เสาวณีย์ สกุลทอง ดาราสาวสวยผู้อาภัพอีกคนของวงการบันเทิงไทย
เกิดที่กรุงเทพฯ ตำบลบ้านหม้อ (ไม่ทราบวันเดือนปีเกิด)
เป็นบุตรสาวของคุณพ่อประดิษฐ์กับคุณแม่ถมรัก สกุลทอง
คุณพ่อรับราชการอยู่ที่การไฟฟ้านครหลวง ส่วนคุณแม่มีอาชีพค้าขาย
-เริ่มการศึกษาที่โรงเรียนประดิษฐวิทยา ซึ่งเป็นโรงเรียนที่คุณพ่อเธอตั้งขึ้นมาเอง ตั้งแต่ก่อนเธอเกิด เรียนที่นี่ถึงแค่ป.2 ก็ไปต่อชั้นป.3 ถึงมัธยมปีที่ 6 ที่โรงเรียนซานตาครูสคอนแวนต์ จากนั้นไปเรียนต่อที่โรงเรียนพาณิชยการพระนคร จนจบหลักสูตร 3 ปี
-เดิมที เสาวณีย์อยากเรียนต่อแผนกบัญชีที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แต่สอบเข้าไม่ได้ ทำให้เธอเสียใจมาก จึงกลับไปเรียนเลขาฯที่โรงเรียนเดิม 3 ปีจนจบ
-จบแล้ว เสาวณีย์ทำงานเป็นแคชเชียร์ที่เจ้าพระยาโฮเต็ล แล้วย้ายมาเป็นแคชเชียร์ที่หน่วยจัสแมค กองทัพบกสหรัฐที่ประจำอยู่ในไทย ทำได้ 1 ปีก็ลาออก
-ด้วยความช่วยเหลือของคุณพ่อ เสาวณีย์ ได้เข้าทำงานในแผนกบัญชี สำนักงานเลขานุการ ที่การไฟฟ้านครหลวง
-เสาวนีย์เคยประกวดนางสาวไทยปี 2512 แต่ไม่ได้รับรางวัลอะไร
-เธอเข้าสู่วงการบันเทิงได้จากการที่วันหนึ่ง เธอไปทำผมที่โรงเรียนเสริมสวย “เกศสยาม” และได้พบกับสมชาย จันทวังโส ช่างภาพฝีมือเยี่ยมชื่อดังของวงการบันเทิงไทย (คู่ชีวิตของเยาวเรศ นิสากร) สมชายเห็นว่าเธอสวยมาก จึงนำเธอไปฝากที่ละโว้ภาพยนตร์ เพื่อเป็นดาราหนังต่อไป
-สุดท้ายเสาวณีย์ไม่ได้แสดงหนังใหญ่กับละโว้ แต่ได้แสดงหนังโทรทัศน์เรื่อง “พ่อบ้านเมียเผลอ” ซึ่งท่านมุ้ย หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล สร้างร่วมกับประดิษฐ์ กัลย์จาฤก แห่งกันตนา ให้กับสถานีโทรทัศน์ช่อง 7
-เทิ่ง สติเฟื่อง ดารา, นักโฆษณา และผู้จัดละครชื่อดัง ได้ดูหนังเรื่องนี้ ถูกใจในฝีมือและความงามของเสาวณีย์มาก จึงไปขอตัวเสาวณีย์จากละโว้ฯ เพื่อมาแสดงละครในคณะ “ศรีไทยการละคร” ของเขา ซึ่งทางละโว้ฯ ก็ไม่ขัดข้อง
-ละครเรื่องแรกของเสาวณีย์ ที่แสดงให้กับเทิ่ง คือ “เดือนดับที่สบทา” ออกอากาศทางช่อง 3 ในปี 2513 ละครเรื่องนี้ประสบความสำเร็จมาก แจ้งเกิดให้เสาวนีย์ได้สำเร็จ เริ่มมีคนรู้จักเธอมากขึ้น
-เทิ่งตอกย้ำความสำเร็จให้เสาวณีย์ด้วยละครเรื่องต่อไปคือ “ไปสู่ฉิมพลี” ทางช่อง 7 ต่อด้วย “แสงสูรย์(2513)” ซึ่งเธอต้องประชันกับนางสาวไทยปี 2510 อภันตรี ประยุทธเสนีย์ ซึ่งมาแสดงละครเป็นเรื่องแรก พระเอกคือภิญโญ ทองเจือ ซึ่งก็มาแสดงละครเป็นเรื่องแรกเช่นกัน ทุกเรื่องเป็นละครฮิตหมด
-จนมาถึงเรื่อง “พิษสวาท (2514)” เสาวณีย์ได้รับบทเด่นเป็น “สโรชนี” หรือ “อุบล” บทตัวเอกของเรื่อง ไม่มีอะไรจะเป็นลางบอกเหตุเลยว่า ละครเรื่องนี้ จะเป็น “เรื่องสุดท้าย” ของชีวิตเธอ!
-ข่าวช็อกวงการคือ เสาวณีย์ก็เสียชีวิตอย่างกะทันหัน ด้วยพิษบาดแผลจากกระสุนปืนลั่น! ในปี 2514 นั่นเอง ขณะนั้นเธออยู่กับแฟนหนุ่มตามลำพัง แฟนหนุ่มของเธอยืนยันว่า เป็นอุบัติเหตุปืนลั่น ไม่มีใครทราบแน่นอนว่า เกิดอะไรขึ้น อุบัติเหตุ หรือฆาตกรรม?
-แต่สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากการเสียชีวิตของเธอ คือการเล่าลือถึงอาถรรพ์ของบทประพันธ์เรื่อง “พิษสวาท” ว่าเธออาจจะมี “อันเป็นไป” เพราะแสดงเรื่องนี้

*ที่มา: Thai Movie Posters