นางใบ้ (2499)
นางใบ้ (2499/1956) เรื่องความอาภัพของลูกผู้หญิงที่ ธรรมชาติก็ไม่ให้ความยุติธรรมแก่เธอ แล้วซ้ำมนุษย์ยังโหดร้ายต่อเธออีกเป็นซ้ำสอง (ที่มา: นิตยสารดาราไทย กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2499) ท่านจะรันทดใจและเสียน้ำตาบ้างในความอาภัพของเด็กสาวผู้น่าสงสาร .. โดยกำเหนิดธรรมชาติได้ลงโทษเธอมา แต่ยังปราณีในการสร้างความงามให้เหนือ กว่าหญิงใดๆ ในด้านความรักเธอก็ไม่ด้อยกว่าใคร แม้กระนั้นมนุษย์ก็ยังทารุณกลั่นแกล้งเธอต่างๆ นาๆ นับแต่แม่ผัวตลอดจนน้องผัว (ที่มา: นิตยสารภาพยนตร์ กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2499)
แก้วตานาง (2499)
แก้วตานาง (2499/1956) ก้าน ก้อนทิพย์ นักแต่งเพลงซึ่งในอดีตเขาเลือกที่จะแต่งงานกับหญิงคนจน จึงเสียสละมรดกให้ กิ่ง น้องชาย ก้านมีลูกสาวชื่อ แก้วตา ซึ่งมีพรสวรรค์ในการแต่งเพลงเหมือนกับเขา แต่เคราะห์ร้ายที่แก้วตาประสบอุบัติเหตุทำให้ดวงตาทั้งสองบอดสนิท กิ่งสงสารพี่ชายและหลานจึงพามาอยู่ที่บ้าน โดยมีกาญจนาลูกสาวของกิ่งคอยให้ความช่วยเหลือ แต่แนบภรรยาของกิ่งกับกรองกาญจน์ ลูกสาวคนโตไม่พอใจเป็นอย่างมาก เพราะศรายุทธชายหนุ่มมีฐานะที่กรองกาญจน์หมายปองเริ่มมีใจให้แก้วตา ก้านกับแก้วตาอึดอัดใจจึงขอกลับไปอยู่ที่กระท่อมดังเดิม ทว่าเพลงที่ก้านแต่งเริ่มขายไม่ออก ก้านเครียดจัดจนล้มป่วยลง แต่กรองกาญจน์ยังไม่เลิกพยาบาทแก้วตา จ้างโผนกับถมไปทำลายความบริสุทธิ์ของแก้วตา แต่ตัวเองกลับจะโดนข่มขืนเสียเอง ดีที่แก้วตาเข้ามาขัดขวาง โผนถูก ร.ต.ท.แชน จับเข้าคุกจึงอาฆาตแก้วตา แม้แก้วตาจะช่วยกรองกาญจน์เอาไว้ แต่ไฟริษยายังลุกโชนในใจของกรองกาญจน์ เมื่อศรายุทธพาแก้วตาไปบางแสน กรองกาญจน์จึงผลักแก้วตาตกเหวแต่แก้วตารอดมาได้ กรองกาญจน์สำนึกผิดวิ่งเตลิดตกเขาได้รับบาดเจ็บต่อมามีหมอชื่อ อุกฤษ เสนอตัวผ่าตัดดวงตาให้แก้วตาโดยไม่ยอมบอกว่าใครเป็นผู้จ่ายเงินค่ารักษา แต่เมื่อถึงกำหนดเปิดตา แก้วตาก็ต้องผิดหวังที่ยังคงมองไม่เห็น ซ้ำยังได้ข่าวว่าศรายุทธกำลังจะเข้าพิธีแต่งงานกับกรองกาญจน์ วันแต่งงานถมมาบอกแก้วตาว่าโผนแหกคุกออกมาจะทำร้ายเธอร.ต.ท. แชน และพรรคพวกช่วยแก้วตาไว้ทัน โผนถึงแก่ความตาย ส่วนแก้วตาถูกเหวี่ยงจนสลบไป เมื่อฟื้นขึ้นมาดวงตาที่เคยมืดสนิทกลับมองเห็นได้ กรองกาญจน์เสียสละศรายุทธให้แก้วตา และความจริงก็เปิดเผยว่าผู้ที่ออกเงินให้หมออุกฤษรักษาแก้วตาคือกรองกาญจน์นั่นเอง
โอ้ชนกชนนี (2499)
โอ้ชนกชนนี (2499/1956) ชาลี อินทรวิจิตร ดาวรุ่งแห่งโลกภาพยนตร์ยุคก้าวใหม่ และดาราสดใสเหนือเวทีละครในอดีต ซึ่งเป็นดาวส่องแสงในทางเสียงอยู่ในวงดนตรี "ประสานมิตร" มารับบทเศรษฐีผู้มีจิตใจเปี่ยมล้นไปด้วยความดี แต่ปัญหารักทำให้เขาต้องหนักใจมาก สาวหนึ่งมีความงามเสมือนดอกฟ้า แต่สังคมจัด อีกสาวหนึ่งมีความดีเด่นไปอีกคนละแนว ปัญหามีว่า เขาควรจะเลือกใครไว้ในอ้อมอก (ที่มา: หนังสือพิมพ์ พิมพ์ไทย กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2499)
วิมานชีวิต (2499)
วิมานชีวิต (2499/1956) โศกนาฏกรรมความรักของ ดวงเดือน เด็กกำพร้าซึ่งถูกขายเพื่อชดใช้หนี้สิ้นที่พ่อของเธอก่อไว้เมื่อโตเป็นสาว เศรษฐีที่รับเลี้ยงพยายามจะเอาดวงเดือนเป็นเมียน้อย ดวงเดือนพยายามพูดจนเศรษฐีเห็นใจแต่ก็ต้องแต่งงานกับ บุญช่วย ลูกน้องของเศรษฐีซึ่งร่างกายพิการ แต่ในใจของดวงเดือนนั้นเป็นทาสรักของ ชาญ น้องชายของบุญช่วยโดยที่เขาไม่เคยล่วงรู้ จึงหาทางหนีเข้ากรุงเทพเพื่อใกล้ชิดกับชาญด้วยความช่วยเหลืออย่างดีของเกษม แต่เมื่อมาถึงกรุงเทพ เกษมก็เผยธาตุแท้ออกมาเพราะหวังจะเอาดวงเดือนเป็นเมีย ดวงเดือนหนีรอดมาได้ และไปอยู่กับเสี่ยเภาที่บ้านบางกะปิ บุญช่วยตรอมใจที่ดวงเดือนจากไปจึงขอร้องให้ชาญช่วยตามดวงเดือนกลับมา แต่บัดนี้ดวงเดือนกำลังหลงระเริงในทรัพย์สินเงินทองที่เสี่ยเภาปรนเปรอ ชาญผิดหวังในตัวดวงเดือนจึงไม่คิดจะพาเธอกลับไป เสี่ยเภานึกว่าดวงเดือนกำลังคบชู้กับชาญจึงไล่ตะเพิดดวงเดือนออกจากบ้าน เมื่อไม่มีคนส่งเสียเรื่องเงินดวงเดือนจึงหันไปเป็นพาร์ตเนอร์กับชูศรี อาการของบุญช่วยทรุดหนักลง จนชาญทนดูพี่ชายพร่ำเพ้อถึงดวงเดือนไม่ไหว จึงไปขอร้องให้ดวงเดือนช่วยกลับมาดูใจบุญช่วยเป็นครั้งสุดท้าย ดวงเดือนยอมทำตามคำขอของชาญ รุ่งขึ้น ชาญมาเยี่ยมบุญช่วยในวันถัดมา กลับพบหลุมศพของพี่ชายและกระดาษห่อยาพิษในบ้าน จึงเข้าไปต่อว่าดวงเดือนเพราะคิดว่าเธอเป็นคนลงมือฆ่าพี่ชาย ดวงเดือนสารภาพว่าตั้งใจจะทำเช่นนั้น เพราะคนที่ดวงเดือนรักคือชาญเพียงคนเดียว แต่บุญช่วยมาชิงตายเสียก่อน ชาญแสดงท่าทีรังเกียจดวงเดือน ทำให้ดวงเดือนเสียใจมากจึงฆ่าตัวตายด้วยยาพิษเสียเอง
คลุมถุงชน (2499)
คลุมถุงชน (2499/1956) ตัวเอกของเรื่องนี้เป็นบุตรชายคนโตของตระกูลผู้ดีเก่า เขาได้รับการอบรมที่เข้มงวดจากคุณพ่อ เพื่อให้เขาเป็นคนมีอนาคต ครั้งหนึ่ง เขาแอบไปรักใคร่ชอบพอกับหลานสาวของคนสวนประจำบ้าน คุณพ่อไม่พอใจเรื่องนี้อย่างยิ่ง สั่งไล่ทั้งคนสวนและหลานสาวออกจากบ้าน แต่ไม่นานก็เรียกตัวกลับมา เพราะไม่มีใครช่วยดูแลต้นไม้ดอกไม้ในสวน และเพื่อตัดปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นอีก คุณพ่อจึงได้ส่งเขาไปเรียนต่อที่ฝรั่งเศส 5 ปีผ่านไป เขาเดินทางกลับมาไทย หลังจากเรียนจบ และได้ทราบว่าหลานสาวคนสวนที่ตนเคยหลงใหลได้แต่งงานย้ายออกจากบ้านไปเสียแล้ว ส่วนตัวเขาได้ถูกหมั้นไว้กับหญิงคนหนึ่งที่เขาไม่เคยรู้จักมาก่อนเลย เธอชื่อว่า ดวงแขในครั้งแรกที่ได้รับรู้เรื่องนี้ เขาแปลกใจที่คุณพ่อซึ่งเป็นคนหัวสมัยใหม่ แต่กลับใช้วิธีการคลุมถุงชนตามแบบโบราณคร่ำครึมาบังคับเขา แต่เมื่อนานวันไป เขานึกทบทวนถึงเหตุผลที่คุณพ่อทำเช่นนี้ นั่นเป็นเพราะท่านเห็นความสำคัญของความเป็นครอบครัว ซึ่งชีวิตสมรสที่เริ่มต้นจากการเป็นคนแปลกหน้าต่อกัน แล้วค่อยๆ เกิดความรู้สึกผูกพันกันทุกๆ วันจนเกิดเป็นความรัก ซึ่งความรักที่เกิดจากความผูกพันและการที่ได้เห็นน้ำใจกันทั้งสองฝ่ายนั้น ย่อมยั่งยืนกว่าความรักที่เกิดขึ้นเพียงเพราะทั้งคู่พึงพอใจในรูปโฉมภายนอกของกันและกันซึ่งนั่นเรียกได้ว่าเป็นเพียงแต่ความใคร่เท่านั้น ความใคร่ที่ย่อมมิอาจอยู่คงทนได้นาน เพราะต่างฝ่ายเมื่อหมดความใคร่ในตัวกันและกันแล้วก็มักจะพาลหมดรักตามไปด้วย หลังจากเขาตรึกตรองอย่างถี่ถ้วนแล้วจึงยอมสมรสกับดวงแข ชีวิตคู่ของเขาและเธอเป็นไปอย่างมีความสุข แต่อย่างไรก็ตาม ทั้งสองกลับไม่มีลูกด้วยกันเลย แม้ว่าเขาจะพยายามอย่างไรก็ไม่สำเร็จ ทั้งๆ ที่หวังจะมีทายาทไว้สืบสกุลคุณพ่อได้เสนอให้เขาพาดวงแขไปที่เมืองไกลๆ ที่ไม่มีใครรู้จักแล้วจัดหาชายคนหนึ่งที่รูปร่างหน้าตาใกล้เคียงกับเขา มาพบดวงแขในห้องมืด เพื่อเป็นผู้ทำให้ดวงแขตั้งครรภ์ วิธีนี้ประสบผลสำเร็จ ดวงแขตั้งครรภ์ตามใจปรารถนา แต่เธอก็นึกเสียใจอยู่ไม่น้อยที่ลูกคนแรกของเธอกลับไม่ได้เกิดกับสามีที่เธอรัก เขาจึงได้เฉลยว่าทั้งหมดเป็นแผนของคุณพ่อเท่านั้น ผู้ชายในห้องมืดครั้งนั้นก็คือตัวเขา ซึ่งแท้ที่จริงแล้ววิธีการนี้เป็นเพียงอุบายทางจิตวิทยา เพราะดวงแขมีความรู้สึกที่ฝังอยู่ลึกๆ ในจิตใต้สำนึกว่าเขาและเธออาจจะมีลูกด้วยกันไม่ได้ จึงส่งผลบางอย่างกับร่างกายเธอจนไม่อาจตั้งครรภ์ได้จริงๆ แต่ถ้าแกล้งหลอกว่าเป็นคนอื่น ก็อาจจะช่วยสร้างความหวังสักนิด ทำให้เธอตั้งครรภ์ซึ่งก็ได้ผลสำเร็จ
หงษ์หยก (2499)
หงษ์หยก (2499/1956) ธาดา ทายาทตระกูลวิเศษสรการเดินทางมาทำธุรกิจที่ฮ่องกง และได้ตกหลุมรัก หลินฟ้า สาวชาวเรือ อิวหล่าน แม่ของหลินฟ้ากำลังป่วยหนักธาดาจึงจ้างหมอมารักษาเพราะสงสารหลินฟ้า แต่กลับถูกอิวหล่านแสดงท่าทีรังเกียจเมื่อรู้ว่าเขาเป็นคนไทยธาดาไม่ละความพยายาม ตามตื้อจนหลินฟ้าใจอ่อนแต่หลังจากนั้นไม่นานธาดาก็ถูกตามตัวกลับกรุงเทพอิวหล่านจะบังคับให้หลินฟ้าแต่งงานกับเล่าตั๊ก เธอจึงหนีตามธาดามาเช่าบ้านของ นายบานเย็น ที่กรุงเทพ ธาดาซึ่งไม่เคยลำบากก็ล้มป่วยลง หลินฟ้าพยายามหาเงินด้วยการร้องเพลงในไนท์คลับ แต่ถูกธาดาเข้าใจผิดคิดว่าเธอนอกใจ ธาดาจึงกลับไปหาครอบครัวเพื่อจะแต่งงานกับ พรพิมล ตามความต้องการของแม่แต่พรพิมลไม่ได้รักธาดา ความเป็นอยู่ของหลินฟ้าค่อยๆขัดสน เมื่อนายบานเย็นมาเก็บค่าเช่า หลินฟ้าจึงต้องปลดสร้อยคอ "หงษ์หยก" ที่แม่เคยมอบให้แทนค่าเช่า เมื่อนายบานเย็นเห็นสร้อยคอหงษ์หยกก็จำได้ว่า เป็นสร้อยคอที่ตนเคยมอบให้กับผู้หญิงที่ตนรักเมื่อ 20 ปีก่อน นายบานเย็นจึงรีบขับรถไปหาหลินฟ้า ด้วยความประมาทจึงชนอิวหล่านเสียชีวิต นายบานเย็นพยายามแก้ตัวโดยการเกลี้ยกล่อมให้ธาดาหายเข้าใจผิด แต่สายเกินไปเพราะหลินฟ้าหนีกลับไปฮ่องกงแล้ว
สร้อยไข่มุกด์ (2499)
สร้อยไข่มุกด์ (2499/1956) เหมยรุ่นผู้ไร้เดียงสา จากลูกสาวจีนชาวนา มาพบชีวิตรักในคฤหาสน์ของผู้ดีตระกูลสูงศักดิ์ ม่วยสาวก็ต้องร่ำไห้ เมื่อพบว่าไม่มีใครหวังดีต่อเธอ ถูกกีดกันเพราะความต่ำศักดิ์ในที่สุด (ที่มา: นิตยสารภาพยนตร์ มกราคม พ.ศ. 2499)
รักนิรันดร์ (2499)
รักนิรันดร์ (2499/1956) เป็นภาพยนตร์ชีวิตของลูกผู้หญิงที่หัวเราะไม่ออกต้องว่ายเวียนอยู่ในห้วงน้ำตา วิไลวรรณจะทำให้ท่านสงสารยิ่งกว่าเรื่องใดๆ (ที่มา: นิตยสารภาพยนตร์ มกราคม พ.ศ. 2499)
จอมใจแม่ (2499)
จอมใจแม่ (2499/1956) ภาพยนตร์ไทยสีสวยสดุดตา สร้างอย่างสุดฝีมือจากนวนิยายลือชื่อของพี่น้องชาวจีน... ดูความรักของแม่ที่รักลูกยิ่งชีวิต.. ดูความรักระแวงของหนุ่มสาว.. ดูการแสดงห้อยโหนซึ่งหาชมได้ยาก ดูบทตลกที่ไม่ซ้ำใคร.... (ที่มา: นิตยสารภาพยนตร์ มกราคม พ.ศ. 2499)
พรจากนรก (2499)
พรจากนรก (2499/1956) พรจากนรก เป็นภาพยนตร์ไทย ฟิล์ม 16 มม.ที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2499 กำกับการแสดงโดย เสนีย์ บุษปะเกศ ถ่ายภาพโดย วิชัย ทรงเยาว์ศรี ทำดนตรีประกอบโดย ไพบูลย์ บุตรขัน และให้เสียงพากย์โดย สุดใจ ศรีเบญจา และคณะ
สุดฟากฟ้า (2499)
สุดฟากฟ้า (2499/1956) เพราะอุบัติเหตุเครื่องบินตกในสงครามทำให้ รุ่งทิวา แอร์โฮสเตส แฟนสาวของ ระวินทร์ นายทหารหนุ่ม หายไปอย่างไม่ทราบข่าวคราว ระวินทร์จึงเข้าใจผิดคิดว่ารุ่งทิวาเสียชีวิตแล้ว ครั้นเมื่อเดินทางไปสงครามที่เกาหลีเขาจึงพบรักกับ ซิหลิน สาวเกาหลี จึงพาเธอกลับมาหมายจะแต่งงาน ทว่าระวินทร์ต้องพบกับความจริงว่ารุ่งทิวายังไม่ตาย แต่เพราะรุ่งทิวานั้นรักระวินทร์จึงยอมเสียสละระวินทร์ให้ได้แต่งงานกับซิหลิน เขาจึงต้องจำยอม เมื่อถึงวันแต่งงาน ซิหลินกลับรู้สึกว่าเธอคงจะเข้ากับขนบธรรมเนียมไทยไม่ได้จึงจำใจจาก ให้ระวินทร์ได้ครองรักกับรุ่งทิวาตามเดิม