สงคราม
ทหารเสือพระเจ้าตาก (2498/1955) ณ ตำบลท่าเสา เมืองตาก รำยง กับ พุมเรียงเป็นสาวใช้พระยาตาก วันหนึ่งขณะที่ทั้งสองคนกำลังว่ายน้ำอยู่ในลำธาร ทองอินทร์ ทหารของพระเจ้าตากเดินผ่านมาพยายามเกี้ยวพาราสี สองสาวเห็นท่าไม่ดีจึงตะโกนขอความช่วยเหลือ ทองดีกับบุญเกิด หนุ่มพเนจรเดินผ่านมาจึงเข้าช่วยเหลือ ทองอินทร์สู้ไม่ได้จึงหนีไป ทองดีกับบุญเกิดจึงได้รู้จักรำยงกับพุมเรียง เมื่อคุยถูกคอความรักจึงเกิดขึ้น หลังจากนั้นไม่นานพระยาตากจัดงานเฉลิมฉลองสมโภชเนื่องในงานพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยาในพระบาทสมเด็จพระที่นั่งสุริยาบรินทร์ บริเวณจวนผู้ว่าราชการเมือง และโปรดให้มีการชกมวยต่อหน้าพระยาตาก ทองดีกับบุญเกิดยืนดูการชกมวยอยู่ก็เกิดคันไม้คันมือ ประกาศขอท้าครูมวยจนเกิดการแข่งขันขึ้นด้วยฝีมือเก่งกาจของทองดีทำให้สามารถล้มครูมวยได้ ทองอินทร์ปราดเข้ามาพร้อมหอกคู่มือ เดชะบุญ พระยาตากร้องห้ามไว้ทันเพราะพอใจในฝีมือของทองดี จึงให้เข้ารับราชการเป็นทหารยามอยู่ในวัง เมื่อได้เข้ามาอยู่ในวังทำให้ทองดีและรำยงใกล้ชิดกันมากขึ้น ทองอินทร์ซึ่งหมายปองรำยงอยู่ก็เกิดริษยา และหวิดจะมีเรื่องกับทองดีอยู่หลายครั้งจนพระยาตากคาดโทษทองอินทร์ ด้วยความแค้นในตัวพระเจ้าตาก ทองอินทร์ลอบเข้าไปในหอนอนหมายจะลอบปลงชีวิต ทองดีซุ่มดูเหตุการณ์ช่วยพระเจ้าตากไว้ได้ เป็นเหตุให้ทองอินทร์ถูกเนรเทศ ส่วนทองดีได้รับการแต่งตั้งให้เป็น หลวงพิชัยอาษา นายทหารคนสนิท และได้แต่งงานกับรำยง ในเวลานั้น กรุงศรีอยุธยากำลังถูกข้าศึกบุกประชิด พระยาตากได้รับคำสั่งให้นำกำลังไปช่วยรบ จึงได้พาหลวงพิชัยไปด้วย สถานการณ์ของกรุงศรีอยุธยากำลังเสียเปรียบ พระเจ้าตากจึงบัญชาให้หลวงพิชัยฝ่าวงล้อมไปรวมกำลังที่ระยอง จึงสามารถกู้กรุงศรีอยุธยาไว้ได้ วีรกรรมคราวนี้ทำให้หลวงพิชัยเลื่อนยศเป็นเจ้าพระยาว่าราชการเมืองพิชัย ต่อมาเมื่อพระเจ้าตากสินสวรรคต พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกขึ้นครองราชย์ ด้วยความกตัญญูเจ้าคุณพิชัยจึงยอมปลิดชีวิตตัวเอง ไม่ยอมเป็นบ่าวสองนาย
ค่ายบางระจัน (2482/1939) พ.ศ. 2308 พม่ายกทัพเข้ามารุกรานไทยหลายหมู่บ้าน พล และ แสน สองหนุ่มบ้านวิเศษไชยชาญจึงขี่ม้ามาส่งข่าวกำนันบ้านศรีบัวทอง ถึงแผนการของ ทิดดอก บ้านกลับ และ ทองแก้ว บ้านโพธิ์ทะเล ซึ่งเข้าไปคลุกคลีกับพวกพม่าเพื่อจะปล้นทรัพย์ แผนการสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี หากแต่กำนันบ้านศรีบัวทองเสียชีวิตในเหตุการณ์ สร้างความเศร้าสลดต่อชาวบ้านยิ่งนัก เมื่อขาดผู้นำ แท่น ซึ่งมีฝีมือในการรบดี จึงเสนอให้เดินทางไปสมทบที่ค่ายบางระจัน ชาวบ้านศรีบัวทองจึงแต่งตั้งแท่นเป็นแม่ทัพ ขณะนั้น เนเมียวสีหบดี แม่ทัพฝีมือเก่งกล้าฝ่ายพม่า มาตีค่ายบางระจันหลายต่อหลายครั้งก็ไม่สามารถเอาชนะได้ จึงเริ่มร้อนใจกลัวชาวบ้านค่ายบางระจันจะรวมกำลังคนได้มากขึ้น สุกี้ นายกองของพม่า ซึ่งเคยอาศัยอยู่เมืองไทยมานานอาสาเป็นผู้คุมทัพมาตีค่ายบางระจัน แท่นยังบาดเจ็บสาหัสจากการรบครั้งก่อน นายจัน หนวดเขี้ยว ขุนสรรค์ พันเรือง และคนอื่นๆ หารือตกลงกันว่าจะให้พลขี่ม้าไปขอปืนใหญ่จากกรุงศรีอยุธยาแต่ขุนนางชั้นผู้ใหญ่ไม่เห็นด้วย มีเพียงพระยารัตนาฯ ที่เห็นใจชาวบ้านบางระจัน จึงตามพลมาช่วยสอนวิธีการหล่อปืนใหญ่แต่ไม่สำเร็จ สุกี้ยกทัพโจมตีค่ายบางระจันและสามารถทำลายประตูค่ายได้ ชาวบ้านทั้งชายและหญิงพร้อมใจกันเข้าต่อสู้ แต่หมดกำลังจะต้านทานจึงพ่ายแพ้พม่าไปในที่สุด