แสบจิ๋ว ป่วนหัวใจ 2555

แสบจิ๋ว ป่วนหัวใจ (2555/2012) ชมพู่ (วัย16 ปี) กับ แชมป์ (วัย 8 ปี) สาวซ่ากับน้องชายสุดแสบ ย้ายมาเรียนในโรงเรียนแห่งใหม่กลางเทอม โรงเรียนแห่งนี้เป็นดั่งโรงละครแห่งความฝันของเด็กหลายๆคน นอกจากจะเป็นโรงเรียนที่มีมาตรฐานสูงในเรื่องของการศึกษาแล้ว ยังสนับสนุนกิจกรรมภายต่างๆภายในโรงเรียนได้อย่างดีเลิศจนกลายเป็นโรงงานผลิตบุคคลที่มีชื่อเสียงอยู่หลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น ดารา นักร้องนักดนตรี นักวิชาการ พิธีกร และอื่นๆอีกมากมาย ชมพู่ มีความฝันที่อยากจะเป็นนักข่าว จึงเลือกที่จะเข้า ชมรมสื่อสารมวลชน เพื่อเริ่มต้นความฝันของตัวเอง ชมพู่ ได้มาพบกับดาวเด่นของชมรมดนตรีสากลอย่าง มิว(วัย 17 ปี) มือกีร์ต้าสุดหล่อ ที่สาวในโรงเรียนมองตาเป็นมัน ชมพู่ ไม่ค่อยชอบ มิว สักเท่าไหร่เพราะดูขี้เก๊ก ทำเป็นเท่ อีกทั้งชอบซ้อมดนตรีเสียงดัง รบกวนชมรมของชมพู่ จนคุยแทบไม่รู้เรื่อง ชมพู่ ทนไม่ไหวจึงไปต่อว่า มิว หัวหน้าชมรมดนตรี ตั้งแต่นั้นมาความสัมพันธ์ของทั้งคู่จึงไม่กินเส้นกันเท่าไหร่ ทั้งคู่จึงเป็นคู่กัดกันมาตลอด ซึ่งแตกต่างจากความสัมพันธ์ ของน้องชายและน้องสาวของทั้งคู่ แชมป์ กับ เม(วัย 8 ขวบ)ที่กำลังเดินหน้าเติมเต็มความสนิทเพิ่มขึ้นอยู่ทุกวัน จนแทบจะไม่สนใจเพื่อนร่วมห้อง น้องแชมป์ชอบขอร้องให้พี่สาวของตนพาไปหาเมที่บ้านในวันหยุด ซึ่งชมพู่มักจะหาเหตุผลเลี่ยงไม่พาไปอยู่เสมอๆ เพราะไม่อยากเจอหน้ามิว ทำให้ทั้ง แชมป์ และ เม มีเวลาพบกันได้แค่ที่โรงเรียนเท่านั้น ทั้งคู่รู้สึกว่าเวลาเล่นสนุกด้วยกันมันน้อยเกินไป จึงพยายามคิดวิธีที่จะสมานรอยร้าวของพี่ชายและพี่สาวของแต่ละคน ให้เข้าหากัน เพราะที่ทั้งคู่จะได้มีเวลาอยู่ด้วยกันมากกว่าเดิม ในที่สุดแผนป่วนชวนวุ่นก็เกิดขึ้น ทั้ง ชมพู่ กับ มิว เองก็ต้องอลวนกับเรื่องที่เกิดขึ้น บางครั้งแผนของหนูน้อยทั้ง 2 ก็สำเร็จ ทั้งคู่เริ่มใกล้ชิดกันมากขึ้น จนทำให้ เบล(วัย 16 ปี) ดรัมเมเยอร์สาวสวย ที่แอบชอบ มิว เกิดความไม่พอใจ ชมพู่ อย่างแรง แผนสุดป่วนครั้งนี้จะทำให้ แชมป์ กับ เม สมหวังกับสิ่งที่ทั้งคู่หวังได้หรือไม่ อีกทั้งความฝัน ระหว่าง มิวกับชมพู่ ที่ต้องจะฝ่าฟันให้ไปถึง และเรื่องวุ่นๆอีกมากมายที่เกิดขึ้นภายในโรงเรียน แชมป์ กับ เม จึงต้องหาวิธี ป่วน สุด แสบ เพื่อความสัมพันธ์ที่ดีของทั้งคู่ และ ของตัวเอง

สะใภ้ซ่าส์ แม่ย่าเฮี้ยน 2555

สะใภ้ซ่าส์ แม่ย่าเฮี้ยน (2555/2012) เรื่องยุ่งๆของสาวสวยจอมซ่าส์ ที่ตกกระไดพลอยโจน ถูกจับแต่งงานกับชายหนุ่มที่พบหน้าเพียงไม่กี่ครั้งเพราะเหตุบังเอิญที่เกิดขึ้นชั่วข้ามคืน ทำให้เธอต้องกลายเป็นสะใภ้แบบบังเอิ๊ญบังเอิญ แล้วต้องมาอยู่ในบ้านสามี ร่วมกับแม่ย่าสุดเฮี้ยนที่เป็นหัวโจกคอยป่วนกวนใจไม่ให้สมรัก แถมมีแฟนเก่าเป็นก้างขวางศรีสะใภ้จะงัดวิชาอะไรมาสยบให้อยู่หมัด … คุณนายพรทรัพย์ (อภิรดี ภวภูตานนท์) เศรษฐีนีม่าย ถูก กรด คนขับรถประจำตัวฆ่าตายเพื่อชิงทรัพย์ไปใช้หนี้พนันและด้วยจิตห่วงใยผูกพันอยู่กับ ดลวีร์ (วิทยา วสุไกรไพศาล) ลูกชายคนเดียวที่อยู่ต่างประเทศอย่างแรงกล้า วิญญาณของเธอจึงกลับมาที่บ้านและได้พบกับ ท่านชัยมงคล เจ้าที่ประจำบ้าน แนะนำให้หมั่นบำเพ็ญภาวนาและสะสมความดี เพื่อช่วยให้เธอมีพลังในการปรากฏตัวให้ลูกชายเห็นได้ ทั้งยังให้ นางตานี (สุคนธวา เกิดนิมิต) ผีสาวขี้เล่นที่อาศัยอยู่ในต้นกล้วยของบ้าน คอยดูแลช่วยพรทรัพย์ให้ปิดบังการตายของพรทรัพย์ไม่ให้คนใช้บ้านอย่างป้าละม้าย (นนท์ หาญตระกูล) ยวนตา(หมวย ชวนชื่น) สมพร(พวง เชิญยิ้ม) รู้ เมื่อดลวีร์กลับมาเมืองไทย พร้อม แองจี้ (ชนิสาร์ บังคมเนตร) แฟนสาวพรทรัพย์ซึ่งหวงลูกชายไม่พอใจแองจี้ที่คิดจะจับลูกชายตนจึงให้นางตานีคอยแกล้งหลอกผี ต่อมาดลวีร์ ไปหา ศุภพล (พิศาล ศรีมั่นคง) เพื่อนสนิทสมัยเรียน ปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการดูแลสถานีวิจัยพืชสมุนไพรที่เชียงรายที่มาดูงานในกรุงเทพ พร้อมกับอรกมล (พัชรินทร์ จัดกระบวนพล) นักวิจัยพืชสมุนไพรสาวสวยประจำสถานี รวมถึง พลอยแสง (ณิชชาพัณณ์ ชุณหะวงศ์วสุ) เพื่อนสนิทของอรกมล แต่เมื่อพบดลวีร์ ครั้งแรกอรกมลเข้าใจผิดคิดว่าเป็นพวกโรคจิตแอบถ่ายใต้กระโปรงผู้หญิงจึงชกดลวีร์ด้วยความโกรธ ศุภพลต้องเข้ามาไกล่เกลี่ยและแนะนำให้ ดลวีร์รู้จักอรกมล ด้านคุณนายพรทรัพย์อยากใช้เวลาบำเพ็ญภาวนาเพื่อให้มีพลังมากขึ้น เพื่อไม่ให้ดลวีร์สงสัยจึงใช้ให้ไปจัดการเรื่องโอนที่ดินที่เชียงราย ซึ่งอยู่ในความดูแลของ กำนันบันลือ (เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์) พี่ชายของพรทรัพย์ ด้านอรกมลก็มาเป็นอาสาสมัครช่วยเจ้าหน้าที่ตรวจสุขภาพชาวบ้านบนเขา กำนันบันลือก็มาคอยดูแลความเรียบร้อยและได้ชวนดลวีร์หลานชายมาด้วย ชาวบ้านจึงจัดงานเลี้ยงต้อนรับอาสาสมัครที่มาช่วยงาน ในงานเลี้ยงพลอยแสงชวนให้อรกมลดื่มจนเมาหมดสติและทางด้านดลวีร์ก็เมาหนักเพราะเหล้าหมักของชาวบ้านเช่นกัน... เช้าวันต่อมากำนันบันลือตามหาดลวีร์แต่ไม่พบจึงให้ทุกคนช่วยตามหา แต่กับมาพบดลวีร์นอนหลับอยู่ในห้องพักอาสาสมัคร ซึ่งมีอรกมลนอนอยู่ข้างๆ ทำให้ทุกคนคิดว่าทั้งคู่มีอะไรเกินเลยกันแล้ว ด้าน อุษา (สรวงสุดา ลาวัลย์ประเสริฐ)แม่ของอรกมล ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกับ ป้าลัดดา (ใจดี ดีดีดี) เมียกำนันบันลือรู้เรื่องก็โกรธมากต้องการให้ดลวีร์รับผิดชอบในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ดลวีร์จึงจำใจรับผิดชอบด้วยการแต่งงานกับอรกมล เพราะสถานการณ์บีบบังคับแต่ทั้งสองคนได้ตกลงกันว่าจะแต่งกันแค่ในนามเท่านั้นแล้วหลังจากนั้นค่อยแยกทางกัน เมื่อแต่งงานกันแล้วอรกมลต้องย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านของดลวีร์ รวมกับพรทรัพย์ที่ไม่ยอมรับในตัว อรกมล เพราะโดนแองจี้ ค่อยใส่ร้ายอรกมลว่าเป็นคนให้ท่าดลวีร์ ทำให้อรกมลที่มาอยู่ในบ้านต้องโดน พรทรัพย์และนางตานี กลั่นแกล้งหลอกผีสารพัดแต่ต้องเหนื่อยเปล่าเพราะอรกมลไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ เมื่ออรกมลต้องมาอยู่ที่บ้านของสามีที่กรุงเทพพลอยแสงจึงฝากงานให้อรกมลทำที่สถานีวิจัยพืชสมุนไพร สาขากรุงเทพ อรกมลจึงเล่าเรื่องแปลก ๆ ที่เกิดขึ้นในบ้านดลวีร์ให้ฟัง พลอยแสงจึงพาอรกมลไปหา ดร.นพวิทย์ (วัชระ ปานเอี่ยม) ผู้คลั่งไคล้ในเรื่องเร้นลับและคิดค้นเครื่องมือค้นหาวิญญาณขึ้นมาให้ อรกมลใช้พิสูจน์ ทางด้านดลวีร์ไปเก็บค่าเช่าบ้านที่ชุมชนของพรทรัพย์ แต่ต้องกลับมามือเปล่าเพราะชาวบ้านไม่มีเงินจ่ายและเกิดสงสารจึงมาขอพรทรัพย์ให้ช่วยเหลือชาวบ้าน ด้วยการแบ่งที่ดินมาสร้างอนามัยชุมชน พรทรัพย์เองก็เห็นดีด้วยจึงสนับสนุนลูกชายอย่างเต็มที่ ทำให้อรกมลได้เห็นว่าแท้จริงแล้วพรทรัพย์เป็นคนมีจิตใจดี ด้านแองจี้ถูกมิสเตอร์เฉินเจ้าของบ่อนการพนันมายึดบ้านและทรัพย์สินของ โอบจิต (เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์) ผู้เป็นแม่เพราะติดหนี้การพนันอยู่หลายล้าน แองจี้เสนอจะช่วยพูดกับดลวีร์ให้ยอมขายที่ของพรทรัพย์ที่เฉินสนใจอยู่ให้ เพื่อแลกกับการปลดหนี้ทั้งหมดแต่สุดท้ายก็ไม่สำเร็จเพราะดลวีร์ไม่ยอมขายที่ให้เพราะสงสารคนในชุมชน ส่วนกรดหลังจากหนีไปกบดานต่างจังหวัดแต่สุดท้ายเงินที่ปล้นมาหมด จึงกลับมาที่กรุงเทพอีกครั้งแถมยังติดการพนันหนักจนถูกเจ้าหนี้ตามล่า จนหนีมาพบยวนตาคนรักเก่าและยังมีเยื้อใยกับกรดอยู่ ยวนตาจึงให้ความช่วยเหลือหาที่พักให้กรดหลบเจ้าหนี้ กรดจึงบอกสาเหตุที่ต้องหนีหายหน้าไปเพราะพลั้งมือฆ่า พรทรัพย์ ตายแต่ยวนตายืนยันว่า พรทรัพย์ยังมีชีวิตอยู่และอาศัยอยู่ในบ้านเหมือนเดิม กรดจึงแอบมาดูให้เห็นด้วยตนเองทั้งยังวางแผนให้ยวนตาขโมยของในบ้านพรทรัพย์มาขายเอาเงินไปเล่นการพนันจนทำให้ กรดได้พบกับเฉินและยอมติดตามเป็นลูกน้องของ ส่วนดลวีร์เริ่มสงสัยในพฤติกรรมแปลกๆ ของพรทรัพย์ที่ไม่ยอมออกมาพบปะผู้คนคิดว่าแม่ป่วยจึงรบเร้าให้พรทรัพย์ไปหาหมอ โดยมีอรกมลตามไปด้วยซึ่งในระหว่างทางเกิดอุบัติเหตุรถที่ดลวีร์ขับไปเฉียวชายพิการขายล็อตเตอรี่แต่โชคดีที่ชายพิการไม่เป็นอะไร อรกมลสงสารจึงให้เงินชายพิการไป ชายพิการจึงให้ล๊อตเตอรี่เพื่อตอบแทนแก่อรกมลมาหนึ่งใบ ในวันต่อมาล็อตเตอรี่ที่ได้มาก็ถูกรางวัลอรกมลจึงนำเงินที่ได้บริจาคตั้งกองทุนรักษาคนป่วยในชุมชนทำให้ดลวีร์และพรทรัพย์ได้เห็นถึงจิตใจที่อ่อนโยนดีงามของอรกมล ดลวีร์และอรกมลเริ่มมีความรู้สึกดีต่อกันมากขึ้นแต่ต้องซ่อนความรู้สึกไว้และเมื่ออรกมลต้องไปสัมมนาที่เชียงราย ดลวีร์ตามไปด้วยเพราะหึงที่อรกมลจะไปพบกับศุภพล ด้านแองจี้รู้เรื่องก็กลัวว่าดลวีร์ กับอรกมลจะได้ใกล้ชิดกันจึงตามไปเพื่อขัดขวางแต่เกิดไปหลงอยู่ในป่าทำให้ทุกคนต้องออกตามหา เมื่อ ดลวีร์และอรกมลตามมาพบแองจี้จึงแกล้งป่วยเพื่อเรียกร้องความสนใจจากดลวีร์ ทำให้อรกมลหึงหนีกลับกรุงเทพฯ และที่บ้านคุณนายพรทรัพย์ กรดและยวนตาวางแผนเข้าปล้นบ้าน ทำให้พรทรัพย์ต้องออกมาขัดขวาง กรดกลัวพรทรัพย์จะไปแจ้งความจึงตั้งใจยิงพรทรัพย์ให้ตาย แต่อรกมลกลับมาพอดีจึงเข้าไปขวางและแย่งปืนกับกรด เมื่อได้โอกาสกรดจึงลั่นกระสุนใส่พรทรัพย์แต่กระสุนกับทะลุผ่านตัวไป เมื่อเห็นเช่นนั้นทำให้กรดกลัวและหลบหนีไป พรทรัพย์ซาบซึ้งที่อรกมลยอมเสี่ยงมาปกป้องตน เมื่อดลวีร์รู้เรื่องที่เกิดขึ้นจึงรีบกลับมาบ้านและเริ่มสงสัยยวนตาทำให้ยวนตาหนีไปพร้อมกรด เมื่อเหตุการณ์คลี่คลายดลวีร์และอรกมลปรับความเข้าใจกันได้อีกครั้ง แต่อรกมลยังสงสัยเรื่องที่พรทรัพย์ถูกยิงแต่ไม่เป็นอะไร จึงนำเรื่องนี้ไปเล่าให้พลอยแสงกับดร.นพวิทย์ฟังและคิดแผนเพื่อพิสูจน์อรกมลจึงเอาเครื่องมือของดร.นพวิทย์ไปพิสูจน์ด้วยตนเอง แต่เมื่อพรทรัพย์รู้โกรธมากจนเผลอลืมตัวแสดงอิทฤทธิ์ทำพื้นสั่นสะเทือน ข้าวของตกโครมครามต่อหน้าอรกมล พรทรัพย์กับนางตานีช่วยกันหลอกผีอรกมลให้กลัวจนอยู่บ้านนี้ต่อไปไม่ได้ แต่ก็ไม่เป็นผล แถมอรกมลยังทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้พรทรัพย์ ทำให้พรทรัพย์ใจอ่อนต่อความดีของอรกมล จึงยอมเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง แต่ขอร้องไม่ให้บอกดลวีร์เพราะกลัวลูกชายเสียใจ แองจี้และเฉินพยายามโน้วน้าวให้ดลวีร์ขายที่ดินแต่ไม่สำเร็จ เฉินจึงคิดให้แองจี้รวบหัวรวบหาง ดลวีร์ แต่นางตานีรู้เข้าจึงพาอรกมลมาขัดขวางแผนของเฉินได้สำเร็จ เฉินโกรธมากจึงเปลี่ยนแผนคิดจับ อรกมลแทน โดยใช้ยวนตาเป็นนางนกต่อล่ออรกมลออกมาให้พวกเฉินจับตัว แต่พรทรัพย์ตามมาช่วยไว้ได้ทันและหลอกผี จนพวกเฉินหนีกระเจิงทำให้กรดและยวนตาถูกตำรวจจับ เฉินจึงให้หมอมิ่งหมออาคมเลื่องชื่อใมาปราบพรทรัพย์ และจับวิญญาณขังไว้ในหม้ออาคมบังคับให้ดลวีร์เอาโฉนดที่ดินมาแลก นางตานีตามสืบจนรู้ที่ขังพรทรัพย์ จึงพาอรกมล พลอยแสง และดร.นพวิทย์ มาที่บ้านหมอมิ่ง จึงพบกับดลวีร์ที่เอาโฉนดมาแลกตัวแม่ตน โดยเฉินบังคับให้ดลวีร์เซ็นยกที่ดินบ้านเช่าให้ แต่ดลวีร์ ไม่ยอมหลงกล ต่อลองต้องการพบกับพรทรัพย์ก่อนเป็นเวลาเดียวที่ตำรวจก็บุกเข้ามาพอดี ทำให้แผนของเฉินไม่สำเร็จแต่ก็หนีเอาตัวรอดไปได้ ส่วนอรกมลตัดสินใจแย่งหม้ออาคมจากหมอมิ่งแต่เกิดพลาดทำหม้ออาคมหล่นแตกวิญญาณพรทรัพย์จึงหลุดออกมาได้ ดลวีร์จึงได้รู้ความจริงว่าแม่ของเขาตายไปแล้ว ดลวีร์เสียใจมากกับการตายของพรทรัพย์ ได้ค้นหาศพของพรทรัพย์ตามคำบอกเล่าของอรกมล เพื่อนำมาทำพิธีฌาปนกิจ ทำบุญอุทิศส่วนกุศล และบริจาคที่ดินถวายวัดตามความตั้งใจของผู้เป็นแม่ เมื่อเสร็จเรื่องอรกมลตัดสินใจกลับไปอยู่ที่เชียงราย เพราะคิดว่าเธอกับดลวีร์ยังไงก็ต้องแยกทางกันอยู่ดี ทำให้ดลวีร์เสียใจมากที่ต้องเสียคนที่เขารักไปพร้อม ๆ กันทั้งคู่ แต่เมื่อคิดได้ว่า อรกมลคือความผูกพันที่ไม่อาจตัดขาดได้ จึงตามไปขออรกมลแต่งงานและอยู่ด้วยกันกันอย่างมีความสุข โดยมีเจ้าตัวน้อยเป็นพยานรักในเวลาต่อมา

ท่านชายในสายหมอก 2555

ท่านชายในสายหมอก (2555/2012) เจ้าชาย (หลุยส์ สก๊อต) ผู้ซึ่งเป็นรัชทายาทของประเทศนิวแลนด์ ดินแดนแห่งธรรมชาติอันรื่นรมย์ได้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย และเข้าพักในโรงแรมหรูพร้อมกับผู้ติดตาม(สุพจน์ จันทร์เจริญ)เจ้าชายต้องการแบกเป้และกล้องถ่ายรูปไปเที่ยวอย่างอิสระ โดยไม่ต้องมีพิธีรีตรองต้อนรับที่น่าอึดอัด เจ้าชายจึงให้ผู้ติดตามปลอมตัวเป็นเจ้าชายแทนและให้ปฏิบัติภารกิจแทนทุกอย่างเจ้าชายหลบมาพักในเกสต์เฮาส์ย่านถนนข้าวสาร เจ้าชายพยายามหาไกด์เพื่ออำนวยความสะดวกให้ทุกเรื่อง แต่ก็หาไม่ได้ง่ายๆเพราะข้อเสนอที่ต้องรับใช้ดูแลเจ้าชายทุกอย่างทำให้ไม่มีไกด์ที่ไหนยอมทำ วันหนึ่ง ในขณะที่เจ้าชายกำลังเดินเล่นในถนนข้าวสาร เจ้าชายโดนเด็กสาวคนหนึ่งขโมยกล้องถ่ายรูปของเจ้าชายไป แต่เผอิญว่า ขิง (วรกาญจน์โรจนวัชร) อยู่ในเหตุการณ์ จึงช่วยจับขโมยเอาไว้ให้พร้อมสั่งสอนให้เด็กสาวรู้สำนึกว่าอย่าทำอีกแต่กลายเป็นว่าเจ้าชายเข้าใจผิดคิดว่าขิงเป็นขโมยซะเอง ขิงจึงแก้แค้นเจ้าชายที่ตัวเองทำดีแล้วไม่ได้ดี ขิงกลับมาที่บ้านเช่านั่งปรับทุกข์เรื่องไม่มีงานทำกับ น้าตุ๊ก (ค่อม ชวนชื่น)น้าชายที่มีอาชีพขับรถตุ๊กตุ๊ก ขิงไม่มีเงินส่งให้ยายที่ต่างจังหวัดมาหลายเดือนแล้ว น้าตุ๊กแนะนำให้ไปสมัครเป็นไกด์ให้นักท่องเที่ยวคนหนึ่งเพราะทำงานให้แค่เดือนเดียวได้เงินตั้งพันนึง ขิงส่ายหน้าไม่พอใจกับเงินแค่พันเดียว น้าตุ๊กบอกว่าพันยูโร ขิงสนใจขึ้นมาทันที แต่เขารับเฉพาะไกด์ผู้ชายเท่านั้น ขิงจึงปลอมตัวมาในมาดชายหนุ่ม ขิงพาเจ้าชายไปลุยเที่ยวสถานที่ต่างๆแต่เจ้าชายเองก็ไม่ได้พอใจในการนำทางของไกด์จอมมั่ว ขิงเองก็หมั่นไส้ที่เจ้าชายทำตัวโอ่อ่าและใช้ตนอย่างกับข้าทาสขิงเลยพยายามตะล่อมเอาเงินจากกระเป๋าเจ้าชายทุกวิถีทาง โดยเตี๊ยมกับแม่ค้าให้หลอกเรียกเงินแพงๆหรือแอบโก่งเงินค่าราคาสินค้า ทางด้านผู้ติดตามก็ฉวยโอกาสที่ทุกคนคิดว่าตัวเองเป็นเจ้าชาย วางมาดโอ่อ่าจีบสาวไปทั่ว ทำให้ได้เจอกับแม่บ้านคนสวยคนหนึ่ง ผู้ติดตามไล่จีบแม่บ้านคนนั้นโดยหารู้ไม่ว่าเธอคือพัชรี (นิภาภรณ์ ฐิติธนการ) เหยี่ยวข่าวที่ต้องการหาสกู๊ปข่าวเด็ดเพื่อที่จะทำให้ทุกคนรู้ว่าเธอเป็นนักข่าวที่เก่งแค่ไหน พัชรีเลือกที่จะทำสกู๊ปเจ้าชายจากประเทศนิวแลนด์เป็นการแสดงฝีมือของเธอ จึงปลอมตัวมาเป็นแม่บ้านในโรงแรมเพื่อสืบหาข้อมูล คุณหญิงฉาดประภา (ภรผกา เสียงสมบุญ) รู้ว่ามีเจ้าชายจากต่างแดนมาเยือนถึงประเทศไทย ปฏิบัติการจับลูกสาวประเคนให้เจ้าชายเพื่อหวังเอี่ยวในราชวงศ์และสมบัติจึงเกิดขึ้นคุณหญิงฉาดประภาพาลูกติ๊งโหน่ง (พุทธชาติ พงศ์สุชาติ)มาเพื่อขอพบเจ้าชาย แต่ได้พบผู้ติดตามที่ตอนนี้อยู่ในมาดเจ้าชายแทน ลูกติ๊งโหน่งที่แต่งตัวจัดก็ตกหลุมรักผู้ติดตามทันที และพยายามสานสัมพันธ์กับผู้ติดตามทุกเมื่อที่มีโอกาส ซึ่งก็ไม่รอดพ้นสายตาเหยี่ยวข่าวอย่างพัชรีที่กำลังพยายามหาข้อมูลเจ้าชายเพื่อทำสกู๊ปผู้ติดตามได้รับโทรศัพท์ด่วนจากกษัตริย์ (ศุกล ศศิจุลกะ) พ่อของเจ้าชายว่าได้หาเจ้าหญิงเตรียมไว้ให้เจ้าชายแล้ว และกำชับให้ผู้ติดตามบอกเจ้าชายให้รีบกลับมา ผู้ติดตามรีบส่งข่าวให้เจ้าชายรู้ พอเจ้าชายรู้ว่ากำลังจะจับคลุมถุงชนก็ยิ่งรู้สึกไม่อยากกลับ ในคืนหนึ่ง ขณะที่เจ้าชายกำลังเดินเล่นอยู่กับขิงนั้น เจ้าชายได้เห็นเหตุการณ์การฆาตรกรรม ชรินทร์(ดิลก ทองวัฒนา),อำนาจ(วีระชัย หัตถ์โกวิท)และลูกน้องเห็นเจ้าชายกับขิงซึ่งเจ้าชายสะพายกล้องอยู่ ชรินทร์จึงให้อำนาจและลูกน้องตามไล่ฆ่าเจ้าชายกับขิง แต่เจ้าชายกับขิงหนีรอดออกมาได้เจ้าชายกับขิงรีบไปแจ้งตำรวจ แต่กลายเป็นว่าชรินทร์และลูกน้องก็นั่งวางมาดอยู่ในสถานีตำรวจแห่งนั้นแล้ว พอเจ้าชายเห็นตำรวจทำความเคารพชรินทร์ เจ้าชายก็เข้าใจได้ในทันทีว่าชรินทร์เป็นคนของคนใหญ่คนโตเหนือกฎหมาย ทางเดียวที่รอดไปได้คือต้องหนี ชรินทร์ยังแจ้งความจับเจ้าชายกับขิงเอาไว้ด้วยทั้งสองคนกลายเป็นผู้ต้องสงสัยร่วมกันในคดีฆาตรกรรม เจ้าชายได้ติดต่อไปยังผู้ติดตามเพื่อให้ช่วยสืบเสาะและหาทางพิสูจน์ว่าตนเองและขิงเป็นผู้บริสุทธิ์โดยมีหลักฐานแค่ชิ้นเดียวคือSD CARDที่มีรูปถ่ายของชรินทร์ อำนาจและลูกน้องเอาไว้ เจ้าชายกำชับผู้ติดตามว่าอย่าให้เรื่องนี้รู้ถึงทางราชวงศ์เพราะกลัวว่าจะไม่ได้ช่วยแค่เรื่องคดีความอย่างเดียว ยังจะถูกบังคับให้กลับประเทศเพื่อแต่งงานกับเจ้าหญิงขณะที่เจ้าชายและขิงหนีการไล่ล่าจากพวกของอำนาจจนต้องกระโดดรถไฟหนีลงไปในน้ำ พอขึ้นจากน้ำได้นั้น หมวกของขิงได้หลุดหายไปจนผมสยายพร้อมกับเสื้อผ้าของขิงเมื่อเปียกน้ำก็ทำให้เน้นทรวดทรงของขิงจนทำให้เจ้าชายรู้ว่าแท้ที่จริงแล้วขิงเป็นผู้หญิงและโกรธมากที่ขิงหลอกตนเองมาตลอด เจ้าชายไล่ขิงให้ออกไปจากชีวิตของเขา ขิงทวงเงินค่าจ้างเจ้าชาย แต่ในขณะที่บรรยากาศระหว่างเจ้าชายและขิงกำลังตึงเครียดอยู่นั้น พวกอำนาจก็ตามมาทัน ทำให้ทั้งสองต้องจับมือกระเตงกันหนีไปด้วยค่าจ้างหนึ่งพันยูโรที่ขิงต้องการจะได้จากเจ้าชาย ขิงจึงพาเจ้าชายไปอยู่ด้วยกันที่บ้านยายในจ.เพชรบุรี ยายขม (ทัศน์วรรณ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา) ยายของขิงกำลังเดือดร้อนเรื่องเงินเพราะกำลังจะโดน กำนัน (วัชระ ปานเอี่ยม)ยึดบ้านและที่ดิน กำนันมีลูกชายชื่อ แก้ว (ณัฐดนัย ชนิตร์วัฒน์) ซึ่งเป็นจิ๊กโก๋ประจำตำบลและหมายปองขิงอยู่ ขิงทวงค่าจ้างจากเจ้าชายเพื่อเอาไปใช้หนี้ แต่เจ้าชายไม่มีเงินให้เพราะทรัพย์สินทั้งหมดหล่นหายไปหมดในระหว่างโดนตามไล่ล่า ทั้งสองจึงต้องรับจ้างทำงานทุกอย่างเพื่อหาเงินมาให้ยายเจ้าชายให้ผู้ติดตามหาเบาะแสจากนักข่าว ผู้ติดตามจึงคิดจะไปขอความช่วยเหลือจากนักข่าวหญิงจากสถานีโทรทัศน์ชื่อดังที่ชื่อว่าพัชรี แต่พอผู้ติดตามเจอพัชรีเท่านั้นก็ตกใจเพราะรู้ว่าคือคนเดียวกับแม่บ้านที่มาคอยทำความสะอาดในห้องพักที่โรงแรมและเป็นคนเดียวกับที่เขาแอบรักพัชรีรู้ว่าผู้ติดตามไม่ใช่เจ้าชายแต่ก็ตกลงใจจะช่วยผู้ติดตามสืบข้อมูลและทำข่าวเปิดโปงของชรินทร์มาเฟียของเมืองไทยเพราะพัชรีเชื่อว่าสกู๊ปข่าวนี้จะทำให้เธอดังขึ้นมาได้พอๆกับสกู๊ปข่าวเจ้าชายจากประเทศนิวแลนด์ โดยมีข้อแม้ว่าถ้าเธอทำข่าวชรินทร์สำเร็จ เธอต้องได้สัมภาษณ์เจ้าชายอย่างเอ็กคลูซิฟคนเดียว ผู้ติดตามและพัชรีช่วยกันสืบหาเบาะแสก็ได้รู้ว่าชรินทร์แท้จริงเป็นผู้ค้าผู้หญิงรายใหญ่ เจ้าชายกำลังโดนตามตื้อจากนางเอกลิเกประจำคณะยายขมที่ชื่อ รุ้ง (สาวิตรี สุทธิชานนท์) ซึ่งเป็นคนฟุ้งเฟ้อเห่อของนอก รุ้งหวังว่าเจ้าชายจะพาตนเองไปอยู่เมืองนอกด้วย และเจ้าชายก็ยังต้องผจญกับไอ้แก้วที่อิจฉาเจ้าชายเพราะได้ใกล้ชิดกับขิงโดยพยายามหาทางกลั่นแกล้ง เมื่อคณะลิเกของยายขาดพระเอก เจ้าชายก็จับผลัดจับผลูกลายเป็นพระเอกลิเก แถมยังได้รับความนิยมเพราะความหล่อใสไร้เดียงสาและความน่าเอ็นดูในความเปิ่นเล่นผิดเล่นถูกของพระเอกลิเกที่อิมพอร์ตมาจากเมืองนอกจนกลายเป็นขวัญใจแม่ยก ถึงขนาดได้ไปเล่นในโรงแรมหรูของ จ.เพชรบุรีเลยทีเดียว ผู้ติดตามและพัชรีสืบจนรู้ว่าการฆาตรกรรมที่เจ้าชายและขิงเห็นนั้นเป็นการฆ่าปิดปากลูกน้องคนสนิทของชรินทร์ที่หักหลังกันเรื่องเงินที่ได้จากการค้าผู้หญิง ผู้ติดตามและพัชรีจึงรีบแจ้งให้เจ้าชายทราบที่บ้านของชรินทร์ ผู้ติดตามแอบเข้าไปสืบหาหลักฐานเพื่อยืนยันข้อมูลที่ได้มาแต่โดนจับไว้ได้ เมื่อชรินทร์และอำนาจรู้ว่าเจ้าชายคือผู้ติดตามปลอมตัวอยู่ ทุกคนต่างก็ช็อค อำนาจเอาปืนขู่ให้ผู้ติดตามโทรศัพท์บอกทางกษัตริย์ว่าเหตุการณ์ทั้งหมดยังเป็นปกติ สุดท้ายผู้ติดตามและพัชรีก็หาทางหนีไปได้ ความสัมพันธ์ของเจ้าชายกับขิงเริ่มพัฒนาจนกลายเป็นความรัก ขิงได้เห็นน้ำใจของเจ้าชายที่ช่วยดูแล เมื่อยายจะโดนยึดบ้านและที่ดิน กำนันกับไอ้แก้วยื่นข้อเสนอสุดท้ายคือต้องให้ขิงมาแต่งงานกับไอ้แก้ว แล้วหนี้สินทั้งหมดถือว่าหายกันไปแต่ในที่สุดเจ้าชายก็สามารถช่วยเหลือขิงและยังช่วยให้ยายได้ไถ่ถอนบ้านคืนด้วยโดยอาศัยความเป็นลิเกหน้าหยกของตน ออดอ้อนแม่ยก แก้วกับรุ้งวางแผนร่วมกันเพื่อแยกเจ้าชายกับขิงโดยไอ้แก้วจะไปหลอกเจ้าชายมาแล้วให้รุ้งรวบหัวรวบหาง แต่ทุกอย่างผิดแผน เจ้าชายไม่มาตามนัดจนกลายเป็นรุ้งรวบหัวรวบหางแก้วแทน หลังจากนั้นทั้งแก้วและรุ้ง เวลาเจอกันทีไรต้องเขินใส่กันทุก เบื้องหลังของชรินทร์กำลังจะปูดออกมา ชรินทร์จึงต้องตามมาฆ่าปิดปากเจ้าชาย ขิง ผู้ติดตามและพัชรีด้วยตัวเองเพราะมั่นใจในอิทธพลของตัวเองว่าจะสามารถเคลียร์ทุกอย่างได้ แต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้ต่ออิทธิพลที่ใหญ่กว่าจากกษัตริย์ที่รีบเสด็จฯมาตามเจ้าชาย ชรินทร์จึงต้องโดนจับเข้าไปชดใช้ความผิดในคุกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ด้าน ขิง เดินทางมาอยู่ที่ประเทศนิวแลนด์ กับเจ้าชาย แต่กษัตริย์ไม่ชอบที่ ขิง เป็นสาวสามัญชนไม่คู่ควรจึงให้ มาเรีย (ชนิสาร์ บังคมเนตร) เจ้าหญิงจากประเทศเพื่อนบ้านมาแต่งงานกับเจ้าชายโซว์ และ มาเรีย ก็วางแผนร้ายกลั่นแกล้ง ขิง สารพัด ทำให้ ขิง และเจ้าชายแตกคอกัน จนขิง หนีกลับมาเมืองไทย ไปทำงานอยู่ในรีสอร์ทของ ฟ้าคราม (กวี ตันจรารักษ์) แต่เจ้าชายโซว์ ก็ตามมาเจอและขอคืนดีกับ ขิง แต่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเจ้าชายโซว์ ถูกคนร้ายยิง และเมื่อตื่นขึ้นมาก็ความจำเสื่อม จำอะไรไม่ได้แม้แต่ ขิง สาวคนรัก และ ลัดดา ก็มาสวมรอย ว่าตนคืนคนรักของเจ้าชาย ขิง จึงจำเป็นต้องปลอมตัวเป็นผู้ชายอีกครั้ง เพื่อหาทางใกล้ชิดเจ้าชายโซว์ หวังพื้นความทรงจำของชายคนรักกลับคืนมาอีกครั้ง

แม่ผัวตะบันไฟ แม่ยายตะไลเพลิง 2554

แม่ผัวตะบันไฟ แม่ยายตะไลเพลิง (2554/2011) พลรบ (วิทยา วสุไกรไพศาล) หนุ่มนักเรียนนอก ต้องกลับมาทำธุรกิจของที่บ้านโดยไม่ได้ใช้ความรู้ความสามารถที่เรียนมาเพราะ นางศรีจันต์ (ดวงตา ตุงคมณี) มารดาทำธุรกิจน้ำพริก ในนาม "น้ำพริกแม่ศรีจันต์" ซี่งเป็นเจ้าใหญ่ของสุพรรณบุรี โดยมีน้ำพริกปลาร้าเป็นสินค้าขึ้นชื่อ มีคู่ปรับ คือ นางกิมกี (ญาณี จงวิสุทธิ์) เจ้าแม่ขนมไทย ฉายา "กิมกีกะหรี่ปั๊ป" มีกะหรี่ปั๊ปไส้ไก่พริกไทยดำ เป็นขนมสูตรเด็ดเลื่องชื่อเช่นกัน เมื่อทั้ง 2 มาพบกันมีอันต้องเกิดเรื่องวุ่นวายเพราะต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกัน ซึ่งสาเหตุมาจากอดีตทั้งคู่เคยเป็นเพื่อนรักกัน แต่ต้องมาแตกคอเพราะหลงรักพระเอกนักบู๊ชื่อ ราเชน (เกริก ชิลเลอร์) ที่ทั้งคู่แย่งชิงกันแต่สุดท้ายชายหนุ่มหายตัวไปทำให้ต่างโทษอีกฝ่ายเป็น สาเหตุทำให้ราเชนหนีหายไป จึงตัดเป็นตัดตายกลายเป็นคู่แข่งกันตั้งแต่นั้นมา คนที่ค่อยช่วยห้ามไม่ให้ทั้งคู่ทะเลาะกันเมื่อเจอหน้าก็หนีไม่พ้นบรรดาลูก และสามีอย่าง นายอุดร (มนตรี เจนอักษร) สามีของนางศรี และ เสี่ยสมบัติ (กฤตย์ อัทธเสรี) สามีของกิมกี และลูกสาวของนางกิมกี เหมยหลิน (ณปภา ตันตระกูล) ที่พลรบเมื่อได้พบเหมย ก็ตะลึงในความสวยที่เปลี่ยนไปจากอดีตจากเด็กอ้วนกะโปโล และเมื่อต้องค่อยรวมมือกันห้ามไม่ให้แม่ๆ ทะเลาะกันบ่อยเข้าทำให้ทั้งคู่ได้ใกล้ชิดกันจนกลายเป็นความรัก แต่ก็ต้องพบกับอุปสรรคใหญ่ คือ แม่ของพวกตนที่ไม่ยอมให้ทั้งคู่คบกัน แต่ทั้งคู่ก็ได้รับความช่วยเหลือจาก ไฉ (พิศาล ศรีมั่นคง) พี่ชายของเหมย และ ยกทัพ (ไซม่อน เคสเลอร์) น้องชายของพลรบ ร่วมถึงเพื่อนของเหมยอย่าง มะนาว (จีรนันท์ ปรีดากุล) ฝนแรก (วิมลลักษณ์ จงรัตนเสธีกุล) แต่เมื่อ กิมกี ก็บังคับเหมยแต่งงานกับ ครองธรรม (สุพจน์ จันทร์เจริญ) ลูกชายของผู้ดีเก่า ติดตามต่อได้ใน แม่ผัวตะบันไฟ แม่ยายตะไลเพลิง

เลดี้บ้านนา 2554

เลดี้บ้านนา (2554/2011) เรวดี หรือ ดีดี้ (สุนิสา เจทท์) สาวสวยไฮโซ ลูกสาวเศรษฐีที่ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายบนมรดกที่พ่อแม่ทิ้งไว้ ในระหว่างที่เธอกำลังมีความสุขอย่างที่สุดหลังจากได้ฉีกหน้าเพื่อนสาวไฮ โซกลางงานเดินแบบ ก็ได้ไปพบเห็นการฆาตกรรมเลขาของท่าน อำนาจ ผู้มีอิทธิพลชื่อดัง อำนาจจึงสั่งให้ ยศ (วีระชัย หัตถ์โกวิท) มือปืนข้างกายออกตามไล่ล่า เรวดีที่หนีเอาชีวิตรอดได้รับความช่วยเหลือจาก จรัญ (ณัฐนันท์ จันทรวิโรจน์) ตำรวจหนุ่มผู้ทำคดีนี้ แต่ต่อมาไม่นานพวกของอำนาจที่ได้เห็นเรวดีผ่านสื่อต่าง ๆ จึงรู้ได้ทันทีว่าเธอคือคนที่เห็นเหตุการณ์ฆาตกรรม ติดตามต่อได้ใน เลดี้บ้านนา

เจ้าสาวไร่ส้ม 2553

เจ้าสาวไร่ส้ม (2553/2010) การัณย์กรณ์ ลูกเจ้าของไร่ส้มต้องตกใจแทบล้มทั้งยืน เมื่อได้รู้ว่าข้อความในพินัยกรรม ซึ่ง นายศร ศรอภิวัฒน์ ได้ระบุไว้ว่า เขาจะได้ทรัพย์สิ้นทั้งหมดก็ต่อเมื่อจดทะเบียนสมรสกับ น.ส.ขวัญล่า ผู้จัดการไร่ส้มของพ่อเขา สาเหตุที่นายศร ต้องทำพินัยกรรมแบบนี้ เพราะความเหลวไหลของลูกชายตัวเองทั้งเล่นการพนันบอล จนเจ้าหนี้ตามล่าตัว ทำธุรกิจก็โดนโกงเอาแต่เที่ยวไปวัน ๆ นั้นเพราะยังมีแฝดพี่สาวสองคนชื่อ แสงดาว และ แสงเดือน ตามใจ แค่เพียงวันแรกที่ได้มาที่ไร่ การัณย์กรณ์ ก็รู้สึกเลยว่าเขาไม่สามารถที่จะแต่งงานกับสาวผิวคล้ำแถมหน้าตายังจืดชืดอย่างขวัญล่าได้เลย ส่วนขวัญล่าก็คิดว่าเธอสังเวชในตัวเขามากแม้หน้าตาเขาจะดีแต่กลับดูหยาบโย่ง ปากคอยังเราะร้า ในวันแรกที่ การัณย์กรณ์ มาที่ไร่ก็ถูกบังคับให้นอนที่บ้านริมบึง พอตื่นขึ้นมาก็รู้สึกหิวจึงเดินออกจากบ้านไปกินก๋วยเตี๋ยวแถวถนนใหญ่หน้าไร่ ด้วยความที่แดดร้อนกับทนหิวไม่ได้เขาจึงเป็นลมกลางทาง พอดีมีรถของ ปรวาตี ลูกเจ้าของสวนส้มข้าง ๆ กับ สกุลทิพย์ แม่ม่ายผัวฝรั่งเพิ่งหย่าขาดกัน ทั้งสองก็ได้ช่วยกันพาไปบ้านของ สกุลทิพย์ ระหว่างนั้นที่ไร่ส้มก็มีกลุ่มชายฉกรรณ์กลุ่มหนึ่งได้มารอทวงหนี้พนันบอล ขวัญล่าจึงตามหาตัว การัณย์กรณ์ จึงรู้ว่าเขาหายไปจึงชวน กิตติชนม์ นักวิชาการเกษตรที่ไร่ส้มของ ปารวาตี ออกช่วยตามหา จนมาเจอตัว การัณย์กรณ์ ที่บ้านของ สกุลทิพย์ วันต่อมาขวัญล่าได้ให้การัณย์กรณ์ เซ็นสัญญาว่าเขาจะเอาเงินที่ไร่ออกไปก่อนเพื่อใช้หนี้พนันบอลแต่ต้องแลกกับการเป็นลูกจ้างในไร่ ขวัญล่า เริ่มบังคับให้การัณย์กรณ์ ทำงานอย่างหนักแต่เขาก็ไม่ค่อยทำ ขวัญล่าจึงหงุดหงิด หมดหวังที่จะช่วยให้การัณย์กรณ์เปลี่ยนแปลงตังเอง โชคดีที่มี คมสันต์ เพื่อนของการัณย์กรณ์ ขอร้องให้ขวัญล่าอดทนละเห็นแก่คุณศร ขวัญล่าตั้งใจจะเริ่มต้นใหม่กับการัณย์กรณ์ แต่ก็มีอุปสรรคใหม่นั้นคือ แคทรีน่า ดารานางร้ายในละคร แฟนเก่าของ รัฐีย์ ที่ร่วมหุ้นกันเปิดผับ แคทรีน่า โกหกว่าเธอท้องแต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ โดย วรวีย์ ลูกสาวของป้าสายปิดเทอมกลับมาอยู่บ้านได้ล่วงรู้ความลับจึงออกมาเปิดโปรง ต่อมาการัณย์กรณ์ถูกเคี่ยวเข็ญให้ออกไปทำงานตัดหญ้าแต่เขาก็แอบไปงีบอยู่ดี ขวัญล่ามาเจอจึงต่อว่าเขาอย่างรุนแรงทั้งคู่จึงแก้เผ็ดกันไปมา โดยการัณย์กรณ์ได้ชวน ก่อลาภ หนีไปเล่นน้ำตกขวัญล่าเอาคืนโดยการแจ้งตำรวจให้มาจับการัณย์กรณ์ในฐานะขโมย ซึ่งขวัญล่าก็ปล่อยให้ การัณย์กรณ์นอนในห้องขังเป็นการสั่งสอน เวลาผ่านไปการัณย์กรณ์เริ่มเข้าใจและเริ่มมีความรู้สึกรักขวัญล่ามากขึ้น แม้เขาจะทำตัวแย่ขนาดไหนแต่เธอก็ยังเป็นห่วง โดยเฉพาะช่วงที่การัณย์กรณ์ป่วย แต่เมื่อพี่สาวฝาแฝดรู้ว่าน้องชายสุดที่รักป่วยก็บังคับให้การัณย์กรณ์ มารักษาตัวที่กรุงเทพฯ แต่ก่อนกลับเขาสัญญากับ ขวัญล่าว่าจะมาให้ทันเวลาเก็บส้ม เมื่อการัณย์กรณ์ หายป่วยก็กลับมาทันช่วงเก็บส้มพอดี ซึ่งครั้งนี้เขาเปลี่ยนเป็นคนละคน ขวัญล่าทึ่งในความเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้และกำลังเริ่มรู้สึกแปลก ๆ กับการัณย์กรณ์ แต่ไม่ทันไร ปารวาตี ตามมาตอแยหวังจะจับ การัณย์กรณ์ เป็นสามี หวังจะเอาเงินไปใช้หนี้แทนพ่อของเขา แต่การัณย์กรณ์ก็ไม่หลงกล เพราะในใจของเขามีเพียงขวัญล่าเท่านั้น แต่อุปสรรคของทั้งคู่ยังไม่หมด เมื่อ การัณย์กรณ์จำต้องกลับไปทำธุระที่กรุงเทพฯ สกุลทิพย์ ปรานี แม่ของปารวตี และแคท ต่างก็อิจฉาในตัวขวัญล่าอยู่แล้ว และสบโอกาสที่การัณย์กรณ์ไม่อยู่ วางแผนจ้างให้วัยรุ่นที่เคยมีเรื่องกับขวัญล่าตามมาทำร้ายขวัญล่า............. ขวัญล่า จะรอดพ้นอันตรายนี้ได้อย่างไร และเธอจะยอมเปิดใจให้กับการัณย์กรณ์หรือไม่ ต้องติดตามชม ละครเจ้าสาวไร่ส้ม ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 19.00 - 20.00น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3 ละครเจ้าสาวไร่ส้ม เริ่มตอนแรก จันทร์ที่ 12 ก.ค. 2553

เขยบ้านนอก 2553

เขยบ้านนอก (2553/2010) โฉมโสภา หรือ คุณหนู ลูกสาวคนเดียวของ รมต. สุพจน์ และคุณหญิงสิรี เพิ่งเดินทางกลับจากต่างประเทศ เธอเป็นสาวน้อยน่ารัก สดใสปราดเปรียว และมั่นใจในตนเอง ดังนั้น จึงมีหนุ่มมากมายมาติดพันเธอ แต่ในบรรดาหนุ่มๆ ทั้งหลาย "หัสดี" ถูกใจคุณหญิงสิรีมากที่สุด เพราะเขารูปหล่อและกิริยามารยาทเรียบร้อย คุณหญิงสิรีอยากจะให้หัสดี แต่งงานกับโฉมโสภา โดยได้นัดให้ทั้งคู่ได้รู้จักกันแต่ก็เกิดผิดพลาดขึ้น คุณหญิงสิรีจึงวางแผนใหม่ โดยให้ทั้งคู่ไปเจอกันที่ไร่ต่างจังหวัด การมาที่ไร่ของโฉมโสภาในครั้งนี้ ทำให้เธอได้เจอกับ "นวณ" ลูกชายผู้ใหญ่นาคและมีไร่ติดกับไร่ของคุณหญิงสิรี โฉมโสภาตั้งใจจะให้ นวณเป็นพระเอกในนวนิยายที่ตัวเองกำลังเขียนอยู่โดยที่นวณไม่รู้ตัว โฉมโสภาจึงพยายามเข้าไปใกล้ชิด นวณ เพื่อเก็บข้อมูลรายละเอียดจนทำให้ทั้งคู่สนิทสนมกันขึ้นเรื่อยๆ ท่ามกลางความไม่พอใจของ คุณหญิงสิรีจึงคิดที่จะพาโฉมโสภากลับกรุงเทพ ก่อนกลับโฉมไปเที่ยวกับนวณ พอดีเกิดพายุฝนและ ใกล้พลบค่ำแล้วทั้งสองยังไม่กลับ ทำให้ทุกคนเป็นห่วงและออกตามหา จนกระทั่งพบทั้งคู่นอนกอดกัน อยู่ในโรงนา ผู้ใหญ่เกรงว่านวณจะถูกท่านรมต.สุพจน์ ทำร้าย จึงลงมือซ้อมนวณด้วยตนเอง โฉมโสภา เข้าปกป้องและบอกเธอตามนวณมาเอง นวณจึงขอรับผิดชอบทุกอย่าง โดยยินดีจะแต่งงานกับ โฉมโสภา เพื่อไม่ให้เธอเสียชื่อเสียงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คุณหญิงสิรีด่าว่านวณอย่างรุนแรงจน โฉมโสภาทนไม่ไหว และพูดว่าจะแต่งงานกับนวณ คุณหญิงสิรีโกรธมากประกาศตัดแม่ตัดลูกกับ ลูกสาวและกลับบ้านทันที ก่อนที่จะแต่งงานกันโฉมโสภาขอร้องนวณว่าขอให้การแต่งงานครั้งนี้เป็น เพียงในนามเท่านั้นเพราะทั้งคู่ยังไม่รู้จักกันมากพอและไม่ได้รักกันด้วย หลังจากการแต่งงาน คุณหญิง สิรีก็ออกอุบายโดยให้คนมาส่งข่าวกับโฉมโสภาว่าป่วยหนัก นวณและโฉมโสภาเข้ากรุงเทพเพื่อเยี่ยม คุณหญิง คุณหญิงขอให้โฉมโสภาอยู่พยาบาลก่อนจนกว่าจะหาย นวณเห็นคุณหญิงสิรีไม่ได้เป็นอะไร นอกจากใช้มารยา จึงเริ่มออกฤทธิ์ทำตัวขวางหูขวางตาคุณหญิงสิรีด้วยการแต่งตัวและทำท่าทางอย่าง บ้านนอกเต็มที่ ทำให้คุณหญิงอับอาย และขายหน้าอยู่เสมอๆ จึงคิดหาทางแยกลูกสาวกับลูกเขยออก จากกันโดยการชักนำหนุ่มๆ ทั้งหลายเข้ามา ทำให้นวณและโฉมโสภามีเรื่องขัดใจกันอยู่เรื่อยๆ แต่ด้วย ความใกล้ชิดกันทำให้ทั้งคู่เป็นของกันและกัน เมื่อโฉมโสภารู้ว่าตัวเองตั้งครรภ์จึงบอกนวณและชวน นวณไปเช่าบ้านอยู่ตามลำพัง แต่แล้วทั้งคู่ก็ต้องผิดใจกันเมื่อแม่วันร่วมมือกับคุณหญิงใส่ไฟนวณเรื่อง ทรงสม ทำให้โฉมโสภาโกรธคิดว่านวณปันใจจึงย้ายกลับไปอยู่บ้านแม่จนกระทั่งคลอด นวณมาเยี่ยม แต่โดนคุณหญิงกีดกัน วันหนึ่งท่านรัฐมนตรีสุพจน์ได้ไปเป็น ประธานในพิธีมอบรางวัลผลงานวิจัย เกษตรธรรมชาติดีเด่น ก็ต้องตกตะลึงเมื่อพบว่าผู้ได้รับรางวัลคือ นายคำนวณ เหล่าพนา ข้าราชการ กระทรวงเกษตรฯ ระดับ 6 ผู้ซึ่งเป็นลูกเขยของตน ความเศร้าหมองของโฉมโสภาทำให้แม่วรรณทนไม่ได้ ยอมสารภาพความจริง โฉมโสภาจึงตามนวณไปที่บ้านไร่ เพื่อปรับความเข้าใจกับนวณและนวณก็ทำให้ คุณหญิงยอมรับเขยบ้านนอกคนนี้ในที่สุด.................

วัยป่วน ก๊วนล่าฝัน 2553

เรื่องย่อ : วัยป่วน ก๊วนล่าฝัน (2553/2010) จู่ๆ ฟ้าผ่าเปรี้ยง!!! โรงเรียนเอกชนที่ทำงานมาเกือบ 10 ปี โดนพิษเศรษฐกิจเล่นงาน ถึงขั้นปิดกิจการกระทันหัน คุณครูพ่อม่ายลูกติดอย่าง เจริญ (ปกาศิต โบสุวรรณ) ถูกลอย แพ ตกงานแบบไม่ทันตั้งตัว มึนตึ๊บ ไปไม่เป็น จะหางานใหม่ทำก็แสนยากเย็น สุดท้ายไร้ทางออก ตัดสินใจหันมาพึ่งตัวเอง ใช้เงินชดเชยที่ได้รับกับทุนส่วนตัวที่มี กับความสามารถทางการทำอาหาร อาศัยบ้านเช่าที่ค่อนข้างจะมีบริเวณ ลงทุนปรับเปลี่ยนและเปิดกิจการเป็นร้านอาหารชื่อ “บ้านอิ่มฝัน” ไม่เพียงเจริญที่ต้องปรับตัวเปลี่ยนสถานะจากครูมาทำธุรกิจ น้อยหน่า (เฟิร์น - พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์) ลูกสาวคนเดียวของเขา ก็อยู่ในช่วงปรับตัวเช่นกัน เธอเพิ่งจบ ม.6 ต้องทิ้งชุดนักเรียนมาใส่เครื่องแบบนักศึกษา เป็นเฟรชชี่ปี 1 คณะนิเทศน์ศาสตร์ จากเด็กหญิงแก่นเซี้ยวเริ่มเป็นสาวน้อย เริ่มมีหนุ่มๆ ตามรุมจีบ

เปรี้ยวตลาดแตก 2553

เรื่องย่อ : เปรี้ยวตลาดแตก (2553/2010) อีเปรี้ยวตลาดแตก สมญานี้ ชาวบ้านอำเภอปลายดง พร้อมใจกันตั้งให้ เปรี้ยว (ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์) สาวแก่นเก่ง และแกร่งกล้า ที่แม้แต่ชายอกสามศอกยังต้องสยบให้กับความห้าวของเธอ แต่ก็เหมือนสวรรค์แกล้ง ส่งคู่ปรับหมายเลขหนึ่ง อย่างร้อยตำรวจเอก เชียรฉาย ชนานนท์ (เขตต์ ฐานทัพ) มาเป็นสารวัตรประจำสภอ. ปลายดง แต่สารวัตรเชียรฉาย กับเปรี้ยวก็เป็นไม้เบื่อไม้เมากันตั้งแต่แรกเจอ เพราะเปรี้ยวดันไปออกฤทธิ์กับเชียรฉาย โดยไม่รู้ว่ากำลังต่อกรอยู่กับสารวัตรคนใหม่ จนทั้งคู่พบหน้ากันเมื่อไร ต้องปะทะกันตลอด แม้ว่าจะมี อาสำอาง (พิมพรรณ ชลายนคุปต์) ที่เลี้ยงเปรี้ยวมาแต่แบเบาะคอยห้ามปราม แต่ลับหลังอาสำอาง เปรี้ยวต้องหาทางแกล้งเชียรฉายอย่างเจ็บแสบ ที่เปรี้ยวแก่น กร้าวเกินหญิงได้ขนาดนี้ คงจะมาจากการอบรมเลี้ยงดูของ พ่ออวน (เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์) ที่หอบลูกและพาน้องสำอางหลบหนีจากกรุงเทพฯ มากบดานอยู่ในอำเภอปลายดงตั้งแต่ เปรี้ยวยังแบเบาะ อวนไม่คบค้าสมาคมกับใคร แถมยังสอนหนังสือเปรี้ยวด้วยตัวเอง ไม่ยอมให้เปรี้ยวไปโรงเรียน ไม่ให้สังคมกับใคร ทำให้เปรี้ยวมีความหวาดระแวง และโหยหาความรักจากแม่ แต่การทำงานของสารวัตรเชียรฉาย ก็มีอุปสรรคจากผู้ทรงอิทธิพลตัวบ่อนทำลายท้องถิ่นอันดับหนึ่งคือกำนันสาย (โกวิท วัฒนกุล) เจ้าพ่อไม้เถื่อนจอมโหดและ เสี่ยเส็งศักดิ์ (พิพัฒน์พล โกมารทัต) เจ้าของโรงสี โรงเลื่อย นายทุนหน้าเลือดที่ผูกขาดธุรกิจเกือบทั้งอำเภอ ทั้งสองเริ่มต้นแผนด้วยการให้ของกำนัลแพง ๆ แต่เสี่ยเส็งมีแผนลึกซึ้งถึงขั้นจับคู่ให้กับ สิริยา (อภิษฎา เครือคงคา) ลูกสาวคนโปรดที่เพิ่งเรียนแฟชั่นดีไซน์จบมาจากฝรั่งเศส สิริยาเองก็เต็มใจนำเสนอ แต่กลับถูกเชียรฉายปฏิเสธ แต่ความสนิทสนมของเขากับสำอาง ยังทำให้ แสน (ณภัทร ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา) ลูกชายกำนันสายที่ทั้งหึง ทั้งแค้น เพราะแสนตามจีบสำอางมานาน แต่สำอางไม่เคยมีใจให้ รายต่อมาคือเปรี้ยว ที่ไม่อยากให้อาคบกับศัตรูของเธอ จึงหันหน้ามาปรองดองกันชั่วคราว เพื่อกำจัดเชียรฉายไปให้พ้นหน้าอีกรายหนึ่งที่แอบเสียใจคือ หมู่ปลิว (รวิช ไรวินทร์) ตำรวจม่ายเมียทิ้ง ที่หวังจะได้สำอางมาเป็นยารักษาแผลใจ แต่เมื่อโดนสารวัตรเชียรฉายที่หมู่ปลิวนับถือมาตัดหน้า ก็เลยได้แต่น้ำตาตกใน ต่อมาเปรี้ยวหาทางซ่อมสะพานข้ามช่องเขาขาด เส้นทางเก่าแก่ที่ชาวอำเภอปลายดงใช้ติดต่อกับโลกภายนอก ที่กำลังชำรุดทรุดโทรมด้วยตัวเอง โดยติดสินบนแสนว่า ถ้าแสนแอบเอาไม้ของกำนันสายมาให้ซ่อมสะพานได้ เปรี้ยวจะเปิดทางสะดวกให้แสนได้ใกล้ชิดกับสำอาง แสนตกลงทันที โดยที่ไม่รู้ว่าทั้งหมดอยู่ในสายตาของเชียรฉาย จนมาถึงกำหนดส่งมอบไม้เถื่อน ในวันทอดกฐินจากคณะของกรุงเทพฯ เชียรฉายเข้าจับกุมเปรี้ยวไว้ได้พร้อมหลักฐาน ขณะกำลังชุลมุนวุ่นวายอยู่นั้น เปี๊ยกกระโดดหนีลงมาทับหมู่ปลิวจนปืนในมือเกิดลั่นขึ้น ทำให้คนขับตกใจเสียงปืนจนรถแฉลบพลิกคว่ำ เชียรฉายกับหมู่ปลิวต้องรีบเข้าไปช่วยเหลือ เปรี้ยวที่กำลังโดนคุมตัวก็กลับร่วมเสี่ยงตายพร้อมเชียรฉาย เข้าช่วย ชีวิตทุกคนบนรถออกมาได้อย่างหวุดหวิด ท่านอธิบดีอังศุธร (ตฤณ เศรษฐโชค) กับคุณทิพย์จันทร์ (มัณฑนา หิมะทองคำ) ภรรยา และบุตรสาวทั้งสองคือ แพทย์หญิงแขฉวี (อธิชนัน ศรีเสวก) กับไขลดา (ปาลิตา โกศลศักดิ์) ที่รอดชีวิตมาได้รู้สึกขอบคุณและซาบซึ้งในน้ำใจของสารวัตรเชียรฉายกับเปรี้ยวเป็นอย่างมาก แต่คืนนั้น ท่านอธิบดี กับภรรยาและลูกจำเป็นต้องค้างที่วัดเพราะรถเสียหาย ไขลดามีนิสัยเอาแต่ใจตัวเอง รู้สึกหงุดหงิด ตลอด แต่แขฉวีกลับหลงรักทุกอย่าง เชียรฉายพูดคุยกับแขฉวีอย่างถูกคอ ทั้งสองสนิทกันอย่างรวดเร็ว เมื่อถึงเวลาที่จากกัน เชียรฉายก็ชักมั่นใจว่าแขฉวีคือผู้หญิงแบบที่เขาตามหามานานแสนนาน พร้อมชวนให้แขฉวีสมัครมาเป็นแพทย์ประจำอนามัยอำเภอ ชาวบ้านต่างพากันดีใจให้การต้อนรับแพทย์หญิงคนใหม่ เปรี้ยวเองเข้ากับหมอแขได้เป็นอย่างดี เปรี้ยวดีใจที่มีหมอมาประจำอำเภอ หมอแขรู้สึกผูกพันเอ็นดูเปรี้ยวเหมือนน้องสาว เชียรฉายขอให้หมอช่วยอบรมเปรี้ยวให้เป็นผู้หญิงเรียบร้อยขึ้นบ้าง ซึ่งตั้งแต่หมอมาอยู่ เชียรฉายดูกระตือรือร้นขึ้น จนชาวบ้านลือกันว่าคงจะมีข่าวดีระหว่างสารวัตรกับคุณหมอในไม่ช้า แต่ทั้งเชียรฉายและเปรี้ยวกลับเริ่มมาคิดทบทวนความรู้สึกตัวเองกันอีกครั้ง กระทั่งวันหนึ่งเปรี้ยวช่วยพ่อเก็บหน่อไม้อยู่ในป่า พบกำนันสายและเสี่ยเส็งศักดิ์กำลังร่วมมือกันตัดไม้ทำลายป่า เปรี้ยวโกรธแค้นต้องจัดการให้ได้ เปรี้ยวเลยสั่งเปี๊ยกไปเอากล้องและซื้อฟิล์มมา หมอแขฉวีมาตามเปรี้ยวถึงบ้านด้วยความเป็นห่วง แต่เปรี้ยวไม่อยู่ จึงได้มีโอกาสได้พูดคุยกับสำอาง และต่างก็พูดคุยกันถูกคอ จนเมื่ออวนรู้ว่าพ่อแม่ของหมอแขฉวีชื่อ อธิบดีอังศุธร และคุณทิพย์จันทร์ ทั้งอวนและสำอางต่างตกตะลึง อวนบอกให้หมอแขฉวีกลับไป หมอแอบสงสัยคิดว่าอวนรู้จักพ่อแม่ตนในใจ แต่อวน ปฎิเสธและออกปากไล่ จนเชียรฉายมารับหมอกลับบ้าน คุณทิพย์จันทร์เฝ้านึกถึงแววตาของเปรี้ยวอยู่ตลอดเวลา จนเธอชวนสามีและไขลดา ไปอำเภอปลายดงอีกครั้งอ้างว่าไปเยี่ยมแขฉวี ต่อมาเชียรฉายได้รับซองเอกเป็นรูปคนกำลังตัดไม้ พอจะประมวลได้ว่ามีการตัดไม้ทำลายป่าเกิดขึ้น เชียรฉายมาปรึกษาหมู่ปลิว และคิดว่ารูปนี้อาจเป็นฝีมือของเปรี้ยว แต่เชียรฉายไม่เชื่อว่าเปรี้ยวจะทำสิ่งดี ๆ แบบนี้ เปรี้ยวโมโหที่ได้ยินประโยคนี้ จนไม่ยอมพบหน้าเขาหลายวัน แต่หมู่ปลิวบอกว่าสารวัตรยังรู้จักเปรี้ยวน้อยเกินไป ถึงภายนอกจะดูร้าย แต่เปรี้ยวรักปลายดงมาก ส่วนหมอแขฉวีช่วยง้อและอธิบายเหตุผลจนเปรี้ยวเข้าใจ จึงขอให้เปรี้ยวช่วยพาไปรับพ่อแม่ที่สถานีรถไฟ ท่านอธิบดีและภรรยาแสดงความเอ็นดูเปรี้ยว จนเปรี้ยวรู้สึกอบอุ่นผูกพันกับครอบครัวของหมอแขฉวีอย่างที่ไม่เคยรู้สึกกับใครมาก่อน ในขณะที่ไขลดาหงุดหงิดไม่พอใจไปเสียทุกอย่าง เมื่อคุณทิพย์จันทร์ รู้ว่าเปรี้ยวเป็นลูกของอวน จึงแวะมาหาที่บ้าน แต่อวนไม่ยอมคุยและไล่ทิพย์จันทร์กลับไป จนสำอางขอให้อวนพูดความจริงและทำสิ่งที่ถูกต้อง แต่อวนไม่ยอม ต่อมาคุณทิพย์จันทร์หาโอกาสปรึกษากับท่านอธิบดีเรื่องเปรี้ยว ท่านอธิบดีร้อนรนจะชิงเอาตัวเปรี้ยวกลับมาให้ได้ ทิพย์จันทร์ห้ามว่าอย่าเพิ่งใช้ความรุนแรง และต้องทำความเข้าใจกับแขฉวี ไขลดา ให้รับความจริงว่าไม่ใช่ลูกแท้ ๆ แต่หมอแขฉวีมาแอบได้ยินเข้า เธอจึงบอกความจริงกับพ่อแม่ว่าได้ยินทุกอย่าง และรู้มานานแล้ว แต่ปัญหาคือ กลัวไขลดาจะรับไม่ได้ และที่สำคัญคือ จะต้องหาวิธีให้นายอวนคืนเปรี้ยวมาให้พ่อแม่โดยเร็ว หมอแขฉวีไปเจรจาขอร้องให้อวนคืนเปรี้ยวให้พ่อแม่ แต่อวนไม่ยอม สำอางจึงเล่าเรื่องในอดีตให้แขฉวีฟังจนหมดว่า อวนหลงรักคุณทิพย์จนคลั่ง เมื่อคุณทิพย์แต่งงานมีลูก จึงไปขโมยตัวเด็กคือ เปรี้ยวออกมาเพื่อแก้แค้น ทั้ง ๆ ที่คุณทิพย์ไม่รู้เรื่องด้วยเลย สำอางต้องยอมตามมาอยู่ที่ปลายดงเพราะสงสารเปรี้ยว กลัวอวนจะเลี้ยงไม่รอด แขฉวีจึงวางแผนปรึกษาเชียรฉาย เพื่อเอาตัวเปรี้ยวกลับไป ที่แค้มป์คนงานตัดไม้กลางป่า เปรี้ยวถูกเชียรฉายส่งไปดึงดูดความสนใจคนงานเพื่อถ่วงเวลา ให้กำลังตำรวจบุกโอบล้อมเข้าไปทุกด้าน เปรี้ยวถ่วงเวลาไป รอตำรวจบุกไปจนเกือบจะโดนคนงานบุกเข้ารุมทึ้ง เชียรฉายถึงสั่งบุกเหมือนจะถ่วงเวลาแกล้งกัน ในที่สุด ตำรวจจับกุมคนงานลักลอบตัดไม้ได้เกือบยกแก๊ง แต่คนที่หนีไปได้ คือกำนันสาย และเสี่ยเส็งศักดิ์ หัวโจกตัวร้ายที่สุด คืนนั้น เปรี้ยวเข้ามาได้ยินสำอางคุยกับอวนขอให้ส่งตัวเปรี้ยวคืนกับพ่แม่แท้ ๆ แต่อวนกับสำอางไม่ตอบเปรี้ยววิ่งหนีออกไปจากบ้าน ส่วนกำนันสาย เสี่ยเส็งศักดิ์ และสิริยาหนีมาหลบซ่อนที่เซฟเฮาส์แห่งหนึ่ง และหวังจะจัดการกับเปรี้ยว เท่านั้นไม่พอยังคิดจะลักพาตัวแขฉวีเพื่อเป็นเครื่องมือต่อรองด้วยซึ่งเมื่อแขฉวี ถูกลากตัวไปขังไว้ที่กระท่อมท้ายไร่ แต่โชคยังดีที่เปรี้ยวชิงตัวหมอออกมาได้ แต่เมื่อกลับมาบ้าน ก็ถูกสารวัตรเชียรฉายที่ยังไม่ทันได้ชี้แจงอะไร ต่อว่าเปรี้ยวอย่างรุนแรง ที่ออกมาเที่ยวนอกบ้าน ทั้จนเปรี้ยวงอนหนีไป แต่ไขลดากลับหายไปอีกคน ไขลาดถูกพวกของเสี่ยเส็งศักคิ์กับสิริยาคุกคาม ต่อรองให้เชียรฉาย และแขฉวี ทำตามที่ขบวนการค้าไม้เถื่อนต้องการ เชียรฉายวางแผนบุกชิงตัวประกัน แต่ต้องอาศัยเปรี้ยว จึงต้องตามไปง้อขอร้องให้เปรี้ยวช่วย ที่บ้านกำนัน แสนปรึกษากับเปรี้ยวว่าจะล่อให้ลูกน้องกำนันดื่มน้ำผสมยานอนหลับ แล้วให้เปรี้ยวเข้าไปช่วยตัวประกัน ที่เขาช่วยเปรี้ยวเพราะไม่อยากให้พ่อทำผิดมากไปกว่านี้ เปรี้ยวรับปากว่าจะช่วยเชียร์แสนขาดใจ ทั้งคู่จัดการตามแผน เปรี้ยวเข้าไปช่วยไขลดาออกมา แต่เจอกำนันขวางทางและโดนกำนันยิงที่ขา เปรี้ยวดึงให้ไขลดาวิ่งหนีไปทั้งที่ตัวเองถูกยิง จนมาประจันหน้ากับเสี่ยเส็งศักดิ์และสิริยา เปรี้ยวเอาตัวเองบังไขลดา สิริยายุเตี่ยให้ยิงทั้งคู่ ก่อนที่ปืนจะลั่น อวนกระโดดเข้ารับกระสุนแทนตน ก่อนเปรี้ยวจะหมดสติไป... เปรี้ยวฟื้นขึ้นมาในอ้อมอกของคุณทิพย์ สำอางบอกเปรี้ยวว่านี่คือแม่แท้ ๆ ของเปรี้ยว เปรี้ยวถามถึงพ่อ แต่อวนได้ทำหน้าที่ครั้งสุดท้ายของพ่อไปแล้ว เปรี้ยวเสียใจมาก ที่สถานีรถไฟ สารวัตรเชียรฉาย มาส่งเปรี้ยว พร้อมชาวบ้าน จนรถไฟใกล้จะออก เชียรฉายจึงรวบรวมกำลังใจเข้าไปจับมือบอกเปรี้ยวว่า ให้กลับมาเร็ว ๆ เพราะที่นี่ (แตะที่หัวใจ) คือเขตสัมปทานของไอ้เปรี้ยวแต่เพียงผู้เดียว กระทั่งหลายเดือนต่อมา สารวัตรเชียรฉายมองสำรวจรอบตลาด ชาวบ้านรีบเร่งปิดร้านหนีอะไรบางอย่าง พ่อแม่รีบดึงลูกเข้าบ้าน ไม่กี่วินาทีตลาดก็เงียบสงัด เชียรฉายรำพึงกับตัวเองว่า อีเปรี้ยวตลาดแตก เสียงเปรี้ยวรับคำดังมาจากข้างหลัง เชียรฉายหันกลับไปเห็นสาวน้อยน่ารักในชุดกระโปรงสวยเก๋สมตัว เชียรฉายตะลึงมองแล้วเดินเข้าไปโอบกอดไว้อย่างหวงแหน เจ้าของสัมปทานหัวใจแต่เพียงผู้เดียวของเขากลับมาแล้ว ชาวบ้านที่หลบอยู่ออกมาไชโยโห่ร้อง ต้อนรับเปรี้ยวกันอย่างครึกครื้น สมกับเป็นการกลับมาของอีเปรี้ยวตลาดแตกที่รักของทุกคน.... ติดตามชม ละครเปรี้ยวตลาดแตก ได้ทางช่อง 7 สี ทุกวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 18.45 – 19.45 น. ละครเปรี้ยวตลาดแตก เริ่มตอนแรก ศุกร์ที่ 25 มิ.ย. 2553

มนต์รักบ้านทุ่ง (2552/2009) เรื่องราวความรักยุ่งๆของอากำนันขาสุดหล่อแห่งบ้านทุ่ง นามว่า ‘ฮันกยอง’ กับน้องนางเมืองกรุง นามว่า ‘ฮยอกแจ’ ที่ย้ายถิ่นฐานกลับมายังบ้านเกิดของแม่ขาสุดสวย(ฮีชอล) และพ่อขาสุดหล่อ(ชีวอน) ชีวิตที่แสนสงบสุขของอากำนันขากลับต้องวุ่นวายตั้งแต่วันแรกที่น้องนางคนงาม เข้ามาในชีวิต กับสารพัดวิธีพิชิตใจอากำนันขาที่น้องนางงัดขึ้นมาใช้แบบไม่รู้จบ พร้อมด้วยเหล่าตัวละครมากมายที่พร้อมจะมาสร้างสีสันให้บ้านทุ่งต้องสะดุ้ง สะเทือน ความรักของน้องนางคนงามกับอากำนันขาสุดหล่อจะสมหวังหรือต้องผ่าฟันปัญหามากแค่ไหน ติดตามได้ใน ‘มนต์รักบ้านทุ่ง’

วีรบุรุษทุ่งดินดำ (2552/2009) “วีรบุรุษทุ่งดินดำ” ละครน้ำดีสร้างสรรค์สังคมแห่งค่าย “ทีวี ธันเดอร์” เขียนบทประพันธ์และบทโทรทัศน์โดย เสือคาบดาบ นำทีมแสดงโดย อัษฎาวุธ เหลืองสุนทร, ภัครมัย โปตระนันท์, วรุฒ วรธรรม, สุพจน์ จันทร์เจริญ, เจมี่ บูเฮอร์ และดาราสมทบอีกคับคั่ง เป็นเรื่องราวของ แผ่นดิน หนุ่มแก๊งสิบแปดมงกุฎที่หนีมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ในจังหวัดอันห่างไกล โดยสวมรอยเป็นตะวันนักวิชาการการเกษตรหนุ่ม ที่จะไปประจำการที่ทุ่งดินดำ ซึ่งตะวันได้เสียชีวิตระหว่างเดินทางมา เวลาผ่านไปแผ่นดินเริ่มผูกพันกับทุ่งดินดำและกระต่าย ลูกสาวผู้ใหญ่บ้าน ทั้งคู่เป็นคู่ปรับที่แอบมีความรู้สึกดีๆ ให้กัน เรื่องราววุ่นๆของการพัฒนาท้องทุ่งที่แห้งแล้ง และนายทุนน่าเลือดที่เข้ามาพัวพันจะดำเนินไปอย่างไร ติดตามชม “วีรบุรุษทุ่งดินดำ”

เจ้าพ่อจำเป็นกับเจ้าหนูนินจา 2552

เจ้าพ่อจำเป็นกับเจ้าหนูนินจา (2552/2009) อดีต...ความบอบช้ำที่คิดว่าถูกลบเลือนด้วยกาลเวลา กลับตามมาหลอกหลอนชายที่มีความเป็นลูกผู้ชายอย่าง เผด็จ อีกครั้ง เผด็จ...อดีตหนุ่มนักเลงตัวจริง นักเลงคนยากแต่หัวใจยิ่งใหญ่เกินตัว มือที่เปื้อนเลือดมือที่จับปืน วันนี้กลับมาเป็นมือที่เปื้อนน้ำมันเครื่อง..จับเครื่องมือช่างในอู่ซ่อมรถเล็กๆ ที่เขาภาคภูมิใจเหลือล้น หลังจากบ้านของเผด็จถูกลอบวางเพลิง เขาต้องสูญเสียผู้เป็นพ่อ แต่ก่อนพ่อจะสิ้นใจเขาสัญญากับผู้เป็นพ่อว่า จะล้างมือจากวงการนักเลงอย่างสิ้นเชิง เผด็จลบอดีตหอบหิ้ว เดือน ผู้เป็นแม่ เพียงชล น้องสาว และ สิทธิ์ กับ พงศ์ ลูกน้องคนสนิท มาเปิดอู่ที่ค่อยๆ ก่อร่างสร้างตัว จนมีฐานะมั่นคง มีบ้านหลังเล็กๆ อันอบอุ่น จนคิดว่าอดีตที่เป็นเหมือนเงามืดของชีวิตจะไม่มีวันมาสร้างความหม่นหมองให้กับเขาอีกต่อไปแล้ว... จนกระทั้งวันหนึ่งที่เขาได้ช่วยชีวิตเด็กชายชื่อ นินจา ไว้จากอุบัติเหตุ...นินจารู้สึกประทับใจในตัวเผด็จทันที ยกให้เผด็จเป็นฮีโร่ แต่คงไม่ใช่กับ วรดา ผู้เป็นน้าสาวของนินจาแน่ๆ วรดาเป็นลูกสาวคนสุดท้องของ วีระ อดีตเจ้าพ่อของวงการรถทัวร์ ที่บัดนี้ชราภาพมากแล้ว ต้องให้ลูกเข้ามาช่วยดูแลกิจการ โดยมี นุวัตร ลูกคนโตเป็นหัวเรือใหญ่และมีวรดาคอยช่วยอีกแรง วรดามีหน้าที่เป็นคนคอยดูแล นินจา หลานชายที่จู่ๆ ก็โผล่เข้ามาในชีวิต นินจาบินเดี่ยวมาจากอเมริกา พร้อมจดหมายของ พัชรดา พี่สาวแท้ๆ ของวรดา พัชรดาเนรเทศตัวเองออกจากบ้านไปอยู่ต่างประเทศ พัชรดาต้องการแต่งงานใหม่กับฝรั่งต่างชาติ ส่วนนินจาลูกชายหัวแก้วหัวแหวน ต้องการกลับมาเมืองไทยเพื่อตามหา...พ่อ พัชรดาฝากจดหมายสั้นๆ เพียงว่า พ่อของนินจาเคยเป็นอดีตนังเลงใจกล้า เปิดอู่ซ่อมรถอยู่ชื่อ เผด็จมอเตอร์ ทุกคนในบ้านรู้ดีว่าเผด็จเป็นนักเลงหนุ่ม เคยช่วยชีวิตพัชรดา จนเธอเกิดหลงรักเผด็จหัวปักหัวปำ ถึงขั้นถอนหมั้นกับ อรรถภาค เจ้าพ่อรถทัวร์รุ่นใหม่ อรรถภาคโกรธมากที่ถูกไอ้หนุ่มนักเลงขโมยคนรักไป อรรถภาคตามจองล้างจองพลาญเผด็จไม่ลดละ พร้อมฉวยโอกาสรวบหัวรวบหางพัชรดาเป็นของตน แต่พัชรดาใจแข็งเกิดคาด เธอเดินทางไปต่างประเทศทันที และไม่ติดต่อใครเลยเป็นเวลาหลายปี จนกระทั่งส่งนินจากลับมา... นินจาเข้าไปอยู่บ้านหลังใหญ่โตของคุณตาวีระ แต่ไม่ค่อยจะมีความสุขนักเพราะต้องต่อกรกับ กานนท์ ลูกชายของ นุวัตร และ อรทัย โดยมีอรทัย คอยถือหางลูกชายคนโปรด เพราะไม่ชอบนินจาที่มาอยู่ร่วมกัน จึงกลั่นแกล้งตลอดเวลา นินจา แอบหนีออกจากบ้านเพื่อไปตามหาพ่อด้วยตัวเอง จนกระทั่งพบ อู่เผด็จมอเตอร์ นินจาได้พบกับเผด็จอีกครั้ง และได้รู้ว่าเผด็จคือคนที่แม่พูดถึง ความคิดที่ว่าเผด็จเป็นพ่อบวกกับเป็นฮีโร่ในใจอยู่แล้ว ยิ่งทำให้นินจาชื่นชอบในตัวเผด็จมากขึ้น ครอบครัวของเผด็จ ต่างแปลกใจในการโผล่มาของนินจา เผด็จตั้งตัวไม่ทันไม่นึกว่าเหตุการณ์ในอดีตที่เขาถูกพวกของอรรถภาคทำร้ายได้รับบาดเจ็บ และพัชรดาได้มาช่วยชีวิตเขาเอาไว้ จะหวนกลับมาอีกครั้ง วรดาตามมารับตัวนินจากลับบ้าน วรดากับเผด็จได้พบกันอีกครั้ง แถมการมาครั้งนี้วรดายังได้พา อรรถภาคที่ตามมาด้วย...คู่อริทั้งสองโคจรมาพบกันอีกครั้ง อารมณ์โกรธแค้นของอรรถภาคผุดขึ้นมาอีกครั้ง วีระเรียกเผด็จมาพบเพื่อจะขออุปการะนินจาด้วยเงินก้อนใหญ่ แต่ลูกผู้ชายอย่างเผด็จไม่ยอมขายลูกกิน เลยให้ข้อเสนอกับวีระ ว่าจะให้อยู่บ้านกับเผด็จเว้นวัน โดยมีวรดาเป็นผู้ไปรับไปส่งนินจา ภารกิจของวรดานี่เองที่ทำให้เธอใกล้ชิดกับเผด็จและได้เรียนรู้กันมากขึ้น นับวันนินจาก็ยิ่งมีปัญหากับกานนท์และอรทัยมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้นินจาอยากไปอยู่กับเผด็จผู้เป็นพ่อ วรดาจึงต้องมาอยู่ที่อู่เผด็จ ทั้งสองคนไม่รู้เลยว่า...สายใยแห่งรักกำลังก่อเกิดโดยไม่รู้ตัว แต่คนที่รู้ถึงความเปลี่ยนแปลงคืออรรถภาค อรรถภาคทนเห็นความสัมพันธ์ของเผด็จกับวรดาแนบแน่นขึ้นทุกวันไม่ได้ บวกกับความแค้นในอดีต อรรถภาคได้โอกาสเลยจับตัวกานนท์และนินจาไปเป็นตัวต่อรอง เผด็จสะกดรอยตามอรรถภาคกับ พิชัย ลูกน้องคนสนิท อรรถภาคบังคับให้เผด็จยิงตัวตายเพื่อแลกกับชีวิตเด็กสองคน เผด็จเกือบจะสังเวยชีวิตด้วยน้ำมือตัวเอง ถ้าไม่มีเสียงของพัชรดาดังขึ้นมาห้ามไว้... พัชรดาปรากฏตัวขึ้นท่ามกลางความตกใจของทุกคน พัชรดาบอกความจริงให้กับทุกคนว่านินจาเป็นลูกในไส้ของอรรถภาค อรรถภาครู้สึกเสียใจและสำนึกผิด เรื่องทั้งหมดเหมือนจะจบลงด้วยดี พิชัยหักหลังอรรถภาคจะยิงนินจา แต่ด้วยสัญชาตญาณของความเป็นพ่อ อรรถภาคพุ่งตัวเข้าไปกอดลูก เอาร่างบังกระสุน อรรถภาคต้องสังเวยกระสุนด้วยการเป็นอัมพาต พัชรดาเองก็ต้องยอมรับและให้อภัย เผด็จกับอรรถภาคต่างจับมือเชื่อมมิตรภาพกัน ชีวิตของแต่ละคนล้วนดีขึ้นปราศจากความแค้น ความรักแผ่เข้าไปในหัวใจของเผด็จและวรดา เผด็จขอวรดาแต่งงาน วรดาอยู่ในอ้อมกอดของเผด็จ... ฝากชีวิตไว้กับเขา...อยู่ใต้ผืนฟ้าที่ไม่ได้ฉาบด้วยสีเลือด แต่ฉาบด้วยความรัก..กับ เจ้าพ่อจำเป็น ของเธอ

ลูกสาวกำนัน 2552

ลูกสาวกำนัน (2552/2009) กำนันดนัย กำนันสุดหล่อแห่งทุ่งดินดำ มีลูกสาว สาวน้อยที่ทั้งสายทั้งแก่ง แก่น กล้า ซ่าไม่กลัวใคร ชื่อ แตง แต่ละวันมีเรื่องกับพวกอันธพาลในหมู่บ้านไปทั่ว เพราะต้องผดุงซึ่งความถูกต้องรักความยุติธรรม แต่เพราะเสียแม่ตั้งแต่เด็กทำให้หวงพ่อมาก แต่กระนั้นเมื่อได้มารู้จักแม่ม่ายป้ายแดง ยุพิน แตงโมก็เทใจให้เพราะเป็นคนดี ถึงขั้นหากลอุบาย ให้กำนันจีบยุพิน แต่หลายปีดีดักอยู่กว่าจะใจอ่อนยอมตกล่องปล่องชิ้นกับกำนันดนัย และด้วยความที่กำนันเป็นคนเจ้าชู้ แตงโมกับยุพินก็แทกทีมกันมากกำจัดบรรดากิ๊กๆ ของกำนัน และหนึ่งในนั้นก็มีสาว หวานตา เจ้าของร้านอาหารที่มีหนุ่มๆ มาแวะเวียนมาจีบเรื่อยๆ ด้วยความที่แตงโมสุดแสนจะแสบ กำนันดนัยได้แต่อธิษฐานขอให้ฟ้าส่งคนมาปราบพยศลูกสาวสักที ไม่นานหนุ่มหล่อพ่อรวยจากกรุงเทพฯ ลูกชายรัฐมนตรีสมศักดิ์ และคุณหญิงยุพาพักตร์ ปลัดไชยา มาประจำการที่ทุ่งดินดำ ปลัดดีใจมาก เพราะต้องการชิ่งจาก เทวี อดีตแฟนสาวพอดี ทันทีที่ได้เจอกันทั้งคู่ก็ทะเลาะกันอย่างเอาเป็นเอาตายเพราะคิดว่าปลัดไชยา เป็นไอ้หื่นบ้ากามที่พึ่งออกจากคุก มาจึงถูกแตงโมต้อนรับทั้งศอกทั้งเข่า แต่แทนที่เขาจะโกรธกลับตกหลุมรักเธอเข้าอย่างจัง ปลัดไชยาจึงพยายามทำให้แตงโมเห็นว่าเขาเป็นคนเอาถ่านเหมือนกัน จนทำให้แตงโมเริ่มหลงรักปลัดไชยาแบบไม่รู้ตัว เมื่อปลัดไชยาขอแต่งงาน แตงโมตอบตกลง แต่พอข่าวเริ่มแพร่ออกไป ก็เกิดปัญหา ในขณะเดียวกับที่ ดรรชนี เจ้าของร้านเสริมสวยที่หลงรักปลัด ที่มาทำสงครามประสาทกับแตงโมเพราะความหึงหวง แตงโมปรึกษา ผักบุ้ง เพื่อนสนิทแต่เธอก็สุดปัญญา ทองย้อย ลูกน้องของปลัดก็มาขายขนมจีบ แต่ผักบุ้งไม่ชอบทองย้อย แต่หลงรัก อนันต์ หนุ่มหล่อพ่อรวยเพื่อนสนิทของ ปาน ผู้เท่ห์ ที่หลงรักแตงโมเช่นกัน แค่นั้นยังไม่พอ นที ที่แอบหลงรักปลัดไชยาต้องแต่แรกเห็นไม่ยอม แต่แตงโมใช้ลีลาดีศอก ตอกเข่า บู๊ล้างผลาญ จนชะนีกับนทีกระเจิง ปลัดไชยาดีใจที่แตงโมเห็นคุณค่าในตัวเขา ในงานแต่งงานสุดแสนจะวุ่นวายจนจะกลายเป็นงานศพ เมื่อดรรชนี นที บุกงานแต่งฉุดเจ้าบ่าวเจ้าสาว แต่สุดท้ายก็ได้ดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์อยู่ดี กำนันดนัยสุดแสนจะแฮปปี้ที่มีลูกเขยเป็นคู่คิด สองหนุ่มต่างรุ่นแต่ใจตรงกันวาดลวดเจ้าชู้แอบซุกบรรดากิ๊ก จนแตงโมกับยุพินต้องออกปราบตามเคย แต่แล้วก็มีศึกใหญ่เมื่อเทวีอ้างว่าเป็นเมียปลัดไชยา คราวนี้แตงโมโกรธมาก เกิดปัญหาใหญ่มากจนทำให้สาวแตงโมขอหย่าจากไชยา แต่ไชยาไม่ยอมหย่า แต่แล้วทั้งคู่ก็คืนดีแล้วแตงโมก็ตั้งท้องทุกคนดีใจมาก จัดงานฉลองใหญ่โต ที่ลูกสาวได้มีชีวิตครอบครัวที่สมบูรณ์เสียที ยี่สิบปีต่อมา ปลัดไชยาผันตัวเองมาเป็นกำนันไชยาต้องหันมาใส่หนวด ออกโรงปกป้อง แตงหวาน ผู้สร้างปรากฏการณ์เผ็ด สวยดุ สวยแก่น ซ่าตามแบบฉบับของแม่คือแตงโม สืบทอดเจตนารมย์ของคำว่าลูกสาวกำนันสืบไป

จิ๋วแจ๋วจริงใจ 2551

เรื่องย่อ : จิ๋วแจ๋ว จริงใจ (2551/2008) พราว (ส้ม – ธัญสินี พรมสุทธิ์) เด็กสาวกำพร้า ที่ได้รับการอุปการะจาก ครูแสงดาว (ต้อม – รชนีกร พันธุ์มณี) คุณครูสอนนาฏศิลป์ผู้อารีแห่งชุมชน ลานดอกหญ้า พราวถวิลหาความรักและไออุ่นจากครอบครัว แต่ครูแสงดาวก็เลี่ยงที่จะแสดงความรู้สึกแบบตรงๆ พราวจึงแสดงออกโดยการแก่นเซี้ยวและเป็นหัวโจกของชุมชนโดยมี กระเป๋า (ปอย – ณภัทร ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา) ปลาทู (ด.ช. ศิลปิน อยู่หน้า) และ ปูม้า (ด.ญ. ภูษณิศา ปิติธนสารสมบัติ) เป็นสมาชิกร่วมขบวนการ โดยมีคู่ปรับคนสำคัญคือ เฮียกุ่ย (โอ – วรุฒ วรธรรม) นายทุนเงินกู้ประจำชุมชน วันหนึ่งพราวเกือบทำไฟไหม้ชุมชน ครูแสงดาวจึงให้ข้อคิดกับพราวโดยใช้ปมด้อยผลักดันทำสิ่งดีให้กับสังคม พราวและเพื่อนๆ จึงก่อตั้งกลุ่ม “จิ๋วแจ๋วจริงใจ” ปลุกจิตสำนึกเยาวชนให้ทำความดี คืนหนึ่งกลุ่ม “จิ๋วแจ๋วจริงใจ” ได้ไปช่วยชายหนุ่มผู้ประสบอุบัติเหตุโดยบังเอิญ เขาได้รับความกระทบกระเทือนทางสมองจนความจำเสื่อม ครูแสงดาวจึงให้ความช่วยเหลือด้านที่พัก ทุกๆคนในชุมชนเรียกเขาว่า บังเอิญ (เขตต์ ฐานทัพ) บังเอิญได้ช่วยปรับปรุงสวนผัก, เล้าหมู, เล้าไก่ รวมถึงยังช่วยวินิจฉัยโรคต่างๆ ให้กับคนในชุมชนราวกับเป็นนายแพทย์ใหญ่ แต่ที่น่าแปลกใจที่สุดก็คือเขามีพื้นฐานทางด้านนาฏศิลป์อย่างดี จนได้เป็นพระเอกประจำคณะนาฏศิลป์ของครูแสงดาวอีกคน บริษัท อสังหาริมทรัพย์ ข้ามชาติ โดย วันวิทู (สอง – นพเก้า โกเจริญกิจ) เข้ามากว้านซื้อที่ดินในแถบชุมชนลานดอกหญ้า ไปพัฒนาเป็นแหล่งเศรษฐกิจใหม่ โดยคนในชุมชนดอกหญ้าต้องย้ายออกไปภายใน 1 เดือน บังเอิญ, พราว, ครูแสงดาว และกลุ่ม “จิ๋วแจ๋วจริงใจ” จึงร่วมกันตระเวนเปิดการแสดงเพื่อหาเงิน จำนวน 100 ล้านบาท มาซื้อที่ดินคืน ด้วยความตั้งใจของกลุ่ม “จิ๋วแจ๋วจริงใจ” และแรงใจจากประชาชน สุดท้ายกลุ่ม “จิ๋วแจ๋วจริงใจ” ก็หาเงินได้ครบตามกำหนด ในวันที่ บังเอิญ และ พราว นำเงินไปให้ วันวิทู เฮียกุ่ย กับพวกได้มาปล้นเงินและเผาเงินทั้งหมด บังเอิญ ต่อสู้ กับ เฮียกุ่ย แล้วพลาดหัวกระแทกพื้นอย่างรุนแรง เขาจำได้ว่าเขาคือ วันดนู พี่ชาย ต่างมารดาของ วันวิทู แต่เขาจำเหตุการณ์ทั้งหมดที่ชุมชนลานดอกหญ้า และพราวไม่ได้ เขา กับ วันวิทู ยังคงเดินหน้าจะยึดชุมชน ลานดอกหญ้า ต่อไป พราว ครูแสงดาว และผู้คนในชุมชนดอกหญ้าได้แต่เฝ้ามองวันที่ชุมชนลานดอกหญ้าจะถูกยึด วันสุดท้าย ของชุมชน ลานดอกหญ้า ก่อนที่จะถูกแปรสภาพไปเป็น แหล่งเศรษฐกิจใหม่ พราว ครูแสงดาว และ กลุ่ม “จิ๋วแจ๋วจริงใจ” เปิดการแสดงเป็นการอำลาให้กับชุมชนลานดอกหญ้า บังเอิญที่วันดนูผ่านมาพอดี เสียงระนาดและปี่พาทย์ดึงความทรงจำที่สูญหายไป ณ ชุมชนแห่งนี้กลับมา ในวันแถลงข่าวต่อหน้าสื่อมวลชน ทั้งไทย และ ต่างประเทศ วันดนูไปประกาศว่าแนวคิดในการดำเนินธุรกิจของเขาเปลี่ยนไปแล้ว ชุมชน ลานดอกหญ้า ยังอยู่ตามเดิม วันดนูหรือนายบังเอิญของชาวชุมชนลานดอกหญ้าก็ยังคงกลับมาเป็นสมาชิกกลุ่ม “จิ๋วแจ๋วจริงใจ” ตามเดิม รวมถึงยังคงเล่นนาฏศิลป์ กับพราวในทุกอาทิตย์ตามชุมชนต่างๆ รวมทั้งมุ่งมั่นทำความดีต่อเนื่องโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน พร้อม ๆ กับสานความสัมพันธ์ระหว่างกันต่อไป

สาวบ้านไร่กับนายไฮโซ (2550/2007) ภารกิจการฝึกงานในโรงพยาบาล สัตว์ของนิสิตคณะสัตวแพทย์ศาสตร์ กำลังจะสิ้นสุดลง มะนาว เหลืออีกเพียงภารกิจเดียวคือการนำเจ้าสุนัขตัวน้อยชื่อ“พิงกี้สตรอว์เบอรี่ซันเดย์” ที่หายไข้แล้วไปส่งคืนที่บ้านเจ้าของ แต่มีหัวขโมยย่องเข้ามาขโมยของที่โรงพยาบาลและเกิดชอบเจ้า “พิงกี้” เข้าจึงขโมยไป ขณะเดียวกัน มหาสมุทร ไฮโซหนุ่มฮอตของพ.ศ. นี้ขึ้นรับรางวัลทองคำประดับคริสตัล ในฐานะ Super Smart and Handsome Man จากนิตยสารชื่อดัง มะนาวเข้ามาเจอขโมยพอดีเลยเกิดการต่อสู้กัน แต่ เป็นเพราะมะนาวมีความแก่นแก้วเหมือนกับเด็กผู้ชายตั้งแต่เด็กๆ เลยพะบู๊จนโจรถึงกับสะบักสะบอมต้องหนีเตลิดไป แต่เจ้าหมาน้อยพิงกี้ตัวดีตกใจวิ่งหน้าตื่นออกจากโรงพยาบาล มหาสมุทรขับรถสปอร์ตคันหรูพา จินนี่ นางแบบและนักแสดงสาวสุดเซ็กซี่ไปหาที่ฉลองโล่ห์รางวัล พิงกี้วิ่งตัดหน้ารถสปอร์ต มะนาวไวกว่าวิ่งมาคว้าพิงกี้ไว้ก่อนจะถูกรถทับ ทั้งน้องหมาและคนปลอดภัย เพราะสปอร์ตคันหรูหักหลบไปชนซาเล้งไร้เจ้าของ ซาเล้งปลอดภัยแต่รถสปอร์ตเป็นรอย และรางวัลคริสตัลหักเป็น 2 ท่อน ติดตามต่อได้ใน สาวบ้านไร่กับนายไฮโซ

ฟ้ากับตะวัน (2550/2007) ฝันฟ้า(พอลล่า เทเลอร์) ลูกสาวคนเดียวของไพศาล(อรรถชัย อนันตเมฆ) และลลนา(พิมพ์ผกา เสียงสมบุญ) นักธุรกิจยานยนต์แถวหน้าของเมืองไทย ซึ่งตั้งใจจะมาช่วยดูแลธุรกิจของครอบครัว แต่พ่อและแม่กลับต้องการให้เธอแต่งงานกับ ปกรณ์(เคลลี่ ธนะพัฒน์) ลูกชายของเพื่อนสนิทของตน แต่ฝันฟ้ารู้ความจริงว่าเธอไม่ใช่ลูกแท้ๆของไพศาลและลลนา ทั้งสองเลี้ยงดูเธอเพราะต้องการช่วยเหลือเพื่อนสนิทนักธุรกิจชาวญี่ปุ่นที่ล้มละลลายและฆ่าตัวตาย ฝันฟ้าทำใจไม่ได้ แถมยังต้องถูกคลุมถุงชนกับคนที่ไม่ได้รัก เธอจึงปฏิเสธ ไพศาลโกรธมากยื่นคำขาดให้ฝันฟ้าเข้าพิธีแต่งงานทันที ฝันฟ้าเสียใจมาก ตัดสินใจหนีไปฮิโรชิมา บ้านเกิดของพ่อแท้ๆ ของเธอ ทั้งๆ ที่พูดภาษาญี่ปุ่นไม่ได้ มีเพียง จุ๊บแจง(รุจนา อุทัยวรรณ์) เพื่อนสนิทของฝันฟ้าเท่านั้นที่รู้เรื่องการตัดสินใจครั้งนี้ ที่ญี่ปุ่น .. ฝันฟ้าได้พบกับ ตะวัน(วิทยา วสุไกรไพศาล) ชายหนุ่มที่ได้ทุนเรียนปริญญาโทที่ฮิโรชิม่า โดยบังเอิญเนื่องจากเธอถูกล้วงกระเป๋าโดยไม่รู้ตัว จึงไม่มีเงินจ่ายค่าแท๊กซี่ ตะวันจึงช่วยพูดกับคนขับและจ่ายเงินให้ เพราะเห็นว่าเป็นคนไทย ตะวันจะรีบไปทำงานพิเศษต่อที่ร้านโอโคโนมิยากิของคุณโยชิ(อะกิโอะ โยชิโมโตะ) ฝันฟ้าไม่รู้จะทางไหน จึงเดินตามตะวันไปเรื่อยๆ จนถึงร้าน ที่มีเพียง เจี๊ยบ(กีรติ เทพธัญญ์) นักเรียนไทยคอยช่วยอยู่แค่ 2 คน คุณโยชิจึงชวนให้ฝันฟ้ามาทำงานที่ร้านของตน ฝันฟ้ารู้จากคุณโยชิว่าตะวันต้องตื่นแต่เช้าไปทำงานพิเศษ ช่วงกลางวันก็ไปเรียน ตกเย็นก็มาทำงานที่ร้าน ช่วงค่ำอ่านหนังสือ ทำการบ้าน เป็นอย่างนี้ทุกวัน ไม่เคยไปเที่ยวไหนและไม่สนใจผู้หญิงคนไหนเลย ฝันฟ้านึกขำว่าตะวันทำตัวน่าเบื่อ แต่คุณโยชิรู้เหตุผลว่าที่ตะวันทำตัวยุ่งๆเพื่อไม่ให้มีเวลานึกถึง ระริน(นิษิตา พงศ์ทรง) คนรักเก่าที่ต้องแต่งงานไปกับ คัตสึ(ฮิโระ ซะโนะ) ผู้มีอิทธิพลในญี่ปุ่น ซึ่งเขายังตัดใจไม่ได้นั่นเอง ระหว่างอยู่ที่นี่.. ฝันฟ้าสร้างชีวิตชีวาและรอยยิ้มให้กับร้านอาหารเล็กๆแห่งนี้มากมาย รวมทั้งตะวัน..ที่ทุกวินาทีคือการทำงานและทำตัวยุ่งเพื่อให้ลืมเรื่องราวความรักของตน ฝันฟ้าอยากช่วยเหลือที่ร้าน แต่ก็ทำอะไรไม่เป็น ทำให้ตะวันสอนภาษาญี่ปุ่นให้กับเธอ รวมทั้งพาเธอไปตามสถานที่ต่างๆ เพื่อจะได้รู้จักเมืองนี้ให้มากขึ้น ทำให้ทั้งคู่เริ่มรู้สึกดีต่อกันอย่างบอกไม่ถูก แต่ตะวันเองก็ยังใจอ่อนทุกครั้ง มื่อระรินร้องไห้เสียใจมาจากคัตสึ จนวันนึงระรินรู้ว่าตะวันกับฝันฟ้าเริ่มมีใจให้กัน เธอทำใจไม่ได้ที่จะเสียตะวันไป จึงพยายามขัดขวางให้ทั้งคู่เข้าใจผิดกันหลายครั้งรวมถึงเล่าความจริงว่าที่จริงแล้ว ฝันฟ้าเป็นทายาทเศรษฐี ฐานะร่ำรวย ที่สำคัญเป็นเจ้าของบริษัทที่ให้ทุนเรียนของตะวันนั่นเอง ตะวันโกรธฝันฟ้ามากที่ปิดบังความจริง แต่ที่สำคัญคือเขารู้ตัวดีว่าฐานะของตนกับฝันฟ้าแตกต่างกันเหลือเกินจนทำให้ตะวันเก็บตัวเงียบและไม่พูดคุยกับฝันฟ้าอีก ฝันฟ้าก็เข้าใจผิดว่าตะวันโกรธตัวเองมากจนไม่ยอมพูดคุยด้วย เหตุการณ์นี้ทำให้ฝันฟ้าตัดสินใจกลับเมืองไทยไปกับปกรณ์ ที่เมืองไทย .. ฝันฟ้ากลับไปดูแลกิจการของบริษัทต่อจากไพศาล โดยมีปกรณ์ดูแลอยู่ใกล้ๆ แต่ต่อมาที่บริษัทรับนายช่างใหม่ที่มาทำงานใช้ทุน คือ ตะวัน นั่นเอง เมื่อทั้งคู่ได้พบกันอีกครั้งต่างก็เสียใจ ฝันฟ้าอยากจะพูดคุยกับตะวัน แต่เขากลับเจียมตัวและวางตนในฐานะพนักงานคนหนึ่งเท่านั้น ฝันฟ้าเสียใจมากที่ต้องเกิดช่องว่างระหว่างเขาและเธอเช่นนี้...