สันติสุชาภาพยนตร์
หนักแผ่นดิน (2520/1977) ภาพยนตร์รักชาติ เสียสละ บู๊ ชีวิต ชาติไทยจะอยู่ได้ เพราะคนไทยรวมกันเราอยู่ แยกกันเราสิ้นสลาย
กลุ่มลูกเสือชาวบ้านวังหิน มี ชวน, ไท, ชาติ, นวล และคนอื่นๆ กำลังเดินทางกลับโดยรถบัสหลังจากเสร็จจากการอบรม ขณะเดินทางกลับถูกลอบยิงจากกลุ่มผู้ก่อการร้าย ก่อนที่ชวนหัวหน้ากลุ่มจะตาย ได้บอกฝากกับลูกบ้านให้ปกครองแผ่นดิน ต่อสู้กับผู้ก่อการร้ายเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
ชาติ หนึ่งในลูกบ้าน ได้ทำมาหากินตามปรกติกับภรรยา มีการตัดไม้ส่งขายให้กับ มานะ เจ้าของโรงเลื่อย แต่มานะมีพฤติกรรมเป็นคนขายชาติ ได้พยายามหาคนมาร่วมอุดมการณ์เลยใช้วิธีการต่างๆวางแผนให้ชาติ ต้องหนีคดีไปอยู่กรุงเทพโดยมี ประจันต์ เป็นผู้คอยให้ความช่วยเหลือ ซึ่งชาติก็คิดว่าเป็นการช่วยเหลือที่ดี แต่หารู้ไม่ว่า คนเหล่านั้นกำลังต้องการให้ตนเป็นเครื่องมือของเขาในการยึดครองแผ่นดิน
เมื่อกลุ่มลูกเสือชาวบ้านวังหิน ซึ่งมีชวน ไทย ชาติ และคนอื่นๆ ถูกลอบยิงจากกลุ่มผู้ก่อการร้าย ขณะเดินทางกลับจากการอบรม ส่งผลให้ ชวน หัวหน้ากลุ่มเสียชีวิต ก่อนตายเขาได้ฝากให้ลูกบ้านร่วมต่อสู้กับผู้ก่อการร้ายเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ แต่เรื่องราวกลับพลิกผัน เมื่อโชคชะตานำพาให้ชาติต้องกลายเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ และกลับมาเผยแพร่ลัทธิยังบ้านเกิดของตน ไทยซึ่งเป็นอดีตเพื่อนลูกเสือชาวบ้าน จึงลุกขึ้นมาเป็นแกนนำต่อต้าน
ทางเสือผ่าน (2520/1977) สันติสุชาภาพยนตร์ เสนอ สามพระเอกผู้ยิ่งใหญ่ จากเรื่องดังของพนมเทียน ยิ่งใหญ่ไม่มีเรื่องใดเทียบเท่า
เมื่อเสือหาญ (ดามพ์ ดัสกร) ออกปล้นจะใช้ชื่อว่าเสืออินทร์ทุกครั้งและจะนำข้าวของที่ปล้นมาได้ไปขายให้กับเศรษฐีบุญทอง (เกชา เปลี่ยนวิถี) บังเอิญเกรียง (กรุง ศรีวิไล) ไกร (สรพงษ์ ชาตรี) สองพี่น้องรู้เห็นเรื่องนี้ จึงถูกหาญตามฆ่าปิดปากหลายครั้ง แต่ทั้งสองก็เอาตัวรอดได้ หาญจึงส่งลูกน้องไปลอบฆ่ากาญจน์ (นาท ภูวนัย) พี่คนโตของเกรียงและไกรแทน แต่ก็ผิดหวังเพราะกาญจน์ฆ่าลูกน้องหาญตายหมด หาญจึงลอบเข้าไปฆ่าก้อง (เชาว์) พ่อของเกรียงซึ่งนอนป่วยอยู่คนเดียว ดังนั้น กาญจน์ เกรียง ไกร จึงสาบานว่าจะตามฆ่าหาญให้ได้ เมื่อหาญรู้เรื่องจึงเข้าไปเอาเงินที่ปล้นมาได้จากเศรษฐีบุญทองเพื่อจะหลบไปอยู่ที่ชุมโจร แต่ถูกบุญทองหักหลัง หาญจึงฆ่าบุญทองทิ้ง อังกาบ (ปิยะมาศ โมนยะกุล) ซึ่งเป็นลูกสาวของบุญทองจึงขอให้เกตุ (ลักษณ์ อภิชาติ) มาช่วยแก้แค้น ขณะเดียวกันหมวดยิ่งศักดิ์ (ครรชิต ขวัญประชา) และจ่าแสง (ชุมพร เทพพิทักษ์) ที่ทางการส่งตัวมาก็สืบจนรู้แล้วว่า เสืออินทร์ก็คือหาญนั่นเอง ทั้งความแค้นของสามพี่น้อง ของอังกาบและเงื้อมมือกฎหมายจึงพุ่งเป้าที่ไปชุมโจรของเสือหาญทันที
ศาลปืน (2520/1977) สันติสุชาภาพยนตร์ เสนอภาพยนตร์เหนือความยิ่งใหญ่มโหฬารที่สุด สร้างจากนิยายในนิตยสาร บางกอก ของ ศักดิ์ สุริยา
เมื่อเจ้าพ่อทรงอิทธิพลแห่งภูพานอย่าง "ดวงเมือง" (เกชา เปลี่ยนวิถี) ใช้วิธีศาลเตี้ยที่เรียกว่า "ศาลปืน" กำจัดเหล่าผู้ต่อต้าน "ปฏิวัติ" (สมบัติ เมทะนี) ผู้มาเพื่อทวงแค้นจากการที่พ่อของเขาถูกฆ่าตายเพื่อฮุบเอากิจการโรงเลื่อยของพ่อเขาไป แต่งานนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเมื่ออิทธิพลของเจ้าพ่อดวงเมืองใหญ่คับฟ้า ปฏิวัติจึงหาแนวร่วมอย่าง "บุญโฮม" เพื่อนเก่า และ "เสือพลุ" (นาท ภูวนัย) ขุนโจรที่ชอบช่วยเหลือชาวบ้านคนจนจากการกดขี่ของอิทธิพล นอกจากนี้ยังได้รับความช่วยเหลือจาก "อุ๋ย" (ปิยะมาศ โมนยะกุล) ลูกสาวดวงเมืองเองที่ไม่เห็นด้วยกับแนวทางของบิดาอีกด้วย
ปฏิวัติ (สมบัติ เมทะนี) เดินทางมายังภูพานเพื่อทวงกรรมสิทธิ์ในโรงลื่อยของพ่อของเขาคืน โดยที่พ่อของปฏิวัติได้ถูกดวงเมือง (เกชา เปลี่ยนวิถี) และใบแดง (มานพ อัศวเทพ) ฆ่าตายและชิงหุ้นส่วนไป ปฏิวัติได้ขอความช่วยเหลือจากบุญโฮมเพื่อนกันในสมัยเด็กๆ และบุญโฮมได้ขอความช่วยเหลือต่อไปที่พลุ หรือ เสือพลุ เพลิงฟ้า (นาท ภูวนัย) ขุนโจรที่ชอบช่วยเหลือชาวบ้านคนจนจากการกดขี่ของอิทธิพล แต่บุญโฮมถูกฆ่าตายเสียก่อน ด้วยวิธีการศาลเตี้ยของดวงเมืองที่เรียกว่าศาลปืน ปฏิวัติและเสือพลุจึงต้องร่วมมือกัน โดยมีมาลีทิพย์ (นัยนา ชีวานันท์) หญิงสาวพื้นที่ซึ่งเสือพลุหลงรักอยู่คอยให้การช่วยเหลือคนทั้ง 2
ปฏิวัติได้พบกับดวงดาราหรือ อุ๋ย (ปิยะมาศ โมนยะกุล) ลูกสาวดวงเมือง เธอได้แยกออกจากพ่อของเธอแล้ว แต่พี่ชายของเธออีก 2 คนคือ เดชกำพล (ดามพ์ ดัสกร) และเดชกำปนาท (ฉัตร มงคลชัย) ยังคงทำงานอยู่กับดวงเมืองผู้เป็นพ่อ โดยเฉพาะเดชกำพลที่เป็นคนเลือดร้อนได้ลอบทำร้ายปฏิวัติและเสือพลุหลายครั้ง นอกจากนี้ ปฏิภาณ น้องชายของปฏิวัติได้เดินทางมาช่วยพี่ชายอีกคน ยังได้ช่วยเหลือบุญถึง (ลักษณ์ อภิชาติ) ให้พ้นจากการรังแกของลูกน้องเดชกำพลอีกด้วยและเงาจันทร์ น้องสาวบุญถึง
ในที่สุด ปฏิวัติ เสือพลุ ปฏิภาณ ดวงดารา มาลีทิพย์ ก็ได้ร่วมมือกันในการกำจัดอิทธิพลดวงเมือง และนำดวงเมืองเข้าสู่ศาลปืนเพื่อให้รับสารภาพก่อนจะถูกจับส่งให้ทางกฎหมายต่อไป
ชุมแพ (2519/1976) เพิก ชุมแพ (สมบัติ เมทะนี) กลับมายังชุมแพอีกครั้งหลังจากที่ต้องจากไปนานเพราะพ่อของเขาถูกฆ่าตาย โดยศัตรูเก่าของเขาคือจ่าบุญถม (เกชา เปลี่ยนวิถี) ตำรวจเก่าเจ้าของฉายา จ่าถม นิยมไถ เพราะจ่าถมมีธุรกิจผิดกฎหมายหลายอย่างรวมทั้งในอิทธิพลในการรีดไถชาวบ้านมากมาย
จ่าถมใช้ความคุ้นเคยกับ ร.ต.อ.ไชโย วีรพล (นาท ภูวนัย) นายตำรวจมือปราบที่มาชอบพอกับดวงพร (ธัญญรัตน์ โลหะนันท์) มาสร้างอิทธิพลในอีกทางหนึ่ง แต่ผู้กองไชโยเป็นตำรวจตงฉินเมื่อรู้เข้าก็แยกตัวห่างจากจ่าถม ในขณะที่เพิกเองก็ทำการตอบโต้จ่าถมด้วยการขัดขวางการรีดไถของจ่าถมทำให้จ่าถมโกรธมากจึงตามตัว ภู น้ำพอง (ดามพ์ ดัสกร) ลูกเก่ามาช่วยจัดการกับเพิก
ผู้ใหญ่เสือ (มานพ อัศวเทพ) ศัตรูเก่าอีกคนของเพิกออกปล้นชาวบ้านโดยใช้ชื่อเสือเพิกทำเพิกเป็นที่ต้องการตัวของทางการ โดยเฉพาะผู้กองไชโยที่ต้องการจับเพิกให้ได้ เพิกไปขอความช่วยเหลือจากพิณ ภูเขียว (ครรชิต ขวัญประชา) เพื่อนเก่าพร้อมกับจับตัวแววดาว (ปิยะมาศ โมนยะกุล) หญิงสาวที่จ่าถมหมายปองมาสอบสวนแต่สุดท้ายก็ปล่อยตัวไป
ภูวางแผนลอบฆ่าเพิก แต่ดอน (ลักษณ์ อภิชาติ) ลูกน้องของจ่าถมที่เพิกเคบช่วยไว้ไม่ลงมือสังหารเพิก ทำให้ดอนต้องหลบหนีมาเข้ากับเพิก จากนั้นเพิกก็วางแผนตอบโต้ครั้งใหญ่ จับดวงพรที่ไม่รู้การกระทำของพ่อไปไว้ที่อื่น จับตัวจ่าถมและผู่ใหญ่เสือมาแล้วลลวงให้ลูกน้องของทั้งสงคนมาช่วยและพาไปชุมนุมกันอยุ่ที่รังใหญ่ของจ่าถม จากนั้นเพิกก็ให้คนไปแจ้งผู้กองไชดยยกกำลังมาจับจ่าถมและพวก การปะทะครั้งใหญ่ก็เกิดขึ้น จ่าถมถูกจับ ส่วนภูก็ตายไปในการดวลปืนกันผู้กองไชโย ส่วนเพิกจะขอไปมอบตัวในวันรุ่งชึ้น และเมื่อวันนั้นมาถึงความจริงก็เปิดเผยว่า แท้จริงแล้วแววดาวคือ ร.ต.ท.หญิงแววดาว ส่วนเสือเพิกคือ นายอำแภอ เพิก ชุมแพ นายอำเภอคนใหม่