โม่งแดง (2501)
โม่งแดง (2501/1958) นิสา กับ ดาริน สองพี่น้องลูกสาวของดนัยและอุษา ซึ่งเป็นเจ้าของรายการโทรทัศน์ต้องพบกับจุดพลิกผันในชีวิตเมื่อ อมาวดี ก้าวเข้ามาเป็นเลขาของ ดนัย อมาวดีเป็นสาวสวยมีเสน่ห์ อมาวดีใช้ความสวยของตัวเองหลอกล่อหว่านเสน่ห์จนดนัยหลงใหล และมีความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวกับอมาวดีอย่างลับๆ โดยอมาวดีมีจุดประสงค์ที่จะได้ครอบครองธุรกิจบันเทิงที่มีมูลค่าในตลาดหลักทรัพย์นับพันล้านบาทของดนัย อมาวดีวางแผนฆ่าอุษาก่อนจะเข้ามาเป็นแม่เลี้ยงของนิสากับดารินอย่างเต็มตัว อมาวดีเริ่มเข้ามามีบทบาทในรายการโทรทัศน์ของดนัย อมาวดีคิดการใหญ่หวังจะฮุบสมบัติทั้งหมดของดนัยด้วยการวางแผนฆ่าให้เหมือนกับเป็นอุบัติเหตุรถตกเหว ดนัยพยายามช่วยนิสาและดารินจนออกมาจากรถได้สำเร็จ แต่ตัวเองต้องตาย ด้านนิสากับดารินที่รอดชีวิตพากันหนีและได้พบกับ ยามาดะ เจ้าพ่อยากูซ่าแก็งค์มังกรแดงที่กำลังถูกตามล่าจากแก็งค์ยากูซ่าพยัคฆ์ดำ นิสาช่วยยามาดะหลบหนี ทำให้ยามาดะประทับใจในความฉลาดมีไหวพริบและความกล้าของนิสา ยามาดะจึงตัดสินใจอุปถัมภ์นิสากับดารินและพานิสากับดารินไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ญี่ปุ่น นิสาผู้ซึ่งในใจคุกรุ่นไปด้วยความแค้นในสิ่งที่อมาวดีทำกับครอบครัวของตน ได้ขอร้องให้ยามาดะฝึกสอนศิลปะวิชาต่อสู้ให้อย่างลับๆ โดยไม่ให้ล่วงรู้ไปถึงดาริน นอกจากนี้นิสายังขอร้องให้ยามาดะปกปิดเรื่องแก็งค์ยากูซ่าและดูแลดารินอย่างเด็กปกติทั่วไป สิบกว่าปีผ่านไป ดาริน เติบโตเป็นหญิงสาวร่าเริงแจ่มใส แก่นแก้ว ช่างพูดช่างเจรจา ลืมเรื่องอดีตไปจนหมด ในขณะที่นิสาเป็นสาวสวยที่สุขุมเยือกเย็น แต่อีกด้านหนึ่งที่
อกสามศอก (2501)
อกสามศอก (2501/1958) อกสามศอก เป็นภาพยนตร์ไทยที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2501 เป็นผลงานการกำกับของครูรังสี ทัศนพยัคฆ์ สร้างโดย กมลศิลป์ภาพยนตร์ โดยมี น้อย กมลวาทิน เป็นผู้อำนวยการสร้าง ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างจากบทประพันธ์ของ อรวรรณ (เลียว ศรีเสวก)
บัวขาว (2500)
บัวขาว (2500/1957) รัตนาภรณ์-สมควร ข้อความบนใบปิด กมลศิลป์ภาพยนตร์ นำเสนอ ยอดแห่งภาพยนตร์... สนุกดูกันให้สำราญ ต้องดู... รัตนาภรณ์ อินทรกำแหง สมควร กระจ่างศาสตร์ ใน บัวขาว จากบทประพันธ์ของ กุลปราณี รุจิรา-มารศรี และจิตรา ร่วมพากย์ เรื่องของเด็กสาวแสนซน ผู้กำความรักของเจ้าหนุ่มไว้ในอุ้งมือ... ดู...ความรักพิลึกของเจ้าชายหนุ่ม ผู้มีความเปิ่นประจำตัว รักโลดโผนที่เหนือกว่ารักใดๆ... เสถึยร ธรรมเจริญ จุฑารัตน์ จินรัตน์ บุญส่ง เคหะทัต, สมพงษ์ พงษ์มิตร รังสี ทัศนพยัคฆ์ กำกับการแสดง ธีระ แอคะรัตน์ ถ่ายภาพ (ที่มา :Thai Movie Posters)
สุดสายใจ (2499)
สุดสายใจ (2499/1956) ระหว่างที่ วุฒิ วราภรณ์ คหบดีผู้มั่งคั่งเจ้าของกิจการปางไม้เดินทางไปญี่ปุ่น จ้าวระวีวงศ์ ซึ่งช่วยดูแลกิจการจับได้ว่า อนุวัฒน์ ผู้จัดการปางไม้วางแผนโกงบริษัทจึงไล่เขาออก อนุวัฒน์เคียดแค้นมาก แอบมาขืนใจ ดาวน้อย เด็กใบ้ที่มีปานดำบนหน้าบุตรบุญธรรมของวุฒิในคืนนั้น วัลลีย์ ชายาของจ้าวระวีวงศ์ ซึ่งลอบเป็นชู้กับ อัคนี หลานชายของวุฒิ พยายามผลักดันให้อัคนีได้เป็นผู้จัดการปางไม้คนใหม่ แต่ ศิริวรรณ ลูกสาวของวุฒิไม่เห็นด้วย เพราะอัคนียังเด็กเกินไป ระหว่างที่กำลังถกเถียงกัน วงสนทนาก็ได้รับข่าวร้ายว่าวุฒิเสียชีวิตที่ญี่ปุ่น เคราะห์กรรมจึงตกมาที่ดาวน้อยซึ่งได้รับมรดกเป็นกิจการปางไม้ วุฒิระบุในพินัยกรรมว่าดาวน้อยเป็นลูกสาวแท้ๆ ของตนเอง แต่ต้องปิดบังไว้เพราะอายที่ดาวน้อยพิการและหน้าตาอัปลักษณ์ วุฒิจึงขอมอบปางไม้แก่ดาวน้อยเพื่อเป็นการไถ่บาป โดยให้อยู่ในความดูแลของจ้าวระวีวงศ์จนกว่าดาวน้อยจะโตเป็นผู้ใหญ่ ศิริวรรณดีใจที่รู้ว่าดาวน้อยเป็นน้องจริงๆ ของตน ผิดกับวัลลีย์ที่เก็บงำความคิดอันชั่วร้ายภายใต้รอยยิ้มบนใบหน้า ศิริวรรณรู้สึกเป็นห่วงดาวน้อยเพราะเห็นความไม่ชอบมาพากลของวัลลีย์ แต่ไม่ทันไร ศิริวรรณก็ต้องตกใจเมื่อทราบข่าวจากหมอว่าดาวน้อยตั้งครรภ์ได้ 3 เดือน ศิริวรรณจึงขอร้องให้ ธรณินทร์ คู่หมั้นของตนแต่งงานกับดาวน้อยเป็นการบังหน้าเพื่อช่วยคุ้มครองดาวน้อยผู้น่าสงสาร คืนวันแต่งงาน อนุวัฒน์ลอบเข้ามาขู่กรรโชกเงินกับดาวน้อยในห้องนอนตามคำยุยงของวัลลีย์ แต่เมื่ออนุวัฒน์ทำตามแผนกลับถูกวัลลีย์และอัคนีหักหลังจึงเกิดการต่อสู้ขึ้น อัคนีถูกยิงเสียชีวิต ธรณินทร์ได้ยินเสียงปืนจึงวิ่งเข้ามา วัลลีย์จึงใส่ร้ายว่าธรณินทร์เป็นฆาตกร พ.ต.ต.สม สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวธรณินทร์ไปขัง ส่วนตัวเองแอบสะกดรอยตามวัลลีย์จนรู้ว่าใครเป็นคนร้ายอนุวัฒน์ซึ่งซ่อนตัวอยู่จึงฆ่าวัลลีย์ปิดปากแล้วรีบหลบหนีแต่พลาดตกเขาเสียชีวิต ธรณินทร์จึงได้รับการปล่อยตัวและได้ครองรักกับศิริวรรณ คนรักที่แท้จริง
โอเคสังข์ทอง (2497)
โอเคสังข์ทอง (2497/1954) ท้าวสามล เป็นกษัตริย์ ณ สามลพระนคร มีเอกอัครชายาชื่อ มณฑาเทวี มีพระราชธิดา 7 พระองค์ องค์สุดท้องชื่อ รจนา วันหนึ่งท้าวสามลและนางมณฑาเทวีใช้ให้ ขุนหมื่น ไปเชิญหน่อกษัตริย์ร้อยเอ็ดหัวเมืองมาชุมนุมให้ธิดาทั้งเจ็ดพระองค์เลือกเป็นคู่ครอง ธิดาทั้ง 6 เลือกหน่อกษัตริย์ที่ตนพึงใจ เว้นเสียแต่รจนาที่เลือกเอาเจ้าเงาะหน้าตาอัปลักษณ์เป็นคู่ แม้เสด็จพ่อเสด็จแม่จะห้ามปรามยังไงก็ไม่ฟัง รจนาและเจ้าเงาะครองสุขได้ไม่นานก็ถูกกลั่นแกล้งให้ไปหาปลา นายเงาะหรือพระสังข์ก็ไปหามาได้ซ้ำยังแกล้งตัดจมูกหกเขยเสียด้วย ต่อมานายเงาะก็ถูกเกณฑ์ให้ไปหาเนื้ออีกนายเงาะจึงแกล้งตัดหูหกเขย เวลาผ่านไปเจ้าเงาะไม่ยอมถอดรูปออกจึงร้อนไปถึงสวรรค์พระอินทร์ออกอุบายแปลงตนมาชิงเมืองท้าวสามล ท้าวสามลส่งใครไปรบก็แพ้ ส่ง 6 เขยไปต่อสู้ก็แพ้ มองไม่เห็นทางออกใดจึงจำยอมเชิญเจ้าเงาะมาช่วยรบ เจ้าเงาะยอมไปรบโดยถอดรูปเงาะและรบได้ชัยชนะกลับมา ขับไล่พระอินทร์เหาะขึ้นฟ้าไป เมื่อท้าวสามลและนางมณฑาเห็นเจ้าเงาะถอดรูปก็หลงใหล ยิ่งรู้ว่าเจ้าเงาะคือ พระสังข์ราชบุตรท้าวยศวิมลกับนางจันทร์เทวี ก็ยิ่งปลาบปลื้มยกสมบัติพัสถานให้สังข์ทอง