจ็ดคืน ภาพดูสวย แต่เธอไม่เชื่อ และตั้งคำถามในใจอย่างขัดแย้ง ก้อยใจจดใจจ่อกับการอ่านหนังสือเตรียมตัวเข้ามหาวิทยาลัยมาหลายเดือน นอกจากจะต้องสอบแข่งขันทั่วประเทศ (O-net A-net) แล้วยังต้องทำเกรดในชั้นเรียนให้ดีด้วย เธอจึงรับแรงกดดัน ด้วยความที่ผลการเรียนปานกลาง ไม่มีวิชาไหนโดดเด่น ทำให้เธอต้องพยายามอย่างหนักเพื่อแข่งขันกับคนอื่น ขอพ่อแม่มาอยู่หอพักเรียนกวดวิชา แต่เมื่อก้อยลองทำแบบทดสอบแล้ว ปรากฏว่าคะแนนเธอก็ไม่ดีขึ้น เธอรู้สึกโดดเดี่ยว ราวกับอยู่ในทะเล เวิ้งน้ำที่กว้างใหญ่ เหมือนกับหนังสือพระมหานกที่เธออ่านค้างไว้ เธอย้อนกลับไปอ่านหน้าก่อนนี้ เพื่อจะจับความว่า เกิดอะไรก่อนหน้านี้ จนเธออ่านจบ ความเข้มแข็งได้เริ่มก่อตัวขึ้น ก้อยเลิกทำตัวเครียดเกินเหตุ และตั้งใจอ่านหนังสือเต็มความสามารถของเธอ