เสมาทองคำ (2495)

เสมาทองคำ (2495/1952) พระเจ้าอารยะบดี แห่งกรุงทวารวดี ทรงหมั้นหมายพระราชธิดาพระนาม เจ้าหญิงมลิวัลย์ กับ เจ้าชายชัยสิทธิ์ ตั้งแต่ยังอยู่ในพระครรภ์ แต่เจ้าชายชัยสิทธิ์ถูกลักพาตัวไปตั้งแต่ 5 พรรษาพร้อมสร้อยเสมาทองคำซึ่งจารึกพระนามและวันประสูติ 15 ปีผ่านไป เจ้าหญิงยังพระทัยซื่อตรงต่อเจ้าชายชัยสิทธิ์แต่ถึงเวลาต้องออกเรือนตามราชประเพณี จึงออกอุบายเลือกคู่ครองที่สามารถโต้วาทีเรื่อง "ไก่มาก่อนไข่หรือไข่มาก่อนไก่" หากผู้ใดตอบได้พระราชธิดาจะสมรสด้วย ฝ่ายเจ้าชายชัยสิทธิ์ หลังจากถูกลักพาตัวไป สองพ่อลูก มะปะ กับ มะกะโท ได้ช่วยไว้ ก่อนมะปะจะเสียชีวิตได้สั่งให้มะกะโทพาเจ้าชายชัยสิทธิ์กลับเมาะตะมะเพื่ออบรมประเพณีและเรียนหนังสือไทย เมื่อเจ้าชายชัยสิทธิ์อายุครบ 20 ปี มะกะโทจึงพาเจ้าชายชัยสิทธิ์มากรุงทวารวดี เจ้าชายชัยสิทธิ์ขอให้มะกะโทรอที่หน้าเมืองและจะกลับมาภายใน 7 วัน ชัยสิทธิ์เข้าไปในเมืองได้พบ พาโล กับ กาษะสองพ่อลูกซึ่งกำลังหาคนทายปัญหา พาโลกับกาษะเข้าใจว่าเจ้าชายชัยสิทธิ์ไขปัญหาได้จึงทุบตีเจ้าชายชัยสิทธิ์จนสลบเพื่อจะสวมรอย แล้วสั่งให้ เจ้าหงิก ลากชัยสิทธิ์ไปทิ้งกลางป่าแต่เจ้าหงิกนำไปฝากยายเฒ่าเพราะสงสาร เจ้าชายชัยสิทธิ์ซ่อนตัวในกระท่อมเมื่อมีเวลาว่างก็ช่วยทำสวน และด้วยอภินิหารบันดาลให้ต้นไม้ในสวนผลิดอกงดงามอย่างมหัศจรรย์ ครบกำหนด 7 วัน มะกะโทไม่เห็นเจ้าชายชัยสิทธิ์กลับมาจึงผลุนผลันเข้าเมืองทวารวดี มาอาศัยขุนคชบาลในโรงช้าง พระเจ้าอารยะบดีพอพระทัยในความเฉลียวฉลาดของมะกะโท หมายจะให้มาโต้วาทีกับพระราชธิดา ระหว่างนั้นข่าวพระราชอุทยานกลายเป็นสวรรค์แพร่สะพัดไปถึงพระกรรณของเจ้าหญิงมลิวัลย์ จึงชวน นันทา ข้าหลวงคนโปรดไปทรงทอดพระเนตร จึงได้พบกับเจ้าชายชัยสิทธิ์ ทั้งสองต่างพึงพอใจกัน เจ้าหญิงออกอุบายนัดหมายเจ้าชายชัยสิทธิ์และได้เห็นเสมาทองคำจึงรู้ว่านี่คือเจ้าชายชัยสิทธิ์ที่ถูกลักพาตัวไป จึงให้เจ้าชายชัยสิทธิ์ไปปรากฏตัวในสนามโต้วาทีในอีกไม่กี่วันข้างหน้า กาษะแอบได้ยินสิ่งที่ทั้งสองพูดคุยกัน กลับไปปรึกษาพาโล พาโลตกใจสั่งให้กาษะนำหน้ากากเหล็กซึ่งมีอำนาจให้ผู้ถูกสวมพูดไม่ได้ ไปสวมให้เจ้าชายชัยสิทธิ์ เจ้าหงิกกับนันทาแอบฟังอยู่จึงรีบไปทูลเจ้าหญิงได้ทันท่วงที

กำลังแสดงผลลัพธ์ทั้งหมด 1 รายการ