2501
บุกแหลก (2501/1958) ข้อความบนใบปิด อมรา อัศวนนท์ สุรสิทธิ์ สัตยวงศ์ ประจวบ ฤกษ์ยามดี นำขบวน 10 ตุ๊กตาทอง บุกแหลก พร้อมด้วยยอดดาราที่คุณพอใจ สมจิตร ทรัพย์สำรวย, ล้อต๊อกน้อย, พันคำ, สมควร กระจ่างศาสตร์, ดอกดิน กัญญามาลย์, ชูศรี โรจนประดิษฐ์, ทานทัต วิภาตะโยธิน, ประไพ คำเรียบร้อย, น้ำเงิน บุญหนัก, มีศักดิ์ นาครัตน์ เนรมิต กำกับการแสดง
เจ็ดแหลก (2501/1958) หนังเรื่องที่ 3 ในหนังชุด 1 ต่อ 7 ของ ส.อาสนจินดา ข้อความบนใบปิด ปักหลักสู้ยับ ดับคาแผ่นดิน! เจ็ดแหลก อาคม มกรานนท์, อดุลย์ ดุลยรัตน์, ส.อาสนจินดา, จุมพล กาญจนนินทุ, อุศมาน ศรแดง, ล้อต๊อก, ศรินทิพย์ ศิริวรรณ และเจ็ดทหารเสือ, เจ็ดสมิงสาว, เจ็ดเสือร้าย แสดงนำ บริษัท ไทยฟิล์ม จัดจำหน่าย
เห่าดง (2501/1958) บอกตรง-ตรง เห่าดงดีจริง-จริง กรุงเทพมหานครกำลังวุ่นวายเนื่องจากแก๊งโจรสามกลุ่ม คือ เล็บเหล็ก, แสงเทียน และ เห่าดง ออกปล้นสะดมอย่างต่อเนื่อง และกำลังเป็นที่ต้องการตัวของเจ้าหน้าที่ ในขณะที่เล็บเหล็ก และแสงเทียน ทำงานเป็นแก๊ง และฆ่าเจ้าทุกข์อย่างโหดเหี้ยม เห่าดงกลับทำงานคนเดียว และมักจะปล้นตลบหลังเล็บเหล็ก และแสงเทียน สร้างความอาฆาตแค้นให้กับทั้งคู่ วันหนึ่ง เล็บเหล็กออกปล้นร้านทองเยาวราช และถูกเจ้าหน้าตำรวจ นำโดย ร.ต.ท.วุฒิ (ไชยา สุริยัน) เข้าล้อมปราบ ขณะกำลังยิงต่อสู้กัน เห่าดงซึ่งเข้ามาอยู่ในเหตุการณ์ด้วย ถูกว่อง สมุนแก๊งเล็บเหล็กสังหาร ทำให้ตำรวจทราบว่าแท้ที่จริงแล้ว เห่าดง คือ เพลิง พัชรพิบูลย์ อดีตนายทหารม้า ต่อมา มีโจรลึกลับคนหนึ่ง สวมรอยใช้ชื่อเห่าดงออกทำการ ร.ต.ท.วุฒิ ได้ใช้กำลังปราบปราบแก๊งโจรอย่างจริงจัง และสามารถปราบเล็บเหล็ก และแสงเทียนได้ เหลือเพียงเห่าดงคนใหม่ ซึ่ง ร.ต.ท.วุฒิ ทราบในเวลาต่อมา ว่าแท้ที่จริงแล้วก็คือ พราว พัชรพิบูลย์ (อมรา อัศวนนท์) ลูกสาวบุญธรรมของเพลิง พัชรพิบูลย์ ซึ่งเป็นหญิงสาวที่เขาหลงรัก นั่นเอง
อินทรีย์ขาว (2501/1958) สุรสิทธิ์-ศรินทิพย์ ข้อความบนรูปโฆษณา สุรสิทธิ์ สัตยวงศ์ สั่ง อินทรีย์ขาว ถล่มกรุง! จากบทประพันธ์ของ สัติยวดี สร้างเป็นบทภาพยนตร์โดย สุพล สุวรรณสิทธิ์ และอำนวยการสร้าง-กำกับการแสดง โดย สุรสิทธิ์ สัตยวงศ์ ถ่ายภาพโดย เอก สุภาพันธ์ จากสุภาพบุรุษเสือไทย มาเป็นหัวหน้าแก๊งค์วายร้ายที่มีบริวารยอดบู๊นับพันๆ ทุกครั้งที่เขาประกาศิต มันหมายถึง บุกแหลก! เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิตของ สุรสิทธิ์ สัตยวงศ์ (ที่สร้าง-กำกับ) เกรียงไกรไปด้วยขบวนดารานามโรจน์ และยิ่งใหญ่ที่สุดในการถ่ายทำ พรั่งพร้อมด้วย ชาลี อินทรวิจิตร, ศรินทิพย์ ศิริวรรณ, จรูญ สินธุเศรษฐ์, น้ำเงิน บุญหนัก, เสน่ห์ โกมารชุน, จันทรา เมธากุล, สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม, ทานทัต วิภาตะโยธิน, ทองแป๊ะ สินจารุ ฯลฯ
เล็บสิงห์ (2501/1958) ดนัย-จรัสศรี-จุรีรัตน์ ข้อความบนใบปิด สนั่นศิลป์ภาพยนตร์ เสนอภาพยนตร์ต่อสู้ฉกาจฉกรรจ์ เล็บสิงห์ จากบทประพันธ์ของ ภูมิ สีหราช ดนัย ดุลยพันธ์, จรัสศรี สายะศิลปี, ประภาพรรณ นาคทอง, สมถวิล มุกดาประกร, สุรชาติ ไตรโภค, อนันต์ สัตยพันธ์, ล้อต๊อกน้อย, ดาวทอง สิงหพัลลภ, บังเละ, บู๊ วิบูลย์นันท์ พร้อมด้วยดาวรุ่งดวงใหม่ จุรีรัตน์ จันทรศิลปิน สนั่น จรัสศิลป์ และ K.N.J. ถ่ายภาพ มารยาท กำกับการแสดง จรรยา (สำเภาทอง) กำกับบท สนั่น จรัสศิลป์ อำนวยการสร้าง เริ่ม 28 สิงหาคม 2501 ที่โรงหนังพัฒนากร รูปบนใบปิดคือ จากซ้าย จรัสศรี, สมถวิล และดนัย
ชาติเสือ (2501/1958) สู้เมื่อรู้ตัวว่าจะตาย ตายเสียดีกว่าที่จะรู้จักคำว่าแพ้ นี่คือไวย ศักดา ผู้เกิดมาไม่กลัวใคร
ขบวนเสรีจีน (2501/1958) สุเทพ-มิสคูมี่ ข้อความบนใบปิด คันจราภาพยนตร์ ภูมิใจที่ได้เสนอภาพยนตร์พูดไทย มาตรฐาน 35 ม.ม. ประวัติศาสตร์จีนต้องจารึกไว้ ด้วยเลือดและน้ำตา เมื่อญี่ปุ่นบุกเซี่ยงไฮ้ ขบวนนักศึกษาจับกลุ่มวางแผนใต้ดิน เพื่อปลดแอก... ขบวนเสรีจีน จากบทประพันธ์ของ สด กูรมะโรหิต ภาพยนตร์ชีวิตรัก รบดุเดือดจากเรื่อง ซึ่งเกิดขึ้น เมื่อค.ศ.1937 รวมดารานักร้องและนักแสดงมากมาย มิสคูมี่, สุเทพ วงศ์กำแหง, ประจวบ ฤกษ์ยามดี, สวลี ผกาพันธุ์, ชาลี อินทรวิจิตร, ศรินทิพย์ ศิริวรรณ, จรูญ สินธุเศรษฐ์, อดิศักดิ์ เศวตนันท์, อดิเรก จันทร์เรือง, ม.ร.ว.ประสิทธิศักดิ์ สิงหรา, ชาญ เย็นแข, ไกร ภูติโยธิน, วิเชียร ภู่โชติ, สมบูรณ์ มหาพิชยะกุล มิสคูมี่ พูดไทยตลอดเรื่อง เทวะมิตร์ อำนวยการสร้าง ลัดดา สารตายน กำกับการแสดง ประสาท สุขุม ถ่ายภาพ
เรื่องย่อ : เหยี่ยวราตรี (ตอนหน้ากากผี) (2501/1958) แมน ดำเกิงเดช คุณพ่อของเขามีศักดิ์เป็นพระยาครอบครองทรัพย์สมบัติมากมาย แมนเป็นลูกชายคนเดียวได้รับมอบหมายให้สืบทอดกิจการทั้งหมด เขาถูกคุณพ่อส่งไปเรียนที่ยุโรปตั้งแต่วัยเยาว์ แต่ชะตาชีวิตผลิกผัน แมนประสบอุบัติเหตุตกจากม้าจนหลังหักและสมองได้รับความกระทบกระเทือน จากชายหนุ่มรูปงามกลายเป็นชายปัญญาอ่อน หลังพิการ ขาเป๋ คุณพ่อของเขาพยายามหาหมอมือดีมารักษาแต่ก็ไม่ดีขึ้น จนได้ข่าวว่ามีหมอผู้เชี่ยวชาญในประเทศทิเบตจึงส่งแมนไปรักษา แต่แมนกลับหายสาบสูญในทิเบตจนทุกคนเข้าใจว่าเขาเสียชีวิตแล้ว คุณพ่อของแมนป่วยเพราะตรอมใจจนเสียชีวิต แต่หลังจากนั้นอีกสามปีโดยไม่มีใครคาดคิด แมนกลับมาเมืองไทยเพื่อจัดการมรดก แต่เขาก็ยังคงเป็นชายอัปลักษณ์หลังโกง ขาเป๋ นิสัยคุ้มดีคุ้มร้ายจนไม่มีใครอยากเข้าใกล้ แม้แต่คู่หมั้นสาวสวยที่เฝ้ารอการกลับมาของเขายังขอถอนหมั้น แมนขายกิจการทั้งหมดของพ่อเหลือไว้แต่คฤหาสน์ส่วนตัวและเงินสดจำนวนมากในธนาคาร ทุกวันชาวบ้านแถวนั้นจะ ได้ยินเสียงเปียโนกับเสียงหัวเราะอันวิกลจริตของแมนดังก้องออกจากคฤหาสน์ที่ ทรุดโทรมเหมือนบ้านผีสิงเข้าไปทุกวันยามกลางวันเขาคือคนบ้าในสายตาผู้คน แต่ในยามราตรีเขาคือยมทูตของเหล่าคนชั่ว ที่แท้แมนได้รักษาตัวเองจนหายดีแล้ว เขาได้ร่ำเรียนการบำเพ็ญจิตและทักษะการต่อสู้จากนักบวชในทิเบต หลังจากสำเร็จวิชาทั้งหมด แมนตัดสินใจยุติชีวิตลูกพระยาที่แสนสบาย เที่ยวเล่น เจ้าชู้จีบผู้หญิงไปวัน ๆ ตั้งอุดมการณ์ใหม่ออกปราบอธรรมเพื่อช่วยเหลือชาวโลกผู้อ่อนแอกว่าในนามวีรบุรุษผู้สวมหน้ากาก สีดำ ‘เหยี่ยวราตรี’