ฟิล์มบางกอก
เรื่องย่อ : พรางชมพู กะเทยประจัญบาน (2545/2002) บนสมรภูมิสู้รบเดือดของชนกลุ่มน้อย บริเวณรอยต่อชายแดนไทย ...ความขัดแย้งจนเลือดพล่าน ผสานความฮาแตก ระเบิดขึ้นเมื่อเครื่องบินลำหนึ่ง ร่วงลงอย่างไม่คาดฝัน ปล่อย 6 กะเทยผู้รอดชีวิต ให้จิตตกระหกระเหิน สะเทินน้ำสะเทินบกอยู่กลางป่า ร้อนถึงทหารนอกราชการ ต้องรับภารกิจไม่ธรรมดา ด้วยการบุกป่าฝ่าดง ข้ามเขตสู้รบ เข้าไปช่วยพวกเธอ ให้รอดกลับบ้านเกิดได้โดยสวัสดิภาพ ผู้กองหนุ่มไฟแรง ผู้กองสมพงษ์ (พุฒิชัย อมาตยกุล) รับหน้าที่นำหน่วยทหารเฉพาะกิจครั้งนี้ เพื่อออกปฏิบัติการอันแสนจะไร้สาระ ในสายตาของ จ่าเริง (สรพงษ์ ชาตรี) ทหารรุ่นดึก ผู้จงเกลียดจงชังสาวประเภทสองเข้าไส้ โดยมี หมู่ปกรณ์ (โกวิทย์ วัฒนกุล) เป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญในหน่วย เหล่าทหารหาญมาดแมนทั้งหมด ต้องเปิดฉากเจรจาต่อรอง ขอแลกตัว 6 กะเทยไทยใจกระตู้วู้ ที่จับพลัดจับผลูตกเป็นเชลยของชนกลุ่มน้อย เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะอันไม่จำเป็น แต่แล้วแผนการเกิดผิดพลาด จนลุกลามเป็นเหตุให้เกิดการเข้าใจผิด กับกองกำลังรักษาดินแดนประเทศเพื่อนบ้าน ความปรารถนา ที่จะได้กลับเมืองไทย อย่างสงบสุขของผู้รอดชีวิต กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการโจมตีกันอย่างดุเดือด ระหว่างทหารหลายฝ่ายหลายชาติที่เกี่ยวข้อง ในเวลาเดียวกับที่ศึกภายนอกดุเดือดสุดขีด ศึกภายในทั้งระหว่างกะเทยด้วยกัน และกะเทยกับทหารก็เริ่มแสบร้อนเผ็ดมันตามไปด้วย เหล่าสาวๆ ที่นำโดย เกษม (เสรี วงษ์มณฑา), สมหญิง (อรนภา กฤษฎี), ชิชา (ธงธง มกจ๊ก) ซึ่งแตกต่างกันทั้งวัย นิสัย และความเลิศเลอเพอร์เฟ็คต์ ของเรือนกาย ก่อวิวาทะแบ่งพวกแบ่งฝ่ายกันเองอย่างไม่วายเว้น สร้างความเหม็นเบื่ออย่างยิ่งยวด แก่จ่าเริงที่เกลียดกะเทย เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ความขัดแย้งจึงยิ่งกลายเป็นจุดบั่นทอน ให้การเดินทางของพวกเขา วุ่นวายยากเย็นขึ้นทุกที การไล่ล่าของชนกลุ่มน้อย ตามติดมากระชั้นชิด บีบคั้นให้ฝ่ายไทย ต้องหลบหนีอย่างชุลมุน มาจนถึงจุดนัดพบ เพียงเพื่อจะได้รู้ความจริงว่า เฮลิค็อปเตอร์ที่ทางการรับปากไว้ ว่าจะส่งมาช่วยนั้น ไม่มีวันมาตามที่พวกเขาคาดหวัง มีแค่คำสั่งง่ายๆ แต่ทำตามยากเหลือร้าย นั่นคือ พวกเขาต้องดิ้นรน หาทางรอดกลับสู่มาตุภูมิกันเอาเอง! แต่ท่ามกลางความขัดแย้งอันสุดป่วนหัวใจนี้.... พวกเขาและพวกเธอ จะเริ่มต้นการผจญภัยครั้งใหญ่กันอย่างไร ที่ไม่เพียงแค่เพื่อรักษาชีวิตอันมีค่าของตัวไว้ แต่ยังเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของทหารห้าว กับสาวประเภทสอง ให้โลกต้องจารึกไว้ด้วย?!!
เรื่องย่อ : 1+1 เป็นสูญ (2545/2002) สมชาย (ปีแอร์ เพิง) เป็นหนุ่มนักพนันวัย 30 ปี ผู้กำลังเจอปัญหาหนักหน่วง ที่ดูเหมือนยิ่งแก้ก็ยิ่งถลำลึก ยิ่งหนีมันก็ยิ่งตามหลอกหลอน การกระโดดตึกอำลาโลกที่ยุ่งเหยิงใบไปให้รู้แล้วรู้รอด คือทางออกทางเดียวที่ผุดขึ้นมาในสมองของเขา โกโก้ (อริศรา วงษ์ชาลี) เป็นหญิงสาวหลุดโลกที่กำลังจมอยู่กับความทุกข์ ในผลของการกระทำที่เกิดขึ้นจากอารมณ์ชั่ววูบ ยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธ ยิ่งนึกก็ยิ่งเจ็บ และเท่าที่เธอคิดออก ไม่มีวิธีไหนอีกแล้ว ที่จะดีไปกว่ายุติชีวิตบ้า ๆ ของตนด้วยการดิ่งตัวลงจากตึกสูง ๆ ซักหลัง แล้วโชคชะตาก็เล่นตลก! เขากับเธอโคจรมาเจอกัน บนดาดฟ้าตึกเดียวกัน และด้วยความมุ่งมั่นเหมือนกัน ก่อนที่สมชายจะทิ้งตัวลงสู่พื้นเบื้องล่าง สายตาของเขาเหลือบไปเห็นโกโก้ ผู้กำลังอยู่ในอากัปกริยาคล้าย ๆ กัน สัญชาตญาณบางอย่างในตัวทำให้เขาหลงลืมความทุกข์ได้ชั่วขณะ แล้วถลันเข้าห้ามปรามความบ้าระห่ำของเธอในทันที นับจากวินาทีนั้น ชีวิตของคนสิ้นหวังทั้งสอง กลับพลิกผันจากหน้ามือเป็นหลังมือ สมชายกับโกโก้แลกเปลี่ยนเรื่องราวของกันและกัน จนต่างได้ข้อสรุปใหม่ว่า ในเมื่อพวกเขากล้าหาญถึงกับคิดฆ่าตัวตายได้ แล้วจะมีอะไรในโลกนี้อีกล่ะที่พวกเขาจะทำไม่ได้?
เรื่องย่อ : บางระจัน (2543/2000) ตำนานวีรชนบ้านบางระจันแห่งจังหวัดสิงห์บุรีที่ปกป้องบ้านเมืองของตน แม้เป็นชาวบ้านเพียงหยิบมือแต่กลับต่อสู้กับทัพพม่าจำนวนมหาศาลได้อย่างทัดเทียม สร้างความปั่นป่วนต่อเนเมียวสีหบดีผู้นำทัพพม่าเป็นอย่างยิ่ง จนต้องระดมสรรพกำลังทั้งหมดเพื่อโจมตีหมู่บ้านเล็กๆ นี้ให้จงได้
เรื่องราวของชาวบ้าน 11 คนที่กลับกลายเป็นตำนาน ด้วยต่างหยิบดาบสู้กับพม่าด้วยหัวใจกล้า ต่อกรกับทัพพม่าที่มีไพร่พลมหาศาล... ปีระกา เดือน 3 พุทธศักราช 2308 ในเวลานั้น พม่าแบ่งกำลังออกเป็น 2 เส้นทาง มังมหานรธา ตีจากทิศตะวันตก เนเมียวสีหบดี (พิเศษ สังข์สุวรรณ) ตีไล่จากทางเหนือ หวังขนาบกรุงศรีอยุธยา ครานั้นทัพของเนเมียวต้องล่าช้าไป เนื่องจากติดพันการต่อสู้กับกลุ่มชาวบ้าน ที่รวมตัวกันในนาม "บางระจัน"
เนเมียวสีหบดี แค้นหนักที่กองทัพของตนพ่ายแพ้ถึง 3 ครั้ง จึงเพิ่มกำลังหนักเข้า ชาวบางระจันรบกันอย่างถวายหัว แต่คราวนั้นพ่อแท่น (ชุมพร เทพพิทักษ์) หัวหน้าของชาวบ้าน ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ ทุกคนจึงต้องหาผู้นำคนใหม่
ขณะนั้นข่าวการชนะพม่าของบางระจันกระจายไปทั่ว ชาวบ้านมากมายพากันมารวมตัวสู้ บางระจันได้ผู้มีฝีมืออีกสองคนมาช่วยคือ นายดอก (นิรุต สาวสุดชาติ) ครูมวยจากวิเศษไชยชาญ และ นายทองแก้ว (สมนึก แก้ววิจิตร) ครูดาบบ้านโพธิ์ทะเล
ชื่อกลุ่มโจรของ นายจันหนวดเขี้ยว (จรัญ งามดี) เป็นที่กล่าวขานในเวลานั้น บางระจันจึงส่ง นายอิน (วินัย ไกรบุตร) มือแม่นธนู, นายเมือง (อรรถกร สุวรรณราช) คนหนุ่มใจกล้าและพวก เสี่ยงภัยออกจากค่ายไปตาม นายจันยอมมาช่วยบางระจันทันที เมื่อรู้ว่า พระอาจารย์ธรรมโชติ (ธีรยุทธ ปรัชญาบำรุง) ย้ายจากเขานางบวช บ้านเกิดของตนที่วอดวายไปแล้ว มาจำวัดที่บางระจัน นายจันหนวดเขี้ยว เป็นนักรบประเภทยอมหักไม่ยอมงอ ด้วยครั้งหนึ่งตนเคยเสียชีวิตลูกเมียให้กับพม่า
เมื่อได้เป็นผู้นำคนใหม่ จึงเปลี่ยนแปลงบางระจัน ให้ทุกคนมีวินัย และไม่ทำอะไรตามใจตัวเอง ทำให้นายจันไม่เป็นที่ถูกใจของ นายทองเหม็น (บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์) ขี้เมาพเนจรที่ชอบขี่ควายแอบออกจากค่าย ไปตีพม่าอยู่บ่อยครั้ง ไม่มีใครรู้สาเหตุว่า นายทองเหม็นทำอย่างนั้นเพื่ออะไร
เมื่อหยุดจากการรบ ชาวบ้านก็เป็นเพียงชาวบ้าน ความรักของนายเมือง และอีแตงอ่อน (สุนทรี ใหม่ละออ) ลูกสาวพ่อแท่น กำลังก่อตัวขึ้นอย่างงดงาม พ่อแง่แม่งอนตามประสา เช่นเดียวกับนายอินกับ อีสา (บงกช คงมาลัย) เมียรักที่เพิ่งอยู่กินกัน ความกดดันจากสงคราม ทำให้อีสาไม่บอกให้นายอินว่าตนกำลังท้อง ด้วยกลัวผัวจะเป็นกังวล
นายเมือง นายอิน ต้องเสี่ยงภัยกันอีกครั้ง เมื่อต้องเดินทางไปกรุงศรีอยุธยา เพื่อขอปืนใหญ่ แต่เมื่อไปถึงกลับได้รับการปฏิเสธกลับมา เมื่อนายอินกลับมาแล้วมารู้ทีหลังว่าเมียกำลังท้อง
แล้วนายปลั่ง เพื่อนรักที่ร่วมรบกันมาจนบาดเจ็บพิษไข้ขึ้น ถึงกลับวิกลจริตไป ซ้ำมารู้ว่า ตนกำลังจะมีลูก นึกแค้นพม่าหนัก นัดพาพวกล่องเรือไปตีพม่าถึงในค่าย โดยไม่รู้ว่า พม่าเองก็แอบส่งกำลังมาตีบางระจันเช่นกัน ครั้งนั้นด้วยใจร้อน นายอินพาคนไปตายมากมาย ซ้ำกลับมาค่ายบางระจันก็ถูกตีจนยับเยิน คนตายมากมาย ชาวบ้านก็พากันอพยพหนีไป นายจันท้อใจจะกลับไปเป็นกองโจรเหมือนเดิม หากแต่ได้กำลังใจอย่างไม่คาดคิดจากนายทองเหม็น ขี้เมาที่เป็นอริกันมาตลอด และรู้ว่าแท้จริงแล้ว นายทองเหม็นเอง ก็มีอดีตที่เจ็บปวดไม่น้อยไปกว่าตน
ยามนั้นพม่าได้แต่งตั้งนายกองคนใหม่นามว่า สุกี้ (กฤษณ์ สุวรรณภาพ) เข้าตีบางระจัน ทัพสุกี้ครั้งนี้มีกองปืนใหญ่มาด้วย บางระจันเอาปืนใหญ่เข้าสู้ ทั้งที่ร้าวอย่างไม่มีทางเลือก ทุกคนรู้ชะตากรรมว่า นี่คงเป็นครั้งสุดท้ายของบ้านบางระจันแล้ว...
เรื่องย่อ : Bangkok Dangerous บางกอก แดนเจอรัส เพชฌฆาตเงียบ อันตราย (2543/2000) ก้อง (ปวริศร์ มงคลพิสิฐ) เด็กชายที่เป็นใบ้ หูหนวก ความไม่สมประกอบของก้อง ทำให้เขาขาดความเชื่อมั่น เขาขลาดจนเก็บตัวอยู่ในโลกเงียบๆ ของตัวเอง ถูกข่มเหงรังแกมาตั้งแต่เด็ก ก้องกำพร้าพ่อ ติดสอยห้อยตามแม่ ซึ่งเป็นพนักงานทำความสะอาดของสนามยิงปืน จนกระทั่งย่างเข้าวัยรุ่น วันหนึ่ง ก้องมีโอกาสได้จับปืน ลั่นไกเป็นครั้งแรก ก้องเห็นคนอื่นที่มายิงปืนในสนาม ตกใจกับเสียงปืน ทำให้ก้องรู้ว่าทุกคนกลัวปืน แต่เขากลับไม่รู้สึกกลัวมัน ตรงกันข้าม ก้องกลับรู้สึกถึงพลังบางอย่างของมัน ที่แผ่ซ่านมาถึงหัวใจ มันทำให้เขาเกิดความมั่นใจ และรู้สึกมีอำนาจเหนือคนอื่นขึ้นมาทันที ก้องคิดว่า อย่างน้อยที่สุด คงไม่มีใครกล้ารังแก หรือลองดีกับคนที่ถือปืนอยู่ในมือเช่นเขา นั่นเป็นก้าวแรกในเส้นทางชีวิตของการเป็น "นักฆ่า" ของเขา ก้องซ้อมยิงปืนที่สนามทุกวัน จนเห็นได้ชัดเจน ถึงแววเพชฌฆาตในฝีมือการยิงปืน ที่แม่นเหมือนจับวาง โจ้ (พิเศก อินทรครรชิต) มือปืนคนหนึ่ง เห็นฝีมือการยิงปืนที่น่าทึ่งของก้อง เลยชักชวนเขาเข้าบริษัทรับจ้างฆ่า ทั้งคู่ทำงานด้วยกันอย่างเข้าขา ก้องเรียนรู้การเป็นมือปืนจากโก้ โจกลายเป็นทั้งเพื่อนและครูของก้อง โจ้สอนก้องให้เรียนรู้การฆ่าด้วยวิธีต่างๆ ทุกรูปแบบ จนวันหนึ่ง.. โจ้ทำงานชิ้นหนึ่งพลาด มือข้างขวาเกิดพิการ เขากลายเป็นมือปืนตกอันดับ โจ้เสียใจและท้อแท้ กลายเป็นคนขี้เหล้า รู้สึกเหมือนตัวเองไม่มีประโยชน์ ในขณะเดียวกัน ก้อง ซึ่งเป็นมือใหม่ ก็พัฒนาไต่เต้าขึ้นมา เป็นตัวแทนของโจ้ได้อย่างรวดเร็ว ในเวลาไม่นานนัก ก้องก็กลายเป็นมือสังหารอันดับหนึ่ง แต่ก้องก็ยังศรัทธา และรักโจ้เป็นเพื่อนตายเหมือนเดิม นอกจากก้องแล้ว โจ้ยังมีคนอีกคนที่คอยห่วงใย คือ อ้อม (ภัทรวรินทร์ ทิมกุล) เธอเป็นผู้หญิงเงียบๆ ซ่อนความรู้สึกไว้ภายใต้ใบหน้าอันเรียบเฉย อ้อมทำงานเป็นลูกน้องของ "นาย" ที่ทำหน้าที่ส่งข้อมูลของเหยื่อให้กับทีมสังหาร อ้อมกับโจ้เคยมีความสัมพันธ์กันมาก่อน แต่เมื่อเกิดความขัดแย้ง ทั้งคู่เลยแยกกันอยู่ แต่ก็คอยดูแลกันอย่างเงียบๆ วันหนึ่ง อ้อมไปรับงานจากลูกค้าโรคจิตรายหนึ่งของนาย เธอถูกข่มขืน เมื่อโจ้รู้ข่าว เขาตามไปฆ่าลูกค้าคนนั้นแก้แค้น นายไม่พอใจมาก ให้วางแผนกำจัดโจ้ โดยหลอกโจ้ให้ไปฆ่าเป้าหมายรายหนึ่ง โจ้ตกหลุมรับงาน เลยถูกสมุนของนายฆ่าตาย ขณะเดียวกัน ชีวิตของก้องก็เปลี่ยนไปเพราะผู้หญิงคนหนึ่ง ก้องประทับใจ ฝน (เปรมสินี รัตนโสภา) ตั้งแต่แรกพบ เป็นครั้งแรกที่ก้องมีความรู้สึกว่า โลกนี้ยังมีคนสนใจเป็นห่วงเขา จนกระทั่งวันหนึ่ง ฝนรู้ความจริงว่า ก้องเป็นมือปืนรับจ้าง เธอตกใจและปฏิเสธการจะพบเขา ก้องเสียใจมาก ประกอบกับรู้ข่าวการตายของโจ้ ก้องเริ่มรู้สึกถึงการสูญเสียคนที่รัก และเข้าใจความรู้สึกของญาติๆ ของเหยื่อที่ถูกเขาฆ่า ก้องตัดสินใจใช้ปืนครั้งสุดท้าย เมื่อรู้ว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังการตายของโจ้คือ "นาย" ก้องอยากแก้ไขสิ่งที่เขาทำผิด เขาวางแผนจัดการนาย เพื่อล้างแค้นให้โจ้ เสียงปืนนัดสุดท้าย แต่เป็นนัดแรกที่ก้องได้ยินดังขึ้น มันยุติความชั่วร้ายต่างๆ ลงได้...
เรื่องย่อ : ฟ้าทะลายโจร (2543/2000) เรื่องราวความรักของ "รำเพย" และ "ดำ" ที่ความรักของพวกเขาต้องพลาดจากกันเมื่อมีเหตุให้ดำต้องเข้าสู่เส้นทางมือปืน ส่วนรำเพยกลับหมั้นหมายกับนายตำรวจตามที่พ่อจัดการให้ ด้วยเส้นทางที่ขัดแย้ง ระหว่างนายตำรวจต้องการจับตัวดำมาลงโทษ และดำที่ไม่สามารถจัดการกับนายตำรวจด้วยเห็นแก่ความสุขของรำเพย นำไปสู่ความแคลงใจกับพวกพ้องโจรด้วยกัน และการแก้แค้นของพวกโจรที่ทำให้เขาต้องตัดสินใจเลือกข้าง
ฟ้าทะลายโจร เป็นเรื่องราวของโศกนาฎกรรมความรัก ระหว่าง "รำเพย" หญิงสาวในตระกูลสูงศักดิ์ กับ "เสือดำ" จอมโจรผู้เดียวดายและเปลี่ยวเหงา ทั้งสองพบกันในช่วงปฐมวัย ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ครอบครัวของรำเพย อพยพมาหลบภัย อยู่กับครอบครัวของดำที่สุพรรณบุรี ที่นี่เอง ความสนิทสนมได้ก่อตัวขึ้นช้าๆ และเมื่อเด็กชายดำได้ช่วยปกป้องเด็กหญิงรำเพย จนตัวเองได้รับบาดเจ็บ และฝากรอยแผลเป็นจารึกไว้ที่หน้าผากจนชั่วชีวิต เด็กทั้งสองก็ได้ประทับความทรงจำนั้น ตราตรึงไว้ในหัวใจตลอดไป แม้จะจากกันไปแล้ว ก็ยังเฝ้าถวิลหากันไม่เสื่อมคลาย
สิบปีต่อมา ทั้งสองพบกันอีกครั้งในพระนคร และดำได้ช่วยปกป้องรำเพยไว้เป็นครั้งที่สอง ความทรงจำในวัยเยาว์ที่เขาและเธอมีต่อกัน บัดนี้งอกงามเพิ่มพูน จนกลายเป็นความรักอันจีรังยั่งยืน ดำให้สัญญาว่า เขาจะกลับไปทำไร่ที่สุพรรณ เก็บเงินมาสู่ขอรำเพยให้ได้ ส่วนเธอก็สัญญาว่า ถ้าความรักไม่สมหวัง เธอก็จะหนีตามเขาไป แต่แล้วโชคชะตาก็มักเล่นตลกกับมนุษย์เสมอ เมื่อดำกลับถึงบ้านแล้วพบว่าพ่อถูกฆ่าตาย เขาคว้าปืนออกมา ตามล้างแค้นคนที่ฆ่าพ่อ จนต้องตกระหกระเหิน ไปพบกับกองโจรของเสือฝ้าย และเสือมเหศวร ดำจำต้องตกกระไดพลอยโจนไปด้วย นับแต่นั้นมา ทั่วทั้งสุพรรณก็รู้จักชื่อของ"เสือดำ" สมุนมือขวาของเสือฝ้าย ผู้ยิงปืนแม่นราวจับวาง ส่วนรำเพยถูกบังคับให้รับหมั้นกับ รตอ.กำจร เธอตัดสินใจหนีตามดำไป โดยทั้งสองนัดแนะกันมารอที่ศาลารอนาง สถานที่ซึ่งทั้งสองต่างประทับใจในวัยเด็ก
แต่แล้ว อนิจจา.. โชคชะตาก็เล่นตลกอีกเป็นครั้งที่สอง.. เสือดำบังเอิญติดภารกิจสำคัญ แม้จะพยายามเร่งรีบเพื่อจะมาพบเธอให้ได้ แต่ก็สายไปเสียแล้ว รำเพยรอจนเชื่อว่าเขาคงไม่มาแล้ว จึงกลับไปเข้าพิธีหมั้นกับ รตอ.กำจร ด้วยหัวใจแตกสลาย
หลังงานหมั้น รตอ.กำจร นายตำรวจหนุ่มจากพระนคร ตัดสินใจนำกำลังตำรวจไปกวาดล้างรังโจรเสือฝ้าย เพื่อหวังสร้างผลงาน แต่เสียทีถูกเสือฝ้ายจับตัวได้ เสือฝ้ายให้เสือดำไปสังหาร รตอ.กำจร ครั้นรู้ว่าวาระสุดท้ายของตนมาถึงแล้ว รตอ.กำจร ได้ขอร้องเสือดำให้ส่งข่าวแก่คู่หมั้นของเขา พร้อมมอบรูปถ่ายรำเพยให้ดู เสือดำตกตะลึง เมื่อรู้ว่ารำเพยคือคู่หมั้นของ รตอ.กำจร แต่ด้วย ความรัก ความเสียสละ เขาตัดสินใจปล่อย รตอ.กำจร ไปด้วยดวงใจอันปวดร้าว เมื่อเสือฝ้ายรู้ว่าเสือดำทรยศต่อเขา จึงสั่งให้เสือมเหศวรหลอกเสือดำไปฆ่า แต่เสือดำก็รอดมาได้หวุดหวิด ทั้งยังรู้ข่าวว่าเสือฝ้ายจะยกพวกไปถล่มงานแต่งงานของ รำเพยกับ รตอ.กำจร ในคืนวันงานที่จะถึงนี้ เสือดำก็ตัดสินใจเอาชีวิตเข้าแลก เพื่อปกป้องคนที่เขารัก ให้พ้นจากอันตรายอีกครั้งหนึ่ง..