คุณนายสายลับ 2559

เรื่องย่อ : คุณนายสายลับ (2559/2016) ณ โรงแรมดังในลำพูน วิชัย เจ้าของโรงแรมกำลังต้อนรับคณะทัวร์กลุ่มใหญ่จากกรุงเทพฯ โดยมีลิซ่า ภรรยาสาวแต่งหน้าจัดแต่งกายสีฉูดฉาดอยู่เคียงข้าง ทุกสายตาต่างจับจ้อง โดยเฉพาะ สินธพ รุจิกรณ์ ทายาทเจ้าของรีสอร์ต ธุรกิจแปรรูปองุ่นและไร่องุ่น “วรพงษ์” ที่เพิ่งกลับจากเมืองนอกหลังจบปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจเขากับวินธัย ลูกชายวิชัยเป็นเพื่อนรักกัน สินธพจึงมาเที่ยวตามคำเชิญของเพื่อนและคิดจะทำงานที่นี่ เพราะอยากได้ประสบการณ์ก่อนกลับบ้าน

ลิซ่าหาจังหวะแยกตัวไปที่ห้องทำงานวิชัย เพื่อเซฟข้อมูลลูกค้ายาเสพติดของเขาเป็นหลักฐาน สินธพซึ่งไม่เคยไว้ใจสาวสวยที่แต่งงานกับชายแก่คราวพ่ออยู่แล้วเลยตามมา และหาทางก่อกวน ลิซ่า หรือ ร้อยตำรวจโทหญิงเรขาคณิต รวิปรียาจึงต้องถ่วงเวลาจนเซฟข้อมูลเสร็จ แต่ดูเหมือนสินธพจะไม่ยอมจบ ลิซ่าจึงส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือจากสารวัตรเพิก ที่ปะปนอยู่ในงาน เพิกจึงส่งจ่าชู ลูกน้องคนสนิทไปช่วย แต่ก็เกือบเสียแผน เพราะความซุ่มซ่ามของจ่า ด้านเพิกเข้าจับกุมวิชัย จนเกิดการปะทะภายในงาน แต่ทั้งวินธัยและวิชัยก็ถูกจับ สินธพเป็นห่วงลิซ่าแต่ก็แปลกใจที่เธอหายไปอย่างไร้ร่องรอย

ที่กรุงเทพฯ เรขาคณิตกลับมาบ้านพร้อมเพิกซึ่งอยู่บ้านติดกัน อดีตรัฐมนตรีคำนวณกับคุณหญิงรพีภัสร์ พ่อแม่ของเธอเริ่มจะชินกับการหายตัวไปนาน ๆ ของลูกสาวจึงไม่ซักถามเรื่องงานที่เรขาคณิตเป็นสายลับของหน่วยเฉพาะกิจแห่งกองปราบ จะมีก็แต่ยายสม ญาติห่าง ๆ ของคุณหญิงรพีภัสร์ที่เลี้ยงเธอมาตั้งแต่เด็กคอยถามสารทุกข์สุขดิบ และแซวว่าเมื่อไหร่คุณหนูของตนจะแต่งงานกับเพิก เพราะหมั้นกันมาหลายปีแล้ว แต่เรขาคณิตไม่ตอบอะไร ส่วนเพิกก็เรียกเรขาคณิตไปคุยเรื่องงานที่เกือบมีปัญหาเพราะสินธพ เรขาคณิตขอให้ไม่พบเขาอีก เพิกถึงกับยิ้มแห้งและบอกว่า มีงานด่วนที่เกี่ยวข้องกับคนนามสกุล “รุจิกรณ์” เรขาคณิตถึงกับอึ้งไป หนึ่งเดือนต่อมา วรพงษ์โทรหาสินธพเพื่อให้มาแต่งงานกับหญิงที่ท่านหาให้ แต่สินธพปฏิเสธเพราะเกลียดการคลุมถุงชน วรพงษ์โกรธมากถึงกับจะตัดสินธพออกจากกองมรดก ดีที่ได้มาติกา หลานสาวบุญธรรมที่ท่านขอมาเลี้ยงช่วยพูด วรพงษ์จึงบอกว่า

สะใภ้ของท่านจะเป็นใครก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่มิรันตี หรือ มีมี่ นางแบบสาวที่เขาควงอยู่ เพราะเธอคือลูกสาวเสี่ยมีโชค คู่แข่งซึ่งอยู่ไร่ติดกับ ไร่ของวรพงษ์นั่นเอง สินธพนั้นคิดกับมิรันตีแค่เพื่อน แต่พอได้ยินพ่อพูดอย่างนั้น จึงประชดว่าเขาจะแต่งงานกับมิรันตีทันทีที่กลับไป วรพงษ์โกรธจัดจนแม่ทิพย์ แม่บ้านต้องเอายาดมมาให้ วรพงษ์ตัดพ้อลูกชายกับแม่ทิพย์ และเลยไปถึงนพนารี ลูกสาวที่เอาแต่หลงอเนก คนรักจนไม่ยอมกลับมาช่วยงาน ก่อนจะประกาศว่า ในเมื่อลูกชายไม่ยอมแต่งงานกับผู้หญิงดีๆ อย่างเรขา ท่านก็จะแต่งเอง

ข่าวใหญ่ของวรพงษ์และสินธพถูกกระจายไปทั่วไร่ลามไปถึงไร่ข้าง ๆ ทำให้มิรันตีถึงกับเนื้อเต้นที่จะได้แต่งงาน ขณะที่ มาติกาเสียใจเพราะแอบรักสินธพอยู่ แต่เรื่องวรพงษ์จะแต่งงานดูเป็นเรื่องใหญ่กว่าเธอจึงรีบโทรบอกสินธพ สินธพตัดสินใจกลับไร่ทันที

ความรีบร้อน ทำให้สินธพลืมเติมน้ำมันจนรถดับกลางทาง มิหนำซ้ำ ยังเจอพวกมิจฉาชีพกลุ่มใหญ่อีกด้วย แต่โชคก็ไม่ใจร้ายเกินไป เมื่อเรขาขับรถผ่านมาและโชว์ฝีมือจัดการคนร้ายจนหมด สินธพทั้งทึ่งในความสามารถ อึ้งในความสวย และแปลกใจที่เธอรู้จักเขาเป็นอย่างดี เรขาพาสินธพไปถึง รีสอร์ตโดยไม่แนะนำตัวเองและเดินจากไปทันที ทำให้สินธพคิดว่าเธอเป็นนักท่องเที่ยว

สินธพมองรอบไร่ที่เปลี่ยนไป และต้องหงุดหงิด เมื่อเห็นป้ายไร่เปลี่ยนเป็น “ไร่เรขา” เขาจึงไปหาพ่อทันที แต่ก็ได้คำตอบที่ทำให้ตกใจกว่าว่าพ่อจดทะเบียนสมรสกับผู้หญิงคนนั้นแล้ว เขาขอพบคุณเรขา แต่วรพงษ์ทำเฉย บอกเพียงเย็นพรุ่งนี้จะมีงานเลี้ยงภายใน สินธพจึงไปหามาติกา จนรู้ว่า เรขาเพิ่งมาสมัครเป็นเลขาของวรพงษ์เมื่อเดือนก่อน แล้วท่านก็รับทันทีโดยไม่ต้องฝึกงาน แถมยังให้เธอมาร่วมโต๊ะด้วยทุกวัน โดยห้ามใครเข้าไปกวน แต่แม่ทิพย์แอบมาเล่าว่า วรพงษ์หัวเราะอารมณ์ดี และสุขภาพดีขึ้นทุกวันตั้งแต่เรขามาอยู่ด้วย และเรขาเองก็เป็นคนอัธยาศัยดีไม่ถือเนื้อถือตัว สินธพไม่พอใจ เพราะคิดว่าที่พ่อทำเป็นเพราะจะบังคับให้เขาแต่งงาน เป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้น

เรื่องพ่อยังไม่ทันจะแก้ไข สินธพก็ได้รับโทรศัพท์จากนพนารีที่โทรมาร้องห่มร้องไห้บอกว่า ธุรกิจที่อเนกทำร่วมกับเพื่อนขาดทุนย่อยยับ สินธพเลยแนะนำให้นพนารีพาอเนกกลับมาทำงานที่ไร่ ตอนแรกนพนารีจะไม่ยอมจนเมื่อรู้เรื่องภรรยาใหม่ของพ่อ เธอก็ชวนอเนกกลับมาทันที อเนกนั้นอ้างตัวเป็นนักธุรกิจ และเป็นสุภาพบุรุษต่อหน้านพนารี ทำให้เธอหลงเขามากถึงขั้นจะแต่งงานกัน แต่วรพงษ์ก็ขวางไว้สุดตัว นพนารีไม่รู้ว่า อเนกเป็นนักพนันตัวยง และตนกำลังนำตัวอันตรายไปอยู่ที่บ้าน

สินธพแอบคิดถึงผู้หญิงที่ช่วยเหลือเขา แต่ก็ไม่ได้พบอีก จนงานเลี้ยงที่พ่อจัดขึ้น เขาจึงได้รู้ว่า หญิงสาวที่ช่วยเขาไว้ก็คือ เรขา ภรรยาใหม่ของพ่อนั่นเอง นพนารีโวยวายไม่ยอมรับและบอกจะแต่งงานกับอเนกบ้าง ส่วนมิรันตี แขกไม่ได้รับเชิญก็เข้ามาในงานพร้อมเสี่ยมีโชค ผู้เป็นพ่อ เธอประกาศว่าพร้อมจะแต่งงานตามที่สินธพลั่นวาจาไว้ วรพงษ์โกรธจนความดันขึ้น แต่เขาแข็งใจประกาศว่า ถ้าทั้งสองแต่งงาน เขาจะยกทุกอย่างให้เรขา จากนั้น วรพงษ์ก็เรียกเรขากับมาติกาพยุงเขากลับห้อง งานเลี้ยงจบลงท่ามกลางบรรยากาศตึงเครียด สินธพสังเกตเห็นว่าเรขามองทุกคนอย่างสำรวจจึงสงสัย

ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ เรขาผูกมิตรกับคนงานในไร่จนเป็นที่รักของทุกคน ทั้งแม่ทิพย์ ผอง หัวหน้างาน และน้อย สาวใช้คนใหม่ แต่นั่นยิ่งขัดใจสินธพ วรพงษ์เรียกทุกคนมาประชุมแบ่งงาน โดยให้สินธพเป็นผู้จัดการใหญ่ดูแลในภาพรวม เรขาดูแลการเงินมีมาติกาคอยช่วย ส่วนอเนกกับนพนารีให้เริ่มต้นที่พนักงานต้อนรับ อเนกไม่พอใจ แต่ทำอะไรไม่ได้ แม้แต่นพนารีก็จำต้องยอม เพราะวรพงษ์ยึดบัตรเครดิตทั้งหมดไว้ ด้านมิรันตียังมาป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้สินธพ แต่เขาไม่สนใจเธอ เพราะมัวแต่จับผิดเรขา มีเพียงอเนกที่ส่งสายตาหวานไม่หยุด และมิรันตีก็เล่นด้วย ทั้งคู่จึงแอบนัดกันโดยไม่ให้นพนารีรู้

สินธพแอบตามเรขาไปทุกที่แต่ก็ถูกจับได้ทุกครั้ง เรขาแกล้งพาเขาเดินทั่วไร่หวังให้เหนื่อยเล่นและให้เขาเรียนรู้งานไปในตัว สินธพแปลกใจที่เรขาทำได้ทุกอย่าง ไม่เว้นแม้แต่งานกรรมกร กลางคืนเมื่อมีเวลา เธอก็จะไปร้องรำทำเพลงกับพวกคนงาน โดยมีน้อยกับผองเป็นลูกคู่ หากเรขาเห็นสินธพก็จะแกล้งดึงเขาเข้าไปในวงจนคล้ายเป็นตัวตลกของคนงาน แต่สินธพกลับรู้สึกผ่อนคลายอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน หรือหากวันไหน เรขาเข้าไปขี่ม้าและสินธพตามไป เธอก็จะทิ้งระยะห่างจนเขาตามไม่เคยทัน เขาสังเกตว่าเธอชอบแวะเวียนไปเขตไร่ของตนกับเสี่ยมีโชค จึงสงสัยว่าเธอเป็นใครกันแน่

วันหนึ่ง มีคนงานป่วยเพราะเพิ่งคลอดลูก เรขาก็ไปช่วยเหลือแถมยังมีความรู้ด้านแพทย์แผนไทย ทำให้สินธพเผลอมองเธออย่างชื่นชม แต่พอเธอจับได้ สินธพก็ทำเป็นโวยวาย ค่อนแคะดูถูกเรขาว่าเธอหวังสมบัติ เพราะหากไม่จริง เธอคงไม่แต่งงานกับคนแก่คราวพ่อเด็ดขาด ทั้งคู่เลยกลายเป็นคู่กัด และทะเลาะกันอยู่ตลอดเวลา แต่ดูเหมือนสินธพจะพ่ายแพ้ทุกครั้ง มิรันตีก็แอบนินทาเรขากับมาติกาหวังหาพวก แต่พอเรขามาได้ยินและตอกกลับมิรันตีอย่างเจ็บแสบ เหมือนรู้เบื้องลึกเบื้องหลังของเธอดี มาติกาก็แอบเชียร์เพราะไม่อยากให้สินธพกับมิรันตีแต่งงานกัน เรขาเริ่มรู้จุดอ่อนของมาติกาเลยตีสนิทด้วยการสนับสนุนให้เธอสมหวังในรักกับสินธพ

สินธพที่มักชวนเรขาทะเลาะ เริ่มรู้ตัวว่าแอบชอบแม่เลี้ยง เขาจึงต้องพยายามบังคับใจไม่ให้คิดเกินเลยกว่าฐานะลูกเลี้ยงที่เป็นอยู่ ด้านเรขาก็ชอบพูดจายั่วและชอบเรียกสินธพว่า “นายม้าพยศ” โดยไม่สนใจว่าสินธพจะโกรธมากแค่ไหน

วันหนึ่ง มิรันตีมาตื๊อชวนสินธพไปขี่ม้า เขาปฏิเสธไม่ได้ แต่พอไปถึงคอกม้าจึงได้เห็นเรขากำลังขี่ม้าเล่นอยู่กับชายแปลกหน้า มิรันตีคิดแกล้งเรขาด้วยการทำให้ม้าในคอกตื่นและหลุดออกไป สินธพเป็นห่วงเรขามากแต่ก็พบว่าเธอควบคุมสถานการณ์ได้ดี เรขาแนะนำให้สินธพรู้จักเพิก เจ้าของร้านกาแฟที่อยู่เชิงดอยไม่ไกลจากไร่คนใหม่ สินธพแปลกใจเพราะจำได้ว่า เป็นร้านประจำของตน เรขาไม่ให้ความกระจ่างอะไร แถมยังคุยสนิทสนมกับเพิก จนสินธพหึงแทนพ่อและทำให้มิรันตีหงุดหงิด

ทุกวัน เรขาจะออกไปนั่งร้านกาแฟของเพิก แต่วรพงษ์ก็ไม่เคยว่า จนสินธพอดค่อนขอดไม่ได้ วรพงษ์รำคาญลูกชายจึงหนีไปยังบ้านพักที่สร้างไม่เสร็จท้ายรีสอร์ต สินธพยังคงหงุดหงิด แต่ไม่กล้าไปร้านกาแฟคนเดียว เลยชวนมาติกาไปเป็นเพื่อน มาติกาแอบดีใจคิดว่า สินธพอาจใจตรงกัน แต่เธอก็ต้องผิดหวัง เมื่อเขาเอาแต่ตอแยเรขาหาว่ามีชู้ ปล่อยให้มาติกานั่งอยู่คนเดียว เพิกสงสารเลยมาชวนคุย แต่มาติกาไม่ไว้ใจเพิกเพราะดูท่าทางเจ้าชู้

ด้านอเนกขยันทำงานขึ้นจนแม้แต่นพนารีก็แปลกใจ แต่เขาก็เฉไฉบอกว่าจะเก็บเงินขอเธอแต่งงาน ทำให้นพนารียิ่งหลงอเนก ผองคอยรายงานวรพงษ์ทุกระยะเกี่ยวกับอเนก วรพงษ์ซึ่งชอบให้โอกาสคนจึงเลื่อนตำแหน่งอเนกให้มาดูแลงานด้านจัดซื้อโดยมีนพนารีเป็นผู้ช่วย ทำให้อเนกพอใจมาก และทุกครั้งที่มีโอกาส เขามักจะคอยแทะโลมมาติกาเสมอ จนเธอกลัว ดีที่ได้เรขาคอยเป็นก้างขวางคอ ยกเรื่องเงินเดือนมาอ้าง จนนพนารีทั้งหึงมาติกาและเกลียดเรขาเพิ่มมากขึ้น

ทุกคืน เรขาจะเข้าไปนวดหลังให้วรพงษ์จนท่านหลับ ก่อนที่จะหายตัวไป หรือบางครั้ง เธอก็ไปขลุกอยู่กับคนงานเพื่อหาข้อมูลในอดีตของวรพงษ์ โดยไม่ให้ผิดสังเกต ทุกคนจึงรักเธอมากกว่ามิรันตีที่มาทีไรก็เอาแต่วางอำนาจ ทุกคนเรียกเรขาว่าคุณนาย ทำให้สินธพหมั่นไส้ วรพงษ์เฝ้าดูเรขาอยู่ห่างๆ ทุกครั้งที่มองหน้าเธอ เขาก็คิดถึงอดีตคนรักที่หน้าตาเหมือนเรขาไม่ผิดเพี้ยน พอรู้ประวัติว่าเรขาเป็นกำพร้า แต่ขยันขันแข็ง และดูฉลาดเฉลียว เขาจึงอยากอุปการะเธอและชดเชยความรู้สึกผิดที่มีต่อคนรักเก่า ท่านคิดจะให้สินธพแต่งงานกับเรขา แต่สินธพกลับไม่สนใจแถมยังประชดจะไปคบกับมิรันตี ท่านจึงแต่งงานประชดลูกชายบ้าง ด้านมาติกาเห็นมิรันตีเกาะติดสินธพไม่ห่างก็ไประบายกับเรขา เรขาจึงยุให้เธอบอกรักสินธพ มาติกาตัดสินใจรวบรวมความกล้าเปิดเผยความในใจ แต่ได้รับการปฏิเสธ ทำให้มาติกาวิ่งหนีไปพร้อมน้ำตา เพิกที่บังเอิญแวะมาจึงตามไปปลอบโยน ทำให้ทั้งสองสนิทกันขึ้น

เพิกได้รับข้อความจากหัวหน้าหน่วยให้สืบหาข้อมูลที่ไร่มิรันตี โดยเฉพาะในโรงเก็บไวน์ เพราะมีสิ่งไม่ชอบมาพากล เพิกรีบติดต่อเรขาและหาทางส่งจ่าชูเข้าไปเป็นคนงาน กลางดึกคืนนั้น เรขาลอบเข้าไปที่ไร่มิรันตี แต่เกือบถูกกำจร ผู้จัดการไร่จับได้ เพราะสินธพที่ตามมาข้างหลัง แต่ได้จ่าชูมาช่วย เธอรีบพาสินธพกลับทันที ส่วนกำจรรีบไปรายงานเสี่ยมีโชค เสี่ยมีโชคให้มิรันตีรีบเผด็จศึกสินธพ เพื่อเข้าเป็นใหญ่ในบ้านสินธพและหาคนที่เป็นสายตำรวจ กำจรเก็บความขมขื่นไว้ เพราะเขาแอบรักมิรันตีอยู่ ด้านสินธพไม่ยอมให้เรื่องจบตามคาดคั้นความจริงจากเรขา แต่เพราะเป็นกลางคืน ทำให้เขาเกือบถูกงูกัด ดีที่เรขาใช้ความชำนาญจัดการงูตัวนั้นซะก่อน จนสินธพอึ้งที่ต้องเป็นหนี้บุญคุณเธออีก

เพิกมาหามาติกาบ่อยครั้ง แต่สินธพเข้าใจผิดว่าเขามาหาเรขาจึงหึงมาก แต่พยายามบอกตัวเองว่าไม่ใช่ สินธพเริ่มสงสัยพฤติกรรมเรขาว่าวางยาบิดาตัวเองเพื่อหวังอะไรบางอย่าง แต่ก็ไม่สามารถจับผิดเรขาได้ สินธพจึงขอยาสมุนไพรที่เรขาให้วรพงษ์กินไปตรวจแต่ก็พบว่าเป็นเพียงยาบำรุง เขารู้สึกผิดเลยหาโอกาสขอโทษเธอด้วยการทำอาหารให้ทาน จนเรขามีความสุข แต่ต้องบอกตัวเองว่าเธอมีงานต้องทำและเขาอาจรู้เห็นกับว่าที่พ่อตาอย่างเสี่ยมีโชคทำเรื่องผิดกฎหมาย เพิกไม่ให้เรขาอคติ และอย่าเพิ่งมองข้ามวรพงษ์ไปด้วยอดีตที่เขาเคยค้ายา เพิกพอมองออกว่าเรขาชอบสินธพจึงทั้งเตือนตัวเองและเรขาว่าพวกเขาเป็นคู่หมั้นกัน เรขานิ่งไปทันที

ด้านนายวรพงษ์เห็นความสามารถของเรขาจึงมอบอำนาจให้เธอเรื่องการเงินมากขึ้น ไม่ว่าใครจะเบิกอะไร จะต้องผ่านการอนุมัติของเรขา โดยเฉพาะนพนารี แต่อเนกเห็นว่าไม่ใช่ปัญหา และเพราะงานใหญ่ที่กำลังจะถูกจัดขึ้น ทำให้เรขาต้องขลุกอยู่กับสินธพ จนมิรันตีหึงหวง เพิกเองก็กลัวงานจะเสีย เลยหาเรื่องเข้ามาที่ไร่ ทำให้ได้พบมาติกาเป็นประจำ เขาชอบในความเรียบร้อยขี้อายของเธอจึงมักจะแกล้งเย้าแหย่ จนมาติกาเริ่มเป็นกันเองมากขึ้นและเพราะต้องการตัดใจจากสินธพ เธอจึงขอไปทำงานที่ร้านกาแฟของเพิกด้วย เพิกตกลง ก่อนจะรีบไปบอกเจ้าของร้านตัวจริง ซึ่งเป็นเพื่อนของเขาเองให้รับมาติกาเข้าทำงาน จนโดนเพื่อนแซวว่าระวังจะลืมคู่หมั้น เพิกถึงกับอึ้งไปเพราะลืมไปจริงๆ

เรขาเห็นเป็นโอกาสดีที่จะเข้าไปที่ไร่มิรันตี จึงแนะนำให้สินธพร่วมมือกับมิรันตีจัดงานเก็บเกี่ยวองุ่นประจำปีให้ใหญ่ขึ้น สินธพสงสัย แต่เรขาก็หาข้ออ้างจนได้ ในที่สุด สองไร่จึงได้ร่วมมือกัน โดยมีเรขาเป็นคนกลาง เรขาคุยงานกับเสี่ยมีโชคโดยตรง แม้เขาจะดูเป็นผู้ใหญ่ใจดี แต่เรขาก็ไม่ประมาท ขณะเดียวกัน เธอสังเกตเห็นวรพงษ์ไปที่บ้านพักท้ายรีสอร์ตบ่อยขึ้น จึงแอบตามไปและได้รู้ความจริงว่า วรพงษ์เป็นสายของตำรวจ เรขายังไม่สามารถเปิดเผยตัวเองได้ ขณะที่ วรพงษ์ไว้ใจเรขาแล้ว จึงยอมเล่าความจริง ที่ตนเคยค้ายาเสพติด จนทำให้ต้องเลิกรากับคนรักไป ดีที่ทางการไม่มีหลักฐานเอาผิดเขาได้ แต่ความรู้สึกผิดในใจ ทำให้วรพงษ์ตัดสินใจช่วยงานราชการเพื่อลบล้างความรู้สึกนั้น เรขาจึงเข้าใจวรพงษ์และนับถือเขามากขึ้น แต่เธอต้องตกใจ เมื่อวรพงษ์เอาภาพคนรักเก่ามาให้ดู เพราะนั่นคือภาพ แม่ของเรขานั่นเอง วรพงษ์ไม่รู้ว่าเรขาเกี่ยวข้องกับคนรักเก่าหรือไม่ แต่เขาก็อยากจะทำอะไรเพื่อชดเชยให้เธอ ทำให้เรขายิ่งซาบซึ้งแทนผู้เป็นแม่

แม้เรขาจะคิดถึงพ่อกับแม่ แต่เธอก็อยู่ช่วยงานเก็บเกี่ยวองุ่นจนเสร็จสิ้น งานถูกจัดขึ้นที่รอยต่อไร่ของวรพงษ์และเสี่ยมีโชค เพิกกับจ่าชูลอบเข้าไปในโรงเก็บไวน์เสี่ยมีโชค แต่ไม่พบอะไรผิดปกติ เพิกถึงกับงง ขณะที่ อเนกอาศัยจังหวะที่ทุกคนวุ่นวายสั่งเบิกจ่ายปุ๋ยปลอม และลอบเข้าไปที่โรงเก็บไวน์ของวรพงษ์บ่อยครั้ง โดยอ้างกับผองว่าเข้าไปเรียนรู้งาน ผองสงสัยแต่ยังไม่มีโอกาสบอกเจ้านาย

ในงานเก็บเกี่ยวองุ่น มิรันตีพยายามทำตัวโดดเด่นและควงสินธพเพื่อประกาศความเป็นเจ้าของ เรขาแอบเขม่นเลยชวนมาติกาทำเรื่องสนุกระหว่างงาน เธอหาเรื่องแยกมิรันตีจากสินธพ และแกล้งให้มิรันตีขายหน้า แต่กำจรก็ช่วยกู้สถานการณ์ให้นายสาว

เมื่อผ่านงานใหญ่ไป เรขาก็ขออนุญาตวรพงษ์เข้ากรุงเทพฯ อ้างว่านัดเพื่อนไว้ สินธพระแวงแทนพ่อแต่ก็ไม่กล้าแสดงออก เขาอยากตามเรขาไป แต่ผองมาบอกเรื่ององุ่นในไร่ไม่เติบโตเต็มที่ สินธพสงสัยเกี่ยวกับปุ๋ยล็อตใหม่ที่อเนกสั่งจึงให้ผองแยกแปลงองุ่นแปลงนี้ทดลองกับปุ๋ยใหม่ ส่วนแปลงอื่นใช้ปุ๋ยตัวเดิม ช่วงนี้ มิรันตีหายไป ทำให้สินธพโล่งอก โดยไม่รู้ว่าคนที่ร้อนใจกลายเป็นนพนารีแทน เพราะอเนกก็หายตัวไปบ่อยๆ นพนารีหงุดหงิดถึงกับลงที่มาติกาบ่อยครั้ง จนเพิกต้องออกโรงปกป้อง

ด้านเรขากลับถึงบ้านก็กอดแม่ไว้ด้วยความคิดถึง และเป็นครั้งแรกที่เธอยอมพูดเรื่องงานแล้วก็ต้องอึ้งที่แม่กับพ่อรู้การเคลื่อนไหวของเธอตลอด และอยากให้เธอเลิกอาชีพนี้ แต่ก็รู้ว่าเป็นไปไม่ได้ เรขาพูดถึงเรื่องคนรักเก่าของแม่ แม่ยอมรับว่าเคยมีคนรัก แต่ก็เป็นเพียงอดีต เพราะท่านกับคนรักเลือกทางเดินต่างกัน แล้วตอนนี้ แม่ก็รักพ่อของเรขามาก เรขาอบอุ่นใจและหวังว่าเธอจะได้เจอคนที่ใช่บ้าง แม่เลยงงว่าเรขามีคู่หมั้นแล้ว ทำไมถึงพูดแบบนี้ แต่เรขาไม่ตอบอะไร และในใจเธอก็นึกถึงเพียงสินธพ

เมื่อเรขากลับถึงไร่ เธอก็เริ่มตรวจสอบบัญชีอย่างจริงจัง เพื่อตอบแทนบุญคุณวรพงษ์ และพบว่าอเนกเบิกจ่ายเงินมากผิดปกติ ทำให้เธอมีปากเสียงกับอเนกบ่อยขึ้น ส่วนเพิกก็มาพบเรขาบ่อย เพราะหาของกลางที่ไร่เสี่ยมีโชคไม่พบ เรขาสงสัยว่าในไร่วรพงษ์มีบางอย่างผิดปกติ เธอจึงบอกเรื่องที่ วรพงษ์เป็นสายให้ตำรวจอาจจะมีข้อมูลบางอย่าง

เพิกไปคุยกับวรพงษ์แบบจริงจัง ทำให้สินธพเข้าใจผิดว่าเพิกข่มขู่พ่อของเขาแล้วคิดจะไปเสวยสุขกับเรขา เขาจึงเข้ามาขัดจังหวะ เพิกเลยไม่ได้ข้อมูลอะไรนอกจากแนะนำตัวกันเฉยๆ เรขากุมขมับกับความดื้อรั้นของสินธพ จึงต่อว่าเขาอย่างจริงจังเป็นครั้งแรก ทำให้สินธพน้อยใจ

ขณะที่ ภายในไร่เริ่มมีเรื่องคนงานเล่นการพนันและติดยา สินธพที่ยังน้อยใจเลยหาว่าเป็นเพราะเรขา เรขาเลยเอาหลักฐานการซื้อปุ๋ยปลอม และภาพถ่ายที่อเนกเข้าบ่อนบ่อยครั้งมาให้สินธพ สินธพอึ้งไปที่เรขาก็มีข้อมูล ทั้งคู่ไม่รู้เลยว่ามีใครบางคนแอบฟังอยู่

วันหนึ่ง เรขาว่ายน้ำเล่นที่สระในบ้านคลายเครียด และเพราะความประมาท ทำให้เธอโดนไฟช็อตจมน้ำ โชคดีที่สินธพผ่านมาและช่วยไว้ได้ทัน เพิกรู้เรื่องก็มาคุยกับเรขาให้ถอนตัว ด้วยเธอกำลังอ่อนแอเพราะความรัก แต่เรขาไม่ยอม เธอยืนยันที่จะทำงานต่อ

นพนารีทะเลาะกับเรขาบ่อยขึ้น เพราะถูกอเนกเป่าหู โดยเฉพาะเรื่องที่เรขาทำให้เธอกับเขาไม่ได้แต่งงานกัน ถึงขั้นนพนารีประกาศจะทำทุกทางเพื่อกำจัดเรขา ทำให้สินธพเป็นห่วงมาก ขณะเดียวกันก็ไม่ไว้ใจเพิก ที่ช่วงหลังชอบมาตีสนิทกับพ่อของเขาแบบแปลกๆ เขาจึงให้มาติกาช่วยจับตามอง โดยไม่รู้ว่าน้องสาวเริ่มมีใจให้เพิกแล้ว

นพนารีหงุดหงิดทั้งเรื่องที่อเนกหายตัวไป เงินที่เธอควรจะเอาไปช้อปปิ้งก็ไม่มี เธอเลยเข้าไปขอเบิกเงินกับเรขา แต่เรขาปฏิเสธ ทำให้นพนารีโมโหถึงกับขว้างแฟ้มใส่เรขาที่ไม่ทันระวังตัว จนเรขาบาดเจ็บ สินธพรีบเข้ามาดูด้วยความเป็นห่วง จนเรขาหวั่นไหว แต่พอสินธพนึกได้ เขาก็ต่อว่าเธอที่ชอบหาเรื่องเจ็บตัว จนเรขาหมดอารมณ์ซึ้ง วรพงษ์เห็นสินธพกับเรขาสนิทกันก็พอใจ แต่บางครั้งก็อยากแกล้งลูกชาย เลยเรียกมาตักเตือนไม่ให้วุ่นวายกับเมียพ่อ สินธพจึงรู้สึกตัว ขณะที่เรขาได้ยินโดยบังเอิญว่าคนที่ทำไฟช็อตในสระน้ำคือ อเนก แต่เธอก็ไม่ได้บอกใครและจับตามองอเนกมากขึ้น

สินธพรวบรวมหลักฐานเรื่องปุ๋ยปลอม แต่ยังไม่บอกวรพงษ์ เพราะเห็นแก่น้องสาว จึงไปคุยกับนพนารีและอเนก อเนกว่าถูกใส่ความ ผองได้ยินก็ทนไม่ไหว เลยไปบอกวรพงษ์ ทำให้วรพงษ์โกรธมาก เรียกลูกสาวและคนรักมาต่อว่า แต่นพนารียังเข้าข้างอเนก ถึงกับบอกจะพาอเนกหนี หากพ่อจับอเนกเข้าคุก วรพงษ์เครียดจัดจนเป็นลม เรขารีบพาท่านส่งโรงพยาบาลพร้อมสินธพ สินธพเศร้าใจคิดว่าเรขาคงรักพ่อเขามาก เมื่อวรพงษ์ฟื้นขึ้นก็สั่งยุติการสอบเรื่องปุ๋ยปลอม แต่เรียกใส่ปะปนไปกับไวน์จากไร่วรพงษ์ที่ติดคำว่า วีไอพี เพิกจึงเร่งให้เรขาหาข้อมูลและออกจากพื้นที่ทันที เรขายังกังวลและเป็นห่วงวรพงษ์กับคนในไร่ แต่เพิกย้ำว่าหน้าที่ต้องมาก่อนเรื่องหัวใจ เรขาจึงรับคำ

สินธพยังไม่วางมือเรื่องอเนก จึงสืบหาข้อมูลจากคนงาน แต่ก็เกิดเรื่องอีก เมื่อเรขาไปนั่งที่ร้านกาแฟของเพิก และถูกคนร้ายลอบยิง แต่สินธพที่ตามมาเอาตัวเข้าบังกระสุนจนได้รับบาดเจ็บ เรขาเป็นห่วงสินธพมากและเริ่มยอมรับใจตัวเองว่ารักเขา เพิกกลัวเรขาเป็นอันตรายถึงชีวิตจึงตัดสินใจแจ้งหน่วยงาน และนำคำสั่งที่ให้เรขาถอนตัวมาบอก แต่เรขาไม่ยอม เธอต้องการทำภารกิจให้เสร็จสิ้นเหมือนทุกครั้ง

เรขาเข้าไปดูสินธพ เพราะเป็นห่วงเรื่องอาการบาดเจ็บ บรรยากาศที่เป็นใจ ทำให้ทั้งคู่เผลอจูบกัน อเนกผ่านมาเห็นเลยถ่ายภาพไว้แล้วนำไปขู่สินธพให้เลิกวุ่นวายกับเรื่องตน สินธพอึ้งไปเพราะกลัวพ่ออาการกำเริบอีก ด้านนพนารีรู้ว่าอเนกขู่สินธพก็ไม่สบายใจ เพราะถึงอย่างไรก็รักพี่ชาย

วรพงษ์ยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล จึงไม่ได้ส่งข่าวให้ผู้กำกับวัชระ ตำรวจในพื้นที่ที่ตามคดีนี้อยู่ ผู้กำกับวัชระได้รับคำสั่งให้ประสานงานกับผู้การทรงยศ หัวหน้าของเรขาเข้าตรวจ โรงเก็บไวน์ของไร่วรพงษ์ แต่ก่อนจะเข้าตรวจ ก็เกิดเหตุไฟไหม้โรงเก็บไวน์ ขณะที่เรขาไม่อยู่ มิรันตีเป่าหูสินธพว่าเป็นฝีมือเรขา ทำให้สินธพเครียดมาก เขาไม่เชื่อมิรันตี แต่ก็ไม่มีหลักฐานไรยืนยันว่าเรขาไปไหน ยังไม่ทันที่สินธพจะแจ้งวรพงษ์ เรขาซึ่งลอบเข้าไปเก็บข้อมูลที่ไร่เสี่ยมีโชคอีกครั้ง และได้หลักฐานภาพถ่ายออกมา เธอก็ถูกไล่ล่าและถูกยิงจนบาดเจ็บสาหัส

สินธพเครียดกว่าเดิมไม่กล้าบอกวรพงษ์ แต่อเนกก็คาบข่าวไปบอกพร้อมภาพที่สินธพจูบเรขา วรพงษ์ไม่ได้ตกใจเรื่องนี้ แต่ช็อกเรื่องไฟไหม้ และอาการเรขาที่เป็นตายเท่ากัน เหตุการณ์นี้ ทำให้อาการวรพงษ์ทรุดหนัก เขาเรียกสินธพเข้าไปคุยเป็นครั้งสุดท้ายและบอกความจริงเกี่ยวกับเรื่องเรขา พร้อมทั้งฝากให้สินธพดูแลเรขาตลอดไป วรพงษ์จากไปอย่างสงบ สินธพ นพนารีและมาติกาเสียใจมาก มีแต่อเนกที่ไปมีความสุขกับมิรันตี เพราะความจริง อเนกรับจ้างเสี่ยมีโชคเข้าตีสนิทกับนพนารีและสร้างสถานการณ์ทั้งหมดเพื่อทำให้รีสอร์ตวรพงษ์ต้องปิดตัวลง และตอนนี้เสี่ยมีโชคก็กำลังจะสมหวัง

และแล้วเรขาก็ฟื้นขึ้นมาแต่เธอกลับจำอะไรไม่ได้ นอกจากบอกว่า สินธพเป็นสามีเธอและเธอรักเขามาก ด้วยตอนที่เธอหลับอยู่ เธอฝันเห็นแต่หน้าเขา อาการของเรขาดีขึ้น จนออกจากโรงพยาบาลได้ สินธพสั่งไม่ให้ทุกคนพูดเรื่องวรพงษ์ แต่นพนารียังแค้นใจจึงเล่าทุกอย่างให้ฟัง และเยาะเย้ยว่าเธอจะไม่มีที่สูบเงินแล้ว เรขาอึ้งไปและยิ่งสับสนหนักขึ้นกับคำบอกเล่าของเพิกที่ว่า เธอ คือ ร้อยตำรวจโทหญิงเรขาคณิต รวิปรียา สายลับแห่งหน่วยเฉพาะกิจ รหัส คือ คุณนายสายลับ 009

เรขาไม่เชื่อจนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ที่มีคนร้ายมาประชิดตัวด้านหลัง เธอใช้ความสามารถด้านการต่อสู้อย่างคล่องแคล่ว เรขาสับสนมากจึงไปบอกสินธพ สินธพไม่ต้องการเสียเธอไป จึงไปขอร้องเพิกไม่ให้พูดถึงอดีตอีก เพิกไม่พูดเรื่องเรขาแต่นำรูปถ่ายระหว่างอเนกกับมิรันตีมาให้สินธพ บังเอิญนพนารีมาเห็นเข้าอีกคน เลยตามไปหาความจริงกับอเนกที่ไร่มิรันตี อเนกไม่ยี่หระอะไร จนกระทั่ง เพิกกับตำรวจชุดหนึ่งมาที่บ้านเสี่ยมีโชคเพื่อจับเขาและทุกคนที่เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด และมีเจตนาฆ่าเรขา อเนกแสดงความเห็นแก่ตัววิ่งหนีไป ขณะที่ กำจรปกป้องเสี่ยมีโชคกับมิรันตีจนตัวเองเจ็บหนัก เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวมิรันตีกับเสี่ยมีโชคไปดำเนินคดี อเนกหนีไปเจอเรขาอยู่คนเดียวจึงจับเป็นตัวประกัน แต่ด้วยสัญชาตญาณ เธอจึงป้องกันตัวเองและจับอเนกไว้ได้ อเนกแค้นใจเลยควักมีดพกมาแทงเรขาจนล้มหัวกระแทกพื้น เพิกรีบเข้ามาจับอเนก ส่วนสินธพรีบพาเรขาส่งโรงพยาบาล

เมื่อเหตุการณ์ทุกอย่างจบลง นพนารีเข้มแข็งขึ้นและช่วยงานสินธพอย่างเต็มที่ ด้านเรขาฟื้นขึ้นมาก็จำทุกอย่างได้ และพ่อแม่ก็มารับตัวเธอกลับไป ส่วนมาติกาเสียใจมากที่รู้ว่าเพิกเป็นคู่หมั้นของเรขา เพิกกลับกรุงเทพฯ พร้อมยกเลิกการหมั้นกับเรขา ซึ่งเรขาก็เข้าใจดีและไม่ขัดขวาง เพิกจึงกลับไปสารภาพรักกับมาติกาและขอเธอแต่งงาน มาติกาเขินอายแต่ก็ตกลงโดยดี สินธพดีใจกับน้องสาว แต่เขาก็อยู่อย่างซังกะตาย เพราะไม่กล้าไปตามง้อเรขา

จนวันหนึ่ง เพิกมาบอกสินธพให้ไปห้ามเรขาที่จะกลับไปทำงานสายลับ โดยคราวนี้ เรขาจะแต่งงานกับชาวต่างชาติ นักค้ายารายใหญ่ สินธพอึ้งไป จนเพิกย้ำว่า เรขาก็รักสินธพมาก เธอไม่เคยมีความสุขเลยที่ต้องจากสินธพไป สินธพจึงตัดสินใจบุกไปชิงตัวเรขาที่งาน ก่อนจะพบว่าทุกอย่างเป็นแผนที่เรขาคิดขึ้นเพื่อพิสูจน์ใจเขา สินธพยืนยันว่ารักเรขามาก เขาขอเธอแต่งงานและขอให้เธออยู่เป็นคุณนายเรขาแห่งไร่เรขาตลอดไป หญิงสาวรับคำอย่างเต็มใจและยอมเลิกเป็นคุณนายสายลับตลอดกาล

แม่ดอกรักเร่ 2558

เรื่องย่อ : แม่ดอกรักเร่ (2558/2015) บัวตอง (อาภา ภาวิไล) สาวน้อยบ้านนอกอายุแค่ 20 เรียนจบ ม.6 แต่ยังไม่ได้เรียนต่อ เพราะต้องออกมาช่วย ยุภา (วรารัตน์ เทพโสธร) แม่ของเธอทำนา แต่แล้วเกิดปัญหาดินเสียที่นาไม่ได้ผลผลิตจนต้องหมดเนื้อหมดตัว เพราะกู้หนี้ยืมสินจาก ตาเอิบ (เกรียงศักดิ์ เหรียญทอง) เศรษฐีเงินกู้จอมโกง และยังหัวงูเป็นที่สุด ตาเอิบจ้องจะงาบบัวตองมาหลายนาน จึงตั้งใจปล่อยกู้ให้ยุภา ทำนา แล้วลอบโรยสารเคมีทำให้ดินเสียจนปลูกข้าวไม่ได้

และเมื่อเห็นว่ายุภา กับบัวตอง หมดปัญญาใช้หนี ตาเอิบก็ยื่นข้อเสนอทันทีว่าถ้ายุภา ยกบัวตองให้เป็นเมียตน ก็จะยินยอมยกหนี้พร้อมดอกเบี้ยร่วม 500,000 ให้ มิฉะนั้นจะยึดที่นาทำกินแห่งนี้ซะ

ยุภา สอนบัวตอง มาแต่เกิดให้ยึดมั่นในคุณธรรมความดี ไม่มีวันที่ยุภา จะยอมให้บัวตอง ทำสิ่งที่ไร้ศักดิ์ศรีแบบนี้ บัวตองเลยประเคนผ่าหมากตาเอิบให้ทีหนึ่งก่อนจะลั่นวาจาว่าจะขอเวลา 3 เดือน หาเงินมาใช้หนี้ตาเอิบให้ได้

ดวง (มหัศจรรย์ มาตศรี) หนุ่มหล่อผู้เป็นคนรักของบัวตอง กำลังขับร้องเพลงลูกทุ่งในชุดเสื้อสูทผูกหูกระต่ายหล่อเหลา มีมาลัยเต็มคอ ก่อนจะกว้างออกมา เห็นว่าดวงร้องเพลงอยู่บนแคร่ข้างกองฟาง ท่อนล่างยังนุ่งผ้าขาวม้า คนดูที่ดวงยื่นไมโครโฟนให้ จริงๆ คือควายที่บัวตองจูงมากินหญ้า มีเพียงบัวตองที่ยังคอยเชียร์คอยให้กำลังใจดวง บัวตองเจอข่าวค่ายเพลงลูกทุ่งชื่อดัง ‘ซาวด์สยาม’ กำลังจัดโครงการค้นหานักร้องลูกทุ่ง ดาวรุ่งดวงใหม่ จึงยุให้ดวง เดินทางจากตำบลบ้านนาดอนแห่งนี้ เพื่อมุ่งหน้าตามล่าฝันในเมืองกรุง ไปพร้อมกับเธอที่ตั้งใจจะไปหางานทำที่กรุงเทพฯ อยู่เหมือนกัน ดวงมีความทะเยอทะยานอยากเป็นนักร้องลูกทุ่งอย่างแรงกล้า จึงรีบตกลงปลงใจทันที

ดวงกับบัวตอง จึงหิ้วกระเป๋ามุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ ด้วยกัน มีเหตุให้ต้องพลัดพรากกันตั้งแต่ที่ขนส่ง เพราะระหว่างที่ดวงไปเข้าห้องน้ำ บัวตองถูกคนร้ายกระชากกระเป๋าไป บัวตองร้องให้ช่วย แต่พบว่าคนเมืองหลวงไม่มีใครคิดจะสนใจ เธอจึงต้องวิ่งตามออกไปเอง และเมื่อกลับมาก็ไม่พบดวงแล้ว เพราะดวงเองก็เดินตามหาบัวตองไม่เจอ แต่ก็ต้องรีบไปบริษัทซาวด์สยาม เพื่อเข้าไปร้องเพลงออดิชั่นให้ทันเวลา เพราะสำหรับดวง ความทะยานอยากเป็นนักร้องสำคัญสำหรับเขายิ่งกว่าความรัก

บัวตองเดินริมฟุตปาธอย่างไร้จุดหมาย เพราะกระเป๋าสตางค์ดันอยู่ในกระเป๋าเดินทางใบนั้น แต่เมืองกรุงก็ยังมีคนดี พี่แท็กซี่นายหนึ่งเห็นบัวตองเดินปาดน้ำตา ก็รีบอาสาพาไปส่งที่บริษัท ซาวด์สยาม แต่ดันพามุดเข้าซอยเปลี่ยวเพื่อฉุดเข้าป่าหญ้าข้างทางจะปลุกปล้ำ บัวตองสู้สุดชีวิต ถีบข่วน กัด แต่ก็สู้แรงผู้ชายหื่นๆ ไม่ได้ แต่สวรรค์ยังเห็นใจ เมื่อ กรณ์เทพ (ปิยพันธ์ ขำกฤษ) หนุ่มเซลส์แมนขายเครื่องดับเพลิงเดินมาพอดี กรณ์เทพ ต่อสู้ปกป้องบัวตองอย่างไม่เกรงกลัวแม้ว่าคนขับแท็กซี่จะพกมีดทหารเล่มโต กรณ์เทพใช้เครื่องดับเพลิงเป็นอาวุธ ฉีดน้ำยาดับเพลิงใส่คนขับแท็กซี่จนขาวโพลน ตัวแข็งเป็นรูปปั้นอยู่ตรงนั้น

ในขณะที่ดวงไปที่บริษัทซาวด์สยาม และได้พบกับ นวลอนงค์ (ปาลิตา โกศลศักดิ์) คุณหนูสวยเปรี้ยว ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของ เฮียช้าง (ประกาศิต โบสุวรรณ) เจ้าของบริษัทค่ายเพลงลูกทุ่งชื่อดังแห่งนี้ นวลอนงค์เห็นความหล่อเข้มของดวง ก็แทบใจละลาย ในการร้องออดิชั่นคัดเลือกนักร้องเข้าสังกัดที่เฮียช้างมานั่งเป็นกรรมการเอง เฮียช้างจะไม่ให้ผ่าน แต่นวลอนงค์รีบมาเหวี่ยง ดุให้พ่อรีบเปลี่ยนใจ เฮียช้างที่ดุเป็นมาเฟียในวงการเพลงลูกทุ่ง ก็ยังต้องยอมแพ้ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนที่ตนเลี้ยงตามใจมาแต่เกิด จนกลายเป็นเด็กสปอยล์ เอาแต่ใจแบบนี้ ดวงคิดว่าบัวตองที่คลาดกันไปคงจะรีบมาหาเขาที่นี่ จึงนั่งรออยู่หน้าเคาน์เตอร์ต้อนรับจนหลับคาเก้าอี้ไปด้วยความเหนื่อยอ่อน จนเลิกงาน รปภ.นุ้ย มาปิดประตูบริษัทขังดวงไว้โดยไม่รู้ตัว กรณ์เทพพาบัวตองไปที่ค่ายเพลงซาวด์สยาม แต่ก็พบว่าประตูบริษัทปิดไปแล้ว ไปยืนด้อมๆ มองๆ ก็โดน รปภ.นุ้ย ตะเพิดออกมา กรณ์เทพรู้ว่าบัวตองไม่มีเงินติดตัวสักบาท ก็พาไปพักที่บ้าน บอกว่าตนพักกับแม่ บัวตองจึงยอมไป แต่พอถึงหน้าประตูบ้าน กลับกลายเป็นว่ามี 2 หนุ่มมาเปิดประตูบ้าน บัวตองจินตนาการไปถึงว่า 3 หนุ่มเป็นพวกจิตทราม ใช้กำลังฉุดจะรุมโทรมเธอก่อนจะสะดุ้งจากจินตนาการ เพราะทั้ง 2 แสดงท่าทีสุภาพและเป็นมิตร 2 หนุ่ม ก็คือ ทองดี (ธีรภัทธ์ แย้มศรี) ที่ดูจะมีอายุมากกว่าอีก 2 หนุ่ม เขาแนะนำตัวเองว่าเป็นข้าราชการ กทม. และมีรถประจำตำแหน่งด้วย อีกคนคือ เบ๊นซ์ (พชรพล ศุขอร่าม) หนุ่มหน้าหยกที่แนะนำตัวเองว่าเป็นนักแสดงที่รับบทพระเอกมาแล้ว เบ๊นซ์ท่าธีรภัทธ์ แย้มศรีทางกรุ้มกริ่มปากหวาน เห็นว่าบัวตองสวย น่ารัก ก็ทำท่าจะจีบ กรณ์เทพต้องด่าเอาว่า บัวตองมีแฟนแล้ว และแค่มาพักคืนสองคืน พอเจอแฟนที่ชื่อดวง แล้วก็จะกลับ คืนนั้น 3 หนุ่มคึกคัก ทำตัวหล่อกันเป็นพิเศษ เพราะร้อยวันพันปี จะมีผู้หญิงสวยๆ มาค้างคืนอยู่ร่วมชายคาสักครั้ง ป้าพลอย (อุทุมพร ศิลาพันธ์) แม่ของกรณ์เทพ เป็นคนปากจัดใจดี เห็นบัวตองก็เข้าใจผิด คิดว่าเป็นพวกเด็กใจแตกหนีตามแฟนเข้าเมืองกรุง แต่พอได้คุยกันก็กลับกลายเป็นรู้สึกเอ็นดูขึ้นมาแทน เพราะความใสซื่อไร้จริตของบัวตอง ที่หาได้ยากในสังคมสมัยนี้ ยิ่งได้ฟังว่าเข้ามาหางานทำเพื่อรวบรวมเงินใช้หนี้ให้แม่เป็นเงินถึงห้าแสนบาท ก็ยิ่งรู้สึกซาบซึ้ง รีบกุลีกุจอทำกับข้าวรับขวัญ ปรุงเกาเหลาซุปไก่ ที่เป็นเมนูเด็ดของตนให้บัวตองได้กิน บัวตองกินไปน้ำตาไหลไป ทั้งเอร็ดอร่อยทั้งซาบซึ้ง ไม่คิดว่าจะเจอน้ำใจที่อบอุ่นแบบนี้ในเมือง ที่ต้อนรับเธอด้วยการวิ่งราวกระเป๋า และเกือบฉุดเธอไปข่มขืน!

รุ่งเช้า นวลอนงค์มาที่บริษัทแล้วพบดวงที่นอนหลับอยู่ ก็เฉ่ง รปภ.นุ้ยซะยับ ดวงเล่าเรื่องของตัวเองกับบัวตองให้นวลอนงค์ฟัง วันนั้นในห้องอัดนักร้องที่นัดไว้เกิดหวัดลงคอร้องเพลงไม่ได้ กว่าจะรักษาหายก็ต้องใช้เวลาอย่างต่ำ 3 เดือน นวลอนงค์จึงปรึกษากับเฮียช้างผู้เป็นพ่อว่าจะให้ดวงร้องเสียบแทนไปซะเลย พอเข้าห้องอัดดวงก็ทำได้ดีมากจนเฮียช้างถึงกับออกปากว่าตามประสบการณ์ที่ทำค่ายเพลงลูกทุ่งมาหลายสิบปี ขอบอกว่าดวง คือนักร้องดาวรุ่งพุ่งแรงที่สุดเท่าที่เคยเห็น พร้อมตั้งชื่อให้ว่า ดวงดี นาดอน (ตามชื่อตำบลบ้านนาดอน ที่ดวงจากมา) นวลอนงค์ยิ่งเห็นรัศมีนักร้องดาวรุ่งดวงใหม่ ก็ยิ่งหลงใหลในตัวดวง

เมื่อบัวตองมาถามหาดวงที่บริษัทอีกครั้ง นวลอนงค์รับหน้าพอดี เลยโกหกว่าดวงไม่ผ่านการออดิชั่น และคงกลับต่างจังหวัดไปแล้ว บัวตองเสียใจ คิดว่าหาเงินได้ครบห้าแสนเมื่อไหร่ค่อยกลับไปหาดวง ใบพาย (ภัทรนิษฐ์ แก้วมณี) กับ ลิ้นจี่ (เสาวนิตย์ ณัฐวรวโรตม์) 2 หางเครื่องประจำวงได้เห็นเรื่องราวทั้งหมด ใบพายเป็นสาวเปรี้ยวจี๊ด คอยประจบสนับสนุนนวลอนงค์ ในขณะที่ ลิ้นจี่ จะรักความถูกต้องจนรู้สึกสงสาร และลั่นไว้ว่าวันหนึ่งจะบอกความจริงให้ดวงฟัง ใบพายขู่ว่าลองสิถ้าอยากจะโดนไล่ออกจากหางเครื่องไปเต้นโคโยตี้ตามคลับตามบาร์ ลิ้นจี่เลยต้องเก็บเรื่องนี้ไว้ ปล่อยให้ดวงกลัดกลุ้ม คิดว่าบัวตองคงจะลืมตนไปซะแล้ว

บัวตองเริ่มสนิทสนมกับกรณ์เทพ มากขึ้น และยังได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากทุกคนในชุมชนแจ่มใจ ชุมชนที่รวบรวมคนที่จนเงิน แต่ไม่จนน้ำใจ แต่ทุกคนก็แสบก็ร้าย ไม่ธรรมดา ตั้งแต่ เจ๊พริ้ง เจ้าของร้านเสริมสวย ที่มีบริการนวดเท้าในร้านจนบางทีเจ๊พริ้งนวดเท้าลูกค้าคนหนึ่งอยู่ก็เผลอไปสลับยีผมให้ลูกค้าอีกคน ที่นี่จะเป็นแหล่งรวมขาเม้าท์ประจำชุมชน เจ๊พริ้งมีลูกมืออีกคนคือ พอลล่า ที่มีชื่อตามบัตรประชาชนว่าพรหล้า ซึ่งเป็นหลานสาวของเจ๊พริ้ง ที่เพิ่งมาเริ่มหัดวิชาเสริมสวย และมักจะทำผมให้ลูกค้าเจ๊งเตลิดเปิดเปิงอยู่บ่อยๆ เช่น อบผมไว้แล้วลืมจนหัวไหม้ฟู แต่ก็เป็นที่หมายปองของทองดี ที่ชอบแวะมาแทะเล็มบ่อยๆ

อีกมุมของชุมชน มีสำนักเจ้าแม่ของ เจ้าแม่ไผ่แก้ว (ไปรมา รัชตะ) ที่รับดูหมอ สะเดาะเคราะห์ ใบ้หวย ดูฤกษ์ยาม หรืออะไรก็ตามที่ได้เงิน เจ้าแม่ไผ่แก้วเป็นคนกะล่อนหาเลี้ยงชีพปากกัดตีนถีบ อาศัยรู้จริงตามตำราโหราศาสตร์มาบ้าง แต่ส่วนมากมักจะมั่ว โดนจับได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่ที่หลอกเงินชาวบ้านก็เพราะต้องเลี้ยงดู หน่อไม้ (ด.ญ.ดิสรยา เตชะไพบูลย์) ลูกสาววัย 10 ขวบ ที่ฉลาด ฉาดฉาน ช่างถาม แก่นแก้ว แต่ก็มีความน่ารักสมวัย ไม่ก้าวร้าวเกินเด็ก บางทีหน่อไม้ก็เผลอหลุดพูดความจริง แฉแม่ของตัวเองให้วงแตกอยู่บ่อยๆ หน่อไม้มีความใสซื่อๆ คิดอะไรง่ายๆ ไม่ซับซ้อนแบบความคิดเด็ก แต่กลับเตือนใจให้ลูกศิษย์ลูกหาที่มาไหว้เจ้าแม่ หรือแม้แต่ตัวเจ้าแม่เองได้หวนฉุกคิดอยู่บ่อยๆ

ครั้งหนึ่งที่บ้านของกรณ์เทพ ทั้งกรณ์เทพ บัวตอง ทองดี เบ๊นซ์ ไปจนถึงป้าพลอย ต่างโดนผีหลอกกันถ้วนหน้า ต้องไปตามเจ้าแม่ไผ่แก้วมาช่วย พร้อมจ่ายค่ายกครู แต่เจ้าแม่ไผ่แก้วก็เผ่นเตลิดเปิดเปิงจนได้เห็นว่าเจ้าแม่ไม่ได้มีอิทธิฤทธิ์อะไร ตามราคาคุย และค่ายกครูแพงๆ เลย

เจ๊พริ้งกับเจ้าแม่ไผ่แก้วยังได้ปะทะกันบ่อยๆ ที่โรงลิเกท้ายชุมชน เพราะต่างเป็นแม่ยกแย่งชิงตัวเบ๊นซ์ พระเอกลิเก ที่เคยบอกบัวตองว่าเป็นนักแสดงระดับพระเอก ที่แท้ก็คือ พระเอกลิเกโรงนี้นั่นเอง

ส่วนทองดี ที่อวดว่าตนเป็นข้าราชการ กทม. มีรถประจำตำแหน่ง บัวตองก็ได้พบความจริงที่ทองดีมากับรถขยะ เป็นพนักงานขนขยะของ กทม.นั่นเอง

บัวตอง พยายามตระเวนสมัครงาน แต่ก็ไม่มีใครรับเลย เพราะคุณสมบัติที่เรียนจบแค่ ม.6 จึงหางานดีๆ ได้ยากเหลือเกิน จนเริ่มคิดว่าอาจจะต้องทำงานแบบใช้แรงงานหาเงินประทังชีวิตไปก่อน

โดยมีกรณ์เทพ ทองดี และเบ๊นซ์ คอยช่วยให้กำลังใจ ทองดีนั้นอาศัยอ่านหนังสือที่คนทิ้งขยะมากมาย จึงเป็นคนที่มีคำคมคำสอนใจมาให้กำลังใจบ่อยๆ ส่วนนายเบ๊นซ์ ก็คอยกะล่อน เล่นมุกแซวให้บัวตองยิ้มได้ และเมื่อบัวตองเศร้าเรื่องของดวง เหมือนคนอกหัก ก็จะได้กรณ์เทพ ที่คอยดูแลหัวใจให้เป็นอย่างดี

เฮียช้างนั้นนอกจากจะเป็นเจ้าของค่ายเพลงผู้ทรงอิทธิพลในวงการลูกทุ่งแล้ว ยังเป็นเจ้าของที่ดินเกือบทั้งหมดในละแวกชุมชนแจ่มใจ แม้แต่บ้านของกรณ์เทพ ก็เป็นบ้านเช่าของเฮียช้างเช่นกัน โดยเฮียช้างมอบหมายให้ อาวุธ (ภูริกูลกฤษฎ์ ชูศักดิ์สกุลวิบูล) ลูกคนโตจอมกร่าง เป็นคนเก็บค่าเช่า ทั้งบ้าน ทั้งพื้นที่ค้าขาย ดูแลผลประโยชน์ในพื้นที่นี้ โดยมี จ๊อด (เทวินธวิ์ คุณารัตนาวัลน์) เป็นลูกสมุนคู่ใจ ที่ต่างก็อวดเบ่งใหญ่โต และชอบใช้กำลังข่มผู้อื่น พอๆ กัน เป็นที่เกลียดกลัวของพ่อค้าแม่ค้าและชาวบ้านทุกคน อาวุธได้ปะหน้าบัวตอง ก็ถูกใจอย่างที่ไม่เคยรู้สึกกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน เขาหมายมั่นปั้นมือว่าจะจีบบัวตองให้ได้

เพลงของดวงเริ่มดังและขายดี นวลอนงค์จึงยื่นข้อเสนอให้ดวงว่าถ้าอยากจะดังเป็นนักร้องลูกทุ่งดาวรุ่งพุ่งแรงตัวจริง และได้เซ็นสัญญาออกอัลบั้มกับบริษัท มีเงินเดือนและที่พักหรูสบายที่ชั้นบนสุดของบริษัท มีข้อแม้เพียงข้อเดียว คือ ให้เลิกกับแฟนอย่างเด็ดขาด ดวงหน้ามืดใฝ่ฝันอยากดัง ประกอบกับคิดว่าบัวตองทอดทิ้งไม่มาดูดำดูดีตนเลย จึงตอบรับทันที การดูแลนักร้องหน้าใหม่อย่างใกล้ชิดของนวลอนงค์ ทำให้ความสัมพันธ์ของดวงกับนวลอนงค์เริ่มพัฒนาไปเป็นความรัก ถึงแม้ในใจลึกๆ ดวงยังมีบัวตองอยู่ แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธความสุขสบาย และโอกาสโด่งดังที่นวลอนงค์หยิบยื่นให้

กรณ์เทพ พาบัวตองไปตระเวนสมัครงาน แต่ก็ยังไม่มีบริษัทไหนรับ บัวตองจึงแอบไปสมัครงานก่อสร้าง คอยแบกปูน แต่ก็พลาดพลั้งไปเทปูนหล่อติดเอาหัวหน้าช่างติดพื้นปูนไปครึ่งแข้ง โดนตะเพิดออกมา บัวตองท้อใจคิดว่าคงเป็นไปไม่ได้ที่จะหาเงินใช้หนี้ ก่อนที่ที่นาทำกินของแม่จะถูกตาเอิบยึด บัวตองเขียนจดหมายกลับบ้าน และเมื่อยุภาตอบกลับมาว่าตาเอิบจะเร่งทวงเงินคืน และจะยึดที่นาทั้งหมดภายในเดือนนี้ บัวตองก็ยิ่งท้อ กรณ์เทพจึงให้กำลังใจว่าถ้าหางานกินเงินเดือนไม่ได้ ก็สร้างกิจการของตัวเองขึ้นมาเลยดีกว่า แต่บัวตองก็ยังมืดแปดด้าน ไม่รู้ว่าคนธรรมดาๆ อย่างตนจะไปสร้างกิจการอะไรได้

ระหว่างนั้นกรณ์เทพ โหมทำงานหนัก พยายามขยันขายเครื่องดับเพลิงให้มากขึ้นเพื่อค่าคอมมิชชั่น และยังรับทำงานกะดึก ด้วยการเป็น รปภ.หมู่บ้านใกล้ๆ จับพลัดจับผลูไปช่วยจับโจรที่กำลังจะปล้นบ้านของ เจ้าสัวสมโชค อภิอัครมหาเศรษฐีจากตระกูลที่เป็นเจ้าของกิจการอสังหาริมทรัพย์ เจ้าสัวจึงตบรางวัลให้อย่างงาม เพื่อเป็นการตอบแทนความดีของกรณ์เทพ แต่การทำงานทั้งกะดึกกะกลางวัน ก็หนักหนาเกินกำลังจนกรณ์เทพ ต้องเลิกงานเป็น รปภ.หมู่บ้านไปซะ

ที่ทำเลติดถนนใหญ่ของชุมชนแจ่มใจที่จะมีผู้คนพลุกพล่าน เป็นทำเลที่ดีของร้านอาหารการกิน มีร้านขายอาหารตามสั่งของ เชฟหอย (ยุทธพิชัย ป๋วยเฮง) ที่ชอบคุยโม้ว่าตนคือ เชฟระดับ เชฟกระทะเหล็ก ที่อนาคตจะต้องมีภัตตาคารหรูเป็นของตนเอง ร้านเชฟหอยขายดี เพราะอร่อยและมีอยู่ร้านเดียว และมี คิงคอง (ด.ช.กฤตไน เลาหปราสาท) ลูกชายวัย 11 ขวบ (เป็นคู่ซี้คู่ทะเลาะของหน่อไม้ ลูกเจ้าแม่ไผ่แก้ว) คอยเป็นผู้ช่วย

คิงคองจะคอยช่วยพ่อเสิร์ฟ ช่วยล้างถ้วยชาม ทำงานสารพัดเกินวัย จนกลายเป็นเด็กที่ค่อนข้างกร้านโลก แก่แดดกว่าหน่อไม้ กรณ์เทพกับบัวตองมานั่งกินข้าวที่นี่ เห็นร้านติดกันติดป้ายให้เช่าก็เกิดความคิดว่านอกจากอาหารตามสั่งแล้ว ชุมชนละแวกนี้ยังไม่มีใครทำก๋วยเตี๋ยวขาย แต่ถ้าบัวตองไปฝึกและขอสูตรน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวไก่จากป้าพลอย แม่ของตน ก็น่าจะเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยวได้ บัวตองจึงรีบไปกราบคารวะขอเป็นลูกศิษย์ป้าพลอย ปรุงน้ำซุปไก่ ด้วยความยากลำบาก

จนในที่สุดด้วยนิสัยสู้ยิบตาไม่มีถอยของบัวตอง ทำให้เธอสามารถปรุงน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวไก่ที่อร่อยไร้เทียมทาน ร้านก๋วยเตี๋ยวไก่จึงเริ่มเปิดขึ้น พร้อมกับขายดิบขายดีอย่างรวดเร็ว สร้างความหมั่นไส้ให้กับ เชฟหอย ที่ยอมไม่ได้ ที่เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนึงจะมาทำอาหารได้อร่อยกว่าตน แต่เมื่อได้ชิมน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวไก่ไปคำเดียว เชฟหอยถึงกับน้ำตาไหล ยอมรับในฝีมือ ประกอบกับเมื่อร้านก๋วยเตี๋ยวไก่เริ่มดัง ในชื่อร้าน ‘ก๋วยเตี๋ยวไก่ยกซด’ (เพราะทุกคนที่ได้ชิมจะยกชามขึ้นซดน้ำซุปจนหมดหยดสุดท้าย) ร้านของเชฟหอย ก็พลอยขายดีไปด้วย ก็เลยกลายเป็นภาวะวิน-วิน แฮปปี้กันไปทั้ง 2 ฝ่าย

วันหนึ่งรถยนต์หรูของเจ้าสัวสมโชค ดันมาเครื่องยนต์ดับอยู่แถวชุมชนแจ่มใจ เจ้าสัวได้เจอหน้ากรณ์เทพก็จำได้ ที่กรณ์เทพเคยช่วยไว้จากโจรที่ปล้นบ้านเจ้าสัว กรณ์เทพยังช่วยดูเครื่องยนต์ให้

ปรากฏว่าเป็นความสะเพร่าของ นายบุญช่วย (ตูมตาม เชิญยิ้ม) คนขับรถที่ดันลืมเติมน้ำมันซะเอง เจ้าสัวด่าบุญช่วยยกใหญ่ ก่อนจะบ่นว่าหิว กรณ์เทพจึงรีบอาสาพาไปกินก๋วยเตี๋ยวไก่ยกซดของบัวตอง เพียงชิมน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวไก่คำแรก เจ้าสัวสมโชคก็น้ำตาไหลพรั่งพรู เพ้อว่านี่คือ รสมือของอดีตเมียเสี่ย คนเก่าก่อน ที่เสี่ยรักฝังใจไม่เคยลืม จนบุญช่วยโวยด่าว่าน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวร้านนี้ใส่กัญชา หรือยาเสพติดอะไร ถึงทำให้เจ้าสัวเพ้อหลุดโลกไปได้ขนาดนี้ หลังจากนั้นเจ้าสัวสมโชคจะแวะเวียนมากินก๋วยเตี๋ยวไก่อีกครั้ง เจ้าสัวสอบถามบัวตอง ว่าไปได้สูตรน้ำซุปไก่แบบนี้มาจากไหน ขอร้องให้พาไปพบเจ้าของสูตรนั้น

บัวตองกับกรณ์เทพ พาเจ้าสัวสมโชคไปพบกับป้าพลอย ทันทีที่ทั้ง 2 พบกัน ก็ต่างโผเข้าสวมกอดร้องห่มร้องไห้ กรณ์เทพถึงกะอึ้งที่ป้าพลอยบอกให้เรียกเจ้าสัวว่า ‘พ่อ’ เห็นเด็กๆ งง เจ้าสัวสมโชคจึงเล่าย้อนอดีตให้ฟังว่าในสมัยยังหนุ่ม เจ้าสัวเคยพบรักกับพลอย สาวที่รับจ้างเย็บ ปะ ชุน แก้ทรงเสื้อผ้า จนเขาส่งเสียเลี้ยงดู ทั้งคู่อยู่กินมีความสัมพันธ์กันลึกซึ้ง ในวันที่เจ้าสัวไม่สบาย พลอยทำน้ำซุปไก่ให้กิน รสชาติเอร็ดอร่อยจนต้องยกชามซดน้ำซุปจนหยดสุดท้าย ความรักของทั้งคู่ดำเนินไปด้วยดี จนวันที่พ่อแม่ของเจ้าสัวทราบ ก็สั่งเด็ดขาดให้เลิกกัน และหลังจากนั้นพลอยก็หายไป

ป้าพลอยจึงเล่าต่อว่าที่ตนหายไปนั้น เพราะพ่อแม่ของเจ้าสัวสมโชค บุกมาเจรจาข่มขู่ว่าถ้าไม่หนีออกไปจากชีวิตของสมโชคซะ จะจ้างมือปืนมาเก็บ (เพราะพ่อแม่สมโชคเข้าใจว่าพลอยจะมาหวังคบเพื่อปอกลอกสมโชค) เธอจึงต้องระเห็จหนีไปโดยที่ไม่รู้ตัวว่าได้ตั้งท้องเจ้าหนูกรณ์เทพ ได้เดือนหนึ่งแล้ว จึงตัดสินใจคลอดลูกและเลี้ยงดูเอง เพราะกลัวว่าถ้าย้อนกลับไปบอก จะถูกพ่อแม่ของสมโชค ดูถูกเอาว่าปล่อยให้ท้องเพื่อจะจับลูกชายเขา

เจ้าสัวสมโชค คุกเข่าขอโทษพร้อมยื่นข้อเสนอว่าจะเลี้ยงดูทุกคนอย่างดี แต่ป้าพลอยปฏิเสธทันที พร้อมสั่งให้กรณ์เทพ ห้ามรับเงินทองจากสมโชค เพราะไม่อยากให้ทางบ้านสมโชคดูถูกเอาได้ ถึงแม้ทุกวันนี้ไม่ได้รวย แต่ก็ไม่ได้อดอยาก ไม่มีกินแต่อย่างใด จึงไม่ขอรับความช่วยเหลือใดๆ จากเจ้าสัวทั้งสิ้น เจ้าสัวสมโชคยอมรับ แต่ก็ขอซื้อเครื่องดับเพลิงจากกรณ์เทพเยอะๆ และจะมากินก๋วยเตี๋ยวไก่ยกซดทุกวัน

กรณ์เทพ กับบัวตอง ได้ช่วยเหลือกัน ได้ใช้เวลาสนิทสนมกัน จนพัฒนาเป็นความรัก ถึงแม้จะมีอุปสรรคจากอาวุธ ลูกชายเฮียช้าง ที่มักมาตามรังควานกรณ์เทพ แต่ก็ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่โตอะไร ทั้ง 2 ช่วยกันผลักดันให้เจ้าสัวสมโชค จัดพื้นที่เปิดตลาดนัดที่ให้ทุกคนมาขายของกันได้โดยไม่เก็บค่าเช่า สร้างความไม่พอใจให้กับเสี่ยช้าง อาวุธ และจ๊อด จนวางแผนจะแอบพังแผงในตลาดนัดซะ

ในงานเลี้ยงเปิดตลาดนัด มีงานประกวดเทพีชุมชนแจ่มใจ กรณ์เทพได้เห็นบัวตองใส่ชุดสวย แต่งหน้าทำผมเผ้าสวยหยาดเยิ้มขึ้นประกวดบนเวที โดยมีพอลล่า ใบพาย ลิ้นจี่ มาร่วมประกวดด้วย และแน่นอนผู้ชนะ คือ บัวตอง คืนนั้นกรณ์เทพ รู้สึกความรักแน่นคับอกจนต้องระบายออก เขาตัดสินใจบอกรักบัวตอง บัวตองไม่ตอบรับแต่ก็ไม่ปฏิเสธ พูดแต่เพียงว่าขอจัดการเคลียร์หนี้ของแม่ให้เรียบร้อยแล้วค่อยมาว่ากันใหม่ แต่คำตอบก็น่าจะไม่ใช่คำปฏิเสธแน่ๆ เล่นเอากรณ์เทพเป็นปลื้มเดินยิ้มแก้มฉีกอยู่เป็นวันๆ แต่เวลาของความสุขมักสั้นเสมอ เพลงลูกทุ่ง ‘ไอ้หนุ่มโดนทิ้ง’ กลายเป็นเพลงฮิต เนื้อเพลงตัดพ้อต่อว่าหญิงสาวคนรักที่มาจากบ้านนอกด้วยกัน แต่พอเข้ากรุงก็ทิ้งหายหน้าไปกับหนุ่มเมืองหลวง ซึ่งคนร้องเพลงนี้คือ ดวงดี นาดอน ซึ่งก็คือดวง คนรักเก่าของบัวตอง ที่ได้ปรากฏตัวมาทวงความรักจากบัวตอง

บัวตองถึงกับสับสน แต่เมื่อได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดจากปากของดวง ที่ไม่ได้ตั้งใจจะทิ้งเธอไปเลย บัวตองก็ใจอ่อน ตอบรับรักจากดวง ที่พอรู้สาเหตุว่าบัวตองไม่ได้ตั้งใจทิ้งตนไป ก็ขอร้องบัวตองให้มาเริ่มนับ 1 ใหม่กับเขาอีกครั้ง เพราะเขาเองก็เริ่มมีฐานะพอตั้งตัว และคิดสร้างครอบครัวในอนาคตได้ ทำเอากรณ์เทพ ถึงกับอกหัก หัวใจสลาย เป็นที่น่าสงสาร จนทองดีและเบ๊นซ์ ต้องคอยเฝ้าปลอบใจ

แต่ความรักของดวงกับบัวตองก็ไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิด เพราะนวลอนงค์ตามราวีทุกวิถีทางที่จะดึงเอาดวงกลับไปเป็นของตน นวลอนงค์ใช้ไม้ตายสุดท้าย เพราะรู้นิสัยความทะเยอทะยานอยากเป็นนักร้องของดวง จึงยื่นคำขาดให้ดวงเลือกว่าจะเลือกเป็นนักร้องของค่ายซาวด์สยามต่อไป หรือว่าจะเลือกไปเป็นคนรักของบัวตอง

บัวตองเห็นท่าทีลังเลของดวง ก็พอจะเข้าใจว่าดวงหนุ่มบ้านนอกช่างฝันคนเดิม ได้ตายจากไป เหลือแต่เพียง ดวงดี นาดอน ที่คิดแต่เรื่องอยากเป็นนักร้องเด่นดัง ไม่ได้คิดถึงบัวตองว่าเป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ในชีวิตของเขาเลยแม้แต่น้อย บัวตองจึงตัดสินใจบอกเลิกกับดวง เพราะไม่อยากขวางอนาคตอันสดใสของนักร้องดาวรุ่งพุ่งแรงอย่าง ดวงดี นาดอน เธอจึงขอเป็นฝ่ายเดินออกมาเอง เพื่อสงบศึกกับนวลอนงค์ด้วย

บัวตองรู้ตัวแล้วในนาทีนี้ว่าใครกันแน่ที่ดีกับเธอ และเห็นความสำคัญของเธอจริงๆ บัวตองรีบตรงไปหากรณ์เทพ แต่ก็พบว่าสายไปเสียแล้ว เพราะทองดีกับเบ๊นซ์เล่าให้ฟังว่ากรณ์เทพ หลบไปเลียแผลใจ และสั่งทองดีกับเบ๊นซ์ไว้ว่าห้ามบอกบัวตอง ว่าเขาหายไปไหน เพราะเขาไม่อยากเห็นหน้าบัวตองอีกให้เจ็บปวดใจ บัวตองเสียใจ แต่ก็ต้องยอมรับ เพราะตนเป็นฝ่ายทิ้งกรณ์เทพ ให้เจ็บก่อนจริงๆ

บัวตองเก็บร้านขายก๋วยเตี๋ยว จะย้ายกลับไปที่ตำบลบ้านนาดอน บ้านเกิดของตน บัวตองกลับไปเจอยุภาแม่ของตน ก็สารภาพว่าหาเงินได้ไม่ครบห้าแสน มีอยู่เพียงแค่แสนห้า จากร้านก๋วยเตี๋ยวไก่ที่ขายดีมากๆ ตาเอิบ เห็นบัวตองกลับมาก็ตามมากะลิ้มกะเลี่ย ทำท่าหัวงูอีก ยุภาเลยบอกให้บัวตองเตะผ่าหมากสั่งสอนเสี่ยซะ พร้อมบอกว่าตนเคลียร์หนี้ตาเอิบไปหมดแล้ว ไม่มีอะไรต้องเกรงใจกันอีก บัวตองงงว่าแม่เอาเงินจากไหน ยุภาก็งง เพราะได้เงินจากที่บัวตองส่งมา บัวตองนึกย้อนแล้วรู้ทันทีว่ากรณ์เทพ เป็นคนส่งมาแน่ๆ เพราะกรณ์เทพเล่าว่าเคยทำงานพิเศษ เคยทำงานหนักสารพัด เคยได้รับเงินเป็นน้ำใจที่ช่วยให้เจ้าสัวสมโชค รอดจากเงื้อมมือโจร บัวตองเพิ่งรู้ว่าเงินทั้งหมดนี่เป็นความช่วยเหลือจากกรณ์เทพ นั่นเอง

บัวตองรีบกลับไปกรุงเทพฯ อีกที เธออธิบายให้ทองดี และเบ๊นซ์ เข้าใจ เรื่องราวทั้งหมด พร้อมขอร้องให้บอกเธอว่ากรณ์เทพหนีไปอยู่ที่ไหน ทั้ง 2 จึงตกลงว่าจะพาไป โดยมีรถยนต์ลีมูซีนหรูของเจ้าสัวสมโชค ที่นายบุญช่วยขับมาช่วยอำนวยความสะดวกถึงที่

เวลาเย็นที่ชายหาดแห่งหนึ่ง ซึ่งยังดูมีความเป็นธรรมชาติสูง และไม่มีคนพลุกพล่าน กรณ์เทพนั่งซึมเศร้าอยู่คนเดียว เขาต้องแปลกใจที่มีรถยนต์ลีมูซีนหรูของเจ้าสัวสมโชค ปราดเข้ามาจอด พร้อมกับบัวตองที่วิ่งลงมาหาเขา และมีทองดี เบ๊นซ์ รวมถึง เจ้าสัวสมโชค และป้าพลอย พ่อแม่ของกรณ์เทพมาเป็นสักขีพยาน

บัวตองเคลียร์ทุกเรื่องในใจให้กรณ์เทพรับรู้ว่าคนที่อยู่ในใจเธอจริงๆ และมีค่าสำหรับเธอจริงๆ ณ ตอนนี้ และตลอดไป ก็มีแค่เพียงกรณ์เทพเท่านั้น กลายเป็นว่าบัวตองต้องมาคุกเข่าขอความรักจากกรณ์เทพซะนี่ ซึ่งแน่นอนกรณ์เทพย่อมตอบรับรักครั้งนี้ แม่ดอกรักเร่ของเขา จึงไม่ต้องเร่รักอีกต่อไป แต่จะประดับอยู่กลางใจของเขาไปเป็นรักนิรันดร์...

สมิงบ้านไร่ 2546

สมิงบ้านไร่ (2546/2003) สมิง บ้านไร่ จากบ้านไร่ ถิ่นกำเนิดของเขาไปตั้งแต่วัยรุ่น ไปทำงานหาเงินเรียนเองในกรุงเทพ เพราะพ่อแม่ เป็น ชาว ไร่ ธรรมดาที่ไม่มีเงินพอจะส่งเสียลูกให้เรียนสูง ๆ ได้ ด้วยความอุตสาหะประกอบกับสติปัญญาดี เขาจึง เรียนจบ ปริญญาตรีและได้ทุนไปเรียนต่อต่างประเทศในสาขาเกษตรกรรม เมื่อเรียนจบแล้วเขาจึงกลับมาบ้านไร่ หวังจะใช้วิชา ที่ร่ำเรียนมาพัฒนาบ้านเกิดแต่เขากลับพบว่าพ่อแม่ของเขาตายหมดแล้ว สาเหตุเกิดจากที่พ่อเขาไป กู้เงินจาก โมขศักดิ์ ผู้มีอิทธิพลระดับเจ้าพ่อแล้วโดนโกงยึดที่ดินไปเกือบหมดเหลือไว้แต่กระต๊อบ หลัง เล็กกับที่ดิน เนื้อ ที่แค่หยิบมือ แม่กลุ้มใจผูกคอตาย พ่อตรอมใจตายตาม ชาวบ้านแถบนั้นอีกหลายครอบครัวซึ่งไม่รู้หนังสือ ก็โดนโกงเช่นเดียวกัน สมิงตั้งใจจะล้มล้างอิทธิพลของโมขศักดิ์ให้ได้ แต่โมขศักดิ์มีบริวาร มากมายลำพัง สมิงคนเดียว ย่อม ทำอะไรไม่ได้ แม้ว่าเขาจะมีฝีมือแม่นปืน ชักปืนไว จนได้ฉายา "มือลั่นไกสายฟ้าแลบ" เคยเป็นนัก กีฬายิงปืนระดับเหรียญทองของมหาวิทยาลัยก็ตาม จึงคิดระดมสมัครพรรคพวกที่มีอุดมการณ์เดียวกัน คือเกลียด ชังความอยุติธรรม แล้วเขาก็ได้เจอกับ สมัย บ้าน ดอน"ขุนขวานผู้ไม่ปรานีเป้า" พกขวานคราวละโหล เขวี้ยงทีไร ไม่พลาดเป้าสักที และ กะเหรี่ยง สะกา "จอมขมังหน้า ไม้ ไม่ได้โม้" ใช้ลูกดอกอาบยาหัวเราะที่เหยื่อโดนแล้ว หัวเราะไม่หยุดจนตาย จึงชวนมาขยายกระต๊อบให้เป็นบ้าน อยู่ด้วยกันและจะแสวงหาพวกเพิ่มเพื่อผนึกกำลัง ต่อสู้กับพวกโมกขศักดิ์ อันมี ลาย เป็นสมุนเอก และเมฆกับหมอกเป็นสมุนรอง โมขศักดิ์มีลูก สาวสวยแสนรักแสนหวงแสนจะเกรงใจอยู่ 2 คนคือ ปลาแดงกับนก เขียวไม่มีใครกล้าตอแยลูกสาว เจ้าพ่อทั้งคู่ ปลาแดงนั้นชอบประจบประแจงพ่อ อยู่ในบ้านแต่นกเขียวชอบออกไปเปิดหูเปิดตานอกบ้านแถวตลาดกับพี่เลี้ยงชื่อ แก้วตา ซึ่งโมขศักดิ์จ้างไว้ให้คอยคุมนกเขียวแต่แก้วตากลับเข้าข้างนกเขียว คอยปิดบัง เรื่องที่นกเขียวไม่ต้องการให้พ่อรู้ให้ วันหนึ่งจึงได้ไปเจอกับสมิงและสมัยที่ร้าน อาซ้งซึ่งขายขายอาหารและเครื่องดื่ม สมิงปิ๊งนกเขียวตั้งแต่แรกเห็น ทำให้ ซูฉีลูกสาวอาซ้งแอบน้อยใจ เพราะเธอแอบจับจองสมิงไว้ในใจก่อนแล้วแต่สมิง ดูไม่สนเธอเลยสักนิด สมัยที่เธอชอบเป็นอันดับรองก็ดันไปปิ๊งแก้วตา ซะอีก แต่ซูฉีไม่ท้อ ขอมุ่งเอาความดีชนะใจสมิงหรือไม่ก็สมัยให้ได้ สักวันจะได้ลงจากคานซะที หากไม่ได้ 2 คนนึ้ก็จะมองหาอันดับอื่นๆต่อไป เมฆกับหมอกที่มากับสมุนคนอื่นๆของ โมขศักดิ์หมั่นไส้สมิงกับสมัยเป็นกำลังจึงเบ่งโวโอ้อวดว่าตน เป็นลูกน้องของลายหาเรื่องเตะต่อยแต่ 2 คนสู้สมัยคน เดียวไม่ได้จึงชักปืนจะยิง สมิงไวกว่ายิงข้อมือของเมฆกับหมอกปืนหล่นกระเด็น ซูฉีหัวเราะร่าไม่เสียแรงที่เชียร์ แทบขาดใจ นกเขียวกับแก้วตาชื่นชมในฝีมือของสมิงกับสมัย แก้วตาจะเข้าไปคุยด้วยแต่นกเขียวยื้อไว้ให้รู้จักวาง ฟอร์มกับคนแปลกหน้า จะได้ดูดีมีราคาหน่อย พอสมิงเข้าไปทักทายนกเขียวก็ทำเป็นคุย แบบเสียไม่ได้ เมฆหมอกเจ็บตัวคลานกลับ ไปฟ้องลาย พร้อมเล่าว่าเห็นท่าทางสมิงกับสมัยจะปิ๊งนกเขียวกับ แก้วตา ลาย โกรธมากเพราะตนแอบชอบนกเขียวอยู่ตั้งนานแต่อยู่นอกสายตานกเขียวตลอดมา จึงนำความไปฟ้องโมขศักดิ์ต่อ โมขศักดิ์โกรธที่มีผู้อาจหาญมาลูบคม ทำเด็กๆ ของตนเจ็บตัวแล้วยังกำแหงมาชอบลูกสาวของตนอีก จึงสั่งให้ลายกับ ลูกน้องคอย ติดตามจับตาดูสมิงกับสมัยทุกฝีก้าวว่าจะมาทำอะไรที่บ้านไร่กันแน่ และคอยกีด กันไม่ให้เข้าใกล้นกเขียว พร้อมสั่งแก้วตาด้วย สมิง กลับไปเพ้อละเมอถึงแต่นกเขียวจนกินไม่เป็นอันกินอันนอน สมัยรู้ใจจึงชวนไปแถวๆตลาดบ้านไร่เผื่อเจอ นกเขียวกับแก้วตาอีก ทางฝ่ายนกเขียวก็ดูแปลกๆไป ปลาแดงสงสัยนกเขียวว่าเป็นอะไร แก้วตาแก้ให้ว่าไม่สบายเดี๋ยว จะพาไปหาหมอ แล้วก็ชวนกันออกไปที่ตลาดแล้วก็ได้ไปเจอกับสมิงและสมัยสมกับที่แอบตั้งใจไว้ ได้พูดคุยยวน ใส่กันแต่ชอบกัน นัดเจอกันอีก เมฆกับหมอกมาเห็นเอาไปฟ้องลาย ลายกำชับให้เมฆกับหมอกสะกดรอยตาม นกเขียว อย่าให้คลาดสายตา ทั้งสอง ถึงกับลงทุนพรางตัวในรูปแบบต่างๆให้เข้ากับสถานที่ที่นกเขียวนัดเจอกับสมิง เช่นปลอมเป็นต้นไม้ในไร่ เป็นเต่าริมทะเล เป็นค้างคาวในถ้ำ เป็นลิงในสวนมะพร้าวแล้วกลับไปรายงานเจ้านายพร้อมรูปถ่ายเป็นหลักฐาน โมขศักดิ์ขอไปดูให้เห็นกับตา ปลาแดงเห็นหน้าหล่อๆของสมิงในรูปแอบติดใจจึงขอตามไปด้วย โมขศักดิ์ ไปเจอจังๆก็ฉุนจัดแต่เกรงใจนกเขียวไม่กล้วพูดจารุนแรงอ้อนวอนให้กลับ บ้านวันหน้าค่อยมาใหม่ และแอบกระซิบขู่สมิงว่าอย่ามายุ่งกับลูกสาวตนอีก ขืนไม่ ฟัง ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โตแน่แต่ปลาแดงเห็นสมิงตัวจริงแล้วยิ่งคลั่งไคล้ตั้งใจจะ หาทางเอาเป็นแฟน จึงพยายามซักไซ้นกเขียวถึงสมิงใหญ่เลย ว่าเขาเป็นใครอยู่ ที่ไหน นกเขียวชักหวง บอกไม่รู้ ไม่สน ที่เจอกันก็โดยบังเอิญทุกที แก้วตาช่วยยืน ยันอีกคน แต่ปลาแดงไม่เชื่อ จะหาทางรู้เองให้ได้ โมขศักดิ์แกล้งหากิจกรรม ให้นก เขียวช่วยทำจนไม่สามารถปลีกตัวออกไปไหน ในที่สุดโมขศักดิ์สมองตัน นึกไม่ออก ว่า จะให้ทำอะไรแล้ว นกเขียวกับแก้วตาจึงออกไปพบสมัยกับสมิงอีก สมิงรู้ว่า เมฆกับหมอก คอยตามดูและถ่ายรูป จึงลงทุนแต่งตัวเป็นผู้หญิง โมขศักดิ์จึงวางใจที่ลูกสาวกับพี่เลี้ยงแค่ออกไป หาเพื่อนผู้หญิง ดูจากในรูปเห็นเป็นผู้หญิงที่ออกจะล่ำบึ้กไปสักหน่อยแต่หน้าตาเข้าทีดูเซ๊ก ซี่ ไม่เบา เห็นแล้วอยาก ได้มาเป็นแม่เลี้ยงของลูก จึงถามนกเขียวว่าชื่ออะไร บ้านอยู่ที่ไหน นกเขียวว่าชื่อ ขวัญมิ่ง กับพิศมัย เป็นเพื่อน มาจากต่างจังหวัด โมขศักดิ์บอกสนขวัญมิ่ง อยากให้นกเขียวช่วยเป็นแม่สื่อให้ นกเขียวโอเคนัดให้พ่อได้เจอกันแล้ว ไปคุยทาบทามกันเอาเอง พอได้เจอโมขศักดิ์ก็เจ้าชู้ยักษ์ใส่สารพัด บอกขวัญมิ่ง(สมิง)ว่าอยากได้อะไรจะทุ่ม ให้หมด เลย สมิงเผลอตอบว่าอยากได้ลูกสาว โมขศักดิ์ช๊อคที่ขวัญมิ่งเป็นทอม กลับมาขอร้องนกเขียวให้เลิกคบนกเขียว ว่าพ่อไม่ให้คบผู้ชายก็ต้องคบทอมสิ โมขศักดิ์เสียงอ่อยงั้นให้คบผู้ชายได้ แต่ควรเป็นคนที่พ่อเห็นดีด้วย ใน งานวัดแห่งหนึ่งของบ้านไร่ สมิงได้เจอ สมร บ้านด่าน นักมวยพเนจร ฉายา "ยอดมวยแม่ไม้ดก" ชกชนะน๊อคนัก มวย ดังตั้งแต่ยกแรก นักเลงแพ้พนันพากันโกรธไล่ตีสมรดีที่สมิงกับสมัยช่วยสกัดไว้ สมิงชวนสมร ให้เลิกเร่ร่อนมาอยู่ด้วยกันเพื่อปราบคนโกง สมรตกลงพออกจากร้านก็เจอ สมาน บ้านนา เซียนกอล์ฟ กำลังตีกอล์ฟระเบิดใส่พวกเมฆกับหมอกหนีกันกระจุยกระเจิง จึงชวนมาเข้ากลุ่มอีกคนรวมเป็น 5 สะเข้าข้างชาว บ้าน ที่ถูกพวกโมขศักดิ์ระรานทวงหนี้ ยุว่าอย่าไปยอมให้กับคนโกง ถ้าพวกมันมารังควาญก็จะคุ้มครองให้เอง ให้ตั้งหน้าทำมาหากินดีกว่า โม ขศักดิ์ยั๊วะจัดที่พวกสมิงยุชาวบ้านให้เบี้ยวหนี้ ประกาศก้องว่า อย่างนี้ ต้อง ราวีให้แหลกกันไปข้างหนึ่ง ปลาแดงเป็นห่วงสมิงบอกพ่ออย่ารุนแรงนักเลย เกรงใจนกเขียวมั่งรู้สึกว่าจะชอบๆกันอยู่นา โมขศักดิ์หันไปสบตานกเขียว นก เขียวตาเขียวใส่พร้อมบอกว่าแค่พบปะพูดจากันยังไม่ได้เป็นแฟนกัน สักหน่อย แต่ถ้าพ่อบังคับกันมากๆจะหาทางหนีไปหาสมิงซะเลย ปลาแดงจึงยุให้ โมขศักดิ์ ล่ามโซ่นกเขียวเสีย โมขศักดิ์ไม่กล้า ปลาแดงขอจัดการเองโดย สั่งแก้วตาล่าม แก้วตาทำตาม แล้วแอบไปปั๊มกุญแจแล้วเอาตัวจริงให้ปลาแดงไป ปลาแดงได้ ทีดอด ไปตื๊อสมิงถึงร้านอาซ้ง ปะทะกับซูฉีต่างกระแทกแดกดันกัน เกือบจะ ตบตีกัน อา ซ้งรีบห้ามซูฉีอย่าสะเออะไปกัดกับลูกสาวเจ้าพ่อเดี๋ยวตนจะหมดหนทางค้าขาย สมิงแกล้งชอบปลาแดงเพื่อ หาทางเขาใกล้นกเขียวที่เขารักและเป็นห่วงจับใจ ปลาแดงไม่ระแวงหลงคิดว่าตัวเองเสน่ห์แรงมัดใจสมิงได้ ก็ ไปบอกนกเขียวให้เจ็บใจเล่น แต่กลับบอกโมขศักดิ์ว่าจะล่อสมิงมาให้ติดกับ โมขศักดิ์ชอบใจที่มีลูกสาวฉลาดมาก อย่างปลาแดง ไม่ฉลาดน้อยหมือนนกเขียว สมิง สมัย สมร สมาน และสะกา ร่วมกันปรึกษาหาทางช่วยชาวบ้าน สมิงเสนอความคิดให้ตั้งสหกรณ์รับซื้อผลิตผล เกษตร จากชาวบ้าน พวกเขาจะได้มีรายได้เลี้ยงตัวไม่ต้องไปเป็นหนี้โมขศักดิ์อีก โดยก่อนอื่นเขา จะสอนชาวบ้าน ให้ปลูกผักปลอดสารพิษที่ได้ผลเร็วและได้ราคาดี ทุกคนเห็นด้วย ชาวบ้านรู้ข่าวก็อาสาช่วยกันมากมาย เตรียมสร้าง ทำนบเพื่อการเกษตร พร้อมเตรียมอาวุธป้องกันไอ้ตัวร้ายมารบกวน ข่าวนี้รู้ถึงหูโมขศักดิ์จึงไม่พอใจ ที่สมิงตั้งตัว เป็นศัตรูคิดตัดอาชีพเงินกู้ของเขา ต้องหาทางล้มล้างสหกรณ์ให้ได้ โดยฆ่าสมิงตัวนำชาวบ้านเสีย ปลาแดงกับ นกเขียวร้องเสียงหลงขึ้นมาพร้อมกันว่าอย่าฆ่าสมิงเรื่องจะบานปลายไปใหญ่ โตเพราะเขาผูกใจชาวบ้านไว้ ได้เกือบหมดหมู่บ้านแล้ว โมขศักดิ์พูดเอาใจลูกสาวว่าไม่ฆ่าก็ไม่ฆ่า(ตอนนี้หรอก) นกเขียวแอบให้แก้วตาไปส่ง ข่าวให้สมิงระวังตัว แก้วตาไปเจอกับปลาแดงที่แอบไปเตือนสมิงเช่นกันจึงรีบหลบ สมิงคิดถึง นกเขียวอาการหนักจนเพื่อนฝูงพากันเป็นห่วง สะกาจึงช่วยไปปีนต้นไม้ยิงหน้าไม้ ผูกติดจดหมาย รักของสมิงเข้าไปทางหน้าต่างนกเขียว ตามด้วยยาน้ำสมุนไพรนอนหลับฤทธิ์แรง มีคำสั่งให้ใส่กระบอกฉีด ตอนกลางคืน นกเขียวจึงหน้าชื่นขึ้นจนปลาแดงสงสัย นกเขียวว่าเป็นเพราะตนตัดใจจากสมิงได้แล้ว ปลาแดงดีใจ ที่สิ้นคู่แข่งไปอีกคน สะกาลงจากต้นไม้เจอสมุน ของโมขศักด์ลากตัวไปหาเจ้านาย สะกาแก้ตัวว่าตนมาตามตัวตะ กวด ซึ่งมันหนีมาขึ้นต้นไม้แล้ว ลงวิ่งหายเข้าไปในบ้านโมขศักดิ์ โมขศักดิ์ตกใจกลัวความซวยจะเข้าบ้านจึงรีบปล่อย สะกาไป บอกให้เหล่าสมุนค้นหา ตัวตะกวดทั่วบ้านแต่ไม่เจอ ลายเข้าไปหาในห้องนกเขียวนกเขียว ให้ลายไปมองดู กระจก แล้วจะเห็นตัวตะกวดได้ชัด ลายไม่ทันคิดเผลอทำตามแล้วสะดุ้งโหยง ตกกลางคืน แก้ว ตากับนกเขียว ป้องกันตนเองแล้วฉีดยาสมุนไพรให้ทุกคนในบ้าน หลับ แก้วตาไข กุญแจโซ่ให้นกเขียวแล้วพากันเก็บเสื้อผ้าหนีออกมา สมิงและสมัย ซึ่งรออยู่หน้าบ้านจึงรับตัวไปรุ่งขึ้นโมขศักดิ์โกรธจัดที่ ทุกคนนอน หลับไม่ได้ สติปล่อยให้ นกเขียวกับแก้วตาหนีไปได้ ปลาแดงก็ร้อนใจคิดว่านกเขียวหลอก ให้ตนดีใจว่าตัดใจจากสมิงได้ นี่คงหนีไปหาสมิงแน่เลย จึงตีโพยตีพายใหญ่ โมขศักดิ์สงสัย อ้อนถามจนปลาแดงสารภาพว่ารักสมิงเข้าแล้ว โมขศักดิ์จึงตีอกชกตัวเอง ว่าเวรกรรมอะไร หนอลูก สาวทั้ง 2 คนจึงไปรักไอ้หนุ่มศัตรูตัวฉกาจ อย่างนี้เอามันไว้ไม่ได้เสียแล้ว ต้องบุกชิงตัวนกเขียวและจับตัวสมิง มาแล่เนื้อเลาะกระดูกทิ้งโถส้วม ปลาแดงจึงเอาแต่ร้องไห้แล้วก็โดนล่ามโซ่เหมือนที่นกเขียวเคยโดน โมขศักดิ์ขอ โทษปลาแดงที่จำต้องทำอย่างนี้ ลายเสนอโมขศักดิ์ให้บุกตะลุยพวกสมิงก่อนสว่าง ไม่ให้ตั้งหลักได้ทัน โมขศักดิ์เห็นด้วยจึงประชุมวางแผนเสร็จ แล้วแจกเงินบำรุงขวัญเหล่าสมุน สมุนจึงยกพวกไปเฮกัน ที่ร้านเจอาซ้ง แล้วเมาเผลอโม้ถึงแผนวันรุ่งขึ้น ซูฉีได้ยินจึงแอบวิ่งไปบอกชาวบ้านคนหนึ่งซึ่งเดินผ่านหน้าร้านให้ไปบอกสมิง ด้วย สมิงจึงระดมกำลังพรรคพวกและชาวบ้านเตรียมตั้งรับเต็มอัตราศึก โม ขศักดิ์สั่งกองโจรเสือจิ๊บกับเสือจ๊อยจากในป่าลึกมาสมทบเพื่อบุกโจมตีบ้าน สมิง เช้ามืดจึงสั่งเคลื่อนพลเป็น ขบวนรถยนต์บุกเข้าบ้าน แต่ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ เพราะ ในบ้านสมิงไม่มีใครอยู่เลย กลุ่มสมิงซุ่มอยู่ข้างนอก แต่พวกเสือจิ๊บเสือจ๊อย แอบโจมตีด้านหลังจนได้ ชาวบ้านเจ็บไปหลายคนแต่ แล้วสะกาก็ยกกองทัพ กะเหรี่ยงมาใช้หน้าไม้ยิงพวกโมขศักดิ์หัวเราะหยุดไม่ได้จนตายเรียบ ลายรีบเผ่น หนีจะเอาตัวรอดแต่ก็ไม่รอดคมขวานของสมัย เลยเหลือโมขศักดิ์คนเดียว สมิงตะ โกนให้โมขศักดิ์มอบตัวเสีย แต่โมขศักดิ์ไม่ยอม จะขอยิงตัวตายเพื่อศักดิ์ศรีอัน ยิ่งใหญ่ แต่โดนลูกกอล์ฟของสมาน ปืนกระเด็นไปเสียก่อน จึงลงนั่งร้องให้เท้า กระทืบพื้นเหมือนเด็กๆ ถามหาไหนล่ะตำรวจอยู่ไหนเค้าจะมอบตัวง่ะ สมัย สมร สมาน จึงแสดงตัวเป็นตำรวจกันพร้อมพรึ่บ นกเขียวรีบวิ่งไปซบอกพ่อ พลางขอร้องตำรวจอย่าทำอะไรพ่อเลย โมขศักดิ์ว่าปล่อยให้ตำรวจทำตามหน้าที่ของเขาเถอะ พ่อมันไม่ดีเองพลางยื่นมือให้ตำรวจใส่กุญแจแต่โดยดี และสั่งความสมิงไว้ว่า " ให้รักและสงสารนกเขียวของพ่อให้มากๆนะ..อ้อ..แถมปลาแดงด้วยอีกคน " สมิงไม่ยอมรับของแถมขอมีนกเขียวคนเดียว สมรกับสมานแย่งกันขอดูแลปลาแดง โมขศักดิ์บอกให้ไปแสดง ฝีมือแข่งกันเองก็แล้วกันสมานสละสิทธ์ไม่ขอลงแข่งกับสมรซึ่งขี้อาย และตนก็เล็งๆซูฉีเอาไว้อีกคนทั้งรู้ว่า ซูฉีก็เล็งเขาไว้ในอันดับอยู่เหมือนกัน ถ้าไม่เอานายตำรวจอย่างเขาก็คงไม่ต้องลงจากคานแล้ว ส่วนสมัยอุ่นใจ ที่มีแก้วตาอยู่ในหัวใจตลอด ในที่สุดความสุขสงบก็กลับคืนสู่บ้านไร่ สมดังความปรารถนาของทุกคน

สายใจ 2545

เรื่องย่อ : สายใจ (2545/2002) วรทัศน์ เทพการ เป็นตระกูลเก่าแก่ต้นตระกูลเป็นถึงขุนน้ำขุนนาง กลับต้องมาตกอับถึงขนาดขายของเก่ากิน เพราะเล่นการพนัน สมบัติที่มีต่างถูกจำนองจำนำจนหมดสิ้น สุดท้ายสองสามีภรรยาเจ้าคุณ ( มนตรี เจนอักษร ) และ คุณนาย ( เดือนเต็ม สาลิตุล ) ก็คิดที่จะขายลูกสาวคือ สุชาดา ( นุสบา ปุณณกันต์ ) กับ สุขุมาลย์( วรรณษา ทองวิเศษ ) สุขุ มาลย์ ผู้น้องมีนิสัยที่ทันคน เป็นเด็กนักเรียนนอก แต่ต้องเรียนไม่จบเพราะถูกเรียกตัวกลับมาก่อน มีนิสัยต่าง กันลิบลับกับสุชาดาผู้พี่ที่เรียบร้อย ค่อนข้างปิดตัว อาจเป็นเพราะความผิดหวังที่ประดังใส่เธอเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ครอบครัว เรื่องคนรัก เรื่องเรียน จึงทำให้เธอเป็นคนแบบนั้นไป ทั้งสองพี่น้องไม่รู้เลยว่า เธอกำลังถูกพ่อแม่หมาย มั่นปั้นมือว่าจะจับคู่ให้กับพ่อเลี้ยงเมืองเหนือ เด่นพงษ์ ( จิรายุส วรรธนะสิน ) กับเศรษฐีเมืองใต้ ศักดิ์สิทธ์ ( จอห์น รัตนเวโจน์ ) เจ้าหนี้รายใหญ่ของตระกูล เรื่องวุ่นวายเริ่มก่อตัวขึ้นเพราะความ เข้าใจผิดของครอบครัววรทัศน์เทพการ คิดว่า จิตติ ( สุรวุฑ ไหมกัน ) ผู้จัดการปางไม้เวียงผาคือพ่อเลี้ยงผู้มั่งคั่งแต่ความจริงแล้วเด่นพงษ์ต่าง หากที่เป็นพ่อเลี้ยงตัวจริง ความที่เป็นคนสนุก ติดดิน จึงไม่คิดบอกความจริงคงปล่อยให้เข้าใจว่าเด่นพงษ์เป็นเพียงผู้จัดการต๊อก ต๋อยด้านเจ้าคุณและคุณนายไม่ ชอบ ขี้หน้าเด่นพงษ์ สุขุมาลย์ เองนั้นรู้สึกเขม่นหน้านายเด่นพงษ์ เพราะว่าเขารู้ทันเธอไปซะทุกเรื่อง เจ้าคุณเป็น หนี้นายหัวศักดิ์สิทธิ์เป็นจำนวนเงินไม่น้อย นายหัวรู้ทันว่าเจ้าคุณจะยัดเยียดลูกสาวให้เขา ทำให้เขามองคนตระกูล นี้ต่ำลงไปอีก คนที่ได้รับผลกระทบนี้ก็คือสุชาดา ทำให้เธอกับเขามีเรื่องให้ประชดประชันกันตลอด แต่มีสิ่งหนึ่งที่ นายหัวรู้สึกกับผู้หญิงคนนี้คือเธอทำให้เขาหวั่นไหวแต่นั้นยิ่งทำให้เขาแสดง ความกระด้างออกมาใส่เธอ เด่นพงษ์ ได้ชวนครอบครัว วรทัศน์เทพการ ไปเที่ยวไร่ของเขาที่ติดอยู่กับไร่ของ เทพจิต เทพจิตคือคนรักเก่าของ สุชาดา เขารู้ว่าสุชาดามาเที่ยวที่ไร่ จึงหาทางหวังจะคืนดีกับเธอแต่สุชาดาได้ตัดใจจากเขาแล้ว ในการเดินทางครั้งนี้ยัง ประกอบด้วยภัทราเป็นคนช่วยดูแลยายหนูที่เป็นลูกติดของนายหัวศักดิ์สิทธิ์ และยังมีสุวรรณชายหนุ่มชาวจีนที่ตาม เทียวไล้เทียวขื่อสุชาดา ขณะที่ คณะเดินทางได้ไปเที่ยวชมธรรมชาติป่าเขา ต้องมาปะทะกับขบวนยาบ้า ทำให้ต้องหนีกระเจิงออกมา เกิด พลัดหลงกันแยกไปเป็นคู่ สุชาดาติดไปกับศักดิ์สิทธิ์ ส่วนสุขุมาลย์ติดไปกับเด่นพงษ์ และยังมีจิตติที่พลัดหลงในป่าอีก คนด้วย ความลำบาก ธรรมชาติ ความโรแมนติค ทำให้ทั้ง 2 คู่เกิดเห็นแก่นแท้ของหัวใจ แต่กว่าความรักจะเดินทาง มาถึงก็เกือบสาย เพราะศักดิ์สิทธิ์ได้รับปากแต่งงานกับภัทราเพราะความดีของเธอ ส่วนสุขุมาลย์หลังจากกลับจากป่า สุขุมาลย์ ก็ถูกบังคับให้แต่งงานกับจิตติ เพราะท่านเจ้าคุณเข้าใจว่า สุขุมาลย์หลงหายเข้าป่ากับจิตติ แต่กลายเป็นว่าสุขุมาลย์ไปติดป่ากับเด่นพงษ์ เรื่องจึงกลายเป็นว่าสุขุมาลย์ถูกบังคับให้แต่งงานกับเด่นพงษ์ เธอจึงยอมแต่งงานด้วย เพราะมีใจให้กับเขาอยู่แล้ว แต่เมื่อความลับ แตก เขาก็ตามง้อเธอจนให้อภัยกันส่วนสุชาดาเดินทางกลับกรุงเทพ มาหางานทำที่บริษัทแห่งหนึ่ง โดยไม่รู้ว่าศักดิ์สิทธิ์ใช้เส้นหางานให้เธอ เมื่อเธอรู้ก็ลาออก แต่ศักดิ์สิทธิ์เองก็คงพยายาม ช่วยเหลือปัญหาครอบครัวของสุชาดาอยู่ตลอด จนสุดท้ายความจริงในใจ ต่างต้องยอมพ่ายแพ้ให้กับความรัก ทั้ง 2 จึง ลงเอยกันได้ด้วยดี......

กำลังแสดงผลลัพธ์ทั้งหมด 4 รายการ