บริษัท ดูมันดี จำกัด
เรื่องย่อ : เล่ห์รักยาใจ (2017/2560) เมื่อโชคชะตา ทำให้ซูเปอร์สตาร์สาว ต้องปลอมตัว หนีตาย แปลงกายเป็นสตรีที่ขี้เหร่ที่สุดในสามโลก บังเอิญมาพบกับชายในฝัน ที่เคยหักอก เรื่องราวโรแมนติก กระดุ๊กกระดิ๊ก สนุก โหด มันส์ ฮา บ้าระห่ำ จึงบังเกิด!!!
นีรณัฐ วิชุกร (เกรซ-พัชร์สิตา อธิอนันตศักดิ์) ซุปตาร์สาวเบอร์ต้นของประเทศ กำลังเฉิดฉายอยู่บนเวทีอีเว้นท์ของดี สี่ภาค กลางโรงแรมชื่อดัง ดาราสาวโปรยยิ้มด้วยจริตมิสเวิร์ล ขณะเดินโชว์ตัว ด้วยท่วงท่าสง่างาม ส้นรองเท้าสี่นิ้วของนีรณัฐก็เข้าไปติดกับขอบเวที ดาราสาวจึงพยายามดึงเท้าออก จึงเกิดเสียการทรงตัว ทำให้ร่างบางของซุปตาร์สาว ตกลงไปในหม้อปลาร้ายักษ์ หนึ่งในของดีสี่ภาค ทั้งกลิ่นและสภาพของนีรณัฐเลยคำว่าย่ำแย่ไปห้าร้อยเท่า เมื่อโผล่จากหม้อปลาร้ายักษ์ ซุปตาร์สาวก็ถูกถ่ายรูปและคลิปจากผู้มาร่วมงานมากมาย แต่สิ่งนี้ไม่ทำให้นีรณัฐอยากกัดลิ้นตาย เท่าสายตาของผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังมองมาที่ดาราสาว เพราะมันคือสายตาของ ภารุจ ถวัลวงศ์ (แอมป์-พีรวัศ กุลนันท์วัฒน์) นายแพทย์อนาคตไกล อดีตประธานนักเรียนที่เคยหักอก หักหน้า ดาวโรงเรียนอย่าง นีรณัฐ กลางโรงอาหารนั่นเอง!!!!
ในวินาทีแห่งความอับอาย เป็นแรงบันดาลใจให้นีรณัฐรีบเอาหน้ามุดน้ำปลาร้า ความรีบร้อนไม่ทันมอง ทำให้ศีรษะของนีรณัฐฟาดเข้ากับขอบหม้อปลาร้ายักษ์ ส่งผลให้ดาราสาวมึนงงมาก ภารุจเห็นศีรษะของนีรณัฐมีเลือดออก ก็รีบเข้าไปช่วย พี่พจน์ (นวพล ภูวดล) ผู้จัดการส่วนตัว และทีมงาน รีบถลาตามเข้ามา เหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวาย พี่พจน์เอาแต่กันคนถ่ายรูป ภารุจและทีมงานช่วยกันดึงร่างนีรณัฐขึ้นจากหม้อปลาร้ายักษ์อย่างทุลักทุเล นีรณัฐพยายามปัดป้องไม่ให้ภารุจช่วย ด้วยความอับอาย แต่สุดท้ายแรงกระแทกก็ทำให้นีรณัฐหมดสติไป
เมื่อฟื้นขึ้นมา นีรณัฐ แหกปากโวยวายลั่นห้องพัก เมื่อเห็นคลิป และภาพข่าวของหญิงสาวในหม้อปลาร้ายักษ์ว่อนเน็ต!!! พี่พจน์พยายามเปลี่ยนเรื่อง ว่าภารุจช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนส่งโรงพยาบาล เมื่อได้ยินเช่นนั้น นีรณัฐก็แหกปากดังกว่าเดิม พี่พจน์ปลอบเท่าไหร่ก็ไม่เป็นผล ดาราสาวอยากจะบ้าตาย ทำไมโชคชะตาช่างใจร้าย ทำให้เธออยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ที่สุด กับผู้ชายที่เคยดูถูกเธอ!!!! นีรณัฐจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนดี!!! พี่พจน์ไม่เข้าใจ เหตุใด นีรณัฐ ต้องห่วงหน้าตากับภารุจหนักหนา ทั้ง ๆ ที่เพิ่งพบกันเพียงครั้งเดียว ซุปตาร์สาวจึงเล่าความหลังให้ฟัง
นีรณัฐไม่เคยลืมวินาทีที่ถูก ภารุจ ประธานนักเรียน ที่สาวๆ ทั้งโรงเรียนพากันปลื้ม ตอกใส่หน้าดาวโรงเรียนอย่างเธอ ขณะกำลังยื่นการ์ด และดอกกุหลาบไปให้ ว่าให้เอาเวลาไปตั้งใจเรียนหนังสือ!!! อย่าเสียเวลากับเรื่องไร้สาระ!!! นีรณัฐยังจำภาพชายหนุ่มเดินจากไปโดยไม่ใยดีกับความรู้สึกของเธอ ตอนนั้น นีรณัฐ พยายามจ้ำเท้าเดินตาม หากความรีบทำให้สะดุดเท้าตัวเอง ล้มกระแทกโต๊ะ หน้าคะมำ หนำซ้ำถ้วยน้ำแข็งใส ยังหล่นราดหัว!!! นักเรียนในโรงอาหารพากันหัวเราะเยาะ ดาวโรงเรียนอย่างเธอ ทั้งเสียหน้า ทั้งอับอาย เป็นบาดแผลในใจของเธอมายาวนาน จนบัดนี้!!
พี่พจน์ฟังแล้ว บอกซุปตาร์ในสังกัด ว่าตอนนี้เธอเป็นถึงซุปตาร์เบอร์ต้น สูงส่งกว่าหมอนั่นมากแค่ไหน ไม่ต้องเสียเวลาไปใส่ใจกับอดีต จงมองไปที่อนาคต ทว่า นีรณัฐ ก็ไม่อาจเลิกคิดถึงความอับอายได้เลย!!
ด้านภารุจก็มีปากเสียงกับ ภาคภูมิ (ดิลก ทองวัฒนา) นายแพทย์ใหญ่ ผู้เป็นบิดา ภาคภูมิโกรธจัด ที่นายแพทย์ฝีมือดีอย่างบุตรชาย จะย้ายตัวเองไปทำงานต่างจังหวัด ห่างไกลความเจริญ ทั้งๆ ที่ภาคภูมิวางอนาคตขึ้นสู่ตำแหน่งผู้บริหาร อนาคตก้าวไกล ภารุจพยายามอธิบายให้พ่อเข้าใจ ว่าที่นั่นขาดแคลนหมอ ภารุจอยากช่วยผู้คน ไม่อยากบริหารคน ภาคภูมิโกรธมาก เพราะเขาวางอนาคตที่ดีงามไว้ให้ลูกชายหมดแล้ว หากภารุจยังคงยืนยันเจตนารมณ์เดิม
ที่ภาคภูมิไม่รู้ คือภารุจหอบบางสิ่งบางอย่างไปด้วย มีเพียง ปารีณา ( เมษ์-บัณฑิตา ฐานวิเศษ) พี่สาวของภารุจเท่านั้น ที่รู้ว่า ภารุจนำสิ่งใดติดตัวไปด้วย เมื่อกลับถึงบ้าน ทรงพล (เต้-ทัตพงษ์ พงษ์ทัต) บิดา และ มณทิพย์ (ดารัณ ฐิตะกวิน) มารดาของนีรณัฐ ก็ยื่นบัตรเชิญรวมรุ่นให้ ทางโรงเรียนจะมอบรางวัลศิษย์เก่าดีเด่น ในฐานะผู้สร้างชื่อเสียงให้กับทางโรงเรียน นีรณัฐกำบัตรเชิญแน่นบอกกับ อรปรียา (ณธิดา ภัทรชาญไชย) นักแสดงเพื่อนสนิท ว่ามันคือโอกาสครั้งสำคัญ ที่เธอจะได้แก้ตัว ดาราสาวตั้งใจจะสร้างประวัติศาสสตร์บนเวทีโรงเรียน เธอจะต้องสวย ต้องเลิศที่สุดในปฐพี!!! เธอจะต้องดีงามที่สุดในโลกหล้า เธอจะควง ณัฐนันท์ (นัท อติรุจ สิงหอำพล) ไฮโซสุดหล่อที่ตามจีบมานาน ไปตอกหน้าภารุจ และเพื่อนร่วมรุ่นที่เคยหัวเราะเยาะเธอกลางโรงอาหาร ให้หงายหลัง วันนี้นีรณัฐเธอกลายเป็นสตรีที่ทุกคนริษยา และเป็นผู้หญิงที่ผู้ชายทุกคนใฝ่ฝัน!!!! เธอคือที่หนึ่งของประเทศ!!!!
หากยังไม่ถึงงานรวมรุ่น ก็เกิดเรื่องร้ายขึ้นเสียก่อน เมื่อนีรณัฐเข้าไปเห็นเหตุการณ์ตอนที่ อรปรียา ถูกฆ่าตายในโรงแรม ฆาตกรเห็นนีรณัฐ จึงพยายามฆ่าหญิงสาวเพื่อปิดปากทั้งสองต่อสู้กันในห้อง นีรณัฐเกือบเอาชีวิตไม่รอด โชคดีที่แม่บ้านมาเห็นเสียก่อน คนร้ายจึงรีบหนีไป
หลังจากเสียขวัญ ที่เห็นเพื่อนสนิทถูกฆ่าตาย นีรณัฐก็เก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน งานการไม่รับ สภาพจิตใจย่ำแย่ ดาราสาวจึงระบายปัญหาให้ณัฐนันท์ ไฮโซหนุ่มฟัง แต่แทนที่จะปลอบใจ ณัฐนันท์กลับมอมเหล้าและพาเธอเข้าโรงแรม นีรณัฐพยายามขัดขืน แต่ความมึนทำให้หมดแรงสู้ ในวินาทีที่กำลังย่ำแย่ นีรณัฐเกิดอ้วกพุ่งเข้าใส่แฟนหนุ่มเต็มๆ ช่วงเวลาที่ณัฐนันท์อาบน้ำ นีรณัฐก็เลยหาทางหนีออกจากโรงแรมโดยลืมมือถือทิ้งเอาไว้ ทว่ากลับบ้านมา ยังไม่ทันหายช็อก ซุปตาร์สาวก็ต้องล้มทั้งยืน เมื่อตำรวจโทรมาให้หญิงสาวไปให้ปากคำที่โรงพัก เพราะณัฐนันท์ เพิ่งถูกฆ่าปาดคอตายในโรงแรม!!!
วันรุ่งขึ้น ซุปตาร์สาวจึงเป็นข่าวใหญ่อีกครั้ง เพราะมีภาพหลุดจากกล้องวงจรปิด ว่านีรณัฐเข้าโรงแรมกับไฮโซคนดัง นักข่าวกรูรอดักอยู่หน้าบ้านนับหลายสิบชีวิตพยายามขอสัมภาษณ์ สถานการณ์เลวร้ายที่ถาโถมเข้ามา ทำให้นีรณัฐเก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน แล้วอาฟเตอร์ช็อกก็ตามมาอีกระลอก เมื่อคนร้ายบุกเข้าไปในบ้านทำร้ายนีรณัฐอีกครั้ง นักแสดงสาวต่อสู้กับคนร้ายสุดใจขาดดิ้น จนรอดมาอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้ สารวัตรพิชิตชัย ( เบน-สันติราษฎร์ กุลนพเกียรติ) ขอประชุมกับนีรณัฐและครอบครัวว่า คงปล่อยให้นีรณัฐอยู่ที่บ้าน หรือปรากฏตัวอีกไม่ได้ เพราะดาราสาวกำลังอยู่ในอันตรายใหญ่หลวง ทางตำรวจจึงเสนอให้ซุปตาร์สาว เข้าไปอยู่ในโครงการพิทักษ์พยาน โดยนีรณัฐต้องปลอมตัวไปอยู่ต่างจังหวัดที่ไม่มีใครรู้จัก ห้ามติดต่อกับใครทั้งสิ้น!!! พ่อกับแม่ของนีรณัฐตกลงทันที ด้วยห่วงใยบุตรียิ่งนัก
บิดาของมารดาของนีรณัฐตกลง ส่งบุตรสาวไปอยู่กับ พิมพ์พรรณ (ไปรมา รัชตะ) ป้าแท้ๆ ของนีรณัฐ ที่ต่างจังหวัด ซึ่งการย้ายมาอยู่ชนบทห่างไกลความเจริญไม่ใช่เรื่องยาก แม้กระทั่งการปลอมตัวจากซุปตาร์สาวสวย กลายมาเป็นผู้หญิงหน้าม้า ตัวดำ ขี้เหร่ติดอันดับโลก ก็ยังพอรับได้ หากการต้องอยู่ร่วมบ้านกับป้าที่ไม่ยอมรับอาชีพนักแสดงของนีรณัฐ ไม่ยอมรับความคิดของนีรณัฐนั้นเป็นเรื่องยาก ทันทีที่มาอยู่ร่วมบ้าน พิมพ์พรรณก็สั่งให้นีรณัฐทำงาน ตั้งแต่ ถูบ้าน ซักผ้า ล้างจาน ขัดห้องน้ำ ตัดหญ้า รดน้ำต้นไม้ นีรณัฐโวยวาย เจอเรื่องมาหนักขนาดนี้ ยังต้องมาถูกป้าใช้เยี่ยงทาสอีก แต่พิมพ์พรรณ ยังคงยืนยันให้นีรณัฐทำงานเช่นเดิม นีรณัฐไม่ยอม แต่พิมพ์พรรณรู้จักนิสัยหลานสาวดี ว่าชอบเอาชนะ จึงดูถูกว่าเพราะอาชีพนักแสดงทำให้สมองฝ่อ ทำอะไรไม่เป็น นีรณัฐไม่ยอมแพ้ บอกทำได้ทุกอย่างที่ป้าสั่ง แล้วนีรณัฐก็เกือบทำไฟไหม้ โชคดีที่ภารุจแวะเอายามาให้พิมพ์พรรณ จึงช่วยนีรณัฐและบ้านไว้ได้อย่างหวุดหวิด
เมื่อเห็นหน้าภารุจ ดาราสาวก็แทบช็อก เธอไม่เข้าใจ เหตุใดโชคชะตา ชอบส่งให้เธอต้องมาเจอกับภารุจอีกครั้ง ตอนที่เธอไร้ซึ่งความสวยโดยสิ้นเชิงแบบนี้!!!!! ในขณะที่นีรณัฐอยากจะบ้า ทว่าภารุจกลับจำหญิงสาวไม่ได้แม้เพียงนิด เมื่อนีรณัฐบอกว่าชื่อ มดแดง หลานของพิมพ์พรรณที่เพิ่งมาจากสังขละ ภารุจก็เชื่อสนิท
ซุปตาร์สาวชักสงสัย เหตุใดนายแพทย์อนาคตไกล อดีตประธานนักเรียนผู้เพียบพร้อม จึงมาเป็นหมออยู่ห่างไกลความเจริญแบบนี้ นีรณัฐแอบย่องไปที่โรงพยาบาลเพื่อสืบเรื่องราวของภารุจ ทว่ากลับไปได้ยินภารุจ กับ การุณ (พล-พูลภัทร อัตถปัญญาพล)นายแพทย์รุ่นน้องคนสนิท กำลังคุยถึง นีรณัฐ ดาราสาวที่หายเงียบไป การุณปลื้มนีรณัฐมาก ชื่นชม ต่าง ๆ นานาหากภารุจ กลับไม่สนใจเลยสักนิด แถมยังบอกว่าเฉยๆ คำธรรมดาคำนี้ แต่กระแทกเข้าไปกลางใจของนีรณัฐ เธอสวย เธอรวย เธอเป็นซุปตาร์ ขณะที่นายภารุจเป็นแค่หมอธรรมดา มีสิทธิ์อะไรมาดูถูกซุปตาร์อย่างเธอ พอกันที ศรีจะไม่ทนอีกแล้ว!!!! ความแค้นครั้งนี้ ต้องได้รับการชดใช้!!!!
ขณะที่นีรณัฐ ยังคิดแผนล้างแค้นภารุจไม่ออก นักแสดงสาวก็เกือบถูกภารุจขับรถชน เนื่องจากเบรกจักรยานของนีรณัฐขาด จักรยานพุ่งตัดหน้ารถของภารุจไปหวุดหวิด ก่อนจะพุ่งลงข้างทาง ภารุจรีบเข้าไปดูอาการ และช่วยเหลือนีรณัฐเอาไว้ ขณะที่ภารุจกำลังล้างแผลให้ นีรณัฐก็คิดแผนล้างแค้นอยู่ในใจ เธอจะใช้เล่ห์กล มารยา การแสดง ทั้งหมดที่มี ทำให้ภารุจรัก แล้วหลังจากนั้นเธอจะทิ้งภารุจอย่างไม่ใยดี สร้างบาดแผลในใจให้ภารุจได้เจ็บปวดไปอีกยาวนาน(ฮ่าๆๆๆ)
พลันแผนก็ชะงัก เมื่อ ลำดวน (เฟิร์น-ณัฐชยกานต์ ปากหวาน) พี่เลี้ยงสุดเซ็กซี หอบ เด็กชายต้นกล้า เด็กชายวัยแบเบาะ มาหาภารุจถึงบ้านพิมพ์พรรณ หนำซ้ำพี่เลี้ยงอวบอึ๋ม ยังแสดงท่าทีเป็นเจ้าของภารุจแบบเบาๆ นีรณัฐอึ้ง และเพิ่งเข้าใจว่า เหตุใดนายแพทย์อนาคตไกลอย่างภารุจจึงมาอยู่ที่นี่ ที่แท้เพราะแอบเอาลูกมาเลี้ยงนี่เอง
นับจากการพบลำดวนและภารุจ นีรณัฐก็แอบจับตาพฤติกรรมของภารุจและลำดวนอย่างละเอียด ถึงแม้ลำดวนจะพยายามแสดงความเป็นเจ้าของ แต่ภารุจกลับมีท่าทีสุภาพ และปฏิเสธในที ยังไงก็ไม่ใช่ผัวเมียแน่นอน นีรณัฐฟันธง!!!!
ปัญหาต่อมาของนีรณัฐคือ เธอจะเอาฟันยื่นๆ ตัวดำๆ ไปต่อกรกับพี่เลี้ยง ขาว สวย อวบ อึ๋ม ได้ยังไง??? คิด ๆ แล้วอยากจะเลิกปลอมตัว เอาความสวยที่มีอยู่มางัดสู้กับแม่พี่เลี้ยงตัวแสบจริงๆ แต่ขืนทำแบบนั้น ภาพที่เธออยู่บ้านป้าต้องหลุดไป และคนร้ายคงมาตามฆ่าเธอเป็นแน่ นีรณัฐครุ่นคิดหาวิธี ต้องมีสักทาง!!! เมื่อตามสืบเรื่องภารุจสักพัก นีรณัฐก็ได้รู้ว่าภารุจเป็นหมอที่มุ่งมั่นทำงาน กับการดูแลคนไข้ จนเป็นที่รักของชาวบ้าน โดยเฉพาะสาวๆ
เช้าต่อมา เมื่อภารุจแวะมาดูอาการของนีรณัฐ สิ่งที่ตามมาไม่ใช่แค่ยา หากยังมี เขมิกา (โย-ปราณวรินทร์ ปามี) ลูกสาวคนสวยของ กำนันพงษ์ (เจี๊ยบ-ศักราช ฤกษ์ธำรงค์) ผู้มีอิทธิพลคับอำเภอ ตามมาด้วย และแน่นอนว่าเขมิกาประกาศกับนีรณัฐตัวต่อตัว ว่าขี้เหร่ ต้อยต่ำ ดำ ไร้ชาติตระกูลอย่างมดแดง อย่าได้บังอาจหมายปองคุณหมอสุดหล่อ ของเขมิกาเด็ดขาด!!!! คนอย่างนีรณัฐมีหรือจะหงอ แม่มดแดงต่ำต้อยในสายตาของเขมิกา เท้าสะเอว ยืดอก จ้องหน้าด้วยกิริยาพร้อมตบ บอกเขมิกาอย่างไม่ยอมแพ้ แล้วเราจะได้เห็นกัน!!!
เขมิกากลับมาหัวเราะลั่นบ้าน อยากจะหัวเราะให้ฟันหัก ที่ผู้หญิงขี้เหร่อย่างมดแดง กล้าต่อกรกับสาวสวย พ่อรวยมาก อย่างเขมิกา ไม่ใช่แค่หัวเราะเยาะ เขมิกายังส่งกระจกบานใหญ่ไปให้นีรณัฐถึงบ้าน เพื่อให้ส่องดูสารรูปของตัวเองอีกที พิมพ์พรรณเห็นเข้า ก็ไม่อยากให้หลานสาวมีเรื่อง จึงหางานให้หลานสาวทำด้วยการพานีรณัฐไปช่วยดูแลเด็กๆ ที่โรงเรียน ที่นั่นเองนีรณัฐจึงได้รู้จัก เพลินตา (ไอซ์ อธิชนัน-ศรีเสวก) คุณครูใจดี รุ่นราวคราวเดียวกับนีรณัฐ สองคนถูกชะตากันมาก
สารวัตรพิชิตชัย ปลอมตัวมาหานีรณัฐ เพื่อตรวจดูความเรียบร้อย ซุปตาร์สาวจึงบ่นเรื่องความลำบากต่างๆ ที่ได้รับ สารวัตรจึงปลอบใจ ว่าดีกว่าอยู่อย่างสบายแล้วถูกตามฆ่าในเมืองกรุง นีรณัฐพยักหน้าเห็นด้วย ศรีจะทนต่อไป!!!
หากความอดทนของนีรณัฐ ค่อยๆ หมดลงทุกที เพราะเด็กๆที่โรงเรียน พากันล้อ นีรณัฐ ก็พากัน ว่าเป็นแก้วหน้าม้า นีรณัฐอยากจะกลับไปเป็นซุปตาร์คนเดิมเสียจริง ๆ เคราะซ้ำกรรมซัด ไม่ใช่แค่ถูกล้อ ทว่านีรณัฐแจกนมให้เด็กๆ โดยไม่รู้ว่านมถูกวางตากแดดจนเสีย ทำให้เด็กๆ พากันท้องเสียหลายราย นีรณัฐจึงต้องพาเด็กๆ เข้าโรงพยาบาล ผู้ปกครองโวยวาย รุมต่อว่านีรณัฐยกใหญ่ ภารุจเห็นแล้วสงสาร จึงมาปลอบโยนว่าคนเราทำผิดกันได้ แค่เรียนรู้แล้วเริ่มต้นใหม่ นีรณัฐรู้สึกดีขึ้นมาก ไม่รู้เพราะคำปลอบใจหรือเพราะหน้าใสๆ ของภารุจกันแน่
หลังจากเกิดเรื่อง นีรณัฐก็ไม่อยากกลับไปที่โรงเรียนอีก หากพิมพ์พรรณไม่อยากให้หลานสาวว่างจนไปหาเรื่องหาราวเข้าบ้าน เลยจัดการคุยกับผู้อำนวยการให้นีรณัฐเป็นครูพิเศษสอนภาษาอังกฤษที่โรงเรียน เนื่องจากครูลาคลอดกะทันหัน ผู้อำนวยการตกลง แต่นีรณัฐโวยวายป้า ว่าทำอะไรไม่ปรึกษาหากเมื่อป้าดูถูก ว่าพอไม่มีความสวย ก็ไม่มีปัญญาทำอะไร นีรณัฐไม่ยอมให้ป้าดูถูก เลยตกปาก รับคำจะไปเป็นครูพิเศษที่โรงเรียน
ด้านภารุจ นอกจากต้องเหนื่อยกับการรักษาคนไข้แล้ว ยังต้องรับมือกับเขมิกา ที่หาเรื่องป่วยให้หมอหนุ่มตรวจทุกวัน จากปวดหัว ปวดแขน ปวดขา ลามมาปวดท้องน้อย จะถกกางเกงให้ตรวจให้ได้ เออเอากะนางสิ แต่ภารุจก็แก้เกมส์ด้วยการขู่ว่าจะต้องผ่าตัด ด้วยความกลัวทำให้เขมิกาเลิกมารยาทันที
นอกจากความป่วนของเด็กๆ ที่นีรณัฐต้องรับมือแล้ว หญิงสาวยังต้องเจอกับ ยอดรัก (อู๊ด เป็นต่อ) สัปเหร่ออายุน้อย ผู้ฝันอยากเป็นนักร้อง เมื่อเห็นนีรณัฐนีเล่นกับเด็ก สาวน้อย ตัวดำ ฟันเหยิน ช่างดูเป็นธรรมชาติ น่ารัก สดใส ยอดรักตกหลุมรักครูมดแดงตั้งแต่แรกเห็น!!! ซุปตาร์สาวอยากจะบ้าตาย เพราะเวลาหมดไปกับการทำงานบ้าน สอนเด็ก จัดการยอดรักที่ตามตื๊อไม่เลิก ทำให้เวลาไม่เหลือพอจะไปเต๊าะภารุจได้ หากฟ้าก็เป็นใจ เมื่อเพลินตาบอกว่า ทางทีมหมอกำลังจะออกหน่วย ขึ้นเขาไปดูแลชาวบ้านชาวเขา นีรณัฐก็อาสาไปด้วยทันที
หน่วยแพทย์ มีภารุจ การุณ เพลินตา นีรณัฐและเจ้าหน้าที่พยาบาล เป็นกลุ่มเล็กๆ แม้จะต้องเดินทางขึ้นเขาลำบาก แต่การุณก็มีความสุขที่ได้ใกล้ชิดครูเพลินตา เพราะเวลาอยู่ในหมู่บ้าน การุณหาทางเข้าใกล้เพลินตาลำบากมาก เพราะ ผู้ใหญ่เสือ (ค่อม ชวนชื่น) หวงลูกสาวมาก ยิ่งไปกว่านั้นผู้ใหญ่เสือยังมีอคติกับผู้ชายกรุงเทพว่าใจคอโลเล ความรักของการุณและเพลินตาจึงมีก้างชิ้นโต้โต
ด้านนีรณัฐก็กัดฟันแบกของเดินป่า หาทางใกล้ชิดภารุจ หมอหนุ่มช่างดูใจดี มีเมตตา กับผู้หญิงขี้เหร่อย่างมดแดง ผิดกับตอนที่เธอสวย ใสเป็นดาวโรงเรียนโดยสิ้นเชิง หญิงสาวชักสงสัยหรือหมอรุจจะชอบผู้หญิงดำ เหยิน นีรณัฐไม่รู้ตัวเลยว่ายิ่งใกล้ชิดภารุจมากเท่าไหร่ หัวใจก็ค่อยๆ เทให้หมอรุจมากขึ้นเท่านั้น
ขณะออกหน่วย ทีมแพทย์ และอาสาสมัครต้องเจอเรื่องมากมาย ภารุจประทับใจในความทุ่มเทของมดแดงที่พยายามช่วยเหลือชาวบ้าน แม้จะโดนเด็กอ้วกใส่ นีรณัฐก็ไม่ปริปากบ่น เมื่อตรวจรักษาคนไข้จนหมด หน่วยแพทย์และอาสาก็เตรียมตัวกลับ หากเกิดมีเด็กป่วยหนักอยู่อีกด้านของหมู่บ้าน ภารุจจึงบอกให้ทุกคนกลับ ส่วนตนจะอาสาเข้าไปดูแลเด็กเอง นีรณัฐรีบเสนอตัวไปเป็นผู้ช่วย
หลังจากดูแลเด็กชาวเขาที่ป่วยเป็นไข้จนอาการดีขึ้น ฟ้าก็มืดมาก แถมฝนยังตกหนัก ชาวบ้านจึงให้ภารุจกับนีรณัฐค้างอยู่บนเขาเสียก่อน เพื่อความปลอดภัย ภารุจไม่ได้คิดอะไร หากนีรณัฐยิ้มกริ่ม วางแผนในใจ ช่างเหมือนในละคร ที่พระเอกนางเอก ต้องมาติดกระท่อมกลางป่า ท่ามกลางความมืดและสายฝน อากาศที่เป็นใจบวกกับอะไรก็ไม่รู้ มักจะทำให้พระนางตกหลุมรักกัน หึหึ คืนนี้ นีรณัฐจะนั่งข้างๆ ภารุจ ฟังเสียงฝน เมื่อหนาวจะอ้อนให้ภารุจดูแล แล้วความใกล้ชิดก็จะทำให้ภารุจตกหลุมรักเธอ!!!! (โฮะ โฮะ)
แต่แผนทุกอย่างก็พังลง เมื่อมีตุ๊กแกตัวเท่าแมวอยู่ในกระท่อม นีรณัฐแหกปากกรี๊ดไม่หยุด แถมฟ้าก็ร้องโครมคราม เสียงดัง บวกกับงูที่เข้ามาหลบฝนในกระท่อม นี่บ้านหรือสวนสัตว์กันแน่!! โอ๊ยวุ่นวายขนาดนี้ จะหาความโรแมนติกที่ไหน หากในสถานการณ์วุ่นวาย ภารุจคอยดูแลปกป้องนีรณัฐเสมอ หมอหนุ่มพยายามไล่ตุ๊กแก ไล่งู ปัดยุงให้ผู้หญิงตัวดำ ฟันยื่น ด้วยความอ่อนโยน นีรณัฐรู้สึกอบอุ่นหัวใจมาก สองคนพูดคุย หัวเราะ ยิ้มอยู่ภายใต้แสงตะเกียง จนยามเช้า นีรณัฐก็ตื่นขึ้นมาพบว่า นอนซบอกภารุจอยู่ อุ๊ย ดี๊ดี เอ๊ยไม่ใช่ นีรณัฐรีบบอกตัวเอง ถ้าจะล้างแค้นใคร ห้ามมีใจให้เด็ดขาด!!!!
ขาลงจากเขา นีรณัฐจึงทำมึนตึง เฉยชา เพราะยังไม่กล้าเข้าใจภารุจ เนื่องจากใกล้ทีไร หัวใจเต้นวิบๆ ไหวๆ ทู้กที สงสัยงานนี้ต้องพักแผนก่อน
เมื่อเขมิการู้ว่า ภารุจค้างกับมดแดงบนเขา หญิงสาวก็ไปวีนแตกใส่นีรณัฐทันที เพลินตารีบเข้ามาช่วยอธิบายให้เขมิกาเข้าใจ แต่เขมิกาไม่เข้าใจ แถมจะตบมดแดงให้ได้ ยอดรักเข้ามาเห็นก็รีบปกป้องมดแดงทันที ใบตอง (แอปเปิ้ล-เพ็ญนภางค์ ชายด่าน) คนใช้สนิทของเขมิกา ก็ราวีไม่เลิก ภารุจเข้ามา นีรณัฐรู้เกมส์ ไม่ร้าย แต่แสดงบทนางเอกน่าสงสาร ถูกกระทำ(เหรออออ) ทำให้ภารุจเห็นใจ แต่ยอดรักกลับต่อว่าภารุจที่เป็นต้นเหตุเรื่องทั้งหมด เรื่องราเกือบปลายบาน เอ๊ยบานปลาย หากพิมพ์พรรณเข้ามาจัดการซะก่อน ทุกฝ่ายจึงแยกย้าย กันด้วยดี
ด้านลำดวน ที่รู้ว่าภารุจค้างคืนกับมดแดง ก็ไม่พอใจ จึงเข้าไปอ่อยภารุจถึงในห้องนอน แต่กลับถูกภารุจปฏิเสธ และสั่งห้ามทำเช่นนี้อีก ไม่อย่างงั้น จะอยู่ร่วมบ้านกันไม่ได้ ลำดวนทั้งเสียหน้า ทั้งผิดหวัง กินเหล้าเมา ทิ้งต้นกล้าไว้ที่ศาลารอรถในหมู่บ้าน โชคดีที่นีรณัฐผ่านมาเอาต้นกล้าไปดูแล ภารุจรู้เรื่องก็ยิ่งรู้สึกดีกับนีรณัฐ แต่โกรธลำดวนมาก จึงไล่ออก และแน่นอนว่าใส ซื่อ อย่างนีรณัฐ รีบอาสาดูแลต้นกล้าให้ทันที หึหึ งานนี้ภารุจเสร็จแน่!!!!
สารวัตรพิชิตชัย ปลอมตัวมาหานีรณัฐอีกครั้ง ทว่าครั้งนี้ไม่รู้ว่าถูก ยักษ์ (ป็อป-จิณณะ จอมขันเงิน) ฆาตกรสะกดรอยตามแต่ความบังเอิญทำให้ยักษ์คลาดไป สารวัตรพิชิตชัยจึงมาหานีรณัฐโดยยักษ์ไม่ทันรู้ที่อยู่ซุปตาร์สาวหากเรื่องราวที่นีรณัฐจะไปเป็นพี่เลี้ยงของต้นกล้า บวกกับแววตาของนีรณัฐที่พูดถึงภารุจ ทำให้สารวัตรใจคอไม่ดี นายตำรวจหนุ่มหวังลึกๆ ว่า นีรณัฐคงไม่ได้คิดอะไรกับหมอรุจตามที่พูดจริงๆ
เมื่อมดแดง กลายเป็นพี่เลี้ยงคนใหม่ของต้นกล้า เขมิกาก็ดิ้นพร่านนนน ไหนจะข่าวลือที่มดแดงหญิงสาวคุยกับกำนันพงษ์จะไม่ยอมเสียหน้า เสียผู้ชายให้ผู้หญิงขี้เหร่อย่างมดแดงแน่นอน ว่าแล้วสองพ่อลูกก็วางแผนรวมหัวกันรวบภารุจมากินให้ได้ หากแผนก็ต้องล่มเมื่อนีรณัฐลากเพลินตา และการุณลุยเข้าไปช่วยภารุจที่ถูกมอมเหล้าถึงในบ้าน ภารุจเลยรอดเสียตัวหวุดหวิด นีรณัฐบ่น หมอหนุ่ม รูปหล่อ จิตใจดี ชีวิตช่างอยู่ในอันตรายพอๆ กับการถูกตามฆ่า
หลังจากรอดพ้นการเสียตัวหวุดหวิด ภารุจก็เป็นฝ่ายต้องช่วยการุณ ฝ่ากำแพงอย่างผู้ใหญ่เสือที่สั่งครูเพลินตาเลิกคบหา การุณกลุ้มไม่รู้จะทำยังไง ภารุจแนะนำว่าต้องใช้ความจริงใจ พิสูจน์ตัวเอง เวลาจะทำให้ผู้ใหญ่เสือใจอ่อน
เหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวายยังตามมา เมื่อกำนันพงษ์ปลุกระดมชาวบ้านให้ต่อต้านภารุจ เพราะเจ็บแค้น ที่ภารุจทำให้ลูกสาวสุดที่รักเสียหน้า เสียใจ จนจะหนีไปกรุงเทพฯ ภารุจเลยต้องลุยดงนักเลงเข้าไปคุยกับกำนันพงษ์อย่างลูกผู้ชาย แม้กำนันพงษ์จะไม่เข้าใจ แต่เขมิกาเข้าใจ ยอมแพ้อย่างมีศักดิ์ศรี ดีกว่าถูกตราหน้าว่าหน้าไม่อาย ผู้ชายไม่เอา
ยิ่งภารุจเกิดเรื่องวุ่นวาย แพทย์หนุ่มก็ยิ่งได้ใกล้ชิดกับนีรณัฐ สองคนมีความสุข เมื่ออยู่ใกล้กัน แต่ระหว่างนั้น นีรณัฐคอยท่องว่า ห้ามรัก ห้ามรัก ไม่งั้นจะทิ้งภารุจไม่ลง การแก้แค้นก็จะไม่สำเร็จ
ข่าวลือเรื่องหมอรุจสุดหล่อ คบหากับมดแดง ผู้หญิงสุดขี้เหร่ ดังกระฉ่อนทั่วหมู่บ้าน พิมพ์พรรณไม่อยากให้หลานสาวเสียหาย จึงสั่งให้นีรณัฐเลิกเป็นพี่เลี้ยงให้ต้นกล้า นีรณัฐไม่ยอมโวยวาย รื้อฟื้นว่าพิมพ์พรรณคอยบงการชีวิตของเธอไปทุกเรื่อง เธอจะไม่ทนอีกแล้ว!!! พูดจบก็ออกจากบ้านไปด้วยความโมโห ภารุจจึงเตือนสตินีรณัฐว่า ที่ป้าพิมพ์พรรณทำทุกอย่างก็เพราะรัก นีรณัฐเลยได้สติกลับบ้าน แต่ระหว่างทางผ่านตลาด ได้ยินเสียงคนทะเลาะกัน เลยเข้าไปดู จึงเห็นว่าพิมพ์พรรณกำลังต่อว่าชาวบ้านคนนึง ที่อ่านข่าวนีรณัฐแล้วต่อว่าเสียๆ หายๆ พิมพ์พรรณทนไม่ได้ จึงด่าชุดใหญ่ วินาทีนั้นซุปตาร์อึ้งไป ที่เข้าใจป้าผิดมาตลอด
เมื่อถึงบ้านนีรณัฐก็เข้าไปกราบป้าขอโทษ พิมพ์พรรณเลยอธิบายเรื่องทั้งหมดว่าที่ให้หลานสาวทำงานมากมาย เพื่อไม่ให้อยู่เฉยๆ จมอยู่กับความโศกเศร้า นีรณัฐน้ำตาไหลรู้แล้วว่า ป้ารักตนมากแค่ไหน สองป้าหลานจึงเข้าใจกัน จู่ๆ พี่พจน์ ผู้จัดการดาราสาวก็ถูกทำร้าย และถูกขโมยมือถือ ทำให้สารวัตรพิชัยชัยเป็นห่วงในความปลอดภัยของนีรณัฐ สารวัตรจึงปลอมตัวเป็นชาวบ้านจนๆ แฝงอยู่ในหมู่บ้าน
ถึงเขมิกาจบ แต่กำนังพงษ์ไม่จบ การถูกลูบเหลี่ยมครั้งนี้ ต้องได้รับการชดใช้ กำนันพงษ์จึงส่ง เข้ม ลูกน้องคนสนิทไปดักทำร้ายภารุจ จนได้รับบาดเจ็บ หากนีรณัฐ ยอดรัก การุณผ่านมาเห็นจึง ช่วยเอาไว้ได้
ระหว่างนอนโรงพยาบาล นีรณัฐคอยดูแลภารุจอย่างดี จนสารวัตรพิชิตชัยรู้ดีว่า คงหมดหวัง เขาจึงไปนั่งเมาที่ร้านยาดองในตลาด ขากลับเกิดเมาชนเข้ากับเขมิกา หญิงสาวมองพิชิตชัยในสภาพชาวบ้านอย่างดูถูก แต่พิชิตชัยสนใจผู้หญิงหยิ่งยะโสอย่างเขมิกาขึ้นมาทันที ด้านภารุจที่เห็นมดแดงวนเวียนดูแล ก็รู้สึกซาบซึ้ง และรู้ใจตัวเองทันที เขารักมดแดง และเขาจะสารภาพความในใจ แต่ยังไม่ทันได้บอกรัก พิมพ์พรรณก็เกิดป่วยกะทันหัน นีรณัฐปลอมตัวไม่ทัน จึงมีรอยกระดำกระด่าง แล้วความจริงก็กระจ่างเมื่อมีเด็กตกลงไปในคลอง มดแดงลงไปช่วย เครื่องสำอางหลุดลอก ภารุจจึงได้รู้ว่าที่แท้มดแดงคือซุปตาร์สาวคนดัง!!! ตึงง!!
นีรณัฐจำต้องเล่าความจริงเรื่องคดี และการปลอมตัว ดาราสาวเครียดนึกว่าภารุจจะโกรธ หากภารุจกลับเข้าใจในเหตุผลต่างๆ เมื่อรู้ว่ามดแดงคือนีรณัฐ ภารุจขอโทษที่เคยปฏิเสธนีรณัฐกลางโรงอาหารเขาอธิบายว่า ที่ปฏิเสธหญิงสาวไม่ใช่เพราะไม่สวยพอ แต่เพราะปัญหาที่รุมเร้า ไหนจะโดนพ่อกดดันเรื่องสอบแพทย์ บวกกับที่บ้านมีปัญหาครอบครัวครั้งใหญ่ เครียดมาก เลยไม่อยากสนใจเรื่องอะไร นีรณัฐอึ้งที่ผ่านมาเผลอโกรธ เข้าใจผิดคิดแค้นไปคนเดียว มองเห็นแต่ตัวเอง เห็นแต่ความเจ็บปวดของตัวเอง จนไม่สนใจ ไม่มองว่า คนอื่นก็ผ่านเรื่องทุกข์ กดดันมามากแค่ไหน นีรณัฐยิ้มดีใจ บอกตัวเอง ยกเลิกแผนล้างแค้นภารุจแล้ว!!! สองคนกระหนุงกระหนิงได้ไม่ทันไร ก็เกิดเรื่อง!!!
แหม่ม (มาริสา คิทเทลเบอร์เกอร์) เด็กสาววัย 16 มาหาภารุจถึงโรงพยาบาล ทั้งสองมีปากเสียงกัน คนในโรงพยาบาลได้ยินชัดว่า แหม่มคือแม่ของต้นกล้า!!!! ตึง!!!! แหม่มเครียดจนคุ้มคลั่ง วิ่งร้องไห้ออกมาหน้าโรงพยาบาล พยายามกรีดข้อมือตัวเองดีที่ถูกช่วยเหลือได้ทัน ชาวบ้านที่มาเห็นเหตุการณ์พากันลือใหญ่โตว่าภารุจมีเมียวัย 15 สถานการณ์เลวร้ายลง เมื่อพ่อของแหม่ม มาเอาเรื่องภารุจ ฐานพรากผู้เยาว์ นีรณัฐรู้เรื่องก็อึ้งมาก คิดไม่ออก บอกไม่ถูก หากภารุจสัญญาจะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย
กำนันพงษ์ฉวยโอกาส เกลี้ยกล่อมให้พ่อของแหม่มเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพื่อแก้แค้นที่ภารุจทำให้ลูกสาวเสียหน้า เมื่อภารุจพยายามเจรจา พ่อของแหม่มก็ไม่ยอมท่าเดียว แหม่มสงสารภารุจ ไม่อยากให้ภารุจติดคุก จึงบอกความจริงกับทุกคนว่า พ่อของเด็กไม่ใช่ภารุจ แต่คือ มาร์ค (เบนซ์-ศุภกิจ อมรฐิติพงศ์) หลานชายของภารุจต่างหาก ทุกคนอึ้ง
เมื่อเรื่องมาถึงขั้นนี้ ภารุจจำต้องคุยกับ ปารีณา พี่สาวถึงเรื่องราวที่คงปิดต่อไปไม่ไหว ปารีณา จึงตัดสินใจ เรียกมาร์ค ลูกชายวัย 16 กลับมาเคลียร์ปัญหา ด้านภารุจ ก็บอกความจริงกับ ภาคภูมิ บิดาและ ประไพ (เดือนเต็ม สาลิตุล) มารดา หลังจากปิดเรื่องนี้มาตลอด เพราะปารีณาขอร้องภารุจ เนื่องจากตอนที่แหม่มคลอดลูก ประไพโรคหัวใจกำเริบ หมอบอกไม่ให้มีเรื่องเครียดกระทบกระเทือน ด้านภาคภูมิก็ลงสมัครคณบดี ถ้ามีข่าวไม่ดี ภาคภูมิอาจพลาดตำแหน่ง ไหน ๆ ภารุจก็ต้องย้ายมาเป็นแพทย์ที่ต่างจังหวัดอยู่แล้ว ปารีณาเลยขอร้องให้ภารุจเอาเด็กมาเลี้ยง รอเวลาส่งเด็กไปให้พ่อของมาร์ค หากเวลาผ่านไป ภารุจกลับรักต้นกล้าเหมือนลูก ทำใจไม่ได้ ที่จะส่งต้นกล้าไปให้คนอื่น จึงขอเลี้ยงต้นกล้าไว้เอง ภาคภูมิจึงตกลงเจรจากับพ่อของแหม่ม ว่ายินดีรับผิดชอบ พ่อของแหม่มยอม เรื่องราวน่าจะจบลงด้วยดี หากความเครียดเรื่องมาร์ค และพลาดตำแหน่งคณบดี ทำให้ภาคภูมิเส้นเลือดในสมองแตก เป็นอัมพฤกษ์ ภารุจจึงรีบกลับกรุงเทพเพื่อดูแลพ่อทันที
ในขณะที่ภารุจเจอเรื่องร้าย ด้านนีรณัฐ ก็มีข่าวดี เมื่อทางตำรวจแจ้งว่าจับคนร้ายที่ฆ่าอรปรียาและณัฐนันท์ได้แล้ว ซุปตาร์สาวจึงรีบเข้ากรุงเทพฯ โดยไม่รู้เลยว่า คนร้ายตัวจริงยังลอยนวลอยู่ คนร้ายแอบตามนีรณัฐกลับมาที่ต่างจังหวัด แต่เกิดเหตุให้พลัดกัน คนร้ายควานหานีรณัฐ แต่จังหวะเหมาะ เมื่อพี่พจน์ผู้จัดการมาหานีรณัฐ ฆาตกรจึงตามมาฆ่าปิดปากนีรณัฐ พี่พจน์ถูกทำร้าย นีรณัฐเกือบแย่ หากภารุจเข้ามาต่อสู้กับคนร้าย ช่วยเอาไว้ได้หวุดหวิด คนร้ายหนีไป และถูก “นายใหญ่” สั่งให้ไปกบดานสักพัก
หลังจากนีรณัฐเกือบถูกฆ่า รอบล่าสุด ทางตำรวจจึงมั่นใจว่า ตัวบงการยังคงลอยนวลอยู่ นีรณัฐกลัวมาก แต่ภารุจบอกจะดูแลปกป้องหญิงสาวเอง นีรณัฐดีใจมาก หากความรักก็แทบพังลงเมื่อภารุจไปแอบได้ยิน นีรณัฐคุยกับพี่พจน์ เรื่องที่นีรณัฐเคยวางแผนแก้แค้น ใช้เล่ห์กลทำให้ภารุจรัก ภารุจเสียใจมาก นีรณัฐพยายามตามง้อเท่าไหร่ ก็ไม่เป็นผล แถมดาวิกา อดีตแฟนเก่ายังกลับมาง้อภารุจ นักแสดงสาวร้องห่มร้องไห้กอดภารุจเอาไว้ ทำให้นีรณัฐเข้าใจผิด จังหวะนั้น ธัชชัย (ปุ๋ง-หรัณย์ กิ่งโพธิ์ตัน) นักธุรกิจหนุ่ม ก็เข้ามาจีบ นีรณัฐจึงควงธัชชัยเพื่อประชด หากเมื่อคุยกับธัชชัยได้เพียงไม่นาน นีรณัฐก็พบเห็นบางสิ่งบางอย่างในภาพที่อรปรียาเคยส่งให้ จึงรู้ว่าธัชชัยคือแฟนที่อรปรียาปกปิดไว้!!!
นีรณัฐจึงต้องเข้าใกล้ธัชชัย เพื่อสืบความจริง ภารุจเสียใจมากที่เห็นนีรณัฐเปิดตัวว่าคบกับธัชชัย แม้จะเจ็บปวดที่ทำให้ภารุจเสียใจ แต่นีรณัฐไม่มีทางเลือก ธัชชัยพานีรณัฐไปพบ อนุชิต (มาฬิศร์ เชยโสภณ) บิดา ความบังเอิญ ทำให้นีรณัฐได้รู้ว่า ปารีณาเป็นภรรยาลับของอนุชิต นีรณัฐอึ้งมาก แต่ปารีณาขอร้องไม่ให้บอกภารุจ
ยิ่งเข้าใกล้ธัชชัย นีรณัฐยิ่งพบพิรุธหลายเรื่อง ที่เกี่ยวกับอรปรียา สารวัตรพิชัยชัยเป็นห่วงดาราสาวมาก แต่เตือนเท่าไหร่ นีรณัฐก็ยืนยันจะหาหลักฐานให้ได้ ขณะที่เกือบได้หลักฐานโยงไปถึงตัวบงการ พิมพ์พรรณก็อาการไม่ค่อยดี นีรณัฐเลยกลับมาเยี่ยมป้า ทว่าในวันนั้นเอง ยักษ์ สะกดรอยตามมาลักพาตัวนีรณัฐ โดยมีเพลินตาพ่วงไปด้วย เพราะอยู่ในเหตุการณ์
ยิ่งเข้าใกล้ธัชชัย นีรณัฐยิ่งพบพิรุธหลายเรื่อง ที่เกี่ยวกับอรปรียา สารวัตรพิชัยชัยเป็นห่วงดาราสาวมาก แต่เตือนเท่าไหร่ นีรณัฐก็ยืนยันจะหาหลักฐานให้ได้ ขณะที่เกือบได้หลักฐานโยงไปถึงตัวบงการ พิมพ์พรรณก็อาการไม่ค่อยดี นีรณัฐเลยกลับมาเยี่ยมป้า ทว่าในวันนั้นเอง ยักษ์ สะกดรอยตามมาลักพาตัวนีรณัฐ โดยมีเพลินตาพ่วงไปด้วย เพราะอยู่ในเหตุการณ์
เมื่อฟื้นขึ้นมา นีรณัฐถึงรู้ว่า อนุชิต คือคนบงการ ผู้อยู่เบื้องหลังการฆ่าอรปรียา เหตุเพราะอรปรียาที่กำลังคบกับธัชชัย รู้ว่าอนุชิตค้ายา อนุชิตจึงฆ่าปิดปาก ส่วนณัฐนันท์โดนฆ่า เพราะไม่ยอมให้โทรศัพท์มือถือที่นีรณัฐลืมไว้ ในวันที่ถูกมอมเหล้า อนุชิตคาดคั้นนีรณัฐถึงหลักฐานที่อรปรียาเคยส่งให้ นีรณัฐบอกไม่รู้ แต่ยักษ์เอาโทรศัพท์มือถือของนีรณัฐไปเปิดหาข้อมูล ระหว่างนั้นอนุชิตก็เริ่มลงมือซ้อมเพื่อให้นีรณัฐคายข้อมูล ซุปตาร์สาวสภาพย่ำแย่ เพลินตาไม่รู้จะช่วยยังไง ปารียาที่แอบสะกดรอยตามอนุชิตมา รีบโทรให้ภารุจมาช่วย
ภารุจ การุณ สารวัตรพิชิตชัย ผู้ใหญ่เสือและทีมตำรวจบุกเข้าไปช่วยนีรณัฐ ในวินาทีเป็นวินาทีตาย นีรณัฐเอาตัวเองบังกระสุนให้ภารุจ แ
เรื่องย่อ : นางฟ้าเปื้อนฝุ่น (2016/2559) หญิงสาว ลูกสาวรัฐมนตรีมีชีวิตราวนางฟ้าปลอมลงมาศึกษาคนบนดิน ปีกเปื้อนฝุ่นแลกเกียรตินิยม ชายหนุ่ม ดิ้นรนเพื่อให้อยู่รอด ระหว่างความจริงของตนกับความฝันของพ่อ คือวงดนตรีลูกทุ่ง คนหนึ่งชีวิตใสกิ๊ง ไม่เคยลำบากแต่ก็พร้อมยอมอดทนเรียนรู้ ส่วนอีกคนชีวิตไม่ได้อยากเป็นครู แต่ก็ต้องมาสอนให้คนใส ๆ รู้จักใช้ชีวิตโดยไม่เจตนา แต่สุดท้ายกลายเป็นว่า ไม่รู้ใครได้เรียนรู้จากใครกัน พาขวัญ (โซฟี่-อัปสรสิริ อินทรคูสิน) เข้ามานำเสนอผลงานสารนิพนธ์เกี่ยวกับการเต้นหางเครื่องที่มหาวิทยาลัยเกือบไม่ทัน โชคดีที่เพื่อนสนิทคือ นัชชา (ณัฎฐกันย์ อัมพรพงษ์) กับ ธีรวิทย์ (ไดสุเกะ สุกี้คาวา) ช่วยถ่วงเวลา อาจารย์เอก (มาฬิศร์ เชยโสภณ) ไว้ โดยมี ธนัญญา (ช้องมาศ บางชะวงษ์) กับลูกคู่อย่าง ปานจิต (ณัฐชยกานต์ ปากหวาน) และลักษมี (แพร อริศรา) ขอให้พาขวัญหมดสิทธิ์ส่งงาน และไปจบปีหน้าแทนเนื่องจากมาสาย ด้วยต้องการกำจัดคู่แข่งในการแย่งเกียรตินิยมอันดับ 1 เหรียญทอง สุดท้ายอาจารย์เอกบอกว่างานที่พาขวัญทำมาเสนอในเบื้องต้น ยังขาด วิญญาณ ของหางเครื่องไป และแนะนำว่าให้ส่งเป็นงานเต้นประเภทอื่นที่เธอถนัดกว่าอย่าง บัลเล่ต์ คอนเทมฯ หรือฮิปฮอป แต่พาขวัญไม่อยากเปลี่ยน เมื่อออกมาจากห้องนำเสนอผลงาน พาขวัญพบ ศรุต (ณรงค์ฤทธิ์ รัตนภักดี) ชายหนุ่มเจ้าของกิจการร้านอาหาร และไร่ผักออร์แกนิก คนที่ ดวงกมล (ภัสสร บุณยเกียรติ) แม่ของเธอต้องการจะให้ลงเอยด้วย เพราะเหมาะสมกันทั้งฐานะ และชาติตระกูล มารอรับเธออยู่ เธอจึงปลอมตัวโดยอาศัยชุดขอทานจาก ละครดาวพระศุกร์เดอะมิวสิคัลของนัชชา จนเกือบรอดสายตาศรุตไปได้ ถ้าไม่ใช่เพราะกลุ่มธนัญญาเห็นเสียก่อน ขณะวิ่งหนีศรุตออกมาถึงหน้ามหาวิทยาลัย พาขวัญเกือบถูกรถแท็กซี่ของ นันทพงศ์ (กฤษฎี พวงประยงค์) ที่เพิ่งไปรับ ชลธี (ปรัชญ์ ปรมิณ) หนุ่มนักเรียนนอก ทายาทเจ้าของวงดนตรีลูกทุ่งชาญชลธีชน เธอฉวยโอกาสรีบขึ้นรถแท็กซี่หนีศรุตไป ในรถแท็กซี่ พาขวัญไม่พอใจทีท่าของชลธีที่เหมือนดูถูกเธอ ทั้งคู่ต่อปากต่อคำกัน พาขวัญทำโทรศัพท์มือถือหล่นในรถแท็กซี่โดยไม่รู้ตัว ขณะที่รอน้องชายที่จบการบริหารด้านดนตรีกลับมาช่วยกอบกู้วง ชาญชัย (โน้ต-วัชรบูล ลี้สุวรรณ) ก็ถูก เจ๊หอม (ดีใจ ดีดีดี) และนกเขา (ชาญณรงค์ ขันทีท้าว) โทรมาทวงหนี้ก้อนใหญ่ ส่วนทางลูกวงที่เตรียมงานต้อนรับชลธีก็ถูกร้านค้าต่าง ๆ ยื่นคำขาดว่าไม่ให้เชื่อของอีกต่อไป สถานการณ์ด้านการเงินของวงกำลังย่ำแย่ ชลธีคาดคั้นเอาความจริงจากนันทพงศ์ขณะนั่งรถกลับบ้าน แต่นันทพงศ์ก็ตอบเลี่ยงไปว่าเป็นเพราะหน้าฝน งานจ้างเลยน้อย เนื่องจากศรุตมาเล่าให้ดวงกมลฟัง พาขวัญจึงถูกแม่สั่งไม่ให้ทำธีสิสเรื่องางเครื่อง เพราะมองว่าไม่เหมาะสมกับฐานะลูกสาวของรัฐมนตรี อรรถพล (นงค์ เชิญยิ้ม) และอนาคตผู้บริหารกิจการของเธอ พาขวัญเสียใจ แต่ก็ได้กำลังใจจาก วิไล (หลิว-อาราดา พรหมพฤกษ์) เลขานุการส่วนตัวของแม่เธอช่วยปลอบ เมื่อชลธีมาถึงบ้าน ก็มีสาว ๆ ในวงมาต้อนรับ ทั้ง ภารวี (แพร เอมเมอรี่) นักร้องนำ มณีรัตน์ (เอี๊ยม-วรรษพร วัฒนากุล) หัวหน้าหางเครื่อง และรสริน (หทัยชนก สวนศรี) หางเครื่องสาวสุดเซ็กซี่ ชลธีต้องการจะคุยเรื่องสถานการณ์ของวงกับชาญชัย ชาญชัยบอกให้คุยทีหลังเพราะทุกคนในวงรอเจอชลธีอยู่ สุดท้ายเมื่อชลธีเข้าไปเห็นตารางงานของวงในห้องทำงานชาญชัย เขาก็บอกให้ชาญชัยยุบวงชาญชลธี ชาญชัยโกรธมาก ทุกอย่างที่พี่น้องสองคนโต้เถียงกันอยู่ภายใต้การรับรู้ของ เพทาย (นวพล ภูวดล) ผู้จัดการวงชาญชลธีที่แอบฟังอยู่ ในงานเลี้ยงต้อนรับชลธี ขณะที่ทุกคนสนุกสนานอยู่ ชาญชัยเข้าไปถามชลธีว่าแน่ใจนะที่จะทำให้ทุกคนที่กำลังมีความสุขนี้ตกงาน ชลธีลังเล หลังงานเลี้ยงเลิกรา นกเขารอจังหวะจะมาขโมยแท็กซี่ของนันทพงศ์ไป เพื่อเป็นการประกันเงินกู้ให้กับทางเจ๊หอม เพื่อเอาใจเจ้านาย แต่กลับพบว่ามีแสงวาบ ๆ ออกมาจากในรถ นกเขาเข้าใจว่าเป็น ผีดอกคูน (โย่ง เชิญยิ้ม) พ่อของชาญชัย และชลธีที่ตายไปแล้ว แต่ที่จริงแล้วคือแสงจากโทรศัพท์มือถือของพาขวัญ วันรุ่งขึ้น ก่อนออกจากบ้านชลธีได้เจอชาญชัย ชลธีบอกจะช่วยปรับปรุงวงให้ดีขึ้น ชาญชัยดีใจ และขอเวลาชลธี 4 เดือนเพื่อจะฟื้นฟูวงให้กลับมาเหมือนเดิม ถ้าไม่สำเร็จจะยอมให้ชลธีขายวง ชลธีตอบตกลง แต่จริง ๆ แล้วชาญชัยต้องการจะส่งวงชาญชลธีเข้าประกวดเพื่อชิงเงินรางวัลก้อนใหญ่ และสัญญาว่าจ้างหลายปี ในอีก 4 เดือนข้างหน้า พาขวัญยืมโทรศัพท์ของวิไลโทรเข้ามือถือตัวเอง จังหวะเดียวกับที่ชลธียืมรถแท็กซี่ของนันทพงศ์เพื่อออกไปทำธุระพอดีเลยเป็นคนรับสาย พาขวัญเข้าใจผิดคิดว่าชลธีเป็นคนขโมยมือถือของเธอ เธอจึงขู่ให้ชลธีเอาโทรศัพท์มาคืนให้ที่มหาวิทยาลัย เมื่อชลธีมาถึงก็เจอกับธนัญญาที่ขึ้นมาบนแท็กซี่เพราะจะไปพบ วงศกร (นิกกี้-สิรภพ สมผล) นักลีลาศหนุ่มเพลย์บอย เพื่อจะเชิญมาเป็นคู่เต้นในงานธีสิสของเธอ ด้วยหวังว่าจะทำให้ชนะพาขวัญได้ ชาญชัยบอกพาขวัญว่าวิไลเคยเป็นหางเครื่องในวงของเขา พาขวัญดีใจมากจึงขอชาญชัยไปเป็นหางเครื่องที่วงด้วย ท่ามกลางความตกใจของวิไล ชาญชัยบอกให้พาขวัญไปขอแม่มาก่อน เมื่อกลับบ้านไป พาขวัญโทรไปวางแผนกับอรรถพลเพื่อหลอกดวงกมลให้อนุญาตให้เธอไปฝึกบัลเล่ต์เพิ่มเติมกับมาดามเลอคาบูซิเยร์ เพื่อทำธีสิสบัลเล่ต์ให้ดีที่สุด เป็นเวลา 4 เดือน แต่ที่จริงเธอจะไปอยู่ในวงชาญชลธี ดวงกมลตกหลุมพรางเลยอนุญาต แต่ก็ไม่วายเป็นห่วง อรรถพลจึงบอกว่าให้วิไลตามไปดูแลด้วยเพื่อความสบายใจของดวงกมล วิไลอึดอัดใจที่ต้องกลับมาเจอกับชาญชัยอีกครั้งเพราะเคยมีความหลังครั้งอดีตกันอยู่ แต่ก็ยอมปลอมมาเป็น น้าวิไล กับ หลานขวัญใจ เข้ามาในวง เพราะรักและเห็นใจพาขวัญ ชลธีดีใจที่ได้เจอวิไลแล้วก็ต้องตกใจเมื่อวิไลพาพาขวัญมาด้วย ชลธีผิดหวังจากการออกไปสมัครงานที่โรงเรียนสอนดนตรีเพราะคุณวุฒิสูงเกินไป ประกอบกับการเห็นวงดนตรีมีแต่งานจ้างห่วย ๆ เลยตัดสินใจโทรหา เอกภพ (จิณณะ จอมขันเงิน) เจ้าของค่ายเพลงที่เพทายแอบให้นามบัตรมา เพราะต้องการขายวงชาญชลธีเพื่อความอยู่รอด เช้าวันรุ่งขึ้น รสรินปล่อยข่าวเรื่องชลธีถูกทำร้ายเพราะพาขวัญ และเห็นวิไลอยู่กับชาญชัยสองต่อสองในยามวิกาล ทำให้คนในวงส่วนใหญ่ไม่พอใจ นอกจาก ชดช้อย (ค่อม ชวนชื่น) อดีตหางเครื่องวัยดึก หวด (อู๊ด เป็นต่อ) และป้าน้อย (วันทนา บุญบันเทิง) แม่ครัว ทุกคนสุมหัวกันเม้าท์สองน้าหลานคู่นี้ว่าจะเข้ามาทำให้วงชาญชลธีเปลี่ยนไป รสรินเป่าหูมณีรัตน์ว่าวิไลจะมาเขี่ยเธอออก และเสี้ยมภารวีต่อว่าขวัญใจน่าจะมาเสียบแทนตำแหน่งนักร้องนำเพราะสาวกว่า ภารวีเหม็นหน้าพาขวัญขึ้นมาทันที ที่มหาวิทยาลัย เป็นวันสุดท้ายที่จะเปลี่ยนหัวข้อธีสิสได้ ธนัญญาเห็นธีรวิทย์กับนัชชาเข้ามาคุยกับครูเอก จึงเข้าใจว่าพาขวัญส่งมาให้แจ้งเปลี่ยนหัวข้อแทน เธอจึงพยายามถามครูเอกว่าพาขวัญเปลี่ยนหัวข้อธีสิสเป็นอะไร แต่ครูเอกไม่ยอมบอก แต่ก็กำชับนัชชากับธีรวิทย์ว่าคราวหน้าต้องให้พาขวัญมาด้วยตัวเอง พาขวัญถูกมณีรัตน์และหางเครื่องในวงใช้ให้ซักเสื้อผ้าเพราะเป็นหางเครื่องน้องใหม่ ระหว่างนั้นวิไลก็ถือโอกาสซักไซ้เรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืน พาขวัญไม่ยอมบอก จนกระทั่งวิไลขู่จะบอกดวงกมล พาขวัญจึงเล่าความจริงทั้งหมด ที่บ้านพาขวัญ ดวงกมลเชิญศรุตมาคุย และขอให้ตามหาที่อยู่ของมาดามเลอคาบูซิเยร์ให้ เพราะเธออยากจะไปเยี่ยมลูกมาก ศรุตรับปากว่าจะหาให้ เพทายพยายามลวนลามพาขวัญ และเสนอว่าจะช่วยผลักดันให้เป็นนักร้อง ถ้ายอมเป็นของตน แต่ ผ่องศรี (ณัฐรินทภรณ์ ยืนยง) โผล่มาขัดจังหวะพอดี พาขวัญเลยรอดไปได้ เจ๊หอมส่งนกเขาปลอมตัวเป็นแม่ค้าขายขนมมาสืบเรื่องงานของวง ได้ความว่าจะมีงานที่วัดหลวงตาเผือกวันเสาร์นี้ เจ๊หอมโกรธที่ชาญชัยไม่แจ้ง คิดว่าจะเม้มเงินที่จะมาใช้หนี้ ชลธีเห็นชาญชัยเอารถแท็กซี่ไปขับหารายได้ เลยคาดคั้นว่าเป็นเพราะต้องส่งตัวเองไปเรียนเมืองนอกใช่หรือไม่ สถานการณ์ทางการเงินของวงถึงได้ย่ำแย่ ชาญชัยบอกว่าเป็นสิ่งที่ตนรับปากพ่อไว้ และต้องทำให้ได้ งานทำบุญวัดหลวงตาเปลี่ยนเป็นงานโชว์แรกของวงตั้งแต่พาขวัญปลอมตัวเข้ามา ถึงจะไม่ได้ขึ้นเต้นแต่พาขวัญก็ตื่นเต้น แต่แล้วที่หน้าเวทีกลับมีคนดูไม่ถึง 3 คน พาขวัญช็อกมาก ในขณะที่ลูกวงทุกคนโชว์กันอย่างเต็มที่เหมือนเล่นคอนเสิร์ตใหญ่ก็ไม่ปาน พาขวัญงงกับการที่ทุกคนไม่รู้สึกอะไรที่แสดงไปโดยแทบไม่มีคนดู แต่ ผ่องศรี อดีตหางเครื่องที่ผันตัวมาทำเสื้อผ้าบอกว่าเป็นเรื่องปกติที่การแสดงจะต้องเต็มที่ไม่ว่าจะมีคนดูมากน้อยแค่ไหน ด้วยความสนิทสนมกันเพราะพาขวัญต้องมาช่วยซ่อมแซ่มชุดหางเครื่อง พาขวัญจึงค่อย ๆ ใส่ความคิดเรื่องเปลี่ยนสไตล์ชุดหางเครื่องให้ทันสมัยกับผ่องศรี ผ่องศรีเห็นดีด้วย เข้าทางชลธีพอดีที่อยากให้งานโชว์วันเปิดบ่อปลาคาร์ฟออกมาดูดีขึ้น เพราะเอกภพเจ้าของค่ายเพลงพี่ไอจีจะมาดูตามที่นัดไว้ ถึงกับเอาเงินเก็บสมัยเสิร์ฟอยู่ที่เมืองนอกมาช่วยค่าชุดหางเครื่อง ท่ามกลางความดีใจปนแปลกใจของชาญชัยที่เห็นน้องลงทุนพัฒนาวง วันคอนเสิร์ตเปิดบ่อปลาคาร์ฟ ทุกคนที่พาขวัญปกปิดความลับ มาร่วมประชุมกันโดยไม่ได้นัดหมาย ทั้งธนัญญา ศรุต อรรถพล ดวงกมล วงศกร พาขวัญได้แต่แอบอยู่หลังเวทีที่คิดว่าปลอดภัย แต่เเล้วก็เกิดเรื่องเมื่อธนัญญาแกล้งขัดขามณีรัตน์ เพราะหมั่นไส้ที่มาอ่อยวงศกร จนมณีรัตน์ไม่สามารถเต้นเพลงต่อไปได้ ผ่องศรีบอกให้พาขวัญออกไปเต้นแทน เพราะรู้ว่าเธอแอบดูการซ้อมอยู่ตลอด วันงานเทศกาลดนตรีมันแผล็บมากจึงนับเป็นหายนะของพาขวัญโดยแท้ เธอต้องขึ้นเต้นด้วย แล้วยังต้องเปลี่ยนชุดไปกินข้าวกับครอบครัวที่มีศรุตมาด้วย สลับกับกินกาแฟกับครูเอกที่เธอนัดอยู่ร้านติด ๆ กัน พาขวัญเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาวิ่งรอกจนเกือบแผนแตก แต่ก็รอดมาได้ด้วยความช่วยเหลือของวิไล ที่เกือบจะทำพังไปเหมือนกันเพราะดันมีเซอร์ไพรส์ แต่ก็กลายเป็นเซอร์ไพรส์นั้นเองที่ช่วยให้พาขวัญรอดมาได้ เอกภพถูกใจการแสดงของวงชาญชลธีแต่ก็ยังแบ่งรับแบ่งสู้อยู่ ไม่ยอมรับปากว่าจะเทคโอเวอร์วงชาญชลธีต่อหรือไม่ พาขวัญมารู้ทีหลังว่าตนแอบถูกชลธีหลอกใช้เพราะต้องการให้คนของพีไอจีมาดูการแสดง เธอเคืองชลธีเป็นอย่างมาก และประกาศว่าจะต่อต้านการขายชาญชลธีทั้งต่อหน้า และลับหลัง ชลธีได้รับการเชิญจากครูเอกผ่านทางเจ้าของโรงเรียนดนตรีที่เคยไปสมัครงาน แต่คุณวุฒิสูงเกินไป ให้มาช่วยวิจารณ์งานธีสิสเด็กที่ส่งงานด้านดนตรี เป็นโอกาสให้ชลธีได้ยินซาวด์เพลงของธีรวิทย์แล้วรู้สึกชอบ นัชชารู้ว่าชลธีมาจากวงชาญชลธีจึงรีบส่งข้อความไปบอกพาขวัญ พาขวัญจึงวางแผนจะดึงเพื่อน ๆ เข้ามาช่วยเธอปรับปรุงวงอีกแรง พาขวัญวางแผนให้ธีรวิทย์เข้ามาทำทีเป็นขอชลธีฝึกงานที่วงชาญชลธี และให้นัชชาปลอมเป็นแฟนขี้หึงของธีรวิทย์ติดตามมาด้วย ชลธีที่ชอบงานของธีรวิทย์อยู่แล้วก็ช่วยพูดกับชาญชัยให้เห็นดีเห็นงาม และรับธีรวิทย์เข้ามา เพทายไม่พอใจที่มีคนเข้ามาวุ่นวายในวงมากขึ้น ทำให้แผนการที่เขาวางไว้ในใจจะยุ่งยากขึ้นไปอีก ถ้าวงพัฒนาอย่างนี้ต่อไป ชลธีอาจล้มเลิกความตั้งใจจะขายก็ได้ วงชาญชลธีเริ่มดีขึ้น พาขวัญแอบปลื้มใจอยู่ลึก ๆ ที่เธอทำให้ชาญชลธี สดชื่น มีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง เธอเองก็ตื่นเต้นที่จะได้เป็นหางเครื่องอย่างเต็มตัวบนเวทีบนเวทีคอนเสิร์ตเกิดมาไม่เคยเจอ อันเป็นงานเลี้ยงพนักงานของค่ายเพลงพีไอจี ที่เอกภพอยากให้ผู้ถือหุ้นใหญ่ได้ดูการเเสดงของวงชาญชลธีก่อนตัดสินใจซื้อ เช้าวันเกิดเหตุรสรินแอบใส่สลอดลงไปในอาหารของพาขวัญ แต่บังเอิญมณีรัตน์กลายมาเป็นผู้รับเคราะห์แทน ในขณะที่พาขวัญก็เกิดอาการปวดท้องอย่างรุนแรงเช่นกัน เพทายจึงรีบนำทั้งสองส่งโรงพยาบาล รสรินแอบสะใจ คิดว่าแผนการของเธอนั้นสัมฤทธิ์ผล ธนัญญาซึ่งสืบรู้มาแล้วว่าวันนี้พาขวัญจะต้องรีบกลับไปเพื่อทำภารกิจสำคัญมากบางอย่าง แต่ไม่รู้ว่าอะไร เธอจึงคิดแกล้งเพื่อนด้วยการถ่วงเวลาในการบรรยายงาน เพราะพาขวัญได้บรรยายเป็นอันดับสุดท้ายต่อจากเธอ ด้วยเลขประจำตัวของพาขวัญนั้นอยู่หลังธนัญญา แม้พาขวัญจะกลับมาที่เวทีอย่างฉิวเฉียด และทำให้รสรินตกใจอยู่ไม่น้อยที่เธอมีเรี่ยวแรงลุกขึ้นมาเต้นได้ แต่คอนเสิร์ตก็ยังไม่สามารถเริ่มทำการแสดงได้ เพราะภารวีหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ขณะที่เหตุการณ์กำลังอยู่ในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวาน ก็ปรากฏว่ามีนักร้องลูกทุ่งชื่อดังแนวหน้าของวงการปรากฏตัวขึ้นกลางเวทีคอนเสิร์ต สร้างความพอใจให้กับพนักงานของพีไอจีเป็นอย่างยิ่ง แถมยังดึงพาขวัญออกมาร้องเพลงคู่อีกด้วย ซึ่งพาขวัญก็ทำได้ดีมากจนทุกคนในวงตก ภารวีกลับมายังวงชาญชลธีแล้วบอกว่าเธอถูกวางยาลักพาไปขังไว้โดยใครก็ไม่รู้ รสรินกับมณีรัตน์ใส่ร้ายพาขวัญว่าเป็นคนทำ เพื่อที่จะได้ขึ้นโชว์ร้องเพลงแทนภารวีในงานเมื่อคืน ภารวีเริ่มลังเลฐานะอันแท้จริงของพาขวัญ เมื่อวันหนึ่งขณะที่เธอต้องลอบออกไปมหาวิทยาลัย เพื่อรายงานความคืบหน้าของงานในช่วงเช้า ทานอาหารกับศรุตในมื้อค่ำ ชลธีแอบสะกดรอยตามพาขวัญไปติด ๆ แต่พาขวัญ ก็คลาดสายตาเขาไปอย่างหวุดหวิดทุกครั้ง พาขวัญช่วย จีน่า (บั๊บเบิ้ล-กรกฎ พวงสวัสดิ์) หางเครื่องชายใจหญิงของวง แก้ไขสถานการณ์บางอย่างที่บีบคั้นได้ขณะเข้าตาจน เธอทำโดยไม่ให้จีน่ารู้ แต่ชลธีเห็น เขามั่นใจว่าพาขวัญเป็นคนดีที่ไม่เอาเปรียบใคร พาขวัญกลายเป็นทั้งศิราณี และแม่พระที่คอยให้ความช่วยเหลือ และชี้แนะกับทุกคนในวงยามประสบปัญหาจึงยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ และมิตรภาพของเธอกับเพื่อน ๆ ในวงแน่นแฟ้นจนยากที่จะแยกขาดออกจากกัน ส่งผลให้การเก็บข้อมูลเพื่อทำโปรเจคท์ของเธอเป็นไปอย่างราบรื่น ชาญชัยพอเก็บเงินก้อนเล็ก ๆ จากการที่วงมีงานเพิ่มขึ้นได้บ้าง เขาจึงนำไปไถ่แหวนที่ครั้งหนึ่งตั้งใจจะใช้หมั้นหมายกับวิไล แต่ก็มีอันต้องเข้าใจผิดไปเสียก่อน เมื่อออกมาจากร้านทองด้วยความดีใจจะรีบเอาแหวนไปมอบให้หญิงที่ตนรัก โดยไม่ทันระวังชาญชัยถูกรถชนที่หน้าร้านทองนั่นเอง ชาญชัยเสียเลือดไปเป็นจำนวนมากจึงต้องการเลือดโดยด่วน ลูกวงในคณะทุกคนต่างแย่งกัน บริจาคเลือดเพื่อช่วยเหลือเจ้าของวง สร้างความประทับใจให้กับพาขวัญ และชลธีเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะชลธีที่นึกไม่ถึง ว่าทุกคนจะรัก และเสียสละให้กับพี่ชายของเขาได้ถึงเพียงนี้ การที่ชาญชัยประสบอุบัติเหตุขั้นโคม่าทำให้ต้องใช้เงินมาก ประกอบกับข่าวที่วงโดนจับเรื่องเล่นการพนัน ทำให้ฉาวโฉ่จนถูกแคนเซิลงานจ้างจนเกือบหมด เพทายจึงหลอกให้ชลธีเซ็นเอกสารกู้เงินนอกระบบเพื่อเอาเงินมารักษาพี่ชาย ลูกวงชาญชลธีก็ได้ชุ่มชื่นหัวใจอีกครั้ง เมื่อได้รับภาพถ่ายเก่าแก่ ตอนที่หัวหน้าดอกคูณเคยเป็นนักเลงถ่ายคู่กับสมบัติที่ซ่อนเอาไว้ ปัญหาคือมันถูกส่งมาโดยใคร แต่อย่างน้อยข่าวลือที่บอกว่าหัวหน้าดอกคูณเคยเป็นนักเลงมาก่อนก็เป็นความจริง เมื่อถึงตอนลำบากอย่างนี้พอดี ใครบางคนก็พูดถึงขุมทรัพย์ของดอกคูนขึ้นมา เพทายถึงกับหงุดหงิด เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาเป็นคนเดียวที่พยายามแอบหาที่ซ่อนสมบัติของดอกคูน แต่ตอนนี้ทั้งวงจะลุกขึ้นมาสมบัตินี้กันหมด เขาจึงแกล้งบอกว่าเรื่องสมบัติไม่น่าจะมีจริง เป็นเพียงกุศโลบายของดอกคูนที่ต้องการให้ทุกคนอยู่กับวงชาญชลธีไม่หนีหายไปไหน แต่แทบทุกคนก็ไม่เชื่อเพทาย ชดช้อยจำได้เล่า ๆ ว่าเป็นตัวเลขที่ต้องถอดรหัส ป้าน้อยบอกว่าเป็นรหัสของตู้เซฟที่ยังหาตัวตู้ไม่เจอ ส่วน เบลเบล (เพ็ญนภางค์ ชายด่าน) หางเครื่องรุ่นเดอะที่ยังเต้นอยู่บอกคับคล้ายคับคลาว่าเป็นเบอร์บัญชีธนาคาร แต่ไม่มีใครจำตัวเลขเหล่านั้นได้สักคน เหมือนจะมีการจดไว้ แต่พอไม่รู้ความหมายก็เลิกสนใจกันไป ปฏิบัติการตามล่าพลิกหาตัวเลขจึงเกิดขึ้น คืนนั้นพาขวัญฝันถึงดอกคูนจนตกใจตื่น จึงมายืนมองรูปดอกคูนในห้องของตัวเอง พาขวัญเห็นสายตาของดอกคูนในรูปมองไปที่มุมห้องด้านหนึ่งจึงเดินไปดู เห็นเลขลาง ๆ บนเสามุมห้อง จนเมื่อปัดฝุ่นแถวนั้นออกจึงเห็นเป็นชุดตัวเลข 8188216832 พาขวัญตื่นเต้นมากจนอยากจะโทรปลุกวิไลที่นอนเฝ้าชาญชัยอยู่ที่โรงพยาบาลแต่ก็ไม่กล้า ชลธียอมรับว่าพีไอจีสนใจอยากให้พาขวัญเซ็นสัญญาเป็นนักร้องจริง แล้วย้อนถามพาขวัญกลับไปว่าเธอจะยอมทำหรือไม่เพื่อช่วยวง พาขวัญปฏิเสธเพราะไม่คิดว่าวิธีนี้จะเป็นทางออก วงชาญชลธีจะต้องกลับมาได้ด้วยตัวเองไม่ใช่เพราะแลกกับตัวของเธอ แล้วถ้าพีไอจีเห็นความสามารถของเธอ ทำไมวงถึงไม่ใช้ประโยชน์จากตรงนี้มาช่วยวง แทนที่จะหาทางออกง่าย ๆ ด้วยการขายเธอออกไป เมื่อภารวีออกจากวงไป คนในวงก็เริ่มระส่ำระสาย แต่ก็ยังคงพยายามหาปริศนาตัวเลขต่อไป เมื่อยังคิดไม่ออก หลายคนเริ่มท้อแท้ และคิดจะไปจากวงชาญชลธี แม้ชลธีจะยืนยันว่าถ้าพบสมบัติ และนำไปใช้หนี้แล้วก็จะแบ่งให้ลูกวงทุกคนเท่า ๆ กัน แต่ก็มีหลายคนตัดสินใจไม่รอ เริ่มจากรสรินที่มีเสี่ยมาติดพันที่ผับที่ไปเป็นโคโยตี้ หลังจากถูกตามตื๊อมานาน และเอาเงินมาล่อ รสรินจึงตอบตกลงทิ้งนันทพงศ์ไปอยู่ด้วย ตามด้วยมณีรัตน์ที่พาหางเครื่องกลุ่มหนึ่งออกไปเต้นให้กับวงอื่น โดยทิ้งเพทายไว้ที่นี่ เผื่อเจอสมบัติก็ยังจะมีเอี่ยว แต่แท้จริงแล้วเป้าหมายของมณีรัตน์คือการเข้าไปเป็นนักร้องของค่ายพีไอจี โดยผ่านการช่วยเหลือของเพทาย นันทพงศ์เสียใจเรื่องรสรินมาก พาขวัญเข้าไปปลอบจนชลธีมาเห็นเลยเข้าใจผิด คิดว่าพาขวัญโกรธเรื่องที่จะขอให้เธอเซ็นสัญญาเป็นนักร้อง เลยเปลี่ยนใจไปหานันทพงศ์คนซื่อที่แสนดี ระหว่างที่ลูกวงทยอยกันออกไป พาขวัญได้ยินเด็กท่องสูตรคูณเดินผ่านไปเลยนึกออกว่าที่แท้เลขรหัสนั้นคือ สูตรคูณแม่ 8 นั่นเอง เพราะฉะนั้นลายแทงสมบัติจึงน่าจะอยู่ใน สูท(ของดอก)คูน ผ่องศรีจึงไปเอาสูททุกตัวของดอกคูนที่เก็บไว้มาหา แต่ก็ยังไม่พบ และยังคงตีไม่ออกว่า แม่ 8 เกี่ยวข้องอะไรด้วย ป้าน้อยนึกขึ้นได้ถึงสูทตัวเก่งของดอกคูนในอดีตที่อยู่ในบ้านชาญชัย ผ่องศรีจึงไปขอชลธีให้เอาออกมาให้ เมื่อตรวจดูก็พบว่าที่ด้านซับในตะเข็บสูทตัวนั้นมีกระดาษแผ่นเล็กซ่อนอยู่ในซองพลาสติกมีคำใบ้เขียนว่า ถนนปลอดทุกข์ ทุกคนแยกย้ายไปตามหาตามความเข้าใจของตน พาขวัญไปหาในห้องพระ ชดช้อยไปหาที่หน้าห้องสุขา หวดไปหาที่ถนนหน้าบ้าน มีเพียงชลธีที่พุ่งไปที่ห้องทำงานเก่าของพ่อที่พาขวัญอาศัยเป็นห้องนอน เพราะเชื่อมโยงได้ว่า จากสูตรคูณแม่ 8 เมื่อรวมกับคำใบ้ถนนปลอดทุกข์ซึ่งคือทางดับทุกข์ หรือ มรรค 8 นั่นเอง และหนทางปฏิบัติมรรค 8 ก็คือ การเดินสายกลาง และที่ดอกคูนชอบเดินก็คือในห้องทำงานเพื่อแต่งเพลง ดังนั้นใต้พื้นไม้กระดานชิ้นที่อยู่ตรงกลางห้องพอดี เขาจึงพบกล่องใส่ซิมการ์ดซ่อนอยู่ที่นั่น ด้วยความที่เป็นซิมการ์ดรุ่นเก่า ทุกคนอยากรู้ว่ามันเป็นซิมของใคร อะไร ยังไง แต่ไม่มีใครมีโทรศัพท์รุ่นที่ใส่ซิมแบบนั้นได้เลยมาหาตู้ขายเครื่องโทรศัพท์มือสองที่ตลาดนัดจนได้ไป แล้วพยายามโทรออกไปเบอร์ที่เมมไว้เพียงเบอร์เดียวในซิมนั้น เสียงมือถือของพาขวัญดังขึ้น ทุกคนตกใจคิดว่าเป็นซิมนั้นโทรหาพาขวัญ ปรากฎว่าเป็นวิไลที่โทรมาบอกเรื่องชาญชัยพ้นจากอาการโคม่าแล้ว หลังจากนั้นพอใช้ซิมโทรไปอีกรอบ สัญญาณเลขหมายปลายทางก็บอกเป็นว่า ไม่มีสัญญาณตอบรับจากเลขหมายที่ท่านเรียก ระหว่างที่ทุกคนง่วนกับการหาขุมทรัพย์ ก็มีคุณหญิงคนหนึ่งโทรมาหาเพทายเรื่องจะจ้างวงไปโชว์ในงานการกุศลหาทุนช่วยเด็กกำพร้าที่โรงแรมละแวกชานเมือง เพทายขอเงินมัดจำล่วงหน้า คุณหญิงบ่ายเบี่ยง อ้างว่าเป็นสมาคมด้านการกุศลใหญ่โต ขอจ่ายที่งานทีเดียว ด้วยความร้อนเงิน ชลธีบอกเพทายว่าอนุญาตตามที่คุณหญิงขอมา พาขวัญไปตามวิไล และรุ่นน้องนักเต้นที่มหาวิทยาลัยมาเสริมในส่วนหางเครื่องที่หายไป ชลธียังคงพยายามโทรตามเบอร์ในซิมของดอกคูนวันละเป็นสิบรอบ แต่ก็ยังไม่มีคนรับสาย เมื่อถึงวันงาน วงชาญชลธีไปถึงไม่เจอเจ้าภาพ แถมยังถูกโรงแรมกักตัวไว้ให้จ่ายเงินค่าเช่าห้องจัดเลี้ยง เพราะมีการแจ้งมาว่าวงจะมาเช่าสถานที่เปิดอัลบั้มใหม่ ไม่ใช่เป็นงานการกุศลอย่างที่ว่า ทั้งหมดเป็นแผนการของ 2 แม่ลูก ทิพา (นันทนา บุญหลง) ธนัญญา ทำให้คราวนี้วงชาญชลธีหมดตัวจริง ๆ ต้องขายเครื่องดนตรี ไปทั้งวง และเมื่อกลับมาก็พบว่าโทรศัพท์พร้อมซิมที่เสียบชาร์จไว้ในห้องทำงานชาญชัยก็หายไป เจ้าหนี้นอกระบบส่งสมุนมาเตือนชลธีว่าใกล้กำหนดจ่ายเงินแล้ว พาขวัญช็อกเมื่อรู้ว่าชลธีไปกู้หนี้มาเพื่อรักษาชาญชัย ชลธีบอกว่าเขาเป็นหนี้บุญคุณพี่ชายที่เสียสละหาเงินส่งเขาเรียนเมืองนอก เมื่อพี่ชายประสบอุบัติเหตุแบบนี้ เขาจะนิ่งดูดายไม่ได้ พาขวัญเริ่มคิดเรื่องเซ็นสัญญากับค่ายพีไอจีเพื่อช่วยชลธี ชลธีเสียใจจนหมดแรงที่จะทำอะไรได้ เขาบอกพาขวัญให้กลับไปอยู่บ้าน แต่พาขวัญอาสาจะอยู่เป็นเพื่อนชลธี ชายหนุ่มซึ้งในน้ำใจพาขวัญ ตกดึกพาขวัญนั่งรวบรวมข้อมูลธีสิสที่ได้จากการเข้ามาร่วมเป็นสมาชิกในวงชาญชลธีมาร่วมสามเดือน เธอเห็นไฟในห้องนอนชลธีเปิดอยู่จึงไปอุ่นนมร้อนมาให้ แต่คลาดกับชลธีที่เดินไปหาพาขวัญที่ห้องทำงานดอกคูน พาขวัญเดินกลับมาที่ห้องก็พบว่าชลธีกำลังอ่านข้อมูลที่ในแล็ปท็อปของเธออยู่ ชลธีเสียใจและผิดหวังมากที่มองพาขวัญผิดไป ที่แท้เธอก็เข้ามาในวงชาญชลธีเพียงเพื่อต้องการข้อมูลในการทำธีสิสแค่นั้นเอง พาขวัญพยายามอธิบาย แต่ชลธีก็ไม่ฟัง ไล่ให้พาขวัญกลับบ้านไป เจ้าหนี้นอกระบบมาทวงหนี้แต่ชลธีไม่มีให้ เลยถูกขนของไปจนหมดบ้าน นกเขามาเห็นพอดีจึงรีบโทรบอกเจ๊หอมให้รีบมาเอาของไปบ้าง เดี๋ยวจะไม่เหลืออะไร ด้วยพอจะรู้ลู่ทาง นกเขาจึงเข้าไปขนเครื่องดนตรี และของที่จะพอมีเหลือในห้องดอกคูน นกเขาถึงจะกลัวแต่ก็เข้าไปขนของในห้องนั้นจนเกลี้ยง โดยขนขึ้นรถนันทพงศ์ที่จอดอยู่นอกรั้วบ้านไป พาขวัญโทรบอกวิไลเรื่องทั้งหมด และฝากวิไลกลับไปดูชลธีบ้างแต่อย่าเพิ่งบอกชาญชัยว่าวงแตกแล้ว ส่วนเรื่องค่ารักษาพยาบาลเธอจะขอให้อรรถพลช่วยออกให้ วิไลรับปากด้วยความเป็นห่วงทั้งพาขวัญและชลธี ชลธีนั่งหมดอาลัยตายอยากอยู่ในบ้านที่ไม่เหลืออะไร มีเพียงกองใบแจ้งหนี้สุมเต็มไปหมด แก๊งทวงหนี้นอกระบบบุกเข้ามาแล้วอุ้มชลธีไป ชลธีถูกพาไปรุมซ้อมในเซฟเฮาส์ และบังคับให้เลือกระหว่างส่งยาเสพติดใช้หนี้ หรือจะยอมขายตัวให้กะเทย ชลธีไม่ยอมทั้งสองอย่างเลยถูกซ้อมจนสลบไป นันทพงศ์ตัดสินใจจะบวช แต่หลวงตาเผือกเห็นว่าจิตใจยังไม่สงบ จึงบอกให้อาศัยเป็นเด็กวัดไปก่อน จนกว่าจะตัดทางโลกได้จริง ชลธีฟื้นขึ้นมาในห้องนอนของแจ๊คเกอลีน เศรษฐีกะเทยไทยวัยดึก เขาขอให้แจ๊คเกอลีนปล่อยเขาไป แต่แจ๊คเกอลีนปฏิเสธ หลังจากที่แจ๊คเกอลีนได้รับรู้ราวเรื่องชีวิตของชลธี จึงวางแผนให้ชลธีอาศัยอยู่ในบ้านเธอไปก่อน โดยอ้างกับทางเจ้าหนี้ว่าติดใจในตัวชลธี ทั้งที่ความจริงไม่ได้มีอะไรกัน แต่เพื่อให้เขาหลบจากการตามของทีมทวงหนี้ ในระหว่างที่เธอจะจัดการเคลียร์หนี้ทั้งหมดกับทางเจ้าหนี้นอกระบบให้ โดยมีสัญญาใจกันบางอย่างกับชลธี วิไลถ่วงเวลาให้ชาญชัยอยู่โรงพยาบาลให้นานที่สุด เพราะไม่อยากให้ออกมารับรู้เรื่องชาญชลธีวงแตก จึงขอให้พาขวัญมาเยี่ยมชาญชัยแล้วเล่าเรื่องความเป็นไปในวงเพื่อให้ชาญชัยสบายใจขึ้น รสรินถูกเสี่ยโรคจิตจับขังล่ามโซ่ไว้ในบ้านเหมือนสัตว์เลี้ยง ไม่ยอมให้ออกไปไหน และไม่ให้ติดต่อใครเด็ดขาด คืนหนึ่งรสรินเห็นพาขวัญไปรับโทรศัพท์ในงานการกุศลออกทีวี เลยออกอุบายเอามือถือจากคนรับใช้ของเสี่ยที่คอยเฝ้าเธออยู่มาโทรไปขอให้พาขวัญช่วย พาขวัญโทรบอกนันทพงศ์ให้ไปด้วยกัน ในที่สุดก็ช่วยรสรินออกมาได้ พาขวัญพารสรินมาพักอยู่ที่บ้านของเธอ ในฐานะญาติของวิไล ชาญชัยตื่นขึ้นมาเห็นข่าวไฟไหม้สำนักงานของตัวเองจึงหนีออกจากโรงพยาบาล เพื่อกลับไปดู ขณะที่วิไลกำลังออกมารับสายดวงกมล ที่โทรมาต่อว่าเรื่องที่สมรู้ร่วมคิดกับพาขวัญไปอยู่ในวงดนตรีลูกทุ่ง วิไลตกใจมากว่าดวงกมลรู้ได้ยังไง ดวงกมลบอกให้วิไลดูข่าวทีวี เธอจึงได้เห็นคลิปหลุดลูกสาวรัฐมนตรีเต้นหางเครื่อง ซึ่งถูกปล่อยออกมาโดยธนัญญา ดวงกมลโกรธมากจนสั่งวิไลไม่ต้องกลับมาทำงานกับเธออีก เมื่อกลับเข้ามาที่ในห้องคนป่วย ชาญชัยก็หายไปแล้ว วิไลทำอะไรไม่ถูก ดวงกมลไล่รสรินออกจากบ้านไปเพราะรู้ว่าเป็นหางเครื่องที่อยู่ในคลิปกับพาขวัญ พาขวัญแอบหนีตามรสรินไปด้วยโดยความร่วมมือของ จิ๋วหลิว (จุ๊กกะดุ๋ย-ดนยา รัตนธาดา) คนรับใช้ร่างอวบ ทั้งคู่มาหานันทพงศ์ที่วัดหลวงตาเผือก นันทพงศ์บอกว่ากำลังจะไปที่สำนักงานเพราะเพิ่งรู้ข่าวจากหลวงตาว่าเกิดไฟไหม้ ที่สำนักงานชาญชลธี เหล่าบรรดาผู้แพ้ทั้งหลายได้มารวมตัวกันโดยมิได้นัดหมาย ทั้งชาญชัย พาขวัญ นันทพงศ์ รสริน ภารวี จีน่า และวิไลที่ตามมาทีหลัง ภารวีขอโทษวิไลที่หลงเชื่อ และทำตามแผนการณ์ของมณีรัตน์ ทำให้ชาญชัย และวิไลเข้าใจผิดกัน ชลธีขอแจ๊คเกอลีนกลับมาดูบ้าน และได้พบกับชาญชัย สองพี่น้องโผเข้ากอดกัน ชลธีขอโทษที่รักษาวงของพ่อไม่ได้ ชาญชัยบอกไม่เป็นไรยังพอมีอีกทางคือเขาได้สมัครส่งวงเข้าประกวดชิงเงินรางวัล 5 ล้านบาทไว้ ชลธีแนะนำให้ชาญชัยรู้จักกับแจ๊คเกอลีน แฟนคลับของดอกคูนตั้งแต่เริ่มตั้งวงใหม่ ๆ พอรู้ว่าชลธีเป็นลูกของดอกคูนก็เลยช่วยเหลือ และเคลียร์กับเจ้าหนี้นอกระบบให้ แจ๊คเกอลีนบอกว่าจะช่วยชุบชีวิตของวงชาญชลธีขึ้นใหม่ ให้ไปตามทุกคนกลับมาให้ทันประกวด ชลธีอาสาแต่งเพลงสุดท้ายที่ยังแต่งไม่จบของพ่อให้สำเร็จ โดยมีธีรวิทย์ช่วยเข้ามาทำซาวน์ดนตรีให้ทันสมัยแต่ก็ยังมีความเป็นลูกทุ่งชัดเจนอยู่ในเพลง และที่เซอร์ไพรส์สุด ๆ ก็คือเจ๊หอมเข้ามาประกาศยกหนี้ให้ และยกโกดังเก่าของเธอให้เป็นที่ซ้อมพร้อมคืนเครื่องดนตรีที่ยึดมาให้กับวงอีกด้วย โดยมีข้อแม้ว่าชาญชัยจะต้องยอมหอมแก้มเธอแล้วถ่ายเซลฟี่ ชาญชัยทำตามด้วยความยินดี และบอกว่าถ้าชนะแล้วได้เงินรางวัลมาจะเอาไปใช้หนี้เจ๊หอมทุกบาททุกสตางค์...แสงสว่างเริ่มปรากฏที่ปลายอุโมงค์ ในวันประกวดซึ่งเป็นวันเดียวกับที่พาขวัญต้องส่งงานธีสิสจบการศึกษาของเธอ วงชาญชลธีจับสลากได้เป็นวงสุดท้ายในการขึ้นประกวด ด้วยเพลงที่แต่งใหม่ของชลธี โดยมีพาขวัญเป็นคนร้อง นัชชาออกแบบชุดให้ เจ๊หอมเป็นแม่ยกร่วมกับแจ๊คเกอลีน ส่วนค่ายพีไอจีโดยเอกภพก็ส่งมณีรัตน์ขึ้นโชว์ในงานเพื่อเป็นการเปิดตัวศิลปินใหม่ในงานนี้ด้วย โดยมณีรัตน์ลิปซิงค์เสียงของภารวี แจ๊คเกอลีนเป็นคนซื้อเพลงของดอกคูนทั้งหมดจากเพทายตอนเพทายร้อนเงินเพราะเสียพนันในบ่อน แล้วให้ชลธีเอามาคืนชาญชัย พาขวัญรีบกลับมาเพื่อให้ทันส่งงานที่คณะ แต่ก็ถูกสื่อมวลชนรุมขอสัมภาษณ์ ทำให้กลับมาที่มหาวิทยาลัยไม่ทัน ครูเอกบอกให้เธอรอส่งงานใหม่ปีหน้า ธนัญญาถูกเมียที่ถูกต้องตามกฎหมายมาทวงวงศกรคืนในงานส่งธีสิส โดยที่ลักษมีเป็นคนหักหลังให้ข้อมูลของธนัญญากับเมียหลวง ศรุตตามไปช่วยปลอบใจธนัญญา พาขวัญตัดสินใจแสดงงานของตัวเองที่ในโรงอาหาร ไม่ว่าครูเอกจะตัดสินให้คะแนนผลงานของเธอหรือไม่ คนในวงชาญชลธีตามมาทัน และช่วยประกอบร่างโชว์ของพาขวัญให้ออกมาจนได้ นักการภารโรง รปภ. แม่ค้า ตลอดจนนักศึกษาต่างสนุกสนานไปกับโชว์ของพาขวัญ อรรถพลขึ้นไปร่วมแสดงกับลูกสาวแบบที่ไม่ได้เตรียมตัวกันมาก่อน สร้างความตื่นเต้นให้คนดูมากขึ้นไปอีกที่คนระดับรัฐมนตรีเข้ามาแจมด้วย โดยมีวินัยพ่อของวิไล เพื่อนเก่าแก่ของดอกคูนอีกคนขึ้นไปร่วมแสดงฝีมือเช่นกัน พาขวัญ จะเรียนจบพร้อมเพื่อน ๆ หรือไม่ ? ความรักของเธอกับชลธี จะสมหวังหรือเปล่า ? ติดตามชมได้ละคร นางฟ้าเปื้อนฝุ่น ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 18.35 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 18.20 น. ทางช่อง 7 ละคร นางฟ้าเปื้อนฝุ่น เริ่มตอนแรกวันอังคารที่ 13 กันยายน 2559
เรื่องย่อ : รักคุณเท่าช้าง (2014/2557) ณ ชายป่าแห่งหนึ่ง ที่ดินแดนอันไกลโพ้นและลึกลับ ซึ่งไม่มีใครเคยพูดถึง...ชุมชนเล็กๆ ที่ก่อตัวขึ้นจากหัวหน้าเผ่าที่สืบทอดต่อกันมาเป็นเวลานาน กำลังมีการคัดเลือกหัวหน้าเผ่าคนใหม่ 2 พี่น้อง ผ่องอู และ ผ่องด่อ จึงเข้าป่าเพื่อคล้องช้างเผือกตัวแทนการชิงตำแหน่ง หลายวันผ่านไป ผ่องอูนำช้างเผือกที่มีลักษณะสวยสง่างามกลับมา การแข่งขันจึงจบสิ้น มะเด หมอผีประจำเผ่าเป็นผู้ทำพิธี มอบตำแหน่งหัวหน้าเผ่าให้ผ่องอู แต่พอถึงเวลามอบ ช้างเพชร ของสำคัญอีกสิ่งประจำตัวหัวหน้าเผ่า ชาญชัย เจ้าหน้าที่ป่าไม้ก็เข้ามาขัดจังหวะ พร้อมกับประคองผ่องด่อที่บาดเจ็บกลับมาด้วย อีกทั้งยังบอกความจริงว่า คนที่พบช้างและช่วยช้างคือผ่องด่อ แต่ผ่องอูชุบมือเปิบนำช้างกลับมาเป็นของตัวเองโดยไม่เหลียวแลคนเจ็บเลย ผ่องอูโกรธและอับอายที่ถูกประจาน แต่ความวุ่นวายยังไม่จบ เมื่อชาญชัยจะขอช้างเผือกเชือกนี้ไปดูแล ผ่องด่อขอช้างไว้ เพราะนี่คือสิ่งสูงศักดิ์ที่เผ่าเคารพนับถือ ชาญชัยไม่อาจต้านทานแรงศรัทธาเลื่อมใสของคนในเผ่าได้จึงตกลง แต่บอกว่าสักวันจะนำช้างเชือกนี้ไปอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ให้ได้ ชาญชัยกลับออกจากเผ่านี้ไป โดยไม่รู้ว่าอันตรายกำลังมาถึงตัว เพราะในที่สุด เขาก็ถูกฆ่าตายในป่าดงดิบแถวตะเข็บชายแดน ประดับพลอย พลายต้น และ พลายพล เมียกับลูกชายเสียใจกับการจากไปของหัวหน้าครอบครัว โดยเฉพาะ พลายต้น ลูกคนโตที่ยืนกอดเป้ประจำตัวของพ่อแน่น....แววตามีแต่ความคับข้องใจ 15 ปีผ่านไป ผ่องด่อเป็นหัวหน้าเผ่าผู้ทรงคุณธรรม รักความสันติ “เมี้ยะ” ลูกสาวคนเดียวของผ่องด่อ มีเพื่อนสนิทชื่อ เลอขิ่น และ วิ่งกู้ ชีวิตประจำวันของทั้ง 3 คือ เล่นกับ สีงา ช้างเผือกที่ผ่องด่อเคยช่วยไว้ วันหนึ่งเมี้ยะได้ยินเสียงเฮลิคอปเตอร์ก็สนใจและอยากตามแมงปอยักษ์ไป แต่มันกลายเป็นเรื่องใหญ่เมื่อรู้ถึงหูผ่องด่อ ผ่องด่อดุ และปรามหนุ่มสาวว่าอย่าทะเยอทะยาน สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญและมีค่าที่สุดตอนนี้คือ สีงา ช้างเพชร พลายต้นเก็บรักษาดูแลเป้ของพ่อไว้อย่างดี และรอที่จะตามหาทุกอย่างที่พ่อเขียนไว้ในสมุดบันทึก ในที่สุดหลังเรียนจบไม่นาน พลายต้นก็ได้ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้อย่างที่เขาตั้งใจ และได้ไปประจำผืนป่าเดียวกับที่พ่อเสีย จากการช่วยเหลือฝากฝังจาก ปรเมศ นักธุรกิจชื่อดัง พ่อของ ปารมี หญิงสาวที่ผู้ใหญ่จับคู่ไว้ให้ ผ่องด่อฝึกฝนให้เมี้ยะเก่งกล้า และฝึกภาษาช้างจากมะเด หมอผีประจำเผ่า แม้มะเดจะไม่ค่อยเห็นด้วยที่ผู้หญิงจะมาเก่งกล้าเท่าชายชาตรี แต่เขาก็ตั้งใจสอนเมี้ยะอย่างดี ด้วยหยั่งรู้ว่าเธอจะพา สีผ่อง หลานชายที่หายตัวไปจากเผ่า กลับมากอบกู้ชนเผ่าในอนาคตได้ แล้วความวุ่นวายก็เกิดขึ้น ในวันที่เมี้ยะและเพื่อนๆ แอบเอาสีทาสีงาเพื่อพาหนีออกไปเล่นที่ลำธาร เมี้ยะเห็นกลุ่มควันไฟลุกโหมจากฝั่งหมู่บ้านจึงชวนเพื่อนกลับเผ่าทันที ทั้งสามได้รู้ว่าทั้งหมดเป็นฝีมือผ่องอู ที่คิดรวบอำนาจ ผ่องด่อหนีออกมาอย่างสะบักสะบอมพร้อมช้างเพชร เมื่อเจอหน้าลูก ผ่องด่อก็ฝากของสำคัญ และให้เมี้ยะพาสีงาหนีไป เมี้ยะรู้เพียงว่าพ่อถูกหักหลัง เธอรีบหนีไปโดยเร็ว และตั้งใจว่าสักวันเธอจะกลับมากอบกู้เผ่า และช่วยเหลือพ่อที่ถูกจับให้ได้ หลายวันผ่านไป เมี้ยะกับพวกและสีงาพบพลายต้นหลงป่ามาเช่นกัน ทั้งหมดจึงใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน พลายต้นเข้าใจว่าเมี้ยะเป็นผู้ชาย และเป็นองครักษ์ให้กับเลอขิ่น หญิงสูงศักดิ์เหมือนวิ่งกู้ ขณะที่พลายต้นสนใจสีงา เพราะรู้สึกว่ามันลักษณะดีกว่าช้างที่เคยเห็นมา พลายต้นพยายามเช็ดสีที่เจือจางออก แต่ถูกเมี้ยะที่โกหกว่าชื่อไม้ขัดขวาง ทั้งสองเขม่นกันโดยปริยาย ยิ่งเมื่อฝนตกจนสีที่ตัวช้างลอกเห็นเป็นช้างเผือก พลายต้นก็แสดงเจตนาจะนำช้างกลับไปดูแล ทำให้เมี้ยะยิ่งไม่ชอบ วิ่งกู้ไม่พอใจ เพราะแม้เมี้ยะจะบอกว่าเกลียด แต่ท่าทางและการกระตือรือร้น อยากเรียนรู้อุปกรณ์แปลกๆ ของพลายต้น ทำให้ทั้งคู่ใกล้ชิดกัน ระหว่างหาทางออกจากป่า เกิดฝนตกหนัก จนพลายต้นป่วย เมี้ยะให้เลอขิ่นดูแล แต่เธอปฏิเสธ เพราะคนที่รู้จักสมุนไพรดีที่สุดก็คือ เมี้ยะ เมี้ยะจำต้องดูแลพลายต้นอย่างใกล้ชิด แต่หนทางที่เมี้ยะจะกลับเผ่าดูเลือนรางลง เมื่อกลุ่มเจ้าหน้าที่ป่าไม้ตามมาพบ เมี้ยะและเพื่อนตื่นเต้นที่จะได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ แจ๊กกี้ นักธรณีวิทยา ขอพาสีงาไปดูแลที่ปางช้างของปรเมศ ทุกอย่างวุ่นวายจนเมี้ยะค้านไม่ทัน พลายต้นรู้ว่าเมี้ยะกังวลก็คอยปลอบใจ ทำให้วิ่งกู้ต่อต้านพลายต้นหนักขึ้น ที่กรุงเทพฯ เมี้ยะ เลอขิ่น และวิ่งกู้มาพักที่บ้านพลายต้นชั่วคราว เพื่อรอให้พลายต้นพากลับเข้าป่า การออกมาสู่โลกที่แปลกตาทำให้เมี้ยะกับเพื่อนๆ ตื่นกลัว หวาดผวา ไม่ไว้ใจใคร เมี้ยะกอดย่ามที่ห่อช้างเพชรไว้แน่น จนพลายต้นสงสัย เธอแก้ต่างว่านั่นคือ อัฐิของพ่อ ที่บ้านพลายต้น ทำให้เมี้ยะกับทุกคนเจอ สีผ่อง คนรับใช้ชายในบ้านโดยบังเอิญ วิ่งกู้จำเพื่อนได้ก็บอกสองสาว ทุกคนดีใจที่ได้เจอกัน เมี๊ยะขอร้องไม่ให้สีผ่องบอกเรื่องเธอใช้คนอื่นรู้ ประดับพลอยเริ่มสงสัยว่าเมี้ยะ หรือไอ้ไม้เป็นผู้หญิง จึงหาทางพิสูจน์ โดยมีปารมีร่วมด้วย จนจับได้ว่าเมี้ยะเป็นผู้หญิง ทั้งสองนำไปฟ้องพลายต้น เมี้ยะพยายามอธิบาย ว่าทุกอย่างพลายต้นคิดไปเอง พลายต้นรู้สึกว่าตัวเองโง่ ถึงขั้นดูไม่ออกว่าเมี้ยะเป็นผู้หญิง ผิดกับพลายพลที่รู้ตั้งแต่แรก แถมเมี้ยะยังไม่ปิดบังอะไรอีก ทำให้พลายต้นอดน้อยใจไม่ได้ ทำหมางเมินใส่เมี้ยะ ทำให้เมี๊ยะเริ่มอึดอัดใจ อีกทั้งยังห่วงสีงา จึงคิดหาทางเพื่อตามหาสีงา ความวุ่นวายทั้งหมดจึงเกิดขึ้น สาวชาวป่าต้องเผชิญหน้ากับเมืองหลวง เพื่อตามหาช้างเผือกสิ่งสำคัญที่พ่อเธอฝากฝังให้ดูแลอย่างดี เมี๊ยะ และ เพื่อนๆ จะกลับไปบ้านเกิดของตัวเองได้หรือไม่ พลายต้น จะไขปริศนาการตายของพ่อ ที่ติดค้างในใจได้อย่างไร ความสนุกเล้นรับซับซ้อนกำลังจะเกิดขึ้น ติดตามให้กำลังใจ กับภารกิจของ เขา และ เธอ ได้ใน “รักคุณเท่าช้าง”
เรื่องย่อ : คุณแม่เฉพาะหน้า คุณย่าเฉพาะกิจ (2013/2556) สิงห์สยาม กับ ริมปิง พบกันโดยบังเอิญในเหตุการณ์ที่สิงห์ต้องปลอมตัวไปทำภารกิจจับคนร้าย แต่แผนเกิดล่ม จากความหวังดีของริมปิง ทำให้สิงห์จดจำริมปิงได้แม่น มันเป็นทั้งความประทับใจและหมั่นไส้ไปพร้อม ๆ กัน หลังจากที่ริมปิงได้มีปากเสียงกับ มณีจันทร์ ผู้เป็นแม่ เธอได้พาตัวเองย้ายออกจากบ้าน เพื่อมาอาศัยอยู่กับ แคท โชคดีที่แคทคอยหางานฝ่าย Costume มาให้เธอช่วยทำ จึงทำให้ริมปิงมีรายได้โดยไม่ต้องกลับไปแบมือขอเงินจากแม่อีก นอกจากแคทที่เป็นเพื่อนสนิทที่สุด ริมปิงยังมี กาย อีกคนที่สนิทจนเรียกว่าแฟน กายกับแคทแอบคบหากันแบบลับ ๆ จนท้องกับกาย ริมปิงคอยดูแลแคททุกเรื่อง ยิ่งริมปิงดีกับแคทเท่าไหร่ แคทยิ่งรู้สึกผิดกับสิ่งที่เธอทำลงไป สิงห์อยากเป็นตำรวจ เพราะเขามีปมในใจเรื่องพ่อแม่แท้ ๆ ที่ถูกยิงตาย อีกทั้งยังพยายามสืบหาข้อมูลในอดีตที่เกี่ยวกับตัวเอง แต่ก็ไม่ค่อยได้รับการเห็นด้วยจาก ท่านมานพ พ่อบุญธรรมของเขาสักเท่าไหร่ แต่การเซ้าซี้ของสิงห์ก็เป็นผล ในที่สุดเขาก็ได้เข้ามาทำงานเกี่ยวกับการสืบคดี เป็นสายลับ ต่าง ๆ สิงห์จึงชวน เลิศฤทธิ์ มาช่วยงานในยามที่ต้องปลอมตัว เลิศฤทธิ์เองชอบทางด้านนี้อยู่แล้ว และกำลังสนุกกับการปลอมตัวเป็นช่างแต่งหน้าสุดสวยไปทำงานในกองถ่าย จนได้มีโอกาสพบกับริมปิงและ รู้ว่าริมปิงพักอยู่ที่คอนโดเดียวกันกับเขา และก็เกิดเหตุความวุ่นวายจนได้ เมื่อ เม็ดนุ่น เพื่อนรุ่นน้องที่อยู่เชียงคานแอบเห็นเลิศฤทธิ์แต่งหญิง จึงนำไปเล่าให้บรรดาคนที่เชียงคานฟัง ทั้ง หวานใจ เนียม ละมุน ละไม ฟองฟ้า หนุ่ม แคน คูณ น้าขวด ตาทุ้ย ป๋อง Mr.Robert ที่สำคัญ บรรดาขาเม้าท์ 3 สาวอย่าง สมส่วน กิมจ๊อ และหวานหวานก็รู้ ทำให้ พ่อทิม คลางแคลงใจ แต่เมื่อได้ยินจากปากของเลิศฤทธิ์ว่ากำลังปฏิบัติภารกิจลับให้ตำรวจอยู่ก็โล่งใจ กายสร้างรายได้จากการทำงานส่งของผิดกฎหมายให้ เสี่ยเล้ง กายดูเหมือนจะโชคดีที่รอดมาได้ทุกครั้ง จนกระทั่งแคทคลอดลูก แต่เพราะความโลภมากของเขาที่แอบเปลี่ยนพระเครื่องมูลค่าหลายสิบล้านบาทของเสี่ยเล้ง โดยนำของแท้แอบไปยัดใส่ในตุ๊กตาที่เขาเย็บเองและสั่งให้แคทเก็บไว้ให้ลูกชายที่เพิ่งคลอดออกมา แคทเสียใจที่กายไม่แสดงความรับผิดชอบต่อตัวเธอ แคทจึงตัดสินใจทิ้งลูกเอาไว้พร้อมจดหมายและตุ๊กตาที่กายเย็บไว้ให้ริมปิง ริมปิงอ่านจดหมายแล้วแทบช็อกทำอะไรไม่ถูก และตัดสินใจพาลูกกลับไปหามณีจันทร์หวังให้มณีจันทร์ช่วยเลี้ยง แต่ก็ต้องผิดหวังจากการเข้าใจผิดและคำต่อว่าที่แม่พูดกับเธอ ริมปิงอุ้มลูกออกมาจากบ้านด้วยความเสียใจ โชคดีที่กายมารับ ระหว่างที่รถกำลังจะออกไป สาวใช้ในบ้านเกิดหวังดี นำเงินสะสมใส่ซองมาให้ริมปิง ระหว่างทางกายได้เจอกับเสี่ยเล้งและสมุน เสี่ยเล้งยิงกายต่อหน้าริมปิง และหวังที่จะฆ่าปิดปากริมปิงด้วย โชคดีที่เธอรอดมาได้ เพราะตำรวจเข้ามาทันเวลา หลังจากรอดมาได้ ริมปิงได้พบกับสิงห์สยามอีกครั้ง สิงห์สยามเข้าใจผิดว่านี่คือลูกของริมปิงกับกาย แต่ด้วยหน้าที่ทำให้เขาต้องคอยดูแลพยานคนนี้ให้ดีที่สุด แต่แล้วก็เกิดปากเสียงกัน ทำให้ริมปิงอุ้มเด็กน้อยหนี โชคดีที่ริมปิงสังเกตเห็นหน้าซองที่สาวใช้ใส่เงินมาให้ เป็นซองที่อยู่ของ คุณย่าโอบจันทร์ ย่าที่เธอรักและไม่ได้เจอกันมานานกว่า 20 ปี ริมปิงตัดสินใจพาตัวเองไปที่เชียงใหม่ทันที โดยที่ไม่รู้เลยว่านั่นคือซองที่ใส่ใบมรณะบัตรของย่าส่งมาให้ ริมปิงเดินทางไปพร้อมด้วยความหวังมากมายว่าจะได้พบกับย่าที่เธอคิดว่าคือคนที่รักและเข้าใจเธอมากที่สุด สิงห์สยามถูกต่อว่าจากท่านมานพว่าดูแลผู้หญิงคนเดียวไม่ได้ และสั่งให้ตามไปคุ้มกันให้ถึงที่สุด สิงห์ได้รู้ข้อมูลจากปากของมณีจันทร์เรื่องย่าโอบจันทร์และมณีจันทร์มั่นใจว่าริมปิงกำลังเดินทางไปที่นั่น สิงห์รีบนัดกับเลิศฤทธิ์ ทั้งคู่รีบเดินทางไปให้ถึงก่อนริมปิง เมื่อริมปิงถึงบ้านย่าที่เชียงใหม่ เธอดีใจที่เห็นย่าโอบจันทร์นั่งอยู่ในบ้าน ภาพความหลังเก่า ๆ เริ่มย้อนกลับมา ริมปิงกอดย่าร้องไห้ด้วยความดีใจและโล่งใจ สิงห์ในร่างของย่าโอบดูกระดากที่จะต้องแสดงความรักความเอ็นดูตอบกลับไป จนเลิศฤทธิ์ต้องคอยส่งซิกให้แสดงให้เนียน ๆ ไม่งั้นแผนจะแตก สิงห์จึงจำยอมเป็นคุณย่าที่แสนจะอบอุ่นของริมปิง ริมปิงบอกกับย่าว่าเด็กน้อยคือลูกของเธอ ด้วยเพราะเธอคิดว่าถ้าบอกว่าเป็นลูกคนอื่น ก็จะเหมือนเธอแก้ตัว เรื่องมาถึงขนาดนี้บอกว่าเป็นลูกไปเลยน่าจะตัดปัญหาได้ดีกว่า อีกอย่างเธอก็เริ่มรักและผูกพันกับเด็กน้อยคนนี้แล้ว แล้วทั้งหมดก็ต้องหนีการไล่ล่าอีกครั้ง เลิศฤทธิ์ออกความเห็นว่าควรจะหนีไปที่บ้านเกิดของเขาที่เชียงคาน และทั้งหมดก็พากันเดินทางทันที ที่เชียงคาน ริมปิงได้พบกับมิตรภาพที่ดีจากคนในหมู่บ้าน ย่าโอบได้ตั้งชื่อให้เด็กน้อยว่า ลำโขง เธอได้อยู่แวดล้อมกับเพื่อนบ้านหลากหลายอารมณ์ สิงห์ต้องสลับสับเปลี่ยนการปลอมตัวระหว่างตัวตนจริง ๆ กับย่าโอบเพื่อสืบอะไรบางอย่าง จนได้พบกับ นับดาว เพื่อนสมัยเด็ก ๆ ที่ห่างกันไป สิงห์จึงได้โอกาสสอบถามเรื่องของตัวเองสมัยเด็ก ๆ จากนับดาว การสนิทสนมของสิงห์กับนับดาวทำให้ริมปิงเกิดความน้อยใจนำไปบ่นกับย่าโอบบ่อย ๆ ริมปิงพยายามไม่คิดมาก จนได้ไอเดียที่จะนำผ้าพื้นเมืองมาประยุกต์ จนได้ออกทีวีโด่งดัง และความโด่งดังนี้เองกลับมาทำร้ายเธออีกครั้ง เสี่ยเล้งส่งสมุนแอบแกะรอยมาไล่ล่าอีกครั้ง ตุ๊กตาเจ้าปัญหา จะมีใครค้นพบว่าข้างในมีของสำคัญอยู่ สิงห์จะทนกับสภาพการปลอมตัวสลับไปมาอย่างนี้ได้อีกนานเท่าไหร่ ถ้าวันหนึ่งความจริงถูกเปิดเผยริมปิงจะทำอย่างไร สิงห์จะสืบหาอดีตของตัวเองและเมื่อความจริงปรากฏเขาจะยอมรับความจริงได้มากแค่ไหน ร่วมลุ้นและเป็นกำลังใจให้กับภารกิจของ คุณแม่เฉพาะหน้า อย่างริมปิง และความพยายามที่จะเป็น คุณย่าเฉพาะกิจ ของสิงห์สยาม รวมถึงความสนุกสนาน เฮฮาจากบรรดาคนรอบ ๆ ตัวของทั้งคู่ ที่จะทำ ให้คุณเพลิดเพลินตลอดเรื่อง ติดตามชม ละครคุณแม่เฉพาะหน้าคุณย่าเฉพาะกิจ ได้ทุกวัน เวลา 18.30 น. ทางช่อง 7 สี ละครคุณแม่เฉพาะหน้าคุณย่าเฉพาะกิจ เริ่มตอนแรกวันอังคารที่ 13 สิงหาคม 2556
เรื่องย่อ : กู้ภัยหัวใจแหวว (2012/2555) ติ่ง สัปเหร่อประจำหมู่บ้าน อยู่กินกับ นวลสวาท มาหลายปีดีดักก็ไม่ยักจะมีลูกไว้คล้องใจซักที จนกระทั่งวันหนึ่ง ระหว่างที่ติ่งไปเก็บบัวริมบึงเพื่อนำมาถวายพระก็เกิดเรื่องไม่คาดฝัน ติ่งได้เจอผู้หญิงคนหนึ่งกำลังหลบหนีการไล่ล่ามา เธอยื่นเด็กน้อยในอ้อมกอดให้ติ่งแล้วหนีไปโดยไม่บอกกล่าวอะไรซักคำ ติ่งร้อนใจหวังว่าแม่ของเด็กจะกลับมารับลูกคืน แต่ก็ไม่เห็นเงา ติ่งจึงย้ายบ้านไปโดยต้องพาเด็กน้อยไปด้วย หลังจากที่ติ่งกับนวล อุปการะเลี้ยงดู บัวบูชา เหมือนลูกแท้ ๆ ไม่นาน สไบนาง ที่ใคร ๆ ก็บอกว่าเป็นลูกอิจฉาก็ตามมาเกิด 20 ปีผ่านไป บัวได้เติบใหญ่เป็นสาวสวยหน้าตาดี จิตใจโอบอ้อมอารีย์ หลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัย บัวได้ไปทิ้งใบสมัครงานไว้หลายที่ แต่ก็ไม่มีการตอบรับ จึงใช้เวลาช่วยนวลขายอาหารตามสั่งใน และไปเป็นสตั๊นท์แมนในหนังและละครบู๊ เพื่อเอาเงินมาจุนเจือครอบครัว แม้ว่าติ่งจะเป็นเพียงสัปเหร่อ แต่ในความเป็นจริงติ่งเหมือนเป็นทุกอย่าง ใครเดือดร้อน ต้องการความช่วยเหลือก็จะนึกถึงติ่งเป็นคนแรก จนได้ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยของ เฮียเพ้ง บัวได้นิสัยความมีน้ำใจจากติ่งไปอย่างไม่ผิดเพี้ยน บัวมักจะติดสอยห้อยตามติ่งไปช่วยเหลือชาวบ้าน ไม่ว่าจะจับงู จับจระเข้ ลอกท่อ ก่ออิฐ เก็บศพ ทำคลอด ฯลฯ ผิดกับ สไบ ที่ยังห่วงสวย กลัวลำบาก และรักสนุกเหมือนวัยรุ่นทั่วไป บัว เกิดไอเดียจึงชักชวนเพื่อน ๆ อย่าง ก้อย จ๋า มาทำความดี ด้วยการขอเป็นหน่วยกู้ภัยหญิงล้วน ใส่ Uniform สีชมพูหวานแหวว ออกตะเวนช่วยเหลือคนที่กำลังประสบปัญหา ทุกคนเต็มใจที่จะทำ แต่คนที่หนักใจที่สุดกลับเป็นติ่ง ที่แม้ว่าจะเป็นคนคอยขับรถให้ แต่หัวใจและเสื้อผ้าก็ต้องแหววตาม กรณ์ นักข่าวท้องถิ่น ประทับใจในความแปลกของคนกลุ่มนี้ จึงมาทำข่าว กระแสกู้ภัยหัวใจแหววจึงเริ่มดัง และมีคนรู้จัก กรณ์รู้สึกดีกับบัว จึงยอมที่จะแต่งชุดชมพูขึ้นกะบะเป็น 1 ในทีมด้วย เมื่อทำงานไปนาน ๆ บัวเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติของตัวเอง ที่เหมือนจะมีจิตสื่อสารกับคนตายได้ หลาย ๆ เหตุการณ์ทำให้เธอเริ่มมั่นใจว่าเธอมีจิตสัมผัสกับวิญญาณได้จริง การสืบหาสาเหตุการตายแต่ละครั้งจึงเป็นไปตามความเป็นจริง เหมือนว่าจะทำงานง่าย แต่แท้จริงแล้วไม่เลย...!! บัวยังต้องมาคอยสู้รบปรบมือกับ สารวัตร สวัสดี นายตำรวจหน่วยสืบสวนที่ไม่เชื่อเรื่องผี ข้อโต้แย้งจึงเกิดขึ้นแทบจะทุกครั้ง ระหว่างไสยศาสตร์กับวิทยาศาสตร์ กลางดึกวันหนึ่ง ระหว่างที่ไปเก็บศพสาวต่างด้าว เธอได้พบกับ น้องพี เด็กผู้ชายวัย 9 ขวบ หน้าตาน่ารัก แต่แววตากลับเศร้าสร้อยนั่งอยู่คนเดียว บัวจึงเข้าไปสอบถาม ได้ความว่าพลัดหลงกับแม่มาหลายวันแล้ว ไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหนดี เลยขอไปกับบัวด้วย บัวบ่ายเบี่ยงเพราะกลัวว่าจะกลายเป็นโจรขโมยเด็ก แต่เมื่อเห็นว่าเด็กไม่ได้โกหกจึงต้องยอมพาเด็กไปด้วย และจะรีบพาเด็กส่งคืนครอบครัวให้เร็วที่สุด บัวถึงกับช๊อคที่รู้ว่ามีแต่เธอเท่านั้นที่เห็นหรือสื่อสารพูดคุยกับน้องพีได้ เมื่อรับปากว่าจะช่วยพากลับบ้าน บัวจึงต้องสานต่อเรื่องนี้ให้สำเร็จ โดยที่ไม่สามารถบอกใครได้ แก๊งค์บอยแบรนด์ หน่วยกู้ภัยหัวใจเกาหลี นำทีมโดย ชูชัย เพื่อนวัยเดียวกันกับติ่ง ชูชัยสร้างสีสันด้วยการขนเอาวัยรุ่นหน้าตาดีอย่าง น้ำมนต์ แบงค์ อิ๊ก แม้กระทั่ง ด๊วด ก็จัดเต็ม ทั้งเสื้อผ้าหน้าผม มาเป็นทีมอาสาสร้างความปั่นป่วนในการทำงานมาก เพราะหนุ่ม ๆ สาว ๆ จะถกเถียงกันในเรื่องไม่เป็นเรื่องทุกครั้ง นันทา ปักใจเชื่อว่าบัวคือลูกของเธอที่พรากจากกันไป แต่เธอยังอยากได้รับการยืนยันจากติ่ง แต่ดูเหมือนทั้งคู่จะมีเหตุให้คลาดกันตลอด จนวันหนึ่งติ่งได้รู้แน่ชัดว่านันทาคือหญิงสาวที่ส่งบัวให้กับเขาเมื่อ 20 กว่าปีก่อน ติ่งกลับเกิดอาการหวงบัวขึ้นมา และหาวิธีหลบเลี่ยงที่จะไม่ให้เจอกับนันทา อีกทั้งยังพยายามจะย้ายบ้านหนี สาเหตุการตายของสาวต่างด้าวหลายต่อหลายครั้งทำให้สวัสดีเริ่มปักใจเชื่อว่าเป็นฝีมือของ องศา อีกทั้งบัวยังช่วยเหลือในการสื่อกับวิญญาณ ทำให้มีเรื่องราวต่าง ๆ นำพาไปสู่ตัวคนทำผิดได้อย่างไม่ยาก แต่เหตุการณ์กลับไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะ กะรัต เลขาสาวของ ธำรง ที่ดูภายนอกเป็นสาวเชย ๆ นิ่ง ๆ แต่แท้จริงเธออยู่เบื้องหลังความวุ่นวายต่าง ๆ อีกทั้งยังเป็นตัวการที่คอยขัดขวางการทำงานของตำรวจ แต่ภายหลัง กะรัต เริ่มมีสัมพันธ์ลึก ๆ กับ องศา ทำให้การทำงานเริ่มผิดพลาด และมีเหตุให้มีคดีที่โยงใยไปถึง ธำรง ซึ่งเป็นบุคคลที่ทางตำรวจติดตามสืบหาข้อมูลอยู่ เมื่อสืบสาวราวเรื่องจากการตายของลูกน้อง ทำให้มีเหตุต้องเข้าไปหาหลักฐานที่บ้านของนันทา บ้านที่มีทั้งแม่ที่แท้จริง และร่างของน้องพีนอนเป็นเจ้าชายนิทราอยู่ ความรักความผูกพันระหว่างแม่ลูกจะลงเอยอย่างไร บัวบูชาจะใช้จิตสัมผัสของเธอช่วยเหลือแม่แท้ ๆ ให้หลุดพ้นจากการอาฆาตของ ธำรงได้หรือไม่ ความรักแบบยียวนกวนอารมณ์ของนายตำรวจนักบู๊กับหน่วยกู้ภัยสาว เรื่องราวความเชื่อทางไสยศาตร์กับวิทยาศาสตร์จะได้บทสรุปตรงไหน กู้ภัยหัวใจแหวว มีคำตอบให้คุณ ติดตามชม ละครกู้ภัยหัวใจแหวว ได้ทุกวัน เวลา 18.45 - 19.45 น. ทางช่อง 7 สี ละครกู้ภัยหัวใจแหวว เริ่มตอนแรกวันอาทิตย์ที่ 30 กันยายน 2555