ลูกไม้ลายสนธยา 2561

ลูกไม้ลายสนธยา (2561/2018) เดือนพัตรา เดินทางกลับจากนิวยอร์คเพื่อมาจัดการพิธีศพของคุณยายประพิมพ์ ซึ่งเสียชีวิตอย่างกะทันหัน เมื่อเดือนพัตรามาถึงทางตำรวจได้ปิดคดีนี้เรียบร้อยแล้วและสรุปคดีเกิดจากสาเหตุการกินยาเกินขนาด สันนิษฐานว่า คุณยายประพิมพ์ ฆ่าตัวตาย แต่เดือนพัตราไม่เชื่อเช่นนั้น เธอจึงตัดสินใจที่ยังจะไม่เผาศพคุณยายจนกว่าจะหาตัวคนร้ายที่แท้จริงเจอ นายหัววรงค์ นายกเทศมนตรีให้การดูแลและอำนวยความสะดวกให้กับ เดือนพัตราอย่างเต็มที่ในการทำคดี แต่จริง ๆ แล้วดูภายนอกแล้วเหมือนจะเป็นคนดี ๆ แต่จริง ๆ แล้วนายหัววรงค์ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ต้องการ จะครอบครองบ้านโบราณ โดยที่ไม่มีใครรู้ เดือนพัตราเข้ามาอยู่ที่บ้านรัชดาพิพัฒน์มรดกตกทอดของคุณยาย เพื่อสืบหาตัวคนร้ายโดยการช่วยเหลือของผู้กองมรุตที่แอบชอบเดือนพัตราและต้องแอบทำคดีนี้อย่างลับ ๆ ด้วยมูลค่าของบ้านรัชดาพิพัฒน์จึงทำให้นายหน้าค้าที่ดินหลายคน ที่ต้องการครอบครองบ้านหลังนี้ รัตนพรรณและทองมาตย์ หันตรา พยายามเข้าไปเจรจาเรื่องซื้อขายที่ดินกับเดือนพัตราแต่ก็ไม่เป็นผลเลยซักครั้ง และทุกคนก็ตกเป็นผู้ต้องสงสัยเกี่ยวกับการตายของคุณยาย เดือนพัตราแน่ใจว่า ผู้ที่ต้องการครอบครองบ้านและที่ดินผืนนี้ล้วนเป็นผู้ต้องสงสัยทั้งสิ้น ทั้งรัตนพรรณ ทองมาตย์และหันตรา ต่างก็วางแผนเพื่อที่จะครอบครองบ้านหลังนี้ให้ได้ จนทำให้เดือนพัตราต้องตกอยู่ในอันตรายจนแทบเอาชีวิตไม่รอดอยู่หลายครั้ง แต่เธอก็รอดมาได้ทุกครั้งด้วยความช่วยเหลือจากชายหนุ่มลึกลับ เดือนพัตราได้เจอกับเหมหิรัญญ์ชายหนุ่มลึกลับที่มาจากดินแดนที่เรียกว่า “อุตรกุรุทวีป” และเธอก็ได้ค้นพบว่าที่ชั้นใต้ดินของบ้านมีทางลับที่เชื่อมกับอีกดินแดนหนึ่ง โดยสามารถเดินทางข้ามผ่านไปได้ด้วยผ้าลูกไม้สีดำที่เรียกว่า “ผ้าลูกไม้ลายสนธยา” เดือนพัตราได้เจอกับเหมหิรัญญ์ เหมหิรัญญ์ได้มาคอยช่วยเหลือเดือนพัตราจากการถูกลอบทำร้ายหลายครั้ง เหมหิรัญญ์รู้สึกดีกับเดือนพัตรามากเช่นเดียวกับเดือนพัตราก็รู้สึกดีกับเหมหิรัญญ์เช่นกัน เหมหิรัญญ์ตัดสินใจฝ่าฝืนกฏของอุตรกุรุทวีปที่ห้ามให้มนุษย์ทั้งสองทวีปพบกัน เหมหิรัญญ์มาอยู่ในชมพูทวีป (โลกมนุษย์) กับเดือนพัตราเพื่อช่วยเหลือเรื่องการสืบหาคนร้าย เหมหิรัญญ์มาใช้ชีวิตบนโลกมนุษย์เพื่อช่วยเดือนพัตราตามหาคนร้าย โดยขับเคี่ยวกับผู้กองมรุตที่ดูไม่ค่อยชอบหน้าเหมหิรัญญ์เท่าไหร่นัก เพราะถือว่าเหมหิรัญญ์คือศัตรูหัวใจ รวมถึงวโรชาที่คอยตามหึงมรุตอยู่ไม่ห่าง ระยะหลังมรุตเริ่มทำทีไม่สนใจและใส่ใจในคดีต่าง ๆ ของเดือนพัตรา ทำให้เดือนพัตราคิดไปว่ามรุตคงไม่พอใจที่เธอมีเหมหิรัญญ์ อีกทั้งมรุตยังให้ความสนิทสนมกับวโรชาและนายหัววรงค์กลุ่มคนที่เดือนพัตราสงสัยอีกด้วย แต่ความเป็นจริงแล้วมรุตก็สงสัยในตัวนายหัววรงค์เช่นกันจึงสร้างแผนตีสนิทกับนายหัวและวโรชา หลังจากเกิดเรื่องยุ่ง ๆ เหมหิรัญญ์เกิดอาการไม่สบาย เดือนพัตราพยายามให้เหมหิรัญญ์กินยา เขาได้เพียงแต่บอกเธอว่าเขาไม่เคยป่วย ไม่เคยกินยาในโลกแห่งอุตตรกุรุทวีปไม่เคยมีใครป่วย และจะหมดอายุขัยไปเอง เมื่อถึงกำหนดเวลาในอายุขัย 1,000 ปี อาการของเหมหิรัญญ์เริ่มหนักขึ้น เรขรุจีปรากฏตัวขึ้น เรขรุจี ขอร้องให้เดือนพัตราปล่อยเหมหิรัญญ์ไปก่อนที่ ทุกอย่างจะสายไปกว่านี้ เพราะเหมหิรัญญ์บริสุทธิ์เกินไปจึงไม่สามารถอาศัยอยู่บนดินแดนที่มี แต่คนไร้ศีลธรรมนี้ได้เป็นเวลานานนัก หากเดือนพัตรารักเหมหิรัญญ์มากกว่าตัวเองก็ จงปล่อยเขาไป เดือนพัตรารู้ดีว่าเธอรักเหมหิรัญญ์มากว่าตัวเธอเองด้วยซ้ำ แต่เธอรู้ดีว่าไม่มีทางที่เหมหิรัญญ์จะจากเธอไปหากเธอยังไม่ปลอดภัยดี เรขรุจีบอกเดือนพัตราว่า เหมหิรัญญ์ชายหนุ่มผู้หยิ่งทนงเพียงแค่เค้ารู้ว่าเธอไม่ได้รักเขา ไม่มีทางที่เหมหิรัญญ์ จะอยู่ตรงนี้กับเธอ เดือนพัตราตัดสินใจทำอะไรบางอย่าง เพื่อเขาแม้รู้ดีว่าเธอต้องเจ็บปวดใจและสูญเสียเขาไปตลอดกาลก็ได้ เดือนพัตราเลือกที่จะให้ความสนิทสนมกับผู้กองมรุต เหมหิรัญญ์เห็นเดือนพัตราเที่ยวโปรยเสน่ห์ให้ใครต่อใครก็ทนไม่ได้ เหมหิรัญญ์บอกเดือนพัตราว่าเมื่อเรามีสัมพันธ์กันแล้วกฏของอุตตรกุรุทวีปไม่สามารถให้ผู้ใดมีคนอื่น เดือนพัตรากลับโต้ว่าที่นี่คือชมพูทวีปเธอมีสิทธิที่จะมีใจให้ชายอื่นกี่คนก็ได้ ด้วยโทสะบังตาเหมหิรัญญ์ไม่สามารถอ่านความจริงในใจของเดือนพัตราได้ เหมหิรัญญ์เดินออกไปจากเดือนพัตรา เดือนพัตรารู้ดีว่าการเดินออกไป ครั้งนี้ของเหมหิรัญญ์เธออาจจะไม่ได้พบเขาอีก แต่เพื่อให้เขามีชีวิตที่ยืนยาวและ คนดีอย่างเขาไม่ควรเอาชีวิตมาทิ้งบนโลกที่ไร้ค่าเช่นนี้ ความรักของเหมหิรัญญ์กับเดือนพัตราจะจบลงเช่นไร และใครเป็นคนร้ายที่แท้จริงกันแน่

พรหมพิศวาส 2563

พรหมพิศวาส (2563/2020) บางครั้งความรักมันอาจจะเป็นความทรงจำที่ทรมาน แต่หากหัวใจยังคงจดจำ ฉันก็ยังรอคอยวันที่เเราจะได้เจอกัน ปพล (กิตตน์ก้อง ขำกฤษ) ทายาทนักธุรกิจรูปหล่อลูกชายคนเดียวของ ปราการ (ธีรพงศ์ เหลียวรักษ์วงษ์) นักธุรกิจไทยที่ต่อสู้ฝ่าฟันทำธุรกิจในประเทศเกาหลีจนประสบความสำเร็จ ปราการแยกทางกับนันทิตา (สิเรียม ภักดีดำรงฤทธิ์) ภรรยาสาว ตั้งแต่ปพลอายุได้ 6 ขวบ โดยไม่เอาทรัพทย์สินใดๆ ติดตัวไปเลยแม้แต่ชิ้นเดียว เพราะเขามีความเชื่อมั่นในความสามารถ และศักยภาพของตัวเองว่าสามารถเริ่มต้นใหม่ได้ด้วยตัวเอง จนกระทั่งปราการประกาศแต่งงานใหม่กับ รพีพร (โสภิตนภา ชุ่มภาณี) ทำให้ปพลทะเลาะกับปราการอย่างหนัก เพราะรู้ว่ารพีพรเป็นผู้หญิงบาร์ชั้นต่ำ ที่คิดจะมาปอกลอกปราการ ทำให้ปพลหนีกลับมาอยู่เมืองไทยกับนันทิตาผู้เป็นแม่ ด้วยหัวใจอันเจ็บปวดและความกดดันที่ต้องทำงานตามความฝันให้สำเร็จ เขาจึงมุ่งมั่นและตั้งใจมากที่จะเปิดค่ายเพลงร่วมกับเพื่อนรักคือ อานนท์ (สพล อัศวมั่นคง) หนุ่มหล่อลูกชายเจ้าของค่ายเทปยักษ์ใหญ่อันดับหนึ่งของเมืองไทย และแล้วโชคชะตาก็พา ปานตะวัน (พิม พิมประภา ตั้งประภาพร) ให้มาพบกับปพล ครั้งแรกที่พบกันปพลรู้สึกรังเกียจปานตะวัน เพราะคิดว่าเป็นนักร้องค็อกเทลเลาจ์ที่คอยยั่วยวนหนุ่มๆ เหมือนผู้หญิงที่ใช้รูปร่างหน้าตาแลกกับเงินเท่านั้น โดยที่ปพลไม่รู้เลยว่าปานตะวันเป็นหญิงสาวสู้ชีวิต ที่ต้องทำงานทุกอย่างเพื่อหาเงินเลี้ยงตัวเอง และต้องคอยใช้หนี้ให้ จันทนี (พิมพ์มาดา บริรักษ์ศุภกร) ผู้เป็นแม่ที่ติดการพนัน กับ ปัทมา(คริษฐา สังสะโอกาส) น้องสาวที่เอาแต่เที่ยวกับแก๊งมอเตอร์ไซค์ซิ่ง ทุกวันปานตะวันจะไปเล่นดนตรีในผับร่วมกับเพื่อนๆ คือ ตั้ม (เสฎฐวุฒิ อนุสิทธิ์) มือกลองที่แอบหลงรักปานตะวันมาตั้งแต่เด็ก คอยดูแลปานตะวันในทุกๆ เรื่อง และอีกคนคือ เดี่ยว (พงศภัทร์ กันคำ) มือคีย์บอร์ดผู้มองโลกสวย การคัดเลือกนักร้องของบริษัทปพลเริ่มขึ้น ปนิตา (อนิสา นูกราฮา) ญาติผู้น้องของอานนท์ ที่นันทิตาหมายมั่นอยากได้มาเป็นลูกสะใภ้เพราะความร่ำรวยของครอบครัว ปนิตาส่งเด็กสาววัยรุ่นเสียงดี มาออดิชั่น แต่ก็ยังไม่ถูกใจปพล อานนท์จึงไปตามหาตัวของปานตะวันและเพื่อนมาออดิชั่นให้ได้ แต่จนแล้วจนรอดก็ตามหาวงของปานตะวันไม่เจอ จนในที่สุดโชคชะตาก็นำพาทั้งคู่ให้มาเจอกัน เมื่อวงของปานตะวันปรากฏตัวขึ้นในการออดิชั่น แต่ความไม่พร้อมของปานตะวันก็ทำให้ปพลไม่พอใจอีกครั้ง แต่แล้วก็ต้องมาสะดุดที่ทำงานของปานตะวันที่ได้ลงในประวัติไว้ว่าเธอทำงานอยู่ที่ค็อคเทลเลาจ์แห่งหนึ่ง ปพลตามไปดูปานตะวันทันที ปพลยอมรับว่าการแสดงโชว์ของปานตะวันดูมีเสน่ห์มากกว่าที่เขาเคยเห็นในผับ แต่กลับรู้สึกแย่เมื่อเห็นปานตะวันรับเงินจาก เสี่ยทวีศักดิ์ (พัฒนพล กุญชร ณ อยุธยา) ทำให้ปพลนึกถึงรพีพรที่กําลังจะมาเป็นแม่เลี้ยงของตัวเองก็นึกโกรธปานตะวันขึ้นมา ในที่สุดวงของปานตะวันก็มีโอกาสได้เข้ามาทำงานที่ค่ายเพลงอานนท์ที่แอบชอบปานตะวันอยู่แล้วก็คอยเอาใจใส่ดูแลปานตะวันเป็นพิเศษหนำซ้ำยังคอยเป็นที่ปรึกษาในเรื่องต่างๆ ให้กับปานตะวันได้เป็นอย่างดี ผิดกับปพลที่ชอบหาเรื่องกวนประสาทปานตะวันได้ทั้งวัน แต่แล้วความใกล้ชิดก็ทำให้ทั้งสองรู้ใจตัวเองในที่สุด จนก่อตัวเป็นความรัก ในเวลาอันรวดเร็วก็ไม่มีใครคาดคิดว่าปานตะวันกับปพลจะแต่งงานกัน แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะทั้งปนิตาและนันทิตาต่างคัดค้านการแต่งงานครั้งนี้ แต่ปานตะวันและปพลก็ฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ มาได้จนได้แต่งงานกัน แต่ดูเหมือนทุกอย่างที่กำลังไปได้สวยกลับต้องเจอความจริงบางอย่างที่ซุกซ่อนอยู่ทำให้ความรักของทั้งสองพังทลาย...

คุ้งเสน่หา (2565)

เรื่องย่อ : คุ้งเสน่หา (2565/2022) ณ คุ้งน้ำลาดชะโด จ.พระนครศรีอยุธยา มารศรี (คริษฐา สังสะโอภาส) สาวสวยแห่งคุ้งน้ำลาดชะโด จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ความสวยของเจ้าหล่อนเลื่องลือไปทั่วคุ้งน้ำ แต่ก็ยังไม่มีชายใดกล้าเข้าไปขายขนมจีบ เพราะต่างรู้ดีว่า แม่มารศรี ผู้เป็นลูกสาวของนาง ผ่องแผ้ว (สุปราณี เจริญผล) กับผู้ใหญ่ กุศล ผลบุญ (อนันต์ บุนนาค) แห่งบ้านลาดชะโดนั้น ปากคมยิ่งกว่ากรรไกร ผู้ชายขยาดหนีกันทั้งบาง จะมีก็เพียง วิชาญ (กฤษฎิ์สพล สุทธิหิรัญดำรงค์) พระเอกยี่เกหนุ่มหน้าหวานแห่ง “คณะดวงชีวัน ขวัญอยุธยา” เท่านั้น ที่แม่มารศรีตามตื๊อทุกเช้าเย็น ใช้คำหวานออดอ้อนให้พระเอกหนุ่มใจอ่อน แต่ก็ไม่เป็นผลสักที แถมยังทำให้ต้องมีเรื่องกับ “ดอกเอื้อง” (ศรันฉัตร์ มิตรชัย) นางเอกคณะลิเกอยู่เป็นประจำ จนกระทั่งวันหนึ่งเกิดเรื่องขึ้นจนได้ เมื่อมารศรีรู้ว่าคณะลิเกดวงชีวันจะไปแสดงที่กรุงเทพฯ เจ้าหล่อนจึงแอบหนีออกจากบ้านพร้อมกับ นังจืด (ณัฐรินทร์ สุวรรณเลิศ) พี่เลี้ยงคนสนิท เข้าบางกอกเพื่อไปดูลิเกของพระเอกหนุ่มขวัญใจ ที่บางกอกมารศรีได้เจอกับ อานนท์ (ณัฐพล ไรยวงค์) ตำรวจหนุ่มรูปหล่อ ลูกชายกำนัน เปลว (ตฤณ เศรษฐโชค) แห่งบ้านแพน เพื่อนสนิทของพ่อตัวเอง แต่ทั้งสองนั้นจำกันไม่ได้ เพราะเคยเจอกันตั้งแต่เด็กเมื่ออานนท์มาเรียนที่กรุงเทพฯ ก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย เมื่อมารศรีได้เจอกับอานนท์ก็ไม่ถูกชะตาสักเท่าไหร่ แถมมีเรื่องกันจนถูกปากกรรไกรอย่างมารศรีเล่นงานเข้าให้ แต่ใครจะไปคิดว่าตำรวจหนุ่มอย่างอานนท์กลับติดใจสาวฝีปากกล้าอย่างมารศรี แถมยังมีเหตุบังเอิญเมื่อเกิดเหตุฆาตกรรมขึ้นในคณะลิเก อานนท์จึงต้องเดินทางมาที่ลาดชะโดเพื่อสืบคดี เขาปลอมตัวเป็น นายไม้ และได้มาทำงานที่บ้านผู้ใหญ่กุศล มารศรีเห็นอานนท์ก็สงสัยคุ้นหน้าว่าเหมือนเคยเจอที่ไหน แต่จืดที่ชอบไม้เข้าอย่างจัง ยืนยันว่าอานนท์คือพี่ไม้เพื่อนบ้านของน้าตัวเอง เพื่อช่วยให้อานนท์ได้งานทำ มารศรีเลยเลิกสงสัยแต่ก็ยังรู้สึกไม่ถูกชะตามีเรื่องให้กัดกันตลอด และเมื่อผู้ใหญ่กุศลมีคำสั่งให้นายไม้เป็นคนดูแลมารศรี ไม่ว่าจะไปไหนทำอะไรก็ต้องคอยดูแลไม่ให้คลาดสายตา มารศรีก็ยิ่งไม่พอใจมากขึ้น ที่ลาดชะโดนอกจากอานนท์จะมาสืบคดีแล้ว ยังมีคดีต่าง ๆ ให้เขาจัดการอีกมากมาย ไม่ว่าจะต้องจัดการกับเหล่าโจรร้าย เช่น เสือหิว ที่ออกปล้นสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน อีกทั้งยังต้องปกป้องชาวบ้านจากการข่มเหงของสองพ่อลูก เศรษฐีอำนาจ (สุรศักดิ์ ชัยอรรถ) กับ สกล (ณัฐชนน ภูวนนท์) รวมถึงปกป้องมารศรีจากการรังควานของสกลที่ต้องการแต่งงานกับมารศรี ระหว่างที่ปลอมตัวอยู่ที่ลาดชะโด ความก็เกือบแตกเข้าจนได้ เมื่อ อำภา (บุศรินทร์ วงศ์ลีลนนท์) น้องสาวแสนสวยของเขามาเจอ พอรู้ว่าเขามาสืบราชการ สองพี่น้องก็ช่วยกันปิดบังเรื่องนี้เป็นความลับ อำภาอยากช่วยพี่ชายให้สมหวังกับมารศรี แต่กลับทำให้มารศรีหึงโดยไม่รู้ตัว และเรื่องวุ่น ๆ ก็เกิดขึ้นจนได้ เมื่อวิชาญเจออำภาก็รู้สึกชอบเลยตามจีบอำภา แต่อำภาไม่สนใจ แถมยังเจออุปสรรคจากพ่อกำนันที่หวงลูกสาวยิ่งกว่าไข่ในหิน และยิ่งกว่านั้นพ่อกำนันยังเกลียดลิเกอีกด้วย แต่ยังโชคดีที่ยังมีแม่ เย็นจิต (ขวัญฤดี กลมกล่อม) ชบา (ปิยะดา เพ็ญจินดา) ลำไย (วชิรา เพิ่มสุริยา) เมียทั้งสามของกำนัน ที่เป็นแม่ยกลิเกช่วยกันสนับสนุนเต็มที่ เรื่องคดียังไม่จบ เรื่องความรักก็ดูวุ่นวาย อานนท์จะไขปริศนาคดีฆาตกรรม และเอาชนะใจมารศรีได้อย่างไร ถ้ามารศรีรู้ว่าเขาไม่ใช่คนงานธรรมดาแต่เป็นตำรวจจะเกิดอะไรขึ้น!!

เข็มซ่อนปลาย 2565

เรื่องย่อ : เข็มซ่อนปลาย (2565/2022) เฉิด (ฐิสา วริฏฐิสา ลิ้มธรรมมหิศร) หญิงสาวสวยจัด แข็งนอกอ่อนใน มี ฉันท์ (จิรายุ ละอองมณี) เป็นน้องชายที่สนิทกันมาก ต่างคนต่างเป็นที่ปรึกษาพึ่งพากันให้กัน เพราะมีพ่อเจ้าชู้แบบ ชนะ (ปราบ ยุทธพิชัย) ทำให้แม่ ม.ล.ไฉไล (สุปราณี เจริญผล) ซึ่งอดีตเป็นผู้ดีเก่ามีฐานะ แต่ถูกชนะผลาญเงินจนครอบครัวตกต่ำ เฉิดสงสารแม่มากที่ต้องทนพฤติกรรมสามีแบบพ่อ จนกระทั่งเฉิดได้แต่งงานและย้ายตาม เรืองบุญ (พูลภัทร อัตถปัญญาพล) ไปเรียนต่อปริญญาเอกที่สวิตฯ เพื่อหนีชีวิตแย่ ๆ ที่เป็นอยู่ แต่แล้วคนที่เฉิดคิดว่าเป็นเจ้าชายขี่ม้าขาวกลับเป็นซาตานมีรสนิยมซาดิสต์ ในเวลาที่ย่ำแย่ ลานนา (กิตตน์ก้อง ขำกฤษ) ชายหนุ่มรูปหล่ออบอุ่นแสนดีก็เข้ามาในชีวิตของเฉิด ทั้งคู่ตกหลุมรักและลักลอบเป็นชู้กัน แต่เรืองบุญจับได้ ลานนากับเฉิดต้องแยกจากกัน โดยลานนาสัญญาว่าจะรอเฉิด และเฉิดคือผู้หญิงที่ลานนาจะแต่งงานด้วย แต่ทันทีที่ลานนากลับเมืองไทย และได้พบ เยาวยอด (วรนุช ภิรมย์ภักดี) ดาราชื่อดัง ลูกสาว เจ้าสัวยอดยศ (พลรัตน์ รอดรักษา) เศรษฐีตัวท็อปของเมืองไทย ประกอบกับเยาวยอดเพิ่งผิดหวัง เพราะเพิ่งผ่านเหตุการณ์การโดนหักหลังจากดาราหนุ่มคู่ขวัญที่รักกันมายาวนาน ลานนาเห็นโอกาสในการก้าวหน้าทางการเมืองที่ตัวเองฝันไว้จากเจ้าสัวยอดยศ ลานนาจึงเข้าไปดูแลหัวใจเยาวยอด จนเยาวยอดหลงรัก และตัดสินใจแต่งงานด้วย เข็มซ่อนปลาย เรืองบุญที่เป็นญาติกับเยาวยอดรู้เข้า ก็จัดฉากบอกเฉิดว่าจะหย่าให้ทันทีที่ถึงเมืองไทย และพาเฉิดไปงานแต่งงานของลานนากับเยาวยอด ทำให้เฉิดช็อกสติแตกพังงานแต่งของเยาวยอด และนั่นคือวันแรกที่เยาวยอดกับเฉิดได้เผชิญหน้ากัน ชีวิตการแต่งงานของเยาวยอดกับลานนา เต็มไปด้วยความหวาดระแวง ในขณะที่เฉิดมี บุเรศ (ยูโร ยศวรรธน์) เพื่อนสนิทของฉันท์ที่แอบหลงรักเฉิดมาตั้งแต่สมัยเด็ก เข้ามาคอยดูแลอยู่ห่าง ๆ แต่เฉิดจำบุเรศไม่ได้ บุเรศแสดงตัวเป็นแค่เด็กส่งผักของห้าง ทั้งที่ความจริงเป็นลูกชาย บุรินทร์ (ศุกล ศศิจุลกะ) เจ้าของห้างที่เฉิดทำงานอยู่ ลานนายังแอบตามตื๊อเฉิดไม่เลิก หว่านล้อมคำหวานจนเฉิดเผลอใจจูบลานนา โดยมี นุจรี (ชมพูนุช ปิยธรรมชัย) ผู้จัดการของเยาวยอดถ่ายคลิปไว้ได้ เยาวยอดแค้นมาก เรืองบุญยุให้เอาคืนเฉิดผ่านม.ล.ไฉไล เพราะรู้ว่าไฉไลโรคหัวใจกำเริบเข้าโรงพยาบาล ทำให้เฉิดเสียใจ เพราะเป็นห่วงแม่มาก จนยอมแพ้ถึงกับยอมกราบเท้าเยาวยอด ขอให้อย่าปล่อยคลิปออกสื่อ เพราะม.ล.ไฉไลอาการวิกฤติมาก เข็มซ่อนปลาย เยาวยอดที่ฝันจะมีลูกมีครอบครัวที่อบอุ่นมาทั้งชีวิต จึงยอมปล่อยเรื่องเฉิด และขอสัญญาจากลานนาว่าจะสร้างครอบครัวด้วยกัน แต่ด้วยร่างกายที่อ่อนแอและภาวะแท้งคุกคาม เยาวยอดจึงต้องนอนนิ่งบนเตียงเพื่อรักษาชีวิตลูกไว้ 3 เดือน เพราะถ้าแท้งครั้งนี้เยาวยอดจะมีลูกไม่ได้อีกเลย เจ้าสัวยอดยศส่งคนไปสั่งสอนเฉิดที่เป็นต้นเหตุให้ลูกสาวเกือบแท้ง บุเรศกับฉันท์มาช่วยไว้ทัน แต่ฉันท์โดนทำร้ายจนแขนหัก เฉิดโกรธมากเข้าใจว่าเยาวยอดรู้เห็นกับการส่งคนมาทำร้ายตนและฉันท์ สงครามระหว่างผู้หญิงสองคนจึงเริ่มทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ผ่านการแย่งชิงลานนา เข็มซ่อนปลาย แต่ในระหว่างการฟาดฟันกัน ฉันท์ที่ปลื้มเยาวยอดก็มีเหตุให้บังเอิญได้เจอกับเยาวยอดในมุมที่ไม่มีใครเคยเห็น เยาวยอดมีมุมเศร้าเหงามีปมบางอย่างและมีด้านที่อ่อนโยน เยาวยอดก็รู้สึกสบายใจและเป็นตัวเองที่สุดเมื่ออยู่กับฉันท์ แต่ด้วยความแค้นเฉิด เยาวยอดที่เห็นว่าฉันท์มีใจให้ เลยคิดจะใช้ฉันท์เป็นเบี้ย เพื่อเดินเกมที่ทำให้เฉิดไม่เหลือใคร ปมแค้นของเยาวยอดกับเฉิดยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ รวมถึงความสัมพันธ์ที่มีกับ บุเรศ ฉันท์ และลานนา นำพาให้ทุกคนต้องเผชิญกับเหตุความเป็นความตาย โศกนาฏกรรมรัก ที่ทิ้งบาดแผลลึกจากคมปลายแหลมของความแค้นจะจบลงยังไง ติดตามชมกันต่อได้ในละคร เข็มซ่อนปลาย

ร้ายเดียงสา (2567)

เรื่องย่อ : ร้ายเดียงสา (2567/2024) เป็นเรื่องราวของ “หนูจ๋า” หรือ “ลินิน จันทนานันท์” (ชรินพร เงินเจริญ) ลูกสาวคนเล็กของ “อมเรศ จันทนานันท์” (โอลิเวอร์ พูพาร์ท) นักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์อันดับต้น ๆ ของประเทศ หนูจ๋าเรียกได้ว่าเป็นลูกสุดรักสุดหวงของทั้งอมเรศและ “คุณใหญ่” หรือ “ภัคคินี จันทนานันท์” (แก้วใส คริสตัล) ลูกสาวคนโตของอมเรศ หนูจ๋าถูกตามใจมาตั้งแต่เด็ก ๆ เพราะสูญเสียแม่ตั้งแต่ยังเล็ก โดยเฉพาะ “ป้าสร้อย” (ฐรินดา กรรณสูต) สาวใช้คนสนิทที่ดูแลหนูจ๋ามาตั้งแต่เกิด ที่ทั้งรักทั้งหวงหนูจ๋ายิ่งกว่าลูกของตัวเอง ซึ่งก็คือ “หิน” หรือ “พิมาน” (ณัฐพล ไรยวงค์) ลูกชายคนเดียวของป้าสร้อย ที่มาพึ่งใบบุญของบ้านจันทนานันท์ตั้งแต่อยู่ในท้อง ซึ่งหนูจ๋าให้ทั้งความรักและเคารพเหมือนแม่คนหนึ่ง แต่สำหรับ หิน หนูจ๋าไม่ชอบหน้ามาตั้งแต่ไหนแต่ไร เลยกลายเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตลอด ต่อมาเมื่อ “สายสุดา” (มัณฑนา หิมะทองคำ) ภรรยาใหม่ของอมเรศ ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้าน พร้อม “ดวงกมล” (อังคณา วรรัตนาชัย) ลูกสาวขาพิการอายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับหนูจ๋า ติดมาด้วย เมื่อสองแม่ลูกเข้ามาอยู่ในบ้าน หนูจ๋าเห็นอมเรศเอาใจใส่ดวงกมลมากเท่าไหร่ก็อยากแกล้งดวงกมลมากเท่านั้น จนใคร ๆ มองหนูจ๋าว่าเป็นคนใจร้าย ทั้งที่บางครั้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดวงกมลและสายสุดาเป็นคนวางแผน ด้านหินคอยดูแลดวงกมลเพราะสงสาร ส่วนดวงกมลสะใจที่หินไม่สนใจหนูจ๋า และตั้งใจว่าจะต้องเอาชนะใจหินให้ได้ ศัตรูหัวใจของดวงกมลไม่ได้มีหนูจ๋าแค่คนเดียว แต่ยังมี “ปรียานุช” (อิสรีย์ ธรากูพิพัฒน์) สาวสวยไฮโซลูกสาวเจ้าของร้านเพชรที่บ้านอยู่ติดกัน มักจะไปหาหินอยู่บ่อย ๆ อย่างออกหน้าออกตา แต่จะโดนหนูจ๋าแกล้งอยู่บ่อย ๆ ทำให้ปรียานุชไม่ค่อยชอบหน้าหนูจ๋าเท่าไหร่นัก แต่ไม่ได้มีแค่ดวงกมลและปรียานุชเท่านั้นที่เข้ามาพัวพัน ในชีวิตของหิน ยังมี “สุมิตตา” (รัญดภา มันตะลัมพะ) แฟนสาวตัวจริงของหินอีกคน ส่วน “ดนุชา” (สุกฤษฏิ์ สงแก้ว) พี่ชายของปรียานุช แอบชอบคุณใหญ่ พี่สาวของหนูจ๋า แต่ก็เป็นได้แค่เพื่อนเท่านั้น เพราะคุณใหญ่มี “ปองพล” (ณดล กณิณ) คอยตามจีบอยู่และดูท่าว่าจะสำเร็จด้วย แต่ไม่มีใครรู้เลยว่าปองพลมีภรรยาอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าดนุชาจะไปรู้ความลับนี้โดยบังเอิญ แต่ไม่กล้าบอกคุณใหญ่ เลยต้องเฝ้ามองอยู่ห่าง ๆ หลังจากหินเรียนจบ ก็ได้เข้าทำงานที่บริษัทรับเหมาก่อสร้างแถวหน้าของเมืองไทย ส่วนหนูจ๋าถูกส่งไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ งานนี้หินคิดว่าชีวิตจะได้สงบสุขสักที แต่ไม่เป็นอย่างนั้น เมื่อหนูจ๋ายืนกรานว่าต้องให้ป้าสร้อยไปด้วย ป้าสร้อยไม่กล้าปฏิเสธ อีกทั้งเป็นห่วงหนูจ๋า เลยตัดสินใจไปดูแลหนูจ๋า ผ่านไป 2 ปี หินเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานอย่างมาก ทางด้านดวงกมลหลังจากผ่าตัดขาจนหายดีกลับมาเป็นปกติแล้วก็มาช่วยงานอมเรศที่บริษัท กลายเป็นสาวเสน่ห์แรงมีหนุ่ม ๆ เข้ามาขายขนมจีบไม่เว้น แต่เธอก็ไม่สนใจใครนอกจากหินคนเดียวเท่านั้น แม้แต่ “วิวัฒน์” (ปุณณฤกษ์ อาศัยป่า) ลูกชายนายธนาคารใหญ่ ที่ตามจีบหนูจ๋ามาตั้งแต่สมัยเรียน เรื่องราวทั้งหมดจะจบลงอย่างไร ติดตามชมกันต่อได้ในละคร “ร้ายเดียงสา” ที่ออกอากาศทุกวันจันทร์ – พฤหัสบดี เวลา 18:00 น. ทางช่อง 7 เอชดี เริ่มตอนแรกวันจันทร์ที่ 28 ตุลาคม 2567 ดูทีวีกด 35 สดออนไลน์ BUGABOO.TV และช่องทางออนไลน์ Facebook, IG, X, TikTok, YouTube: Ch7HD เว็บไซต์: http://www.ch7.com

กำลังแสดงผลลัพธ์ทั้งหมด 5 รายการ