บุปผา สายชล (ชื่อจริง สงกรานต์ พยนต์เลิศ) นักร้องลูกทุ่งและนางเอกหนังไทยผู้โด่งดังในอดีต
• เกิดวันที่ : 13 เม.ย. 2490
• เสียชีวิต : 8 ก.ค. 2533 (43 ปี)

เป็นบุตรคนที่ 2 ในจำนวน 6 คน ของคุณพ่อสายพิณกับคุณแม่บุญมี พยนต์เลิศ
พ่อเป็นหัวหน้าคณะลิเก “สายพิณวัฒนา” แม่เป็นนางเอกลิเกชั้นแนวหน้า
เธอจึงเล่นลิเกเป็นตั้งแต่ 8 ขวบ
-การศึกษาจบชั้น ป.7 กับเรียนวิชานาฏศิลป์ 1 ปีเศษ
–สุชาติ เทียนทองชักนำมาให้อยู่กับวงดนตรีจุฬารัตน์ ได้ครูมงคล อมาตยกุลเป็นผู้สนับสนุน และท่านตั้งชื่อให้ว่า “บุปผา สายชล” และที่วงนี้เองที่เธอได้รู้จักกับ ศรีไพร ใจพระ จนกลายเป็นเพื่อนสนิทกัน เธออยู่ที่วงนี้ได้ 2 ปีก็ลาออก
-ศรีไพรออกจากวงจุฬารัตน์เช่นกัน มาตั้งวงของเขาเองในปี 2508 ชื่อวงกระดิ่งทอง และชวนเธอมาอยู่ด้วย ล้มลุกคลุกคลานนานพอดู บางครั้งร้องเพลงตามห้องอาหาร โดยศรีไพรเล่นตลก
-เพลงที่สร้างชื่อให้บุปผา คือ ยิ้มทั้งน้ำตา, วอนพี่กลับมา, วอนลมฝากรัก, สาวนาคอยคู่, รักคนแก่ดีกว่า, ชังคนใจร้าย ฯลฯ
-จุดเปลี่ยนในชีวิตเธอคือการที่ได้ร่วมแสดงหนัง ชาติลำชี (2512) ของรังสี ทัศนพยัคฆ์ ตามด้วยมนต์รักลูกทุ่ง (2513) จากนั้นบุปผาก็กลายเป็นนักร้อง-นักแสดงที่ดังมาก ดังไปจนถึงในประเทศลาวทีเดียว
-บุปผาร้องเพลงได้ทุกแนวทั้งไทย, จีน, อินเดีย, ลาว, ญี่ปุ่น และเพลงสากล เธอได้รางวัลแผ่นเสียงทองคำจากเพลง ยมบาลเจ้าขา เพลงที่ฮอทฮิตทั้งเมืองในยุคนั้น
-นักแต่งเพลงที่แต่งเพลงให้เธอดังก็มีไพบูลย์ บุตรขัน และสุรินทร์ ภาคศิริ
-จนวันหนึ่งศรีไพรก็กลายเป็นผู้สร้างหนัง และแน่นอนนางเอกจะเป็นใครไม่ได้นอกจากบุปผา เริ่มจาก ขวัญใจลูกทุ่ง (2515), แก้วกลางนา (2516), อำนาจเงิน (2516) ฯลฯ ไม่ประสบความสำเร็จ
-หนังเรื่องอื่นๆที่ร่วมแสดงเช่น ส้มตำ (2514), หยาดฝน (2514), มนต์รักแผ่นดินทอง (2521) ฯลฯ
-บุปผาหย่าร้างกับศรีไพรในปี 2517 และพบรักใหม่กับสิงหา สุริยงค์ พระเอกหนังไทยอีกคน ทั้งสองคนเคยร่วมสร้างหนังไทยด้วยกันเช่น ไอ้ฟ้าผ่า (2522-กรุง-ลลนา) แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ
*บุปผาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 8 ก.ค.2533 ด้วยโรคความดันโลหิตสูง ทำให้เส้นโลหิตในสมองแตก รวมอายุเพียง 43 ปี
*เรียบเรียงจากข้อมูลในโลกดาราปี 2513
*ที่มา: Thai Movie Posters